การเห็นขันธ์ 5 ไม่ใช่ตัวตน เป็นไตรลักษณ์ ต้องเห็นด้วยจิตรู้เท่านั้น
ในตำราทางพุทธศาสนา มีการกล่าวไว้ถึงขันธ์ 5 ว่า อันปุถุชนมองเห็นขันธ์ 5 นี้เป็นตัวตนของเขา แต่ในความเป็นจริงแล้ว ขันธ์ 5 ไม่ใช่ตัวตนของเขา มันเป็นไตรลักษณ์
การเห็นไตรลักษณ์ของขันธ์ 5 นั้น ต้องเห็นด้วย .จิตรู้. เท่านั้น อันเป็นภาวนามยปัญญา ไม่ใช่การไปนึกเอา คิดเอาเองด้วยการใช้สมองคิด ซึ่งเป็นสุตมยปัญญา จินตมยปัญญา
เมื่อท่านได้ลงมือฝึกฝนการเจริญสัมมาสติ สัมมาสมาธิ จน.จิตรู้. เกิดและตั้งมั่นได้แล้ว เมื่อท่านสัมผัสร่างกายของท่าน จิตรู้ จะสัมผัสได้ถึงความรู้สึกอันเป็นธรรมชาติของธาตุทั้ง 4 คือ อาการอ่อน แข็งของร่างกาย คือ ธาตุดิน อาการความร้อนของร่างกาย คือ ธาตุไฟ อาการ การเคลื่อนการไหวของร่างกาย คือธาตุลม อาการไหลเยิ้ม เช่นน้ำตา / เลือด / เหงื่อ ของร่างกายคือ ธาตุน้ำ
ใน blog ที่ผมเขียนเรื่อง ตัวอย่างการฝึกเพือการรู้กาย //www.bloggang.com/mainblog.php?id=namasikarn&month=30-05-2009&group=1&gblog=20
ก็คือ การฝึกให้ .จิตรู้. สัมผัสธรรมชาติของ ธาตุดิน ธาตุไฟ ธาตุลม อันเป็นปรมัตถ์ธรรมนั่นเอง การสัมผัสปรมัถต์ธรรมบ่อย ๆ เนือง ๆ นอกจากการฝึกฝนนี้จะเป็นการเพิ่มกำลังของจิตรู้ ยังเป็นวิปัสสนาไปในตัว ที่ .จิตรู้. ได้สัมผัสปรมัตถ์ธรรมของร่างกายว่า ร่างกายนี้ไม่ใช่เราแล้ว ร่างกายนี้ยังเป็นเพียงธาตุเท่านั้น !!
สำหรับเวทนาในขันธ์ 5 นั้น จะต้องเห็นด้วย .จิตรู้. ที่มีกำลังแล้ว เมื่อท่านเกิดอาการเจ็บป่วยทางกาย จิตรู้ จะเห็นอาการเจ็บป่วยนั้นได้ ความชัดเจนขึ้นกับกำลังความตั้งมั่นแห่ง .จิตรู้. จิตรู้ จะเห็น เวทนา เป็นอาการอย่างหนึ่งที่เกิดขึ้น และเห็นได้ชัดว่า เวทนาไม่ใช่เรา สักแต่ว่าเป็นอาการอย่างหนึ่งเท่านั้น และแปลกที่ว่า ถ้าจิตรู้เห็นอาการความเป็นปรมัตถ์ธรรมของเวทนาแล้ว ถ้าเวทนานั้นคือความเจ็บปวด เวทนามีแต่ท่านจะไม่เจ็บไปกับมันด้วยเลย
สำหรับ สัญญาและสังขาร ในขันธ์ 5 จิตรู้ จะเห็นเป็นพลังงานอะไรสักอย่างที่มันโผล่ขึ้นมาเมื่อมันทำงาน ที่เรา ๆ ท่านเรียกมันว่า ความจำได้ว่าสิ่งนี้เรียกว่าอะไร (นี่คือสัญญาขันธ์ ) เห็นพลังงานของจิตปรุงแต่ง ( นี่คือสังขารขันธ์ )
สำหรับ วิญญาณขันธ์ เป็นสิ่งที่เห็นได้ยากที่สุดกว่าทุกขันธ์ เพราะมันละเอียดมาก แต่เห็นได้ถ้าจิตรู้มีกำลังความตั้งมั่นอย่างแท้จริงแล้ว ก็สามารถเห็นได้ ลักษณะอาการของวิญญาณขันธ์ ก็เป็นลักษณะของพลังงานเช่นกัน แต่จะเบา ละเอียดกว่า สัญญาขันธ์ สังขารขันธ์มาก
จิตรู้ เห็นปรมัตถ์ธรรมแห่งขันธ์ 5 ดังกล่าวเนืองๆ จิตรู้ จะเห็นความเป็นไตรลักษณ์ของขันธ์ 5 เนือง ๆ ถ้าจิตรู้ เห็นมาก ๆ เห็นบ่อย ๆ ก็จะเกิดปัญญาความเข้าใจได้เองว่า ขันธ์ 5 ไม่ใช่เรา ไม่ใช่ตัวตนของเรา มันเป็นไตรลักษณ์ !!!
ถ้า.จิตรู้. เห็นไตรลักษณ์ของวิญญาณขันธ์ ได้ จิตรู้ จะเข้าใจ การปรุงแต่ง อันเป็นการทำงานของอวิชชา ที่ไปปรุงแต่งที่สังขารขันธ์ได้ จิตรู้ จะเข้าใจได้ว่า การปรุงแต่งที่เกิดที่สังขารขันธ์ อันเป็นเหตุให้คนทั่ว ๆ เกิดทุกข์นั้น มันเป็นเพียงมายา มันเป็นการทำงานของอวิชชา มันไม่ใช่ของจริงแต่อย่างใด แต่ของจริงนั้นคือ ปรมัตถ์ธรรม ที่มันสักแต่ว่าเกิดขึ้น แล้วตั้งอยู่แล้วดับไปเท่านั้น เมื่อมันดับไป ก็เป็นความว่าง ความไม่มีอะไร นี่คือ ความเป็นอนัตตา ที่ไม่มีเรา ไม่ใช่เรา ไม่ใช่ตัวตนของเรา มันเกิดเพราะเหตุ เมื่อเหตุดับ มันก็ดับไป จิตรู้จะเข้าใจ คำสอนเรื่องปฏิจจสมุปบาทได้
ท่านจะเห็นว่า เหตุที่ทำให้เข้าใจคำสอนในพุทธศาสนา ความเข้าใจในไตรลักษณ์ ความเข้าใจในความว่าง ความเข้าใจในอวิชชา ความไม่ทุกข์จากอวิชชา ล้วนมาจากความตั้งมั่นแห่ง .จิตรู้. ทั้งนั้น
ดังนั้น การพัฒนาจิตรู้ให้ตั้งมั่น จึงเป็นกุญแจการภาวนาในพุทธศาสนาเพื่อการพ้นทุกข์ **** จิตรู้ ยิ่งเห็นปรมัตถ์ธรรมมากเท่าใด ก็ยิ่งตั้งมั่น ยิ่งมีปัญญามากขึ้นเท่านั้น ***
การภาวนาที่ปิดกั้นความสามารถของจิตรู้ ด้วยการไปกดทับให้จิตนิ่งดั่งก้อนศิลา แล้วไปนึกคิดว่า นี่คือคำสอนของพุทธศาสนาจึงไม่ใช่ทางแห่งการพ้นทุกข์ ดั่งที่เจ้าชายสิทธัตถะได้ลาออกจากสำนักดาบส 2 ท่านที่ท่านไปเรียนวิชามาแล้ว ดังที่มีกล่าวไว้ในพุทธประวัติ ขอให้ไปค้นอ่านดูเองครับ ผมเขียนเรื่องนี้ไปหลายครั้ง แต่ก็คงยังต้องเขียนอีกต่อไป ถ้าท่านที่ติดตามอ่าน blog ผม จะเบื่อ ผมก็ขออภัย เพราะผมเห็นว่า คนใหม่ ๆ ที่เพิ่งจะมาอ่าน blog ผม คงได้อ่านและอาจสะดุดใจ ในการภาวนาของตนเองอยู่ว่า เขากำลังนับถือก้อนศิลาเป็นอาจารย์อยู่นะ ไม่ใช่นับถือพระพุทธเจ้าเป็นอาจารย์
Create Date : 16 ธันวาคม 2552 |
|
3 comments |
Last Update : 29 มกราคม 2555 18:30:21 น. |
Counter : 2678 Pageviews. |
|
|
|