รู้สึกตัว ผ่อนคลาย เฉย ๆ สบาย ๆ **กรุณา .อย่า.ได้บริจาคเงินให้ blog ผม ทาง e-wallet ครับ** **ผมขอสงวนสิทธิการเป็นเจ้าบ้านของ blog ลบข้อเขียนใดๆ ก็ได้ใน blog นี้ตามที่ผมเห็นสมควร**
Group Blog
 
<<
ธันวาคม 2552
 
 12345
6789101112
13141516171819
20212223242526
2728293031 
 
13 ธันวาคม 2552
 
All Blogs
 

ลืมวิชา เมื่อทุกข์จรมา

เมื่อผู้ที่กำลังฝึกฝนกำลังตกอยู่ในภาวะทุกข์ ไม่ว่า จะทุกข์กาย หรือ ทุกข์ใจ สิ่งหนึ่งที่เกิดขึ้นเสมอ ๆ ก็คือ ความอยากที่จะหายไปจากทุกข์ที่กำลังเกิดขึ้นอยู่

ความอยากทีต้องการหายจากทุกข์ คือ การลืมวิชา ในการปฏิบัติธรรม

การปฏิบัติธรรมเพื่อพ้นทุกข์นั้น ในขณะที่ทุกข์กำลังเกิดขึ้น ให้เพียงระลึกรู้อยู่ว่ามีทุกข์เกิดขึ้น ไม่ต้องมีความอยากที่จะหายจากทุกข์ บางอาจารย์จะใช้คำศัพย์ว่า รู้ซื่อ ๆ หรือ รู้เฉย ๆ หรือ รู้แล้วไม่แทรกแซง

แต่ว่า นักปฏิบัติมักจะลืมเรื่องนี้ไปเสียสิ้น เมื่อทุกข์จรเข้ามา

เมื่อใจเกิดอยากจะหายจากทุกข์ จะเกิดการดิ้นรนกระวนกระวายใจของจิตใจเพิ่มซ้อนขึ้นมา ยิ่งเป็นการเพิ่มทุกข์ใจมากขึ้นไปอีก

ถ้าใจวางเฉยในทุกข์ รู้อยู่ว่ามีทุกข์เกิด แต่ให้ใจเป็นอุเบกขา แล้วหาเหตุที่ทำให้เกิดทุกข์ แล้วแก้มันเสีย นี่คือ วิธีการปฏิบัติ
ถ้าทุกข์กาย ก็ไปหาหมอ รับประทานยา หาสาเหตุแล้วแก้ใข
ถ้าทุกข์ใจ ก็ต้องทำสมถะ อาจใช้การเดินจงกรมช่วย ให้จิตทีมันยึดในทุกข์มันหลุดออกมาให้ได้ก่อน เมื่อจิตดีแล้ว ก็จะมีสมองสดใส มีปัญญาแก้ใขปัญหาต่อไปได้อีกทีหนึ่ง

ความเป็นคน จะมีสารพัดทุกข์ สารพัดเรื่อง ที่จรเข้ามา ไม่มีทางเลี่ยงได้เลย
ถ้าเราเห็นทุกข์นั้นอยู่ แล้ววางจิตเป็นอุเบกขาในทุกข์นั้นได้เสมอ ๆ มันก็จะเป็นทางผ่านในการปฏิบัติธรรม

ข้อดีของทุกข์อีกอย่างก็คือ เมื่อเกิดทุกข์ ทำให้เกิดความเบื่อหน่าย ความไม่ต้องการ ความไม่อยากได้ ความอยากหนีไปให้พ้น ๆ จากสังสารวัฏ
ที่มีแต่ทุกข์ ความรู้สึกนี้ ก็เป็นตัวเร่งให้มีความเพียรในการปฏิบัติ

ไม่มีใครหนีทุกข์พ้น แม้แต่พระอรหันต์ ก็ยังมีทุกข์ทางกายอยู่ แต่ทุกข์ใจ ท่านละได้หมดสิ้นแล้ว ไม่ทุกข์ใจอีกแล้ว

ทุกข์ให้รู้ เมื่อรู้แล้วให้รู้เฉย ๆ ไม่ต้องอยากให้หายทุกข์ นี่คือสมุทัยให้ละครับ






 

Create Date : 13 ธันวาคม 2552
8 comments
Last Update : 29 มกราคม 2555 18:30:32 น.
Counter : 924 Pageviews.

 

บางทีทุกข์ของคนอื่นกลับทำให้เราทุกข์กว่าเสียอีก
มองเห็นเขาแก้ปัญหาไม่ตรงจุด
เห็นเขาเจ็บปวดเรื้อรัง

เห็นด้วยเป็นอย่างมากที่จิตตกต้องเดินจงกรม

ช่วงนี้จิตตกมากกับเรื่องของคนอื่น
ไม่รู้จะหาทางออกอย่างไงดี
เห็นจิตตัวเองฟุ้งไปฟุ้งมาที่ได้รับโทรศัพท์

 

โดย: pintip IP: 118.174.6.65 13 ธันวาคม 2552 14:21:38 น.  

 

ขอบคุณค่ะ

 

โดย: kaoim IP: 110.49.149.246 13 ธันวาคม 2552 16:40:01 น.  

 

เมื่อยังมิกิเลส ก็ย่อมมีการยึดติดครับ มันเป็นธรรมชาติของจิตที่มีกิเลส

เดินจงกรม ดีมากครับ ทีจะช่วยให้จิตมันสลัดการยึดติดในเรื่องราวออกไปได้
ถ้าจิตหลุดออกจากการยึดติด ทุกข์ใจก็จะคลายตัวออกได้ ทำให้ทุกข์ลดลงไป
แต่มันก็อาจกลับมายึดติดได้อีกครับ
มันจะเวียนไปเวียนมาอย่างนี้บ่อย ๆ

แต่ว่า การที่มันเวียนมา มันก็มีข้อดี ที่ทำให้เรามีประสบการณ์กับมันได้ดีขึ้น แต่ก็ต้องแรกด้วยการทุกข์ใจครับ

ต่อเมื่อ ฝึกสัมมาสติ สัมมาสมาธิ ให้ตั้งมั่นมากชึ้น
จิตจะมีกำลังที่จะสลัดการยึดติดได้ดีขึ้น ได้เร็วขึ้นไปเรื่อย ๆ เองครับ

ลองอ่านเรื่องนี้ดูครับ
https://www.bloggang.com/viewdiary.php?id=namasikarn&month=10-2009&date=14&group=5&gblog=2

หนทางแห่งมรรค มันจะออกมาแบบนี้เอง
ที่ระหว่างทาง จะแลกด้วยความเจ็บปวด
ทำให้ผมนึกถึงคำฝรั่งคำหนึ่งที่ว่า
No Plain No Gain

 

โดย: นมสิการ 13 ธันวาคม 2552 18:15:59 น.  

 

ขออนุญาตคห.1 ท่านกำลังส่งจิตออกนอก จึงเอาทุกข์ของคนอื่นเป็นของท่าน ขอให้มีเมตตา กรุณาต่อคนอื่นโดยมีอุเบกขาเสมอ และให้รู้ลงปัจจุบัน

 

โดย: เพื่อนธรรม IP: 118.173.82.28 13 ธันวาคม 2552 22:28:33 น.  

 

ขอบคุณ คุณ เพื่อนธรรม

ขอแก้นิดหน่อยครับ No pain No Gain
ครับ ข้างบนเขียนผิดครับ

 

โดย: นมสิการ 14 ธันวาคม 2552 6:08:57 น.  

 

ผมเข้าใจความรู้สึกของ คห 1 ครับ
การที่เราต้องเข้าไปแบกรับความทุกข์แบบนี้
แสดงว่า บุคคลนั้น จะเป็นคนที่เรารัก หรือ คนที่เราเราเคารพนับถืออยู่
จึงได้ทุกข์และเข้าไปแบกเอาไว้

รู้ทั้งที่รู้ว่าทุกข์ แต่มันสลัดออกยากครับ ขอให้ใจเย็น ๆ ค่อย ๆ ฝึกจิตเพื่อการพัฒนาจิตต่อไปเรื่อย ๆ แล้วต่อไป จะค่อย ๆ ดีขึ้นเอง ด้วยจิตที่มีกำลังความตั้งมั่น

ให้เวลากับตนเองในเรื่องแบบนี้ อย่าไปเร่งรัด อยากจะจบเรื่องไว ๆ มันจะยิ่งทุกข์ครับ

 

โดย: นมสิการ 14 ธันวาคม 2552 6:31:57 น.  

 

ทีแรกคิดว่าจะเดินบนทางนี้ได้อย่างราบรื่น
แต่ว่าหนทางแห่งมรรคไม่ใช่จะเดินได้ง่ายจริงๆ
ที่เขาว่า มารไม่มีบารมีไม่เกิด ก็คงจะเป็นอย่างนั้น

เรื่องทุกข์ที่จะเกิดกับตัวเองคงเกิดได้ยาก
ถึงเกิดก็เป๋ไปได้ไม่นาน
เพราะฝึกจิตมาขนาดนี้แล้ว

แต่กับคนอื่นตัวเองก็ได้แต่นั่งร้องไห้
ปัญหาทางจิตใจของเขาคงจะแก้ได้ยาก
แต่ก็แก้ไม่ยาก หากเขาเข้ามาทางธรรมะ
แต่ก็คงจะยากที่คนๆหนึ่งที่โลกยังสดใสเป็นสีชมพู
จะเข้ามาทางธรรมได้

แต่ในใจก็คิดว่าเขาคงจะเข้ามาในเส้นทางธรรม
เพราะเหตุนี้ ถ้าไม่มีอะไรกระทบเขาอย่างแรง
คงเป็นการยากที่จะเข้ามาในเส้นทางนี้
เหมือนกับจะเคยบอกคุณแล้วครั้งหนึ่ง
เรื่องพี่น้องของคนที่บ้าน แล้วก็น่าจะเป็นอย่างนั้นจริงๆ

 

โดย: pintip IP: 118.174.29.164 14 ธันวาคม 2552 12:47:55 น.  

 

ผมจำเป็นต้องปิดการเขียนของท่านผู้อ่าน เนื่องจากกฏหมายอินเตอร์เนท
ที่อาจมีสิ่งผิดกฏหมายใส่เข้ามาใน blog

ท่านที่จะสนทนา หรือ ถามคำถาม ขอให้ส่ง email ถึงผมได้ที่
asknamasikarn@gmail.com

หรือสำหรับสมาชิก pantip จะส่งมาทางหลังไมค์ก็ได้เช่นกัน

 

โดย: นมสิการ 29 มกราคม 2555 18:42:51 น.  

ชื่อ : * blog นี้ comment ได้เฉพาะ VIP Friend
Comment :
  *ส่วน comment ไม่สามารถใช้ javascript และ style sheet
 


นมสิการ
Location :


[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 142 คน [?]




หลักปฏิบัติ ...รู้สึกตัว ผ่อนคลาย เฉย ๆ สบาย ๆ

มากกว่า 20 ปีที่ไปหลงทำสมถภาวนาแบบสมาธิแบบฤาษีโดยที่ไม่รู้จักกับคำว่า อะไรคือสัมมาสติ สัมมาสมาธิ ผลที่ได้คือความสงบขณะกำลังนั่งสมาธิจนตัวนิ่งแข็งเป็นก้อนหิน แต่ผลข้างเคียงตามมาก็คือการเป็นคนเจ้าโทสะอย่างรุนแรงขณะเวลาไม่ได้นั่งสมาธิ และ ที่อยู่ในชีวิตประจำวัน....

จนได้พบกัลยณมิตรแดนไกล ที่ได้ชักนำให้มารู้จักวิธีปฏิบัติแบบหลวงพ่อเทียน จนได้พบกับพระอาจารย์ในสายหลวงพ่อเทียน ที่ผมได้เรียนการปฏิบัติจากท่าน จนเข้าใจว่า สัมมาสติ สัมมาสมาธิ คืออะไร แล้วลงมือฝึกฝน การปฏิบัติก็รุดหน้าและได้ลิ้มรสสิ่งบริสุทธิในจิตใจอันเป็นผลจากการปฏิบัติด้วยเวลาเพียง 5 ปี

ธรรมปฏิบัติจากฆราวาสเขียนเป็นสิ่งที่ยอมรับได้ยากในสังคมไทย ผมรู้ได้จากที่เขียนใน blog ผมได้พบกับการก่อกวนใน blog การเขียนเหน็บแนม กระแหนะกระแหน ตำหนิการการปฏิบัติที่ผมเขียนใน blog ว่าผิดทาง เขียนแบบคาดเดาเอา ไม่รู้จริง ให้ผมหยุดเขียนแนวนี้ได้แล้ว และไปโมทนาสาธุแนะนำการปฏิบัติสมาธิแบบฤาษีให้กับผมอีกว่านี่คือทางที่ถูกต้อง ...

บทความใน blog จึงเกิดขึ้นมา เพื่อแบ่งปันประสบการณ์ในการภาวนา
แก่ผู้อื่นที่กำลังเดินทางในสายแห่งอริยมรรคนี้

เมื่อท่านได้เข้ามาอ่านข้อเขียนใน blog กรุณาอย่าได้เชื่อผมจนกว่า ท่านได้ทดลองปฏิบัติแล้วและพิสูจน์ด้วยตัวท่านเอง

**กรุณา .อย่า.ได้บริจาคเงินให้ blog ผมทาง e-wallet ครับ **

******
บทความต่าง ๆ ใน blog นี้
ขอสงวนสิทธิ์ตามพระราชบัญญัติลิขสิทธิ์ พ.ศ. 2537
ห้ามนำไปดัดแปลง ลอกเลียน หรือนำส่วนหนึ่งส่วนใดไปใช้โดยไม่ได้รับอนุญาต

****
New Comments
Friends' blogs
[Add นมสิการ's blog to your web]
Links
 
MY VIP Friend


 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.