นิยาย ดราม่า ดี ฮา หื่น สนุก เลิฟซีนภาษาสวย
Group Blog
 
 
มิถุนายน 2554
 1234
567891011
12131415161718
19202122232425
2627282930 
 
18 มิถุนายน 2554
 
All Blogs
 
เลือดรักทระนง 6

เขาเปลื้องอาภรณ์ออกจากกายของพุดกรองอย่างง่ายดาย เฉกเดียวกับที่เขาถอดเสื้อตัวเองได้เพียงพริบตา และตามด้วยอาภรณ์ชั้นล่างสองชิ้น รูดกองลงบนพื้นอย่างไม่ใส่ใจ สายตาของทนายทดจับจ้องมองร่างเปลือย ขาวเนียนด้วยความละลานตา เขาระดมจูบอีกฝ่ายโดยแรงอย่างคนที่รอคอยมานานและได้สมหวัง พูดกรองความมือลงมาสัมผัสสิ่งที่เธอปรารถนาแต่พระศานต์หมดเชื้อเสียแล้ว ความอลังการของทนายทดทำให้เธอสูดลมหายใจเข้าปอดโดยแรงด้วยความพอใจอย่างยิ่งยวด ความพอใจทำให้เธอรูดเร่งโดยแรง ทนายทดสูดปากคราง แม้เสียววูบ แต่เจ็บวาบเช่นกัน เขาโอดครวญ เสียงสั่นพร่า ตาหรี่ปรือด้วยอารมณ์ใคร่ครุกรุ่น
“เบาหน่อยครับ ยังไงก็เป็นของคุณทั้งชีวิตผมแล้วคุณพุดกรอง”
ทดซุกหน้าลงซอกคอระหง ฟอนจูบไม่หยุดนิ่ง ทุกที่ที่เขาได้สูดกลิ่น ช่างกระตุ้นให้อารมณ์เขาเตลิดไกล อย่าว่าแต่มีช้างมาฉูดเลย แม้เวลานี้คุณพระศานต์มาเอาปืนจ่อกบาลชายหนุ่มเขายังคิดว่าจะตายคาอกซึ่งเขากำลังเคล้นคลึงอย่างอารมณ์ปั่นป่วนหญิงสาวแหงนหน้าเพริด ชายหนุ่มตามประกบจูบ
“คุณสวยไปทั้งตัว หอมมากเลยนะครับคุณพุดกรอง”ชายหนุ่มชมอย่างที่หญิงสาวพอใจ ก่อนที่จะเลื่อนกายลงไป พุดกรองตาเหลือกโพลง
“จะทำอะไรทด คุณจะทำอะไร”
“ทำให้คุณมีความสุขไงครับ”
“แต่นั่น ไม่ใช่”เธอแตกตื่น เพราะทั้งชีวิตไม่เคยสักครั้ง
ทดแทรกแซงด้วยปลายลิ้นลูบไล้ขึ้นบน หญิงสาวแอ่นกายเหยียดหยัดเป็นสุขอย่างประหลาดล้ำจนสารภาพลืมตัว
“ฉันชอบนะทด ชอบมาก ทำไมแบบนี้ถึงดีอย่างนี้เล่า”
พุดกรองออกปากชมทดอย่างที่เธอพึงพอใจ เขาช่างชำนาญเกมเหลือเกิน ชำนาญอย่างที่พุดกรองต้องหาเวลาเพื่อไขว้คว้าสิ่งที่เธอหลงใหล...กามรมย์
ทนายทดกอดร่างหญิงสาวแนบแน่น กระซิบบอกรักด้วยคำหวานจากใจ
“คุณพุดกรองรู้มั้ยว่าผมหลงรักคุณตั้งแต่แรกเห็น ผมรอวันนี้มานานแล้ว”
พุกกรองเสแสร้งมองค้อนอีกฝ่าย ตัดพ้อว่า
“นี่ทดจ้องจะเป็นชู้กับเมียนายตั้งแต่แรกเชียวหรือนี่ ฉันเพิ่งรู้นะ”
“คุณพระแก่เกินไปสำหรับคุณ”
ชายหนุ่มคลายกอดจากร่างงาม เปลี่ยนเป็นเค้นคลึงทรวงใหญ่ล้นหลาม บีบเบา และเริ่มแรงมากขึ้น ใบหน้าของทดซอนซุกลงบนสองเต้ากลมคลุกเค้าอย่างเมามันและเต็มไปด้วยแรงพิศวาสอย่างไม่ห้ามใจ
“อื๊อ ทด ทำอย่างนี้ ฉันก็ไปไหนจากทดไม่ได้แล้วล่ะสิ”
“อย่าไปจากผมเลยคุณพุดกรอง”
เขาเลื่อนมือเรียวยาววกสู่กึ่งกลางกาย พุดกรองค่อยเอนกายลงนอน สะบัดปลายขาขึ้นพาดไหล่อีกฝ่ายอย่างใจต้องการ
เสียงหอบหายใจแรง การวิงวอนเร่งเร้า
ทนายทดพลิกกายงนอน จับร่างงามขึ้นคร่อมร่างของเขา
“ทำตามใจคุณต้องการเลยครับคุณพุดกรอง”เขาเอ่ยเสียงกระเส่า นัยน์ตาพร่ามัว ริมฝีปากเปิดออกเพื่อผ่อนลมหายใจและครวญคราง
พุดกรองเป็นผู้นำทาง เธอเร่าร้อนอย่างที่ทนายทดรู้ เขาตามติดเพื่อสร้างความพอใจให้หญิงสาวให้มากที่สุดเท่าที่เขาทำได้
ชู้รักทั้งสองพึงพอใจในกันและกันมาก จึงเวียนหาเวลามาพบกันเสมอ!!

วันเวลาผ่านไปอีกสามปี
ร่างผอม ปราดเปรียว เติบโตขึ้นตามวัย กระถินอยู่ประถมหนึ่งแล้วได้พาสชั้นสองครั้ง ยามนี้เธอเรียนทันพี่สาวอยู่ชั้นเดียวกัน เจ้าตัวชอบใส่กางเกง เพราะชอบปีนป่ายต้นไม้ เธอเดินมาที่สร้อยสนซึ่งนั่งเล่นตุ๊กตาอยู่กับนางละมุดขี้ข้าพลอยที่ชอบประจบสอพลอ นางละมุดวัยสาวพยักเพยิกให้สร้อยสนมองมาทางกระถิน
“อ้าวกระถินมานี่เร็วมาเล่นกับพี่”
กระถินรีบเดินมาหาพี่สาวต่างบิดา สร้อยสนส่งตุ๊กตาให้น้องอย่างไม่มีความรังเกียจแม้เพียงสักนิดเดียว
“พี่สร้อยเล่นอะไรไหนดูซิ”เธอแย่งจากมือพี่สาว ละมุดเอ็ดแย่งกลับ
“เอ๊ะคุณกระถินนี่ยังไงกัน คุณสร้อยอุตส่าห์ให้ดี ๆ แล้วนะ คุณกระถินยังจะแย่ง”
“หน็อย” กระถินคว้าผมยาวของละมุดขยุ้มดึงเต็มแรง
“ว้ายตายแล้ว ช่วยด้วยค่าช่วยด้วย”
“กระถินอย่าน้องอย่าทำเค้า”สร้อยสนดึงมือน้องสาวซึ่งไม่ยอมปล่อยออกง่าย จันทร์มาตามกระถิน เห็นภาพนายน้อยของตนกำลังออกแรงทึ้งผมคู่ปรับของตน ทั้งเตะถีบใส่ด้วยความดุร้าย จันทรืรีบเข้าไปดึงร่างกระถินออกมา เวลานั้นเองที่พุดกรองเดินเล่นผ่านมาพบเข้า คุณผู้หญิงของบ้าน ตวาดใส่จึงเอ็ดอึง”
“อะไรกันนั่น” พอเห็นลูกโจรตนก็โทสะพุ่งขึ้นสุดขีด
“หยุด หยุดเดี๋ยวนี้ นังกระถินแกมาอาละวาดเป็นคนบ้าที่นี่ได้อย่างไร” กระถินปล่อยมือจากผมของละมุด แต่ยังเหลือเส้นผมที่หลุดจากหนังศีรษะติดมากำใหญ่
นังละมุดรีบคลานเข่าปั้บ ๆ ไปฟ้องร้องพุดกรองด้วยรู้ว่าพุดกรองชังลูกคนนี้นัก นางน่าจะได้รับการปกป้อง และได้ยืมมือพุดกรองแก้แค้น
“คุณกระถินเกเรคุณสร้อย พอละมุดช่วยก็ทำร้ายละมุดค่ะ”
เด็กหญิงกระถินลุกปราดด่าทอไม่กลัวเกรง
“อีตอแหล”
“ตายแล้ว”พุดกรองไม่อาจทนกำพรืดต่ำช้านั้น จึงลืมตัวว่าตนเป็นผู้ดีแล้ว เธอตบหน้ากระถินจนกระเด็นตามแรงถลาล้ม จันทร์ปราดประคองนายไว้
“คุณกระถิน”
“ไปนะอีกระถินไปเดี๋ยวนี้ แล้วอย่ามายุ่ง กับคุณสร้อยอีกเด็ดขาด”
“คุณแม่”
“ฉันไม่ใช่แม่แก”พุดกรองกรีดร้องเสียงชิงชัง
“ไปให้พ้นเดี๋ยวนี้นะโน่นแม่แกแม่นิ่มโน่น ไปไป้”
กระถินกัดปากแน่นน้ำตาไหลเพียงหยดเดียววิ่งจากไปด้วยดวงใจที่เจ็บร้าวยิ่ง หากก็เจ็บจำในน้ำคำผู้ให้กำเนิด
หลังจากวันนั้นกระถินได้แต่แอบมองก็อยู่ไกลๆ โดยมิได้ย่างกรายมาใกล้พุดกรองอีกเลย
วันเวลาผ่านพ้นไปทุกเมื่อเชื่อวัน กระถินยังเป็นเด็กซน อยากรู้อยากเห็น และช่างจำ วันหนึ่งเด็กหญิงท่องอาขยานตามที่แม่นิ่มสอนทุกคืน เด็กน้อยจดจำได้ทุกหน้า แม้จะมีเล่มหนึ่งเล่มสอง แบ่งเป็นบท เด็กหญิงช่างจำได้หมด อ่านคล่องเขียนได้ เสียงใสๆท่องไปวิ่งไปบนพื้นที่ของวังนารายณ์
กระทั่งวิ่งเลยมาจนถึงศาลาลม ทรงกลมรูปโดมเล็กๆ กระถินชะเง้อเข้าไปเห็นคุณพระศานต์นั่งก้มหน้าทำงานอย่างขะมักเขม้น ท่านเปิดแผ่นกระดาษพลิกไปมา และบางทีเด็กหญิงเห็นคุณพระก้มอ่านนานๆ
ความอยากรู้ทำให้กระถินเข้าไปหาอีกฝ่าย คุณพระเหลือบสายตามาเห็นท่านจึงทำหน้าเข้ม ดุอีกฝ่ายอย่างไม่จริงจังนักว่า
“เอาแต่วิ่งเล่นอย่างนี้จะได้เรื่องหรือเรา”
“กระถินไม่ได้เอาแต่วิ่งเล่นเจ้าค่ะ กระถินท่องจำมาด้วยเจ้าค่ะ”ว่าพลางยืนท่องอาขยาน ให้ประมุขบ้านฟัง
‘หนูหล่อ พ่อเขาพาไปดูหมี ที่นาตาหมอหลอ
ตาหมอหลอแกก็เล่าให้รู้ว่า หมีแกดุ ได้มาใหม่ๆ
หนูหล่อไม่เชื่อแก เอาไม้เข้าไปแหย่หมี
หมีดุโผมา หนูหล่อหนีหมีมาปะทะไม้ ขาหวะเหวอะไป
ตาหมอหลอทำยาให้ทา แต่หนูหล่อไปไหนไม่ได้เก้าเวลา
พ่อเขาว่าแก่หนูหล่อให้รู้ตัวว่า ทีนี้ที่เสืออยู่ หมีอยู่ อย่าได้เข้าไป
ขาหวะเท่านี้พอหายาทาให้ ถ้าไม้ตำที่ตาหรือหู ก็จะเสียตาเสียหู
หายาอะไรมาทาตา ทาหูให้ดีไม่ได้แท้ๆ
หนูหล่อ พ่อว่า ก็เข้าใจว่าพ่อจะว่าให้ตัวดี
ทีนี้ที่ไหนมีหมีดุ หรือมีเสือดุ หมาดุ งูดุ หนูหล่อก็ไม่เข้าไป
หนูหล่อดี จำคำพ่อไว้ได้’
คุณพระศานต์มองอีกฝ่ายด้วยสายตาเพ่งพินิจอีกครั้งก่อนพยักหน้าเรียกให้มาหา
“ไหนมาหาฉันใกล้ๆซิ”
“ไม่ไปค่ะ”กระถินมักส่ายหน้าปฏิเสธใครก็ตามที่เรียกให้เธอเขาไปหาในครั้งแรกเสมอ เธอถึงได้ถูกต่อว่า ว่าดื้อ ซึ่งหากว่าแท้ที่จริงคือความฉลาดในการรู้จักปฏิเสธคนของเด็กหญิง
“อย่าดื้อกับฉัน เมื่อฉันเรียกให้มา ต้องมา”
กระถินเงยขึ้นมองด้วยสายตาคมกริบ ตากลมโตบอกความเฉลียวฉลาด เด็กหญิงค่อยๆเดินเข้าไปใกล้เมื่อคุณพระศานต์ส่งยิ้มอย่างมีเมตตามาให้
“ท่องได้มากอย่างนี้แล้วเขียนเป็นหรือไม่ เจ้ากระถิน”
“เขียนเป็นเจ้าค่ะ กระถินเรียนเก่งจนคุณครูชมว่า กระถินเป็นเด็กหัวแหลม กระถินหิวน้ำเจ้าค่ะ”
“บทท้ายๆนี่ไม่ใช่อาขยานแล้วนี่”คุณพระกล่าวพลางหัวเราะ จากนั้นรินน้ำชาจากกาซึ่งใส่ไว้ในลูกมะพร้าวทั้งเปลือก เพื่อถนอมความร้อนให้ยาวนานมากว่าเดิม
ท่านรินใส่จอกหนึ่งส่งให้กระถิน เด็กหญิงรับไปดื่มอย่างกระหาย คุณพระเอ่ยไปพลาง
“ตระโกนเสียงดังขนาดนั้นคอไม่แตกให้รู้ไป รู้มั้ย หัวแหลม เขาเรียกว่าหัวลิง เจ้ามันซนเป็นลิงจริงเสียด้วย”
“น้ำขม ไม่อร่อยเหมือนน้ำมะตูมเลยนะเจ้าคะ กระถินเอาน้ำมะตูมมาให้นะเจ้าคะคุณท่าน แม่นมบอกว่าดื่มแล้วแก้กระหายน้ำ”
“เจ้าคนรู้มาก เจ้านี่มันรู้เยอะเกินเด็กไปทีเดียว นี่แม่นิ่มใส่อะไรมาในสมองของเจ้า เจ้าคงเปิดรับมาไว้หมดล่ะสิ”ท่านพูด แต่เด็กน้อยไม่เข้าใจเท่าไหร่ จึงไม่ใส่ใจจำ
เด็กน้อยชะเง้อมองสิ่งที่ตนสงสัยและสนใจแต่แรกว่าคุณพระเจ้าของวังนารายณ์ทำอะไร เธอได้เห็นกองหนังสือ และกระดาษซ้อนกันมาก ความซนของเด็กหญิงทำให้ห้ามใจไม่อยู่จึงเอื้อมมือไปหยิบ แต่คุณพระปรามไว้
“ของสำคัญอย่างนี้ เจ้าจะซนเที่ยวรื้อค้นไม่ได้นะเจ้ากระถิน”
“ของอะไรเจ้าคะจึงเรียกว่าสำคัญ”
“นี่เป็นบัญชี รู้จักมั้ยบัญชี”ท่านย้อนถาม กระถินส่ายหน้า ท่านจึงว่า
“บัญชีนี้คือตัวเลข และการจดบันทึกเป็นตัวหนังสือ การจดการใช้จ่าย เป็นรายรับ รายจ่าย ถ้าเราทำละเอียด ใครจะโกงเราไม่ได้”
“มีคนโกงคุณท่านด้วยหรือเจ้าคะ”
“มีสิ มีมากด้วย ดังนั้นฉันจึงต้องทำอย่างละเอียด”
“ให้กระถินช่วยทำไหมเจ้าคะ กระถินจะได้จับคนโกงให้คุณท่าน”
คุณพระหัวเราะชอบใจ ลูบศีรษะอีกฝ่ายด้วยความเอ็นดู ก่อนจับอีกฝ่ายขึ้นมานั่งบนตัก แล้วสอนให้นับเลข กระถินอวดโอ้
“กระถินยังคูณได้นะเจ้าคะ สองคูณหนึ่งเป็นสอง”
“ดีมากเจ้ากระถิน”
“กระถินจะไปเล่นก่อนนะเจ้าคะ กระถินอยากวิ่งไปดูตรงหน้าวังเจ้าค่ะ ไปดูว่าลุงดำแอบหลับหรือเปล่า”
คุณพระหัวเราะร่วนอย่างชอบอกชอบใจ ก่อนเอ่ย
“เรานี่มันซนนะเจ้าซน ต่อไปนี้ไม่ต้องเรียกฉันว่าคุณท่านแล้ว เรียกคุณลุงก็พอ เรียกซิ”
“เจ้าค่ะคุณลุง”
“แล้วเรื่องบัญชีล่ะเจ้าซน”
“บัญชีที่จดไว้ไม่ให้คนโกงหรือเจ้าคะ”เด็กหญิงตอบอย่างคนช่างจำ คุณพระเกิดประกายตาคมวาวมาวูบหนึ่ง กระถินลงจากตักอีกฝ่าย ผละจากไปโดยมีสายตาของผู้เป็นประมุขวังแห่งนี้มองตามไปด้วยความเมตตายิ่งนัก
คุณพระอยากตามไปดูว่ากระถินจะไปสำแดงเดชอะไรกับนายดำซึ่งทำงานหลายหน้าที่ ทั้งเป็นคนรถ เป็นยาม และบางขณะทำสวน ทุกคนต่างชมนายดำว่าขยัน แต่ความซนของกระถิน เผลอบอกว่า นายดำ แอบหลับ วันนี้คุณพระอยากไปพิสูจน์เหมือนกันว่าจริงหรือเปล่า
ฝ่ายเด็กหญิงจอมซนวิ่งสลับเท้าไปเรื่อยไม่ได้รีบร้อน ปากท่องหนังสืออย่างนกแก้ว แต่ความจำเป็นเลิศ ครั้นใกล้ป้อมยามเล็กๆหน้าวังนารายณ์ กระถิน หยุดเท้า หยุดปาก ทำทีเป็นย่อง ดังแมวขโมย คูณพระตามมา ถึกลับลอบยิ้ม ทำย่องตามเด็กหญิงไปด้วย
กระถินเห็นนายดำหลับงีบอยู่ จึงป้องปาก ตะโกนเสียงแจ๋วว่า
“เปิดประตูหน่อยเจ้าข้าเอ๊ย เจ้าข้าเอ๊ยมีใครอยู่บ้าง”
นายดำสะดุ้งสุดตัว ลืมตาตื่น ป้ายน้ำลายมุมปากออก พอเห็นว่าเป็นกระถินเขารีบจุปาก
“คุณกระถินอีกแล้ว ซนที่ไหนไม่ซน ต้องมาซนแถวกระผมอยู่เรื่อย”
“ก็แถวนี้เป็นประตูนี่นา คนเข้าออกก็ต้องเข้าทางนี้นี่ลุงดำ”
นายดำทำท่าจะต่อปากต่อคำ แต่สายตาแลเลยไปข้างหลังจึงพบประมุขบ้าน นายดำนั่งไหว้ แต้ กระถินหันไปมอง แล้วทำสะดุ้ง
“คุณลุง”
“เออลุงตามเจ้ามา มาเห็นคนแอบหลับ น่าตัดเงินเดือนเสียจริงนายดำ ง่วงก็ไปนอน แล้วเรียกนายแย้มมาเฝ้าแทนไป”
“ขอรับคุณท่าน”
“เออแล้วเตือนเจ้าแย้มด้วยนะว่า ข้ามีตาแมวคอยดักจับคนแอบสันหลังยาว เจ้าซนของฉันนี่ล่ะ มันซนทั่วบ้านไปเชียว”ท่านบอกพลางดึงเด็กหญิงเข้ามาใกล้ลูบผมเปียกเหงื่ออย่างเอ็นดู
กระถินเงยขึ้นมองคุณพระ ท่านทอดสายตาลงมามองอย่างมีเมตตาให้เด็กหญิง
กระถินมีสายเลือดครึ่งหนึ่งที่ท่านรู้มาว่าเป็นเสือ เป็นโจร หากว่าเวลานี้ท่านเห็นความฉลาด เท่าทันคน และช่างสังเกตของเด็กหญิง ท่านอดคิดไม่ได้ว่า หากกระถินเป็นเสือ ท่านจะเลี้ยงไว้ให้เชื่อง เพื่อว่าวันหนึ่ง เสือตัวนี้จะเป็นเขี้ยวเล็บช่วยรามในวันข้างหน้า!

วันหนึ่งแม่นิ่มนั่งทำขนมเบื้อง กระถินทำหน้าที่โรยหน้า และทาครีม นมนิ่มแซะชิ้นที่สุกใส่จาน จันทร์เป็นลูกมือ พุดกรองเดินผ่านมาที่เรือนริมน้ำ นางสั่งแม่นิ่มราวกับสั่งคนใช้ว่า
“ฉันมีแขกรับน้ำชา แม่นิ่มยกขนมไปด้วยตัวเองนะ ไม่ต้องให้คนใช้ไป”
“กระถินยกไปให้ค่ะแม่นิ่ม กระถินไม่ใช่คนใช้”
“นังกระถิน นี่แกกล้าดียังไงมาขัดคำสั่งฉัน”
“ไม่ได้ขัดเสียหน่อย แต่ทำไมต้องมาใช้แม่ด้วยล่ะ”
แม่นิ่มรีบขัด เพราะไม่ชอบให้เด็กหญิงมีท่าทางกระด้างกระเดื่องต่อบุพการี
“ไม่เอาค่ะคุณกระถิน อย่าเถียงคุณแม่”
“ไม่ใช่แม่กระถิน เขาไม่ให้เรียกแม่”
“คุณกระถินหยุดนะ นมโกรธแล้วนะที่คุณดื้ออย่างนี้”แม่นิ่มดุเสียงเขียว กระถินก้มหน้างุด
พุดกรองมองเย้ยหยันมาที่แม่นิ่มกำชับว่า
“สั่งสอนกันให้ดีแม่นิ่ม ไม่ใช่มาพูดต่อหน้าฉันทำเป็นสอนดี แต่ลับหลังยุยงเด็กจนมาตีฝีปากกล้า”
กระถินโกรธจัด เธอเพิ่งได้รับความช้ำใจจากอีกฝ่ายอย่างไม่มีวันลืมได้ เธอถูกพุดกรองตบหน้าเพราะเข้าข้างละมุด
พุดกรองเห็นละมุดดีกว่าเธอ ทำให้กระถินเจ็บและจำ วันนี้พุดกรองมาจิกใช้แม่นิ่มคนที่เธอบูชา ดังนั้นความกล้าไม่กลัวใครทำให้กระถินลุกพรวดกระทืบเท้าเร่า เอาเรื่องพุดกรองว่า
“อย่ามาว่าแม่เค้านะ”
“คุณกระถิน”แม่นิ่มฟาดขากระถินเผียะใหญ่ด้วยฝ่ามืออย่างลืมตัว พลางเอ่ยออกมาด้วยความไม่พอใจ เมื่ออีกฝ่ายแสนดื้อ
“อย่าก้าวร้าวอย่างนี้นะคะ แม่สอนแล้วนะ แล้วนั่นคือคุณแม่ของคุณกระถิน อย่าทำกิริยาร้ายเข้าใส่คุณแม่อย่างนี้เด็ดขาด”
กระถินหันไปมองแม่นิ่มด้วยความไม่เข้าใจว่าการที่เธอปกป้องคนที่เธอรักจึงโดนทำโทษ พุดกรองเดินจากไป กระถินกระโจนพรวดๆลงเรือนด้วยความคิดน้อยใจขึ้นมาอย่างไม่อาจทนได้
“คุณกระถินจะไหนหยุดก่อน” จันทร์ขยับตาม
“ไม่ต้องตามจันทร์” แม่นิ่มไม่ให้ตาม
“แต่ว่าคุณกระถินไปไหนไม่ทราบนะคะคุณนม”
“ไม้อ่อนอย่างนี้ต้องรีบดัดเสีย หากเราเข้าข้างตลอดเธอจะยากเกินสอนได้”
จันทร์ได้แต่เพียงพยักหน้ารับคำเบาๆ ชะเง้อแลหาอีกฝ่าย ด้วยเกรงในฤทธิ์ เด็กมหาดื้อ และเจ้าคิดเจ้าแค้นของกระถินนักหนา
เวลาต่อมาแม่นิ่มทำตามคำสั่งพุดกรองโดยนำขนมไปส่งให้ด้วยตนเอง พวกเพื่อนผู้ดีที่พุดกรองเชิญมา ต่างเอาพัดปิดปากนินทาตามหลังแม่นิ่มว่าเป็นเมียเก็บคุณพระศานต์ อย่างที่พุดกรองไปให้ร้าย
แม่นิ่มได้ยินแล้ว แต่จำใจเก็บงำไว้ในอกไม่บอกใคร...ทำไมแม่นิ่มจะไม่เข้าใจว่า พุดกรองใช้วิธีนี้บีบให้แม่นิ่มทนอยู่ไม่ได้ และให้ออกจากบ้านหลังนี้ไป แม่นิ่มรู้จึงไม่ตามตกหลุมพรางนั้น
เมื่อกลับถึงเรือน จันทร์เก็บของใช้ไปล้าง จัดทำสถานที่ทำขนมจนสะอาด แม่นิ่มถามถึงกระถิน ได้ความว่าหายไปไม่กลับมา แม่นิ่มจึงว่า
“เดี๋ยวก็กลับ”
เวลาเดี๋ยวของแม่นิ่มนานเกินไปเสียแล้ว เพราะพระอาทิตย์ตกไปนานกระถินยังไม่กลับมา แม่นิ่มและจันทร์ออกตามหาจนทั่ว
ยิ่งดึกยิ่งร้อนใจ สุดท้ายต้องเกณฑ์คนออกตามกันอีก บางคนเห็นความร้ายของกระถินที่เอาเรื่องกับคนที่ไม่ชอบเธอก็ไม่เต็มใจออกตาม
ฝนเริ่มตก แม่นิ่มเริ่มใจเสีย สุดท้ายตามพบที่โคนไม้ริมน้ำติดสวนทนายทด พอเห็นคนมาตาม กระถินกอดต้นไม้แน่นหนา ไม่ยอมกลับ
“ไม่ไป กระถินไม่กลับ แม่ไม่รักกระถินอีกแล้ว”
“แม่รักคุณกระถินนะคะ แต่แม้นิ่มต้องทำโทษที่คุณผิดนะคะ”
“กระถินไม่ผิด ไม่ผิด คุณผู้หญิงต่างหากที่ผิด คุณผู้หญิงผิด”
“คุณกระถิน”แม่นิ่มเขาไปแกะมือกระถินออกจากต้นไม้ แต่เด็กหญิงยิ่งรัดแน่นเข้า
แม่นมอ่อนใจมาก จึงนั่งลงกับพื้นเอ่ยกับบริวารที่ตามมาเฝ้าดุเหตุการณ์คุณกระถิน ‘ออกลาย’ ว่า
“ทุกคนกลับไปเถอะ ฉันจะนั่งกับคุณกระถินที่นี่ล่ะ”
“แม่นิ่มกลับไปนะ กระถินจะอยู่คนเดียว”
“ไม่กลับ ฝนตกจะได้เปียกด้วยกัน คุณกระถินป่วยแม่นิ่มก็ป่วย”
“แม่...”กระถินมืออ่อนปล่อยออกจากต้นไม้ โผเข้ากอดแม่นิ่ม ซึ่งรวบร่างอีกฝ่ายไว้ในอ้อมแขน เอ่ยทั้งน้ำตารินอาบสองแก้ม
“แม่รู้ รู้ค่ะว่าคุณกระถินรักแม่นม แต่ แม่เป็นเพียงคนใช้เท่านั้น คุณพุดกรองต่างหากเป็นแม่ที่แท้จริงของคุณกระถิน คุณอย่าไปกระด้างกระเดื่องอย่างนั้นนะคะมันบาป”
กระถินกอดอีกฝ่ายแน่น พยักหน้ารับคำแต่โดยดี
จันทร์รำพึงแต่เพียงว่า กลัวใจเหลือเกิน!



Create Date : 18 มิถุนายน 2554
Last Update : 18 มิถุนายน 2554 20:51:05 น. 0 comments
Counter : 8190 Pageviews.

ชื่อ : * blog นี้ comment ได้เฉพาะสมาชิก
Comment :
  *ส่วน comment ไม่สามารถใช้ javascript และ style sheet
 

นางแก้ว ดาราพร
Location :


[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 11 คน [?]




New Comments
Friends' blogs
[Add นางแก้ว ดาราพร's blog to your web]
Links
 

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.