นิยาย ดราม่า ดี ฮา หื่น สนุก เลิฟซีนภาษาสวย
Group Blog
 
 
มิถุนายน 2554
 1234
567891011
12131415161718
19202122232425
2627282930 
 
15 มิถุนายน 2554
 
All Blogs
 
เจ้าสาวพันชั่ง 2 (ตีพิมพ์แล้วกับ สนพ.อักษรศาสตร์ นามปากกา ดาราพร)

คุณดาหาเป็นชายวัยสามสิบ รูปร่างสูงโปร่งผิวขาวสวยเหมือนผู้หญิง ใบหน้าปรากฏรอยยิ้มเสมอ มีความงามมากกว่าจะเรียกคมคาย เวลานี้เขายืนเกาะราวระเบียงอยู่บนชานเรือน ทอดสายตาไปที่ลำคลองกว้าง รอว่าลูก และบริวารจะกลับมาเมื่อไหร่
จวนได้เวลาอาหาร ลำเพาผู้มีร่างกายบอบบาง ผิวสองสี มะขวิดถอดรูปเค้าไม่ผิดสักส่วนเดียว หล่อนมีร่างกายไม่แข็งแรงมาแต่แรก หลังจากมีลูกแฝดแล้วหล่อนยิ่งมีอาการเจ็บออดๆ แอดๆ มาตลอด แต่เรื่องความรักและความอบอุ่น หล่อนได้รับจากสามีมาโดยตลอดกับคำที่เขาไปสู่ขอจากบิดามารดาของหล่อน ซึ่งมีความห่วงใย เพราะดาหาเป็นชายรูปงาม มีฐานะ และมียศทหาร ถึงจะแค่นายสิบ แต่พ่อแม่ของลำเพายังห่วง แต่ย่าน้อมเป็นประกันด้วยตนเอง
“ฉันไม่เคยสอนลูกให้เป็นคนมักมาก หรือไม่พอใจในสิ่งที่มี เมื่อเขาลั่นวาจาว่ารัก ฉันพร้อมประกันได้ว่าเขาจะรักจนตายจากกัน”
“คุณย่ามีครอบครัวมาแล้ว คุณย่า เอ่อคงรู้ว่า เรื่องในมุ้งในหมอนเป็นเรื่องสำคัญนัก เรื่องนี้ที่ลำเพาอาจจะมีข้อบกพร่อง ซึ่งหมู่ดายังหนุ่มยังแน่นนัก เกรงว่าต่อไปภายหน้า”
“อย่าเกรงเลย ฉันสอนลูกให้มีหิริโอตตัปปะ มีความเกรงกลัวต่อบาป และฉันเห็นลำเพาเป็นดั่งลูกสาวของฉันจะคอยดูแลเขาเองไม่ต้องห่วงนะ”
คำนั้นฝังใจลำเพาและท่านก็สอนลำเพาในการครองเรือนด้วยร่างกายที่ไม่แข็งแรง แต่ไม่จำเป็นว่าจะปรนนิบัติให้สามี มีความสุขไม่ได้ หล่อนจึงใช้ชีวิตด้วยความสุข สมหวังเรื่อยมาจนลูกอายุได้หก เจ็ดขวบแล้ว
“เดี๋ยวก็กลับค่ะคุณดา”
“กลับมาต้องปรามกันสักหน่อยแล้ว ยิ่งปล่อยยิ่งเย็นมากทุกที”
“ปล่อยเขาเถอะค่ะ ชีวิตคนเราไม่ยืดยาวอะไรนัก เมื่อเขาคว้าความสุขส่วนตัวได้ก็ให้เขาคว้าไว้เถอะค่ะ”
“คุณใจดีกับลูกมากไปหรือเปล่าลำเพา”
ลำเพายิ้มสวย มองสามีด้วยสายตาอ่อนโยน ดาหาเองก็เช่นกัน ทำเป็นจะเอาเรื่อง แต่พอสองแฝดกลับมา เขาลืมหมดเรื่องจะตี หรือจะปราม
สักพักใหญ่ เจ๊กตง ซึ่งเปิดร้านขายของอยู่ริมฝั่งน้ำห่างจากบ้านคุณย่ามาก ได้พายเรือพาเด็กๆมาส่ง ดาหามารับลูกพลางเอ่ย
“รบกวนเจ๊กตงอีกแล้ว”
“ม่ายเป็นไรอาคุงจ่า เรื่องเล็ก น้อย อาคุณหนูมะตูมอีแวะกินก๋วยเตี๋ยวที่ร้าน”
“อ้าวแล้วนี่ได้จ่ายค่าของกันหรือยัง”
“อีจ่ายเลี้ยวอาคุณจ่า อีบอกลูกน้องว่าไม่มีเงินก็ห้ามกิน ห้ามติดหนี้ให้พ่อแม่เดือดร้อน อีเป็นคุณหนูที่น่ารักจริงๆนะคุณจ่า ฝากสวัสดีคุณย่าน้อมด้วยนะ”
“ขอบใจนะเจ๊กตงที่อุตส่าห์มาส่ง”
“ไม่เป็นไรครับ อาคุณย่าช่วยผมมามากกว่านี้” เจ๊กตงไม่เคยลืมบุญคุณคุณย่าตอนเรือคว่ำ ข้าวของจมน้ำหมด คุณย่าให้เงินยืมไปทำทุน จนแกตั้งตัวได้จนบัดนี้
แกถือคติเสมอ บาปอันใหญ่หลวงของมนุษย์คือความอกตัญญู ดังนั้นลูกหลานคุณย่าเขาจึงคอยเป็นห่วงเป็นใยไปด้วยเช่นกัน
เมื่อเจ๊กตงไปแล้วดาหาไล่เลียงบริวาร ซึ่งมะขวิดยิ้มหวานเข้าไปกอดขาบิดาจึงทำให้เขาเปียกชื้นไปด้วยเขารีบว่า
“ไปอาบน้ำอาบท่า”
“อาบท่าต้องที่คลองครับพ่อ” มะขวิดเงยขึ้นเอ่ย ดาหาจึงยีผมเกรียนของลูกชายด้วยความเอ็นดู
“อย่าต่อปากต่อคำนักเลยมะขวิด หรือมะขวิดจะลงคลองพ่อจะได้ให้แช่ถึงสองทุ่ม”
“งั้นช่างท่าเถอะครับอาบข้างบนดีกว่าครับ”
มะตูมรีบไปใช้ห้องน้ำบนเรือนก่อน มะขวิดวิ่งตามไปสุดท้ายได้ผ้าขนหนูพาดไหล่ นั่งขัดสมาธิรอนาน จนบ่น
“ตัวเหมือนมดตะนอย ทำไมต้องอาบน้ำนาน”
“เค้าไม่อยากโดนตรวจขี้ไคลเหมือนตัวนี่”
“ขี้ไคลจะมีสักเท่าไหร่ตัวไม่ได้ใหญ่ยังกะช้างนี่”
น้ำจากห้องน้ำสาดมาหนึ่งขัน มะขวิดกระโดดหลบไม่ทัน พี่สาวยิ้มอย่างผู้กำชัยชนะพร้อมเดินออกมา
“เค้าไม่เป็นพี่มะตูมมั่งแล้วไป”
“ทำไมหรือ เป็นพี่แล้วจะชนะมะตูมหรือไง”
“ยกให้สักคนก็ได้ เรามันลูกผู้ชายเสียเปรียบวันยังค่ำ” มะขวิดบ่นอุบ มะตูมเลยได้เขกศีรษะอีกฝ่ายอีกที
“โอ๊ยมะตูม”
“อ้าวตัวพูดเองว่ายอมเสียเปรียบ เค้าเลยแถมให้อีกทีไง”
“คนอะไรขี้โกง”มะขวิดกล่าวหาเรื่องจริง ซึ่งเด็กหญิงยิ้มหัวเราะเบาๆ รักษากิริยาตามที่คุณย่าสอน จึงน่าเอ็นดูยิ่งนัก
ส่วนบริวารแยกกันกลับบ้านที่ปลูกอยู่ท้ายสวน หยดดูแลครัวและทำกับข้าวส่วนหนึ่งแบ่งไปที่บ้านตามความโอบอ้อมอารีของคุณย่าผู้เป็นนาย ส่วนสามีหยดทำสวน และดูแลไร่นาให้คุณย่าดังเป็นผู้จัดการ เพียงแต่ผู้จัดการต้องลงมือไม่ได้สั่งเพียงอย่างเดียวเท่านั้น

เวลาต่อมา มะขวิดนั่งใกล้คุณย่ากอดอกอย่างรับผิดพลางเอ่ย
“เราลูกหลานเจ้า ทำผิดต้องยอมรับผิด”
“เจ้าอะไรกันล่ะพ่อ” คุณย่าเหน็บแนม
“ท้าวดาหา พ่อนางบุษบากับสียะตราไงครับคุณย่า”
“ค่ะคุณย่า มะขวิดเขาเป็นทั้งเท้าซ้ายเท้าขวาเลยค่ะ วันนี้จึงเหยียบหนามไมยราบกระโดดโหยงเลย”
คุณย่าหัวเราะออกมาอย่างคนอารมณ์ดี หลานฝาแฝดคนหนึ่งช่างพูด แต่อีกคนช่างคิด มะขวิดกินข้าวเคี้ยวหมดปากแล้วจึงพูด
“นี่ดีนะครับที่คุณย่าตั้งชื่อเป็นเรื่องอิเหนาหมด ถ้า คุณย่าไปหลงเรื่องพระอภัยมณีขวิดกับมะตูมจะชื่ออะไรครับ”
“มะตูมเขาก็เป็นแม่เสาวคนธ์ส่วนเราก็พ่อหัสไชยไง”
“ขวิดคิดว่าคุณย่าจะตั้งว่าสุดสาคร”
“ตั้งไปได้ยังไง ลูกครึ่งคนครึ่งเงือก ยิ่งพระอภัยมณีย่าไม่มีทางตั้งให้พ่อดา เพราะพระอภัยมีเมียมาก มีไม่เว้น ครึ่งคนครึ่งปลา ยักษ์ก็ได้ ก็เข้าใจล่ะนะว่าเป็นจินตนาการลึกล้ำ” คุณย่ากล่าวกึ่งขัน
“คุณปู่ล่ะครับ ขวิดไม่เคยเห็นคุณย่าพูดถึงคุณปู่เลย”
“อ้อ!” คุณย่าทำเสียงรับรู้ ก่อนเฉไฉไปว่า “นั่นท่านเป็นท้าวเทวดาเหาะไปเหาะมาอยู่เรื่อย” มะขวิดเลยหมดคำถาม หาไม่คุณย่าต้องยกลงมาสวรรค์อีกทั้งสิบหกชั้น เพื่อเลี่ยงไม่ตอบอยู่นั่นเอง ไม่ว่าจะถามเมื่อไหร่ก็ตามที
“ขวิดยังสงสัยครับว่า ทำไมคุณพ่อชื่อดาหา ทำไมไม่ชื่อกุเรปัน”
“อ้อกุเรปันเป็นพี่ของพ่อเจ้า ตายตั้งแต่สามเดือน”
“ถ้าอย่างนั้น ตกลงเราเป็นเจ้าใช่มั้ยครับแบบเจ้าจริงๆ น่ะครับ”
“อย่าเล่นของสูง”
“คุณย่าตั้งชื่ออย่างนี้ไม่สูงหรือครับ”
“ลูกอีช่างซัก จะซักย่าให้เป็นขี้เถ้าจนเอามาขัดหม้อให้ขาวเชียวหรือไง”
“ก็เพื่อนขวิดมาล้อขวิดนี่ครับ ว่าชื่อเหมือนตัวละครวรรณคดี”
“เอ้า! ก็ตอบมันไปสิ ชื่อข้าไม่ได้ชื่อเดียวกับพ่อเอ็งจะได้มาเดือดร้อน”
“ขวิดตอบอย่างนั้นค่ะคุณย่า แล้วก็ชกกันใหญ่” มะตูมต่อให้
“มะตูมก็โดนล้อครับ มันว่าบุษบา ดอกไม้ มันเรียก ดอก ดอก”
คุณย่าชักอารมณ์เสีย เพราะตั้งชื่อลูกหลานด้วยความรักมาทั้งนั้น ก่อนจะว่าอะไรออกมา มะขวิดยังเล่าต่ออีกว่า
“มะตูมตอบเขาว่า ฉันไม่โกรธหล่อนหรอก เพราะชื่อฉันแปลว่าดอกไม้ แต่แม่หล่อนชื่อสุวรรณมาลี ถ้าหล่อนเรียกฉันว่าดอก ฉันจะต่อท้ายคำว่าทองให้แม่หล่อนมั้ย เท่านั้นมันร้องไห้ไปฟ้องครู ครูเลยตีซ้ำ แล้วก็สอนไม่ให้พวกเราคิดกันในทางที่ไม่ดี เพราะพ่อแม่ทุกคนตั้งชื่อลูกเพราะความรักทั้งนั้น”
คุณดาหาลูบศีรษะลูกชายอย่างเอ็นดู ส่วนลำเพากอดบุษบาอย่างแสนรัก ลูกสาวนี้คมในฝักอย่างแท้จริง หล่อนมีรอยยิ้มที่เฉือนใจคนได้ทีเดียวเชียว
“คุณแม่ขาเล่นขิมเถอะค่ะมะตูมอยากเรียนขิมด้วยค่ะ”
“ไปหยิบมาสิลูกแล้วหลังจากเล่นก็เก็บให้เป็นที่เป็นทางนะจ๊ะ”
“ค่ะคุณแม่” มะตูมรับคำอย่างอ่อนหวานน่ารัก เดินไปหยิบขิมมาให้มารดาได้บรรเลงเพลงเพราะๆ ให้ฟังดังเช่นทุกคืนที่ผ่านมา

เสียงขิมจากฝีมือลำเพาดังไพเราะทั้งคลอง บ้านคุณพร้อมและคุณสวาทได้ยินต่างพากันชม
“เขาเล่นขิมเพราะนะภรรยาคุณดาคนนี้ เอคุณดาเขาเป็นลูกน้องคุณหรือเปล่าคะ”
“ใช่ เป็นคนดีทีเดียว เขามีลูกแฝด แฝดพี่เป็นผู้หญิงสวยมากเป็นรุ่นน้องพันชั่งอยู่หลายปี”
“เรื่องอะไรคุณพี่จึงเอามาเปรียบกับพันชั่งของเราคะ”
“อ้าวก็คิดว่าเป็นเด็กๆ วัยห่างกันสามสี่ปีเท่านั้น”
“ค่ะ ยิ่งห่างทั้งวัย ห่างทั้งคนยิ่งดีเชียว ดิฉันไม่อยากเอาทองไปรู่กระเบื้องค่ะ”
“คุณล่ะทำเป็นเรื่องใหญ่ ไม่ได้จับมาหมั้นกันเสียหน่อย”
“ดีแล้วค่ะ น้ำคลองก็คือน้ำคลอง จะใสดังน้ำฝนเป็นไปไม่ได้หรอกค่ะ เชื้อสายสำคัญนัก พันชั่งเกิดมามีชาติมีตระกูล หน้าตารึก็คมคาย เจ้าสาวของลูกดิฉันต้องหาให้ด้วยตัวเองแน่ๆเลยค่ะ”
“อย่างไรก็อย่าลืมเรื่องผูกเรือนตามใจผู้อยู่ล่ะ เพราะเราสองคนก็แต่งงานกันเพราะรักชอบกันเอง แล้วมาถึงลูกเราจะบังคับเขามากนักก็ไม่ถูก”
“ถูกสิคะ ดิฉันเป็นลูกสาวคุณหญิงตามเชื้อสาย คุณพี่เป็นลูกชายท่านผู้หญิง คุณแม่ของเราเป็นชาววังทั้งคู่นะคะ”คุณสวาทเอ่ยจริงจัง
“เมื่อลูกเราแสนดีอย่างนี้ เจ้าสาวจึงต้องเฟ้นหาให้เหมาะสมให้มากที่สุดทีเดียว”
“ตามใจคุณ แต่พันชั่งจะตามใจคุณเหมือนที่พี่ตามใจหรือเปล่าเป็นอีกเรื่องนะ”
“เอ๊ะทำไมคุณพี่ถึงพูดให้ดิฉันไม่มีความสุขอย่างนี้คะ ลูกพึ่งสิบขวบคุณพูดเหมือนไปมีคนรักแล้วอย่างนั้นล่ะ”
“โธ่ระแวงจนได้เรื่องมั้ยล่ะ พี่ไม่ได้ว่าอะไร แต่พี่รู้นิสัยลูกเรา เงียบฟัง แต่เขาเงียบทำตามหรือเปล่าคุณต้องคิดนะ”
คุณสวาทอึ้งไป พันชั่งไม่ค่อยเถียงแต่เขาเป็นตัวของตัวเองเสมอ แม้ไม่ขัดใจพ่อแม่ แต่เขาก็มีเหตุผลส่วนตัว ลูกชายวัยสิบขวบของนาง ดูเคร่งขรึมและเป็นผู้ใหญ่กว่าวัยมากทีเดียว
“ยังไงก็ให้คบคนชั้นเดียวกันไว้ก่อนดีกว่า อย่างน้อยญาติข้างดิฉันก็ยังมีค่ะ”
“อ้อชาววัง” คุณพร้อมเอ่ย ยิ้มอย่างกลั้นไม่ได้ภรรยาจึงค้อนขวับ
เสียงขิมเพลงที่สามเงียบไปแล้ว คุณสวาทขอตัวขึ้นพักผ่อน

ส่วนบ้านเรือนไทยเยื้องฝั่งคลอง สองพี่น้องร้องเพลงอยู่ในห้องนอนเดียวกันกับคุณย่าว่า
“ชาววังบางกระตุ๋ยเห็นหมามุ่ยเป็นถั่วแระ”
“คุณย่าครับ หมามุ่ยกับถั่วแระฝักก็ไม่คล้ายกันสักเท่าไหร่ทำไมเขาร้องเพลงอย่างนี้ล่ะครับ”
“เขาก็ร้องเล่นกันไป วังบางกระตุ๋ยมีที่ไหนกัน เขาหมายถึงพวกผู้ดีจอมปลอมต่างหาก”
“อ๋อ” สองพี่น้องร้องขานรับอย่างเข้าใจตามประสาเด็ก
“แล้วเรานี่เป็นเจ้าปลอมใช่มั้ยครับ”
“เออน่ะสิ ยี่เกที่ไหนเขาเป็นเจ้าจริงกันมั่งล่ะมะขวิด เอ้า! นอนเถอะย่าจะนอนแล้ว”
ท่านชักสายโยง ซึ่งใช้เป็นที่ปิดไฟฟ้า หลอดกลมเป็นไฟแรงเทียนปิดลง เด็กแฝดทั้งสองพากันหลับในเวลาไม่ช้า
ซึ่งต่างจากคุณพันชั่งบ้านบนตึก ซึ่งหมายมั่นปั้นมือว่า พรุ่งนี้จะไปเล่นน้ำให้จงได้ทีเดียว




Create Date : 15 มิถุนายน 2554
Last Update : 15 มิถุนายน 2554 9:47:45 น. 0 comments
Counter : 919 Pageviews.

ชื่อ :
Comment :
  *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 

นางแก้ว ดาราพร
Location :


[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 11 คน [?]




New Comments
Friends' blogs
[Add นางแก้ว ดาราพร's blog to your web]
Links
 

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.