พระดีที่โลกรอ ตอน กลุ่มคนหลงบุญ
ก่อนอื่นต้องขอโทษที่หายไปนานค่ะ แต่ก็เพิ่งได้เขียนตอนต่อมาค่ะ สองเท้าก้าวย่างด้วยความพอดี ไม่ก้าวยาวเกิน หรือสั้นเกินขณะออกบิณฑบาตแต่เช้าตรู กิจของพระภิกษุสงฆ์คือการเที่ยวภิกขาจาร หรือการบิณฑบาต การบิณฑบาตนี้เป็นสิ่งที่ทำให้ลดทิฐิในการถือตัวตน ผู้เป็นสาวกโดยแท้จริงแล้วจะละเลยการประพฤติปฏิบัตินี้ไม่ได้เว้นแต่อาพาธ เหล่าภิกษุสงฆ์จึงดูแลแก่กันและกันได้ ซึ่งถือกันว่าผู้บวชแล้วย่อมเป็นผู้สละเรือน เป็นผู้ไม่มีเรือน การเวลาเปลี่ยนไป ภูมิประเทศต่างกัน วัดใกล้บ้าน บ้านอยู่วัด จึงพึ่งพาอาศัยกันและกัน ผู้คนเดือดร้อนมาวัด แต่พระเดือดร้อนต้องปลง เว้นเสียแต่ชาวบ้านเข้ามาช่วยเหลือด้วยจิตเมตตาหรือเป็นศรัทธา พระเถรท่านมีรูปงาม มีผิวขาวยิ่งนานพรรษายิ่งขาวสวย ญาติโยมบางคนไม่กล้าถามพระก็มาถามกับเณรในวันโกณวันพระ เณรเขียวอายุสิบสี่ปี บวชเรียนในวัดนี้โดยทุนทางวัด และบางส่วนหลวงพี่เถรให้เณรเพื่อใช้จ่ายในเวลาเดินทาง ซึ่งต้องมีติดตัวเพราะรถโดยสารบางคันก็เก็บ บางคันก็ไม่เก็บอย่างไรพระ ในทุกวันนี้ต้องมีเงินติดตัวกันบ้างเพราะกิจท่านมากเกินพอดี ทั้งที่ตามหลักพุทธศาสนาแล้ว บวชเพื่อตัด แต่กาลเวลาย่อมนำพามาซึ่งเหตุผลบิดเบือนกันไป วัดไม่ทิ้งบ้าน บ้านวิ่งไปหาวัด นักบวชจึงติดกิเลสเข้าไปอย่างที่รู้ทั้งรู้แต่ยกเหตุผลสารพัดมาหักร้างเพื่อให้ได้ทำตามใจ อย่างนี้เองที่พระหลายรูปก็มีบัญชีทรัพย์ชื่อตัวเอง(โดนตรวจสอบจริงก็ผิดนะ) บางรูปรู้ทางหนีทีไล่ก็ใช้ชื่อคนสนิทฝาก เรื่องของหลวงพี่เถรมีแต่คนอยากรู้เพราะอยู่วัดบ้านไม่ใช่วัดป่า แต่ทำตัวเหนือธรรมดา ทั้งที่ท่านไม่เคยทำเด่น แต่คนไปเห็นท่านเด่นดัง ซึ่งท่านก็ถือว่าเป็นวิบากกรรมที่ท่านต้องเผชิญ จะอุตริธรรมว่าชาติก่อนท่านเกิดมาเป็นอย่างนั้นจึงต้องทำกรรมอย่างนี้ ท่านไม่สามารถอุตริไปได้ เพราะเป็นเรื่องเฉพาะตนเท่านั้น บางคนยังแอบถามเณรว่าเห็นหลวงพี่กินยาผิวขาวมั้ย หรือว่ากินอาหารบำรุงอะไรจึงดูสดใสมีแสงออร่า วันนี้เป็นวันโกณ ชาวบ้านกลุ่มใหญ่ซึ่งเป็นหญิงเสียส่วนมากจะมานั่งจับเจ่าพูดคุยกัน บางคนบอกว่ามาวัดเพื่อพักผ่อนเพื่อถือศีลให้เคร่งครัด บางคนมาเพื่อหาเพื่อคุย บางคนก็ชวนกันมาแก้กรรมด้วยการถือศีล การเข้าวัดในวันพระวันโกนของอุบาสก อุบาสิกาทุกวันนี้ ก็มีเหตุผลร้อยแปดพันประการ แต่บ่ายแก่ๆเณรจุกถือไม้กวาดเดินผ่านมายังใต้ร่มไม้ ซึ่งสีกาหลายคน ทั้งแต่และสาว สาวรุนเดียวกับเณรน่าตาน่ารัก เณรก็อดวาบหวามในใจเสียไม่ได้ เมื่อผ่านมานึกอยากให้ใครสักคนนิมนต์ คุย เพื่อมองคนรุ่นเดียวกัน ต่างคนต่างนั่งพับดอกไม้ ทั้งใบเตยหอม และดอกบัว ไว้บูชาในวันพระ ซึ่งนำไปไหว้บูชาสิ่งศักดิ์สิทธิ์ให้ครบทุกที่ เณรจุก ยายเหี่ยวเรียกเณร ซึ่งหัวใจเณรเริ่มพองนึกว่าน่าจะนิมนต์นะ นิมนต์เถอะน่า อย่าเรียก เพื่อบอกว่า ลองเสียง
นิมนต์ทางนี้เดี๋ยวค่ะ โยมเหี่ยวนิมนต์จริงตามใจเณรต้องการ สามเณรรุ่นหนุ่มแอบมองสาวรุ่นเดียวกันเล็กน้อยอย่างห้ามใจไม่อยู่ พานนึกว่าอุบาสิกานิมนต์แล้วคงให้เณรนั่ง และบรรดาอุบาสิกาจะลุกจากเก้าอี้มานั่งพื้นแทน แต่ปรากฏว่าไม่มีใครได้ลุกขึ้นจากเก้าอี้ ดังนั้นจึงต้องกลายเป็น นิมนต์ยืน เพราะเณรนั่งรวมกับสีกาทั้งหลายไม่ได้ เมื่อมีการนิมนต์ยืนแล้วเณรจุกก็คิดไปอีกว่า อย่าถามปัญหาเยอะ เดี๋ยวยืนค้ำหัวญาติโยมนานเกินไป ดีไม่ดี มีพระปากดีเรียกไปด่าว่ามายืนมองสาวเข้าให้ เณรอาจจะโดนหลวงพี่แกล้งให้ไปถูกุฎที่รกสมบัติส่วนเกินการเป็นพระก็ได้ เบื่อจะตายที่อยู่อาศัยของตัวเองแท้ๆไม่ทำ! เณรคิด เพราะเหนื่อยเป็นเหมือนกัน ข่าวว่าหลวงพี่เถรส่งเณรเรียนใช่มั้ย โยมสาวสวยถามเสียงหวาน ครับโยมท่านซื้อคอมพิวเตอร์ให้เณรทำงานครับ แต่ตั้งไว้ตรงหน้าประตูไม่ให้ทำข้างใน ให้แล้วยังจะขี้เหนียวไปได้ คนไม่ชอบทำอย่างไรก็หาเรื่องติพระจนได้ นางพริ้ง คู่หูคนใหม่ของยายเหี่ยวซึ่งไปดูหมอดูและได้รับคำแนะนำมาว่าต้องมาถือศีลเจ็ดวันเพื่อให้มีโชคลาภ นางเป็นคนบ้าการพนัน การที่ได้รับการแนะนำมาอย่างนี้ก็รีบทำตาม เพราะถือว่าได้รับสองเด้ง ทั้งโชคทั้งบุญ หลวงพี่เถรมีสมบัติมากล่ะสิเณร คนถวายเงินให้เยอะแยะ วันพระทุกพระได้ซองมากกว่ารูปอื่นนี่ท่านคงมีของใช้เต็มห้องเลยใช่มั้ยล่ะ เณรจุกจึงตอบตรงไปตรงมาว่า ในห้องของหลวงพี่มีเสื่อผืน หมอนใบกับตู้หนังสือครับโยม อ้อมีโต๊ะพับเตี้ยๆเวลาท่านวางหนังสือ ท่านไม่นอนอ่านครับ ไม่จริงมั้งเณร เห็นพระอื่นๆนอนดูทีวีบอกว่าต้องติดตามข่าวสาร ติดตามรายการธรรมมะเพื่อความรู้ของหลวงพี่ก็ต้องมีสิไม่อย่างนั้นคนอื่นพูดอะไรท่านจะรู้ทัน จะฉลาดได้ยังไงกัน ผมไม่เห็นจริงๆครับโยม ถ้าท่านไม่เรียกไป ผมไม่กล้าไปยุ่มย่ามบนกุฎท่านด้วย ท่านก็ไม่ค่อยได้เรียกหรอกครับ ส่วนใหญ่อยู่ในโบสถ์ ถ้าในศาลาท่านก็พูดธุระกับคนที่มาพบ เณรยืนยัน โทรศัพท์ไอโฟนไอแพดก็ไม่มีหรือ รู้เบอร์โทรหรือเปล่า สาวสวยชื่อน้ำเย็นถามขึ้นมาบ้าง เธอเข้ามาถือศีลในวันโกน วันพระจะทำอาหารกับกลุ่มผู้มาถือศีล ตอนเช้าก็ถวายภัตตราหารกัน คำถามทันสมัยของน้ำเย็นทำให้ผู้หลักผู้ใหญ่ที่กระหายรู้เรื่องส่วนตัวของพระรูปงามต่างเอียงหูฟัง หรือบางคนมีท่าทีตะแคงฟัง และถ้าเอามือป้องหูได้เพื่อให้ได้ยินชัด ก็คงมีคนทำ ไม่มีครับ เณรก็ไม่มี หลวงพี่บอกว่าเป็นนักบวชแล้วต้องตัดทางโลกสิ่งที่นักบวชอยากรู้อยากเห็นควรเป็นการศึกษาธรรม ศึกษาพระวินัยไม่ยุ่งเกี่ยวกับเรื่องไลน์ เรื่องแชต ฮุ่ย วิเศษ วิเสโสเหลือทน ยายเหี่ยวทำท่ารำคาญนักหนา เพราะนางพึ่งซื้อโทรศัพท์รุ่นที่พระใหม่ หลานชายของนางร้องขอไปให้ อย่างนี้พ่อแม่พี่น้องอยากติดต่ออยากบอกเรื่องทางบ้านก็ต้องวิ่งตับแล่บมาหาถึงกุฎล่ะสิ ช่างเรื่องมากจริงๆนะ ใครอยากวิ่งก็วิ่งสิครับ แต่ผมว่าเขานั่งรถมาบอกคงดีกว่า แหมนี่ไม่เห็นแก่ผ้าเหลืองล่ะก็จะว่าเณรเป็นนักกวน
ไม่ต้องเว้นวรรคหรอกครับโยม เณรไม่ถือ โยมคิดยังไงว่าอะไรเณรยกให้โยมหมดเลยครับเณรจุกตอกกลับ ท่านยังเด็ก และเป็นเด็กใจร้อน ดังนั้นเมื่อยายเหี่ยวลามหลวงพี่ไปทุกเรื่องเณรจึงไม่อยาก ยืนเป็นจำเลยกล่าวแก้ต่างให้หลวงพี่เสียแล้ว เพราะเกรงว่าจะยั้งอารมณ์ไม่ทัน ยกเท้าเตะปากญาติโยมที่ไปต่อว่าหลวงพี่คนดีของเณรเข้าให้ เณรไปก่อนนะครับโยมเดี๋ยวลงวัดไม่ทัน บอกแค่นั้นเณรรีบถือไม้กวาดพร้อมกับสาวเท้าไปโดยเร็วไม่ฟังใครนิมนต์หยุด หรือนิมนต์เชิญอีก ใจดวงน้อยๆของเณรนึกขุ่นเคืองยายเหี่ยวเป็นกำลัง พานไปนึกว่า เพราะยายเหี่ยวปากเสียอย่างนี้เอง หน้าตาจึงเหี่ยวยับปากตกสองข้าง ทั้งที่เป็นคนรวยมากอายุก็ไม่เยอะ แต่ได้รับฉายาเหี่ยวเพราะรูปโฉมของแกเอง เณรไปแล้วยายเหี่ยวนินทาหลวงพี่เถรกับคนในกลุ่มว่า ไม่ชอบให้คนอื่นเข้าไปยุ่ง แสดงว่าต้องมีความลับเยอะ กลัวใครเข้าไปเห็นสิ่งที่ท่านซ่อน เณรไปเข้าข้างยกยอหลวงพี่ซะเหมือนท่านผุดมาจากพุทธกาล หลวงพ่อองค์ใหม่ท่านชอบฉันอะไร เห็นท่านมาจากทางอีสาน ชอบน้ำพริกปลาร้าหรือเปล่าพรุ่งนี้จะได้ทำไว้ถวาย เดี๋ยวให้คนไปถามดู อ้ออย่าไปถามหลวงพี่เถรล่ะ เดี๋ยวจะโดนเทศน์ยาว นางเหี่ยวต่อว่า ทำหน้าบึ้ง แต่ยังไงก็ดูไม่ตึงเพราะว่าความเหี่ยวนั่นเอง หลวงพี่ฉิบ กำลังเดินขึ้นกุฎของตน แต่ไปเหลือบสายตาเห็นสามเณรจุก ผู้ที่เคยเตะชายโครงท่านมาก่อนเพราะเข้าใจว่าท่านเป็นโจรเข้ามาทำร้ายพระเถรหลังจากที่พระฉิบได้สำนึกดีแล้วจึงปล่อยวางได้เก่งขึ้น อารมณ์ก็เย็น และน่าแปลกว่า ดูเหมือนพระฉิบท่านจะหล่อขึ้นทุกวัน ทั้งที่หน้าตาก่อนบวช ชาวบ้านให้ขนานนามกันว่า ไอ้หน้ามืด เพราะรอยแผลเป็นจากสิว ผิวไม่เกลี้ยง ยิ่งผิวดำก็ดูน่ากลัว แต่เวลานี้ท่านผิวดำแต่ดูผ่องใส สามเณรเดินหน้าง้ำโยนไม้กวาดไปยังที่เก็บ พอไม้กวาดล้ม ก็ปล่อยให้ล้มไม่ไปเก็บวางให้เป็นระเบียบ พระฉิบจึงตะโกนแซวไปว่า โดนแตนต่อยมาหรือไงเณร อารมณ์บูดมาเชียว ผมอยากต่อยแตนมากกว่าหลวงพี่เณรตอบกลับสะบัดเสียงระบายอารมณ์ พระฉิบไม่อยากรู้ว่าแตนที่ไหนที่เณรอยากต่อย เกรงว่าถ้าถามมากเข้าเณรอาจจะหันเป้าหมายมาทางท่านก็ได้ ท่านจึงปล่อยวาง แต่ว่าสามเณรวัยรุ่นกลับวางไม่เป็นจึงตะโกนถามเสียงดังว่า หลวงพี่เกลียดหลวงพี่เถรมั้ย
Create Date : 12 พฤษภาคม 2558 |
|
2 comments |
Last Update : 12 พฤษภาคม 2558 11:39:16 น. |
Counter : 1452 Pageviews. |
|
|
|
พออ่านๆไป เรื่องที่เขียน น่าสนใจจึงอ่านจนจบ
วันหลังมาติดตามอ่านอีก