หายไปสัปดาห์หนึ่งน่าจะได้มั้งคะ
ไปสัมมนาต่างจังหวัดมา
ถามว่าสนุกหรือเปล่า
ไม่สนุกเลย...
ไม่รู้สินะ มาถึงวันนี้
ความสนุกไม่ได้ขึ้นอยู่กับการมีเพื่อนมากมาย
แต่ขึ้นอยู่ว่าเพื่อนที่เราไปด้วย
เป็นใครมากกว่า
สัมมนาแบบบังคับไป
คงหาความสนุกไม่ได้อยู่แล้ว
เมื่อหาความสนุกไม่ได้
ก็ต้องเลือกหาความสุขแทน
ความสุขคือการเดินไปเรื่อยๆ
ดูโน่นดูนี่ ลำพังคนเดียว
ชินแล้วมั้งคะกับการอยู่คนเดียว
เลยไม่ชอบยุ่งกับใครเท่าไหร่นัก
เหมือนเป็นคนมีปัญหาไปแล้ว
ไม่อยากคุยกับใครพร่ำเพรื่อ
ทำให้เหลือคนคุยด้วยเพียงไม่กี่คน
แต่คนไม่กี่คน ล้วนเป็นคนทีเชื่อถือได้ว่า
เป็นเพื่อนที่ดีและเป็นมิตรที่น่าคบ
หลายๆ คนคบหากันมาเป็นสิบปี
บางคนเพิ่งคบหาแต่มองเห็นความจริงใจ
บางคนเพิ่งคบหา แต่มองเห็นความแคลงใจ
ก็จะค่อยๆ เฟดออกมา และให้ได้แค่เป็นเพื่อนคุยธรรมดา
ตอนนี้บอกตรงๆ ไม่อยากคบกับใครอีกแล้ว
ไม่ว่าในฐานะอะไร
ไม่อยากทำความรู้จักใครอีก
ไม่อยากเรียนรู้หรือทำความเข้าใจใคร
เพราะรู้สึกว่า การจะรู้จักใครสักคน
มันยากมากเลย บางคนรู้จักกันมาเป็นสิบปี
ยังรู้สึกว่าไม่เคยรู้จักกันพอ....เสียที
อยากอยู่คนเดียวจริงๆ แล้ว
ห้าวันนี้ลองอยู่คนเดียว
อยู่ได้สบายๆ
ไม่ไปไหนกับใคร
เพราะไม่มีคนชวนด้วย
แต่ถึงเขาชวนก็คงอ้างขาเจ็บและไม่ไปอยู่ดี
ไม่เดินตามใครถ้าไม่รู้สึกสนุก
ก็จะเดินไปเรื่อยเปื่อยลำพังคนเดียว
ไม่คุยกับใคร ถ้าไม่รู้สึกอยากคุย
เหมือนตัวเองจะชินกับชีวิตตัวคนเดียวจริงๆ แล้ว
แต่ในบางเวลา ก็ยังรู้สึกว่า
ตัวเองไม่ได้อยู่คนเดียว
อาจเป็นเพราะ...
ในความรู้สึกยังมีอีกคนอยู่ด้วยเสมอๆ
เมื่อถึงเวลาที่เหมาะสม
คงต้องปล่อยคนนั้นไป
และหันมาอยู่กับคนคนนี้
คนที่ชีวิตที่เหลืออยู่
ยังไงก็เป็นของเขา
....เนอะ....
เพลงวันนี้เพราะเป็นพิเศษ...
ไม่ได้ฟังนานมาก....
ขณะที่ตัวเอง....คิดจะอยู่ตัวคนเดียว
แต่มีหลายๆ คน
กลับกำลังพบคู้กายคู้ใจ
น่าอิจฉาจัง
อิจฉาความรักความมั่นคงที่ผู้ชายมีต่อผู้หญิง
อิจฉาความเอาใจใส่ในเรื่องเล็กๆ น้อยๆ ที่ผู้ชายแสดงต่อผู้หญิง
อิจฉาความเสมอต้นเสมอปลายในความรู้สึกของผู้ชายที่ให้แก่ผู้หญิง
อิจฉาความดีงามของผู้ชายที่ไม่สนใจว่าผู้หญิงที่เขารักจะเป็นอย่างไรในอดีตและปัจจุบัน เขาแค่รักเธอตลอดมาและตลอดไป
อิจฉามั้ยคะ....
นั่นคือเรื่องจริง ของผูหญิงสองคนที่อยู่ใกล้ๆ ตัว
ในความอิจฉาก็รู้สึกยินดีกับเธอสองคนนี้
ที่มีคนที่รักและมั่นคงต่อเธอเสมอ...อย่างจริงใจ