นิยาย ดราม่า ดี ฮา หื่น สนุก เลิฟซีนภาษาสวย
Group Blog
 
 
มิถุนายน 2554
 1234
567891011
12131415161718
19202122232425
2627282930 
 
20 มิถุนายน 2554
 
All Blogs
 

เจ้าสาวพันชั่ง 5 (ตีพิมพ์แล้วกับ สนพ.อักษรศาสตร์ นามปากกา ดาราพร)

ตอนที่ 4 การกลับมาของพันชั่ง

วันเวลาผ่านไปนับสิบกว่าปี
ดาหาประคองภรรยาอย่างทะนุถนอมยามลงเรือ ลูกแฝดวัยรุ่นตามไปด้วย มะขวิดหน้าคมคายรูปร่างสูงโปร่ง มะตูมงดงามจับใจ ดวงหน้าใสสว่างมีรอยยิ้มบนสีหน้าเสมอ อย่างที่ใครเรียกว่าหน้าเปี่ยมบุญนั่นเอง ทั้งสองช่วยบิดาประคองมารดา ลงเรือข้ามฟาก ไปโรงพยาบาล
การเข้าโรงพยาบาลคราวนี้ลำเพามีลางสังหรณ์ว่าจะไม่ได้กลับบ้านอีกแล้ว ดังนั้นหล่อนนอนอยู่ร่วมครึ่งเดือนจึงได้ขอหมอกลับบ้าน หมอไม่ทัดทาน เพราะกำลังใจคนไข้อยู่กับครอบครัวเสียแล้ว
เมื่อจัดห้องเรียบร้อยแล้ว จึงพาภรรยาพักผ่อน ลำเพาจับมือสามีซึ่งไม่ยอมห่างกาย ทุกครั้งที่มีเวลาว่า
“เพาคงมีบุญมากนะคะที่ได้เป็นเจ้าสาวคุณ”
“ผมก็เหมือนกัน ขอบคุณ คุณพ่อ คุณแม่ของคุณที่ยกลูกที่แสนน่ารักมาให้เป็นเมียผม”
“มะตูม คงแข็งแรงนะคะ”
“ทำไมพูดถึงลูกล่ะ”
“มะตูมแสนสวยของเรา มีค่าเท่ากับดวงใจ หากตีราคาห้ามต่ำกว่าพันชั่งเด็ดขาดเชียว”
“พันชั่งแค่แปดพัน ทำไมน้อยจริง”
ลำเพาหัวเราะเบาๆ หล่อนไม่ได้หมายถึงเงิน หากหมายถึงว่าสักวันหนึ่งเจ้าบ่าวของมะตูม ไม่ควรน้อยหน้าพันชั่งต่างหาก
เมื่อเห็นภรรยายิ้มเนือยดาหาจึงเข้าใจ
“อย่าคิดถึงเรื่องที่เป็นไปไม่ได้เลยคุณ ข่าวว่าเป็นทหาร คงรูปงาม และสาวๆ ล้อมเกรียวทีเดียว”
“สาวไหนก็ช่างเถิดค่ะ แม่บุษบาของเพาหล่อนงามกว่าใครนี่คะ”
“แปลกจริงเชียวคุณเพา ทำไมล่ะ ทำไมอยากได้พันชั่งเป็นเขย”
“อยากให้ลูกสาวเราเป็นเจ้าสาวพันชั่งค่ะ”
“ไม่ล่ะ ไม่เอา ผมไม่คิดเด็ดขาด ยังเรียนมัธยมอยู่เลย จะสอบแพทย์แล้วด้วย ไม่ให้คิด”

เผือกพายเรือมารับสองฝาแฝด ซึ่งคนหนึ่งแต่งกายนักเรียนเตรียม อีกคนสวมชุดนักเรียน ผมยาว ผิวพรรณเกลี้ยงเกลาลออตา ช่างสวยใสเหลือเกิน
เรือลำหนึ่งพายสวนมา ชายหนุ่มสวมเสื้อสีเขียว มีตราบอกที่หน้าอกด้านขวา กางเกงขายาว หัวเรือนั่งด้วยสาวสวย เอามือราน้ำเล่น ชวนกันสนทนาเบาๆ
เมื่อเรือสวนกัน มะตูมชายหางตามองไม่ตั้งใจ เมื่อเห็นว่าเป็นใคร คลับคล้ายคลับคลา เด็กสาวมองเมินไปทางอื่นเสีย
“พี่พันชั่งใช่มั้ยมะตูม”
“ฉันไม่รู้”น้ำเสียงห้วนสะบัด น้องชายเอ่ย
“สงสัยมากับแฟน”
มะตูมทำเป็นไม่ได้ยิน แต่นั่งเชิดคอแข็ง ขณะที่คนพึ่งพายเรือใจวาบหวิวกับหญิงสาวแก้มใส นั่งตัวตรงแขนอ่อนเป็นนางละครใน หากว่าไม่ใช่ผู้หญิงตรงหน้านี้เลย ผู้หญิงที่เขาไม่ได้พบเลยแม้เวลาจะผ่านไปนานสิบกว่าปีแล้วก็ตามที
มะตูม...แสนสวย มีคนรักหรือยังหนอ

ผ่านท่าน้ำซึ่งเคยเป็นท่าเปิด เมื่อเผือกนำเรือเข้าไปจอด มะขวิดรีบโยงเชือกกับหัวเรือ มะตูมรีบก้าวขึ้นจากเรือ และสองคนแย่งกันขึ้นบันได จนกระทั่งเปลือกหมากลอยมา สองพี่น้องจึงเสงี่ยม หากมะตูมกระทุ้งสีข้างน้องชายจนจุกแอ้ด แล้วเดินรวบชายกระโปรงค้อมหลังไป นั่งลงไหว้คุณย่า จากนั้นรีบเดินเข่าผ่านอย่างเบียดเสียดจะให้ถึงห้องคุณแม่ก่อน มะตูมเร็วสู้ไม่ได้จึงผลักมะขวิดล้มหงายไม่เป็นท่า มะขวิดเอ็ดเสียงดัง
“คนอะไรโกงแต่น้อง”
“สู้ไม่ได้แล้วว่าคนอื่นโกงได้ไง” คนงามต่อว่า ปากแดงระเรื่อเต็มอิ่มได้รูปสวย ไม่ต้องหาชาดมาทาสักนิด
“น้ำใจลูกผู้ชายไม่ทำร้ายผู้หญิงหรอกน่าทำเป็นได้ใจ ฮี่เธ่อ...”
“งั้นลูกผู้ชายก็อย่าบ่นสิ”
“เถียงไม่เคยชนะสักทีนางบุษบาคนนี้”มะขวิดบ่น ก่อนค่อยเงียบเสียงตามพี่สาวเข้าไปหาคุณแม่
ลำเพาซูบผอม มาก แต่แววตาเปี่ยมสุขยิ่งนัก ยิ่งเห็นลูกชายหญิงทั้งสองยิ่งรู้สึกอบอุ่นใจ แม้ร่างกายอ่อนล้าเต็มที
“คุณแม่ขาหายดีแล้วหรือคะจึงกลับบ้าน”
“อยู่บ้านเราดีกว่านะมะตูม”มะตูมคลานไปใกล้ฟูกนอน ยกมือมารดามาแนบแก้ม
มะขวิดมองมารดาด้วยความสงสาร แต่เก็บเงียบไว้แต่ภายใน...แม่อยากอยู่บ้าน เพื่อใกล้ลูก แต่ลูกมาได้สองอาทิตย์ครั้งเท่านั้น
“ไม่น่าสอบติดเลยเรา นักเรียนเตรียมเนี่ย”
“แล้วกัน ตอนนั้นก็วิ่งแก้บนรอบสวน ทีอย่างนี้มาบ่นทำไมจ๊ะมะขวิด”
“ก็ขวิดคิดถึงแม่” กล่าวพลางเหยียดตัวไปนอนเบียดมารดา จูบเอาใจ มะตูมหยิกน้องชาย
“คุณแม่ไม่สบาย ตัวจะเข้าไปเบียดทำไม”
“เค้ารักแม่นี่นา อยู่โรงเรียนได้แต่คิดถึงบ้านเหมือนกัน ตัวก็เถอะน่า สอบติดแพทย์แล้ว อีกหน่อยไปอยู่หอพักจะต้องคิดถึงแม่เหมือนกันนั่นล่ะ”
“คิดถึงยังไงก็ต้องกลั้นได้ เรื่องอะไรมานอนเบียดคนป่วยอย่างนี้สุขภาพคุณแม่จะไม่ดีนะมะขวิด”
มะขวิด รีบผุดลุกถอยออกมา แต่มะตูมเข้าไปนอนกอดมารดาแทน
“ยายคนขี้โกง เมื่อกี้พึ่งว่าเขาแท้ๆ”
“มะตูมกอดเบาๆ จริงมั้ยคะคุณแม่ ไม่หนักเลยใช่มั้ยคะ”
ลำเพายิ้ม อย่างมีความสุขยิ่งนัก ก่อนที่เสียงหยดจะเรียกให้ออกไปอาบน้ำเพื่อทานข้าว ดาหากลับจากทำงานมาถึงก็เข้าไปดูภรรยา เห็นลูกคลอเคลียจึงได้แต่คิดว่า อยากให้ภรรยาอายุยืนยาวไปกว่านี้ อยากให้ภรรยาเห็นความสำเร็จของลูกที่หล่อนให้กำเนิดมา
“ไงสองคน ทำไมยังไม่อาบน้ำกันอีกล่ะลูก”
“มะตูมเขาสอบแพทย์ได้แล้วนะคะคุณดา”
“อีกหน่อยเราจะมีคุณหมอประจำตัวแล้วสิ”ดาหายิ้มรับด้วยความรู้สึกยินดีที่ลูกเอาดีได้ทั้งสองคน
“คืนนี้มะตูมเล่นขิมให้แม่ฟังหน่อยนะลูก”
“ค่ะ เล่นข้างในนี้มั้ยคะคุณแม่”
“เดี๋ยวพ่อพาคุณแม่ออกไปนั่งฟังข้างนอกก็ได้ลูก”
“ค่ะ”

อากาศยามค่ำคืน ค่อนข้างเงียบ ไม่มีเรือยนต์เรือพายผ่านมามากนัก เสียงขิมบรรเลงแว่วเพราะจับใจ เพลงบุหลันลอยเลื่อน
คุณพร้อม คุณสวาท และพันชั่งนั่งสนทนากันที่ห้องโถง ได้ยินเสียงขิมดังมาหลังจากไม่ได้ยินมานานมากแล้ว คุณพร้อมจึงว่า
“คุณลำเพาเขาหายป่วยแล้วหรือถึงได้เล่นขิมได้อีกแล้ว”
“ไม่น่าใช่ค่ะ เพราะเมื่ออาทิตย์ก่อน ดิฉันไปเยี่ยมที่โรงพยาบาลอาการคงยากหายเต็มที”
พันชั่งใจหาย
“เช่นนั้นคงเป็นลูกสาวน่ะสิ อืม...คงใช่ เคยเห็นวันนั้นเดินกลับจากโรงเรียน หน้าใสเชียว”
สามีเริ่มสาธยายตามประสาชาย หากคูณสวาทรีบเปลี่ยนทิศทางการเจรจาไปทางลูกชายทันที พลางว่า
“วันนี้พาหนูกล่อมขวัญไปเที่ยวถึงไหนกันมาจ๊ะ”
พันชั่งพากล่อมขวัญน้องสาวเพื่อนของเขาพายเรือเล่นตามที่หญิงสาวขอร้อง เขาไม่ได้รู้สึกอะไรนอกจากนึกถึงความทรงจำเก่าๆ และ ยิ่งเมื่อได้พบคนงามที่ไม่ได้พบกันมานาน นั่งคอเชิด ราวคนไม่รู้จักกัน ทำให้เขาหวั่นไหวอย่างประหลาด
“แม่ถามน่ะพันชั่ง เรานี่ยิ่งโตยิ่งไม่ค่อยพูด”
“พายเรือเล่น ไม่ค่อยได้คุยอะไรกัน เอถามถึงพี่ชายหล่อนเท่านั้นครับ”
“แต่หนูขวัญเหมาะสมกับลูกมากนะพันชั่ง เหมาะจะเป็นเจ้าสาวของลูกทีเดียว”
“ผมยังไม่คิดเรื่องนี้หรอกครับคุณแม่ พึ่งเป็นซีเนียร์แล้วก็ผมอยากเรียนต่ออีกสักหน่อยครับ”
“หมายความว่ายังไง”
“ผมจะสอบชิงทุนนายทหาร ไปเรียนเมืองนอกสักปีหรือสองปีครับคุณแม่”
“โอ้ นี่ทำไมคิดคนเดียว ไม่ปรึกษาใครเลยล่ะพันชั่ง”
“ถือโอกาสนี้เรียนคุณพ่อคุณแม่ให้ทราบเลยก็แล้วกันนะครับ เรื่องงานหมั้นงานแต่งกับใครนั้นผมยังไม่คิดครับ”
“แต่แม่จะหาไว้ให้ ยังไงเรื่องนี้ก็เป็นสิทธิ์ของแม่ที่จะเลือกเจ้าสาวให้ลูก”
พันชั่งไม่ตอบรับหรือปฏิเสธ หากนิ่งฟังเสียงขิมบรรเลงเพลงใหม่
ลาวดวงเดือน เสียงเพลงบรรเลงช่างไพเราะเสนาะโสต จนแทบไม่ได้ฟังมารดาว่ากล่าวประการใดสักคำ ในที่สุดเมื่อเสียงเพลงจบลงและเงียบหายไป ราวกับว่าได้หยุดการเล่นแล้ว พันชั่งจึงขอตัวจากมารดาขึ้นไปพักผ่อนบนห้องส่วนตัว
มะตูม...ชื่อนี้ยังติดใจ ทั้งที่ลืมไปนานปี นั่งคอเชิดราวไม่รู้จัก เขาย้ำคิดอีกครั้ง ทำไมถึงทำอย่างนั้น หรือว่า...ไม่สนใจอยากรู้จักพี่พันชั่งคนนี้อีกแล้วหรือ




 

Create Date : 20 มิถุนายน 2554
0 comments
Last Update : 20 มิถุนายน 2554 9:13:44 น.
Counter : 778 Pageviews.


นางแก้ว ดาราพร
Location :


[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 11 คน [?]




New Comments
Friends' blogs
[Add นางแก้ว ดาราพร's blog to your web]
Links
 

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.