พฤศจิกายน 2558

1
2
3
4
5
7
8
9
11
12
14
15
17
18
19
21
22
26
27
28
29
30
 
 
13 พฤศจิกายน 2558
All Blog
12 วิธีคิดบวก
วันนี้นำสาระหนักๆ ดีๆ มาฝากกันนะคะ
ขอบอกว่า ตัวเองใช้บ้างแล้วแบบไม่รู้ตัว
ชีวิตและสมองรู้สึกเบาๆ ในบัดดล
เมื่อเรามองโลกและสิ่งรอบๆ ตัว
เป็นแบบบวกเพิ่มมากขึ้นน่ะค่ะ



การคิดบวก (Positive Thinking) เป็นการคิดในมุมมองที่เราไม่เคยมอง เป็นมุมที่จะช่วยให้เราสบายใจขึ้น การคิดบวกสามารถใช้ในการแทนที่ความคิดลบหรือความคิดที่บิดเบือนต่างๆได้ เป็นจุดเริ่มต้นและเป็นส่วนประกอบของการรักษาโรคทางจิตเวชแทบทุกโรค

จากผลการวิจัยที่ถูกตีพิมพ์ในวารสารจิตวิทยาบุคลิกภาพและสังคมของสหรัฐอเมริกาเผยว่า การคิดบวกเป็นส่วนหนึ่งของการทำให้ตัวเองมีความสุข โดยที่การคิดบวกนั้นไม่ใช่การ...
คิดหาคำตอบว่าอะไรถูกหรือผิด แต่เป็นการคิดเพื่อให้เราได้เข้าใจในสิ่งที่กำลังเป็นไ

หลายคนมักจะเข้าใจผิดว่า การคิดบวกเป็นเรื่องของคนโลกสวยหรือมองความจริงเพียงด้านเดียวโดยไม่ยอมสนใจมุมที่เป็นด้านลบ แต่จริงๆแล้วการคิดบวกเป็น
าร(พยายาม)ปรับมุมมองหรือกรอบของความคิด โดยไม่ใช่เพื่อหลอกตัวเองว่าเรา "ไม่มีปัญหา" แต่เพื่อให้เรา "มีแรงพอ"ที่จะสู้กับปัญหา เป็นการมองปัญหานั้นในมุมใหม่ๆ มองว่าปัญหา"แม้จะยาก แต่ก็สามารถแก้ได้ หากมีความพยายามและวิธีการที่ดีพอ" หรือเลือกที่จะมองปัญหาว่าเป็น "โอกาส" ในการเรียนรู้หรือเป็นประสบการณ์ที่ดีของชีวิต การคิดบวกจึงเป็นการคิดในทางที่ไม่ต้องเครียดมากนัก

บทที่ 1
"ยิ้มไว้เสมอ"

>>การยิ้มให้ตัวเองที่หน้ากระจก นอกจากทำให้อารมณ์ดีขึ้นได้อย่างรวดเร็วแล้ว การยิ้มยังทำให้ความเครียดลดลงได้อีกด้วย จำไว้อีกนิดว่ากล้ามเนื้อที่ใช้ในการยิ้มมีไม่มากเท่ากล้ามเนื้อที่ใช้ในการทำหน้าบึ้ง

บทที่ 2
"ทบทวนสิ่งดีๆในชีวิต"

>> เปิดอ่านบันทึกของวันดีๆ เปิดดูภาพถ่าย/คลิปวิดีโอสั้นๆของช่วงเวลาที่เราประทับใจ ช่วงเวลาของความสำเร็จหรือความภาคภูมิใจในวันเก่าๆ ทั้งหมดสามารถทำให้ความคิดร้ายๆค่อยๆจางไปได้ ทำให้ความคิดด้านดีๆทั้งต่อตนเอง
ผู้อื่น หรือแม้แต่สิ่งแวดล้อม ค่อยๆกลับมา

บทที่ 3
"ให้รางวัลตนเองบ้าง" (แม้จะแค่เป็นเรื่องเล็กๆ)

>>คำชม ของขวัญ ดอกไม้ โอกาสพิเศษที่จะได้ทำกิจกรรมใหม่ ฯลฯ ทั้งหมดเป็นสิ่งที่ตัวเราสมควรมอบให้กับตัวเราบ้าง ความคิดบวกจะเกิดขึ้นไม่ได้เลย
ถ้าเรายังไม่สามารถรู้สึกดีกับตัวเราเองได้

บทที่ 4
"เลิกเป็นคนขี้บ่น"

>> การบ่น เป็นการย้ำถึงความคิดด้านลบและแสดงมันออกมาเป็นคำพูด นอกจากทำให้คนอื่นรู้สึกไม่ดีแล้ว ตัวเราเองเมื่อบ่นจนติดเป็นนิสัยแล้ว ความคิดด้านลบก็จะเกาะกินตัวตนของเราเองด้วย หลายคนใช้การบ่นเพื่อต้องการให้
สิ่งรอบกายเป็นไปตามที่คาดหวัง อย่าลืมว่ามีอีกหลายวิธีที่จะทำให้คนรอบข้างหรือสิ่งรอบกายเป็นไปตามที่เราคาดหวัง เช่น การชมเชยก่อนแล้วค่อย
ให้คำแนะนำ... การให้รางวัลเมื่อสามารถทำตามกติกาที่กำหนดได้ เป็นต้น

บทที่ 5
"ชื่นชมสิ่งรอบตัว"

>> การรู้จักพูดชื่นชม การรู้จักพูดขอบคุณสิ่งต่างๆรอบตัว สามารถทำให้จิตใจของเราเป็นบวกได้มากขึ้น ควรหาโอกาสชื่นชมผู้อื่น (ตามความเป็นจริงและกาลเทศะ) ทุกครั้งที่มีโอกาส การชื่นชมไม่ใช่แค่ทำให้ผู้อื่นเป็นสุข
แต่สามารถทำให้เราเห็นความสำคัญของตัวเราเองได้ด้วย

บทที่ 6
"อยู่ใกล้ๆคนที่คิดบวก"

>> การได้พูดคุยกับคนที่มีความคิดเป็นบวก จะช่วยให้ตัวเราเองค่อยซึมซับ
วิธีการคิดด้านบวกไปด้วย หากเราได้พบคนที่มีความคิดดีๆ อย่าลืมที่จะผูกมิตร
กับคนเหล่านั้น (เห็นด้วยอย่างยิ่งจริงๆ ข้อนี้)

บทที่ 7
"อยู่ห่างๆคนที่ชอบคิดลบ"

>>ความคิดด้านลบเป็นสิ่งที่แพร่กระจายสู่กันได้ เมื่อเราอยู่ใกล้คนที่คิดลบ ตัวเราเองก็จะค่อยๆซึมซับเอาความคิดที่ไม่ดีเหล่านั้นด้วยทีละนิดๆ 
(อันนี้ก็เห็นด้วยอย่างมากๆ เลยค่ะ)

บทที่ 8
"อ่านธรรมะ คำคม ข้อคิด"

>> ข้อคิดดีๆ สามารถเป็นตัวจุดประกายความคิดด้านบวกให้เราได้
การเขียนบันทึกคำคมที่เราอ่านแล้วประทับใจ หรือแปะมันไว้ในที่ๆอ่านได้ง่ายๆ มันจะเป็นเหมือนเครื่องเตือนใจเมื่อเวลาที่เรามีความคิดที่ไม่ดีได้

บทที่ 9
"คิดถึงคนที่ลำบากมากกว่าเรา"

>> มีชีวิตของคนอีกหลายคนที่ทุกข์ยากมากกว่าเรา แต่พวกเขาก็ยังฝ่าฟันและสามารถเอาชนะอุปสรรคต่างๆจนสามารถประสบความสำเร็จได้ การได้อ่านตัวอย่างชีวิตของบุคคลเหล่านี้ สามารถสร้างแรงบันดาลใจและกลายเป็น
ความคิดด้านบวกได้

บทที่ 10
"ช่วยเหลือผู้อื่นให้เป็นสุข"

>> การช่วยเหลือคนอื่น ไม่ว่าจะเป็นเรื่องง่ายๆไปจนถึงการช่วยชีวิต นอกจาก
ได้ทำบุญแล้ว ยังสามารถสร้างความรู้สึกและความคิดในด้านบวกต่อตัวเราเองได้ การให้อภัยก็รวมอยู่ในการช่วยเหลือผู้อื่นด้วย


บทที่ 11
"หยุดความคิดลบ" โดยหันเหไปหากิจกรรมต่างๆ
>> ฝึกรู้เท่าทันความคิดของตัวเราเอง เมื่อมีความคิดที่เป็นลบ ให้เราเตือนตัวเองให้เร็วที่สุดเท่าที่จะทำได้ จากนั้นให้หันเหความคิดไปสู่สิ่งอื่น หรือ ให้ถามตัวเองว่าความคิดลบนั้นๆ เป็นจริงมากน้อยแค่ไหน มีอะไรที่สามารถมาคัดค้านความคิดลบนั้นได้บ้าง แล้วเราจะเลือกที่จะเชื่อในความคิดลบนั้นอยู่หรือไม่ ถ้ายังเลือกที่จะเชื่อความคิดลบ...นั้นเราจะต้องแลกกบอะไรบ้าง และถ้าเลือกที่จะหยุดความคิดลบนั้นชีวิตเราจะมีอะไรดีขึ้นบ้าง

บทที่ 12
"ฝึกสมาธิ"

>> การทำสมาธิ ไม่ว่าจะด้วยวิธีการใดๆ จะช่วยดึงจิตใจของเราให้กลับมาอยู่กับตัวเอง กลับมาอยู่ ณ เวลาที่เป็นปัจจุบัน จิตใจที่เป็นลบส่วนหนึ่งจมอยู่กับความคิดคำนึงถึงอดีต หรือกังวลกับเรื่องที่ยังไม่มาถึง สมาธิทำให้เรามีความสงบสุขอยู่ได้กับปัจจุบัน นอกจากนั้นจิตที่เป็นสมาธิยังเป็นจิตที่มีพลัง พลังที่จะคิดในเชิงสร้างสรรค์และคิดในด้านที่เป็นบวกได้มากกว่าจิตที่ฟ...ุ้งซ่าน
.

บทที่ 13
"ร้องเพลง"

>>เสียงเพลงสามารถปลอบประโลมจิตใจที่เป็นทุกข์ได้ ไม่ว่าเนื้อหาจะมีส่วนคล้ายคลึงกับชีวิตจริงหรือไม่ ไม่ว่าจะเป็นเพลงเศร้าหรือเพลงที่สนุกสนาน
การที่เราได้ร้องเพลงไปตามทำนอง ช่วยให้เราได้ระบายความทุกข์ใจ
ออกมาตามทำนองและจังหวะของเสียงเพลง ยังไม่นับเพลงที่มีจังหวะ
สนุกสนานที่อาจจะทำให้เราโยกย้ายไปตามจังหวะได้อีกด้วย (เป็นบ่อยๆ อันนี้)


บทที่ 14
"เปลี่ยนกรอบความคิดใหม่หรือใช้อารมณ์ขัน"

>> สถานการณ์ความทุกข์ 1 สถานการณ์ คน 2 คนอาจมองในมุมที่แตกต่างกันไป คนแรกมองว่าเป็นความทุกข์ร้ายแรง แต่อีกคนอาจมองว่าเป็นความท้าทาย เมื่อไหร่ที่เจอความทุกข์ให้ฝึกมองว่ามันคือบททดสอบ เป็นความท้าทายใหม่ๆ หลายครั้งก็สามารถทำให้เรามีความคิดที่เป็นบวกได้มากขึ้น
.........

สนใจหาอ่านข้อมูลดีๆ จากเว็บข้างล่างนะคะ


https://www.facebook.com/D2JED/photos/a.516250001841571.1073741861.293539557445951/713592185440684/?type=3&theater




คิดอะไรดีๆ ชีวิตก็มีความสุขได้ง่ายๆ จริงๆ ค่ะ










Create Date : 13 พฤศจิกายน 2558
Last Update : 13 พฤศจิกายน 2558 12:21:25 น.
Counter : 1369 Pageviews.

1 comments
  
แวะมาอ่านเป็นคนแรก
ขอบใจที่นำมาให้คิดบวก
โดย: อุ้มสี วันที่: 13 พฤศจิกายน 2558 เวลา:15:51:59 น.
ชื่อ : * blog นี้ comment ได้เฉพาะสมาชิก
Comment :
 *ส่วน comment ไม่สามารถใช้ javascript และ style sheet
 

sunny-low
Location :
กรุงเทพ  Thailand

[ดู Profile ทั้งหมด]
 ฝากข้อความหลังไมค์
 Rss Feed
 Smember
 ผู้ติดตามบล็อก : 7 คน [?]



ความทุกข์
สอนให้อดทน
ถ้าผ่านมันได้
ก็จะเจอความสุข...