นิยาย ดราม่า ดี ฮา หื่น สนุก เลิฟซีนภาษาสวย
Group Blog
 
 
มิถุนายน 2554
 1234
567891011
12131415161718
19202122232425
2627282930 
 
16 มิถุนายน 2554
 
All Blogs
 
เลือดรักทระนง 5


จากเด็กหญิงที่ถูกละเลยการเอาใจใส่จนดูเหมือนขอทาน จึงได้ปรากฏ เนื้อแท้ของเด็กหญิงออกมาให้เป็นที่นินทาในครัวว่าไม่มีส่วนใดที่สู้คุณสร้อยสนไม่ได้
เด็กหญิงได้รับการเลี้ยงดูอย่างเอาใจใส่ เวลานอนแม่นิ่มกอดอีกฝ่ายแนบอก เล่านิทานก่อนนอนให้ฟังทุกคืน กระถิ่นเรียกอีกฝ่ายว่าแม่ แม้จะโดนห้ามจากแม่นิ่มแต่เด็กหญิง ยังเปลี่ยนมาเรียกแม่นม แม่นิ่มรักและสงสารอีกฝ่ายไม่น้อยเลยนานวันเข้าทั้งสองผูกพันกันยิ่งนัก
“ใครนะว่าคุณกระถินดื้อ”
“แม่นมว่าใครล่ะคะ”กระถินย้อนถามสำเนียงส่อสกุลตามที่แม่นิ่มพร่ำสอน
“คนดื้อเขาไม่ชอบเรียนหนังสือ ใครนะชอบอ่าน กออากา”
“กระถินชอบอ่านค่ะ”
“ต้องแลกกับขนมด้วยหรือเปล่า”
“ไม่ต้องแลกแล้ว หนังสือสนุกค่ะดี”กระถินตอบ “อ่านหนังสือสนุกค่ะแม่นม มีนิทานด้วยมีร้อบกรองด้วยกระถินจะอ่านให้หมดเลยค่ะแม่นม”
“ดีแล้วค่ะ เพราะความรู้เป็นของคู่กับตัวเรา ใครปล้นใครชิงไปไม่ได้ ความขยันหมั่นเพียรการแสวงหาความรู้ ล้วนแต่เป็นประโยชน์กับตัวเรา ไม่ต้องให้คนว่าจ้าง”
“ค่ะ ไม่ต้องจ้างกระถินด้วยขนมแล้วค่ะ แต่ถ้ากระถินหิว ก็ต้องให้กระถินนะคะ”ตอบออกมาแล้วเด็กหญิงเอนอิงซบอกอุ่นของแม่นิ่มอย่างแสนรัก
ถึงวันนี้กระถินท่องหนังสือได้คล่องมากแล้ว และแม่นิ่มพักผ่อน เธอจึงไม่กวนใจ แต่แอบหนีจันทร์ซึ่งตามติดเหมือนเงาตามตัวไปจนพ้นสายตา
วิ่งเล่นตามประสาความซน เธอวิ่งไปถึงคุณพระศานต์ ซึ่งนั่งพักผ่อนอยู่ที่เก้าอี้ไม้ยาวริมสระน้ำ ใต้ร่มไม้ราชพฤกษ์ ซึ่งออกดอกเป็นช่อเหลืองอร่ามสวยงาม
คุณพระเหลือบสายตามาเห็นเด็กหญิงเมื่อก่อนหน้านี้มีสภาพผอมแกร็น ผมฟูกระเซิง มอมแมม แต่วันนี้ทำให้ท่านต้องอมยิ้มด้วยความพอใจต่อคนที่เลี้ยงดู เพราะกระถินดูสะอาด หน้าใสพวงเป็นสีชมพูจัด บอกให้รู้ว่าตากแดดหรือวิ่งเล่นมาจนเหนื่อย
“ไงเจ้ากระถิน ได้ข่าวว่าซนมากรึ”
“คุณท่าน”
“เอ๊ะแม่นิ่มนี่สอนเจ้ามาดีนี่เจ้าตัวดี แปลกหูเลย ทำไมไม่พูดกูมึงล่ะสนุกดีนะ”
“แม่นิ่มบอกว่า มีแต่คนหยาบคายพูดกันเจ้าค่ะ”
“เจ้ามันฉลาดนะเจ้ากระถิน มานี่ มา มานั่งใกล้ๆฉันนี่”
“ไม่นั่งเจ้าค่ะ กระถินจะไปวิ่งเล่นทางโน้น มีมะม่วงออกแล้วด้วยเจ้าค่ะ”
คุณพระหัวเราะเสียงดัง มองร่างของกระถินวิ่งจากไป ระหว่างนั้นพุดกรองเดินมาพร้อมสร้อยสน พุดกรองเห็นหลังกระถินไวๆ นางมีแต่ความเกลียดชังให้ไม่คลาย เพราะเห็นอีกฝ่ายทีไรนางนึกถึงแต่การถูกทารุณกรรมทางเพศจากเสือกาจทุกครั้งไป
“เอ้า พุดกรอง กลับจากเดินห้างแล้วรึ เป็นอย่างไรล่ะห้างฝรั่ง”
“ซื้อของมาฝากคุณพระด้วยค่ะ”
“ไม่ต้องซื้อหาอะไรมาหรอกฉันมีอยู่เยอะมากแล้ว เห็นเจ้ากระถินมั้ยเมื่อครู่นี้ มันแปลกตาไปเทียว”
พุดกรองปิดปากเงียบ
“ฉันว่าจะให้ทนายความมาทำทะเบียนให้มันเสียหน่อยจะเปลี่ยนชื่อให้มันด้วย ให้เป็นพ่อเดียวแม่เดียวกับสร้อย”
“ไม่นะคะ ดิฉันรับไม่ได้ค่ะไม่เด็ดขาด”
“ตามใจนะ ถ้าจะให้ฉันรับเจ้ากระถินเป็นลูกบุญธรรมละก็มันจะได้สมบัติคนละครึ่งกับราม”
พุดกรองกัดลิ้นตัวเองระงับการสบถออกมาอย่างเต็มกลืน พระศานต์ช่างกระไรเลย เหตุใดจึงต้องนำเรื่องนี้มาข่มขู่ให้เธอต้องยอมรับ “เลือดโจร”นั้นเข้ามาเป็นเลือดตัวด้วยการบังคับทางอ้อมเช่นนี้
“ฉันจะตั้งชื่อมันว่ามินตรา แปลว่ากระถิน แต่ฟังดูเพราะพอกันกับสร้อยสนเลย ดีมั้ยสร้อย”
“เจ้าค่ะคุณลุง”สร้อยสนรับคำอย่างอ่อนหวาน เหลือบสายตาเห็นรถของวังนารายณ์รับรามกลับมาจากโรงเรียนชายล้วน
“พี่รามกลับมาแล้ว สร้อยไปสวัสดีพี่รามก่อนนะคะคุณลุง”กล่าวจบแล้วสร้อยสนไปหาอีกฝ่าย
รามรอให้นายดำเปิดประตูลงจากรถ เขาเห็นสร้อยสนมายืนรอพร้อมไหว้สวย เด็กชายเมินเฉยที่จะยอมรับ จึงเดินผ่านหน้าไป นายดำได้แต่ลอบส่ายหน้าที่รามเกลียดไม่เว้นแม้แต่เด็กน่ารักอย่างสร้อยสน
“พี่รามจะไปไหนคะ”
“เราจะไปไหน เธออย่ามายุ่งกับเรา”
“จะไปหาแม่นิ่มหรือคะ สร้อยไปด้วยนะคะ”
“บอกว่าอย่ามายุ่งกับเรา อย่ามาใกล้เรานะ” เด็กชายแสดงความรังเกียจอย่างโจ่งแจ้ง สร้อยสนก้มหน้านิ่งด้วยความเสียใจก่อนเดินย้อนกลับไปหาพุดกรอง
ผู้ให้กำเนิดเด็กหญิงลอบเม้มริมปากด้วยความไม่พอใจรามที่จงเกลียดจงชังสร้อยสนยิ่งนัก นางเจ้าคิดเจ้าแค้นไกลไปถึงวันข้างหน้า...รามจะไม่พ้นมือของนาง!

รามกลับจากโรงเรียนประจำก็มาเที่ยวที่เรือนแถว นอนหนุนตักให้แม่นิ่มร้องเพลงกล่อมให้คลายเหงา
เด็กหญิงกระถินเล่นจนมอมแมมวิ่งมาที่เรือนพักพอเห็นรามหนุนตักแม่นิ่ม ซึ่งเธอคิดว่าเป็นแม่ของเธอคนเดียวเท่านั้น
ด้วยความอิจฉาที่คิดว่าถูกแย่งของรัก เด็กหญิงจึงผลักเด็กชายรุ่นพี่เต็มแรง รามเสียหลักกลิ้งลงไปนอนกับพื้นเสียงโครม เด็กหญิงตามไปหยิกกัดดุร้าย เขาปัดป้องร้องโอด แม่นิ่มรีบปราม
“คุณกระถินอย่าทำอย่างนี้นะ”กระถินไม่ยอมปล่อยแม่นิ่มจึงเอ็ดอึง
“บอกให้หยุดไงคุณกระถิน อะไรใจคอดุร้ายอย่างนี้”
“มันมาแย่งแม่ทำไมนี่แม่เค้านะไม่ใช่ของตัวเอง”
กระถินแหกปากลั่น ๆ กระทืบเท้าไปมา แม่นิ่มอดใจไม่อยู่ตีขาเบา ๆ สั่งสอนด้วยวาจานุ่มนวล
“คุณกระถิน แม่นมสอนแล้วนะคะอย่ากระทืบเท้ามันไม่งาม แล้วคุณรามเป็นเจ้าของที่นี่บ้านนี้เป็นของคุณรามอย่าพูดกูมึงอีกเด็ดขาด”
“แต่แม่นิ่มเป็นแม่ของกระถินนี่” เด็กหญิงเสียงอ่อนลง เงยหน้าน้ำตาพราว
“แม่ของกระถินคนเดียวนี่”เธอเอ่ยหวงป้ายน้ำตาที่รินไหลอาบแก้ม
“แม่นิ่มไม่รักกระถิน ไม่รักแล้วหรือคะแม่”
“รักค่ะคุณกระถิน”
“รักกระถินมากกว่าคุณราม นะแม่ แม่ต้องรักมากกว่าคุณราม” เธอออดอ้อนแกมโกง
รามทำหน้าง้ำ หากมากวัยกว่าจึงได้แต่ยั่ว ขณะที่มือกุมรอยกัดจากคมฟันของอีกฝ่ายจนเลือดออกซิบ
“เด็กขี้ตู่ ไม่มีพ่อแม่ก็เที่ยวตู่คนอื่น แม่ตัวชื่อพุดกรองไม่รู้หรือไง”
เด็กหญิงทำท่ากระโจนเข้าใส่อีกฝ่าย แต่แม่นิ่มเรียกรั้งเสียงแข็งขู่เอาว่า
“ถ้าคุณกระถินดื้อ นมจะไม่รัก จะไม่กอดอีกเลย”แม่นิ่มขู่และได้ผล
กระถินหยุดชะงักก้มหน้าร้องไห้อย่างเงียบงัน น้ำตารินไหลมากจนเจ้าตัวต้องป้ายทิ้ง แม่นิ่มก้มมอง
อีกฝ่ายเห็นความอ่อนเยาว์ไร้เดียงสา จึงสงสารแทบขาดใจ
รามล้อเลียนยั่วโดยยักคิ้วยักไหล่และยิ้มยั่ว กระถินสะอื้นฮัก แม่นิ่มดึงเด็กหญิงเข้าไปกอดแนบแน่น กระถินสวมกอดรอบคออีกฝ่ายเปล่งเสียงร้องไห้โฮ
“คุณของนม นมรักคุณมากนะ แต่นมไม่อยากให้คุณทำร้ายกาจอย่างเมื่อกี้”
กระถินได้แต่สะอื้น เถียงตะกุกตะกัก
“คุณราม คุณราม แกล้ง”
แม่นิ่มหอมแก้มเนียนใส ใช้ผ้าซับน้ำตาให้อีกฝ่ายอย่างอ่อนโยน
“แม่นิ่มขา กระถินไม่ดื้อกับแม่นิ่มอีกแล้วค่ะ” เด็กหญิงกอดผู้ที่เลี้ยงดู ด้วยความหวงแหน ราวกับเป็นสมบัติล้ำค่าชิ้นเดียวที่เธอมีอยู่บนโลกใบนี้
ความใจดีของแม่นิ่มมีมาก เธอลืมเศร้าจนสิ้น วันเวลาและเยาว์วัยลืมแม่กุเลา กระถินซุกซนไปทั่วบ้าน โดยที่สาวใช้หลายคนไม่กล้าห้ามด้วยฤทธิ์เดชหยิกกัดด่าทอ
บริวารคนใดที่ไม่ลืมอดีตของกระถินจึงชอบเก็บงำไปเอ่ยถึงที่มาของเด็กหญิง
“ลูกเสือลูกสาง”คนใช้นินทา
“เชื้อไม่ทิ้งแถวตามสายเลือดพ่อหรอก ดูสิมองคนเคยหลบตาใครที่ไหนกันไม่เห็นกลัวใครนอกจากคุณนม”
เสียงนินทามีมากเท่าที่คนเป็นนายไม่ได้ยิน เพราะถ้ากระถินได้ยิน เธอจะจัดการกับคนพูดอย่างรุนแรง และไม่มีบริวารคนไหยกล้าต่อกร เพราะคุณพระรักและเอ็นดูกระถินอย่างออกนอกหน้าทีเดียว
คุณพระพาพุดกรองออกไปชมละครเวที ซึ่งเป็นละครร้อง ท่านชมไปอย่างเพลิดเพลิน และเมื่ออกจากโรงละคร ได้ยินคำเสียดสี นินทาจากนักเรียนนอก หลายคน
พุดกรองเป็นคนยึดติดต่อชื่อเสียง และวันนี้เธอมีฐานะเป็นภรรยาของคุณพระ การเข้าสังคมชั้นสูงทำให้เธอเปลี่ยนไปตามสมัยนิยม ดังนั้นการได้รู้ได้ยิน ‘คนหัวนอก’ ที่ดูถูกวัฒนธรรมของชาติตนเอง นางจึงเป็นว่าโก้เก๋ ดังนั้นจึงพลอยติฉินนินทา เพื่อให้ตัวเองกลายเป็นคนหัวสูงไปด้วย
“ละครเก่าเก็บ เล่นกันมาหลายยุคน่าเบื่ออย่างที่เขาว่าเห็นจะจริงนะเจ้าคะคุณท่าน”
“ถ้ามันน่าเบื่ออย่างที่เขาพูดกัน เขาก็ไม่น่ามาดูดอกนะพุดกรอง”
พุดกรองน่าเผือดลงไปเล็กน้อย เมื่อคุณพระตอกย้ำลงมาเช่นนี้
“ฉันเป็นคนค้าขาย ฉันดูคนออก พวกนั้นทำท่าให้เหมือนตัวเองสิวิไลซ์(คำนิยม)ดูถูกพื้นเพความเป็นไทยของตัวเอง ฉันว่า น่าตำหนิเสียอีก ที่การศึกษาไม่ได้สอนเขาให้รักประเทศและวัฒนธรรมของตัวเอง”
“แหมคุณท่าน ทำเป็นพวกอนุลักษณ์นิยมไปได้นะเจ้าคะ”
คุณพระยิ้มนิดในสีหน้า รั้งร่างอีกฝ่ายเข้าไปกอดและจูบ
“อุ๊ยท่านขา อายนายดำจะแย่”
“ฉันจะทำอย่างพวกตะวันตกไง เขากอดจูบกันอย่างใจต้องการ ไม่อายใคร ฉันก็ทำเป็น หล่อนอยากเปลี่ยนวัฒนธรรมไม่ใช่หรือ”
“อุ๊ยไม่เจ้าค่ะ อย่างนี้เห็นทีจะไม่เป็นเจ้าค่ะ”พุดกรองดีดดิ้นด้วยมารยา ทั้งที่นางรู้สึกตื่นเต้น เป็นอันมาก ยิ่งมากวัย นางยิ่งมีความต้องการทางด้านกามรมย์มากขึ้น
หลังจากทั้งสองหลับมาถึงวังนารายณ์แล้วพุดกรองกอดคูณพระแน่น มองด้วยสายตายั่วยวน บ่งบอกความต้องการที่กำลังระอุอยู่ภายใน จนนางแทบไม่อยากรอให้ถึงห้องนอน คุณพระโอบร่างอีกฝ่ายแนบชิดอก พากันเดินเข้าที่รโหฐาน เติมเต็มไฟสวาทให้ลุกโชน และให้มันดับลงไปเมื่อถึงเวลาต้องการ



Create Date : 16 มิถุนายน 2554
Last Update : 16 มิถุนายน 2554 10:15:48 น. 0 comments
Counter : 1145 Pageviews.

ชื่อ :
Comment :
  *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 

นางแก้ว ดาราพร
Location :


[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 11 คน [?]




New Comments
Friends' blogs
[Add นางแก้ว ดาราพร's blog to your web]
Links
 

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.