::กอด::
บ่ายวันธรรมดาที่แดดแรงกล้า ฉันมีนัดกับบรรดา 'หนังสือ' ที่ห้องสมุดชุมชนย่านติวานนท์ หรือห้องสมุดของศูนย์การเรียนรู้จั่นเจริญ
ศูนย์การเรียนรู้จั่นเจริญ ตั้งอยู่ที่ซอยติวานนท์ 45 เป็นห้องสมุดชุมชนและพื้นที่กิจกรรมที่มี 'ผู้ใหญ่ใจดี' บริจาคที่ของตัวเองและออกทุนส่วนตัวจัดสร้างอาคารทั้งหมด โดยตั้งใจจะสร้างให้เป็นศูนย์การเรียนรู้ที่คนในชุมชนละแวกนั้นสามารถเข้ามาใช้เป็นพื้นที่สำหรับ อ่านหนังสือ เรียนรู้ ออกกำลังกาย วิ่งเล่น พักผ่อน และทำกิจกรรมต่างๆ ได้
ทุกวันพฤหัสบดี ฉันและน้องชายจะไปเปิดคอร์สสอนดนตรีเพื่อสร้างความคึกคักให้บริเวณ นอกจากนี้ก็ยังมีสอนฟุตซอล ศิลปะ ดนตรีไทยและเทควันโด้ด้วย และบางครั้งฉันก็ไปสอนน้องผู้หญิงเต้นประกอบจังหวะในการแข่งกีฬา
ทันทีที่ฉันก้าวเข้าประตูรั้วของศูนย์การเรียนรู้ฯ เสียงเล็ก ๆ เรียกชื่อฉันดังมาแต่ไกล "ครูปอยยยยย...." เด็กหญิงตัวอวบหน้ากลม ๆ วิ่งถลาเข้ามากอดฉัน หรือเรียกว่ากอดขาฉันจะดีกว่าเพราะว่าส่วนสูงของเธอยังไม่พ้นเอวฉันเลยด้วยซ้ำไป
"ว่าไง น้องพิมพ์ ทำงานบ้านเสร็จแล้วเหรอจ้ะ ถึงมาที่นี่ได้" ฉันก้มลงมอง 'น้องพิมพ์' ที่ยังเกาะขาฉันอยู่ แล้วส่งยิ้มให้ น้องพิมพ์อยู่ป. 5 เป็นเด็กที่เรียบร้อยและเป็นที่รักของคุณครูอาสา เธอลงเรียนวิชาดนตรี และเป็นเด็กที่เล่นดนตรีเก่งที่สุด เรียกว่าเป็นเด็กที่มี 'พรสวรรค์' ได้เลย หากเพียงเธอมีโอกาสในชีวิตมากกว่านี้ พรสวรรค์เธอคงได้รับการสนับสนุน
"ค่ะ เสร็จแล้วค่ะ เดี๋ยวน้องฟ้าก็ตามมา" เธอหมายถึงน้องสาวของเธอที่อยู่บ้านเดียวกัน และต้องช่วยแม่ทำงานบ้านให้เสร็จก่อนจึงจะได้รับอนุญาตให้ออกมาเล่นนอกบ้านได้ "วันนี้ครูปอยมาสอนอะไรคะ สอนดนตรีหรือว่าสอนเต้น"
"วันนี้ครูปอยไม่ได้มาสอนอะไรเลยค่ะ" ฉันหยุดและยิ้มให้เธอ เพิ่งจะคลายจากที่เกาะขาฉันไว้และมาจับมือฉันเดิน "แต่ครูปอยมาอ่านหนังสือที่ห้องสมุด เดี๋ยวจะมีเกมส์ให้เล่นด้วยนะ เล่นไหม มีของรางวัลใหญ่ด้วยล่ะ"
"เล่นค่ะเล่น เล่นอะไรคะ?" พอพูดถึงของรางวัล น้ำเสียงเธอดูตื่นเต้นเป็นพิเศษ ตอบรับการละเล่นของฉันไปเรียบร้อยทั้งที่ยังไม่รู้ว่าเล่นอะไรกัน
"เดี๋ยวไว้ครูปอยบอกทีหลังค่ะ" ฉันยิ้มอย่างมีเลศนัย "ตอนนี้เราไปห้องสมุดกันดีกว่า" ว่าแล้วก็จับมือเธอเดินไปห้องสมุด ช่วงนี้ฉันกำลังจัด 'โครงการแข่งขันอ่านหนังสือ' ร่วมกับครูอาสาที่มาจัดกิจกรรมด้วยกัน โดยจะจัดทำคำถามจากหนังสือในห้องสมุด และให้เด็กในชุมชนที่เข้าร่วมโครงการมาอ่านหนังสือและตอบคำถาม ซึ่งมีคะแนนและของรางวัลเป็นตัวกระตุ้นให้ร่วมกิจกรรมและจุดประสงค์หลักคือ ให้อ่านหนังสือนั่นเอง
เวลาว่างส่วนใหญ่ของฉันในช่วงที่ผ่านมาจึงหมดไปกับการจัดทำกิจกรรมที่ว่า หลัก ๆ คือ 'อ่านหนังสือ' ซึ่งเป็นงานที่ฉันถนัดทีเดียว ฉันจึงต้องไปห้องสมุดชุมชนบ่อยขึ้น และถือเป็นโอกาสอันดีที่ได้ทำความคุ้นเคยกับเด็ก ๆ ที่มาใช้ห้องสมุดและบริเวณเป็นสถานที่วิ่งเล่นด้วย
ระหว่างจับมือน้องพิมพ์เดินไปห้องสมุด ฉันก็รู้สึกถึงแรงปะทะอีกแรงที่ขาขวาเต็มแรงพร้อมเสียงเล็ก ๆ ดังแสบหู "ครูปอยยยยย สวัสดีค่ะ" 'น้องเนย' ยกมือไหว้ฉันแผล็บ ๆ แล้วก็กอดขาขวาฉันไม่ปล่อย
"สวัสดีค่ะน้องเนย" ฉันส่งยิ้มลงไปให้ตาแป๋วแหววและยิ้มกว้างเห็นฟันหน้าหลอสองซี่ "แต่ว่ามาเกาะขาครูปอยแบบนี้ ครูจะเดินยังไงละคะ?" ว่าพลางฉันก็ส่งคิ้วขมวดเป็นเชิงดุหนึ่งที น้องเนยส่งยิ้มเอียงอายและยอมปล่อยขาฉันให้เป็นอิสระแต่โดยดี ฉันให้จับมือข้างที่ว่างอยู่เดินไปห้องสมุดด้วยกัน
น้องเนยอยู่ป.1 แต่ตัวเล็กมากจนเหมือนอยู่อนุบาล 1 เสียมากกว่า เธอผอมเกร็งและพุงโล แถมยังเพิ่งหายจากเป็นอีสุกอีใส จึงมีแผลสะเก็ดเต็มตัว แต่น้องเนยน่ารักและขี้อ้อน ตอนมาใหม่ ๆ จะเป็นเด็กซนจนต้องดุบ่อย ๆ แต่หลัง ๆ จะเรียบร้อยขึ้น เธอชอบงานประดิษฐ์พวกเย็บปักถักร้อยเป็นพิเศษ มือเล็ก ๆ ที่มีแผลเต็มมือ ยังเคยทำกระเป๋าใส่เศษสตางค์มาอวดฉันอยู่เหยง ๆ
"น้องเนยคะ ไม่เอาไม่ไปเกาะครูเขาแบบนั้นสิ" เสียง 'ป้ามะ' หรือ ป้ามยุรี ผู้ดูแลและบรรณารักษ์(จำเป็น)ของศูนย์ฯส่งเสียงมาจากหน้าห้องสมุด "ป้าบอกแล้วใช่ไหม ว่าอย่าไปกวนคุณครู"
'ป้ามะ' ใส่แว่นตากรอบหนา และมีผมสีดอกเลา เค้าหน้าและแววตามีความใจดีสม่ำเสมอ แม้แกจะพยายามดุเด็ก ๆ อย่างไร ก็ยังไม่สามารถสลัดคราบความใจดีในน้ำเสียงแกออกไปได้ จึงเป็นที่รักของเด็ก ๆ ในชุมชนที่มาใช้ห้องสมุดเป็นอย่างมาก
"ปอย วันนี้มาอ่านหนังสือเหรอคะ" ป้ามะหันมาถามฉัน "เดี๋ยวพี่ไปกินข้าวสักหน่อย ฝากห้องสมุดแป๊บนึงนะ" ฉันตอบรับคำ พลางแอบยิ้มกับสรรพนามที่แกแทนตัวเอง ไม่ว่าเหล่าครูอาสาฯจะเรียกแกว่า 'ป้า' อย่างไร แกก็จะเรียกตัวเองว่า 'พี่' ไม่เปลี่ยนแปลง "พิมพ์ เนย...นั่งอ่านหนังสือเงียบ ๆ นะคะ วันนี้ไม่มีกิจกรรม" ป้ามะว่าพลางหันลงไปสั่งความกับตัวเล็กสองคนที่จับมือฉันคนละข้าง
"ไปค่ะ ไปอ่านหนังสือกัน เด็ก ๆ" ฉันพูดกับน้องสองคนและชวนกันเข้าห้องสมุด
แต่เพียงแค่เปิดประตูห้องสมุดไปเท่านั้นแหละ ก็มีเสียงเล็ก ๆ แหลม ๆ อีกเสียงหนึ่งดังขึ้นมาจากในห้องสมุด "ครูปอยยยย..." 'น้องนุก' เด็กป.1 อีกคนหนึ่งที่นั่งอ่านหนังสือในห้องสมุดอยู่แล้ว ลุกขึ้นจากตัวต่อไม้ที่ง่วนทำอยู่วิ่งถลาเข้ามากอดฉันตรงกลางตัว "ครูปอย สวัสดีค่ะ วันนี้หนูจะกอดครูปอยไม่ปล่อยเลย" น้องนุกที่ตัวเล็กพอ ๆ กับน้องเนยยิ้มยิงฟันเต็มปากเงยหน้ามาจ้องหน้าฉัน
"ไม่ได้ค่ะ น้องนุก วันนี้ครูปอยมาอ่านหนังสือที่ห้องสมุด น้องนุกอย่ากวนนะรู้ไหม ไม่งั้นครูปอยจะดุนะ" ฉันทำเสียงดุขึ้นเพราะว่าเจ้าตัวเล็กที่เกาะขาฉันอยู่นั้นเสียงดังเหลือเกิน ซึ่งไม่ว่าดุเท่าไหร่ก็ไม่มีทีท่าว่าจะยอมเลิกราเอาง่าย ๆ
น้องนุก เด็กตัวเล็กอยู่ป. 1 อีกคน ตัดผมม้าสั้นและซนมากจนเป็นที่กล่าวขานของบรรดาคุณครู ว่าใครจะไปที่ศูนย์ต้องระวังเจ้าจอมแสบคนนี้ให้ดี ๆ เพราะว่าจะรี่เข้ามาเกาะขาและขอให้อุ้มอยู่เสมอ ทั้งที่ตัวก็โตและหนัก แต่ก็ยังมาอ้อนตลอดจนไม่เป็นอันทำการทำงานก็มี น้องนุกยังถือว่าเป็นเด็กเกเรที่ไม่ยอมทำอะไรเป็นชิ้นเป็นอัน เคยไปลงคอร์สสอนเทควันโด้และฟุตซอล ครูอาสาถามว่า น้องนุกเป็นผู้หญิงหรือผู้ชายเนี่ย น้องนุกบอกว่า "หนูเป็นผู้ชายค่ะ"
เป็นการตกลงกันระหว่างครูอาสาที่มาเปิดสอนกิจกรรม ว่าจะเรียกตัวเองว่า 'ครู' แทนที่จะเรียกตัวเองว่า 'พี่' เพราะต้องการสร้างความเคารพยำเกรงแทนที่จะสร้างความสนิทสนมกันเอง โดยในการมาทำกิจกรรมครั้งนี้ มีแต่กิจกรรมนอกเวลาล้วน ๆ ไม่ใส่กิจกรรมวิชาการเข้าไปเลย เนื่องจากตระหนักว่ากิจกรรมเหล่านี้ช่วยส่งเสริมทักษะด้านอื่น ๆ ของเด็กเช่นกัน เช่น การกล้าแสดงออก การพัฒนาทักษะที่สนใจ และที่สำคัญ เป็นเวทีหนึ่งให้ได้ค้นหาตัวเอง
"ครูปอยคะ หนูอยากอ่านแฮรี่ พอตเตอร์" น้องพิมพ์พูดกับฉันเบา ๆ ขณะที่เลือกหนังสือกันอยู่ที่ชั้นหนังสือ ซึ่งที่ห้องสมุดไม่มีชื่อหนังสือที่เธอพูด
"หืมมม...จริงเหรอคะ ถ้ามี หนูจะอ่านเหรอ?" ฉันมองหน้าเธออย่างแปลกใจว่าอยากอ่านแน่หรือไม่
"อ่านสิคะ ถ้ามีหนังสืออีกเยอะ ๆ หนูก็จะอ่านเยอะ ๆ ค่ะ" เธอยิ้มหวานให้ฉันหนึ่งทีและหยิบหนังสือวรรณกรรมเยาวชนแปลเล่มหนึ่งไปนั่งอ่านที่โต๊ะ ฉันลอบยิ้มให้ความน่ารักและใฝ่รู้ของเธอ การทำงานกับชุมชนหรืองานอาสาสมัครอย่างนี้ ทำให้ฉันมองเห็น 'ความแตกต่างของสังคม' เป็นรูปธรรม ฉันตระหนักได้ถึงความโชคดีสำหรับ 'โอกาส' ในชีวิตที่ได้รับ ความเหลื่อมล้ำระหว่างชนชั้นก็ชี้วัดกันได้ชัด ที่ 'โอกาส' นี่ล่ะ เพราะว่าคนในสังคมได้รับในปริมาณที่แตกต่างกันเหลือเกิน
เย็นวันนั้น ฉันกลับบ้านไปค้นชั้นหนังสือและกล่องหนังสือเก่า ๆ คัดเลือกเฉพาะเล่มที่มีคุณค่าแก่การเรียนรู้ของเด็ก รวบรวมไว้และตั้งใจนำไปบริจาคให้ห้องสมุดเพิ่มเติม นอกจากนั้น ฉันยังเขียน forward mail ขอรับบริจาควรรณกรรมเยาวชนเพิ่มเติมด้วย
นอกจากแบ่งปัน 'วัตถุ' ให้ ฉันว่า ยังเป็นการแบ่งปัน 'โอกาส' ให้คนที่ไม่เคยได้รับไปลองสัมผัสบ้างอีกทางหนึ่ง
คนบางคนได้รับโอกาสมาทั้งชีวิต คงจะลืมไปว่าการไม่เคยได้รับเป็นอย่างไร แต่กับบางคน กลับไม่เคยได้รับโอกาสอะไรเลยสักครั้ง คงจะไม่เคยรู้เหมือนกันว่าการมีโอกาสเป็นอย่างไร
เหมือนที่คนบางคน มีคนคอยอุ้มคอยกอดจนรำคาญ แต่กับบางคน กลับไม่เคยถูกกอดเลยสักครั้ง จนขาดแคลนและโหยหา ............... ถ้ามีอะไรที่ฉันพอจะทำเพื่อ 'สวมกอด' พวกเขาเหล่านั้นได้ ฉันก็ไม่ลังเลเลยที่จะทำ
..............................................................................................
ประกาศ!!
ขณะนี้ ทางศูนย์การเรียนรู้จั่นเจริญประสงค์จะขอรับบริจาคหนังสือเพิ่มเติมเพื่อห้องสมุด เนื่องจากในเดือนตุลาคมนี้ ทางห้องสมุดจะจัดกิจกรรมส่งเสริมการอ่านครั้งใหญ่ ซึ่งคาดว่าจะมีเด็กและเยาวชนเข้าร่วมอ่านหนังสือเป็นจำนวนมาก เพื่อสนับสนุนการจัดกิจกรรมดังกล่าวและเพื่อโอกาสในการเสริมสร้างนิสัยการอ่านต่อไปในอนาคต ทางห้องสมุดจึงขอเปิดรับบริจาคหนังสือเพิ่มเติมจากบุคคลทั่วไป ***โดยจะขอรับบริจาคเฉพาะรายชื่อหนังสือดังที่ปรากฎด้านล่างเท่านั้น*** เนื่องจากอยากให้หนังสือได้เกิดประโยชน์สูงสุด หากรับบริจาคหนังสือที่ไม่ต้องการมา จะไม่ได้ใช้ประโยชน์ รายชื่อหนังสือที่ต้องการ
ประเภทวรรณกรรมเยาวชน 1. วรรณกรรมแนวแฟนตาซี ***โดยเฉพาะอย่างยิ่ง แฮรี่ พอตเตอร์*** 2. ชุดการ์ตูนความรู้ เช่น การ์ตูนธรรมะ การ์ตูนบุคคลสำคัญของ EQ plus 3. หนังสืออ่านนอกเวลา เช่น นิกกับพิม, คุณตาคุณยายยังเด็ก, แมงมุมเพื่อนรัก 4. วรรณกรรมเยาวชน 50 เล่มที่เด็กควรอ่าน >>คลิกดูรายชื่อหนังสือ<< 5. วรรณกรรมเยาวชนอื่น ๆ เช่น วรรณกรรมเยาวชนในดวงใจของมูลนิธิดำรงชัยธรรม, ชุด Jimmy Liao ประเภททั่วไป 1. หนังสือรางวัลซีไรต์และหนังสือที่ได้รับรางวัลอื่น ๆ 2. หนังสือ 100 เล่มดีที่คนไทยควรอ่าน >>คลิกดูรายชื่อหนังสือ<< 3. วรรณกรรมคลาสสิค >>คลิกดูรายชื่อหนังสือ<< ผู้มีจิตศรัทธาบริจาค สามารถสอบถามรายชื่อหนังสือที่ต้องการเพิ่มเติมได้ที่ เป๋า 0818284562 หรือติดต่อหลังไมค์นางสาวดุ่บดั่บ โดยสามารถเข้ามาบริจาคที่ศูนย์ได้ด้วยตัวเอง หรือส่งไปรษณีย์ได้ ตามที่อยู่ดังนี้ เป๋า/ปอย 398/12 ซอยเกษมศรี ถนนประชาธิปไตย พระนคร กทม. 10200
ทั้งนี้ ทางศูนย์การเรียนรู้จั่นเจริญมีของที่ระลึกจากเด็กในชุมชนส่งกลับไปให้ด้วยค่ะ
*หมายเหตุ : พอดีช่วงนี้กำลังทำโครงการอ่านหนังสือเพื่อชุมชนอยู่ จึงง่วนกับเรื่องนี้มากเป็นพิเศษ พยายามโยงเรื่องให้เข้ากับหัวข้อที่ตั้งไว้ และขอใช้พื้นที่บลอคตัวเองเป็นพื้นที่โฆษณาไปในตัวด้วยเลย และถ้าเพื่อนคนไหนรู้จักสถานที่ซื้อหนังสือได้ราคาถูก ก็รบกวนขอคำแนะนำไว้ด้วยนะคะ ขอบคุณค่ะ
ขอบคุณผู้ร่วมเดินทางเส้นทางสายมิตรภาพเส้นนี้ด้วยกันทุกคนนะคะ สำหรับถนนเส้นต่อไป หัวข้อว่า "กาแฟถ้วยนั้น" ค่ะ
หากสนใจร่วมถนนสายมิตรภาพโรยตัวอักษรเส้นต่อไปกับพวกเรา ทำตามกติกาง่าย ๆ เหมือนเคย ดังนี้ค่ะ -ลงชื่อบอกกล่าวกันไว้ -เขียนเรื่องอะไรก็ได้ที่เกี่ยวข้องกับหัวข้อนี้ และอัพบลอคในหมวดงานเขียน/บทประพันธ์ -อัพบลอคในวันจันทร์ที่ 14 กันยายนนี้ เวลาใดก็ได้ -เมื่ออัพบลอคแล้ว กรุณามาแจ้งอีกครั้งในบลอคของคนใดคนหนึ่ง และเราจะทำการรวบรวมลิงค์อีกทีค่ะ
ย้อนอ่านโครงการ ::ถนนสายนี้...มีมิตรภาพ:: คลิกได้ค่ะ
รายชื่อผู้เข้าร่วมโครงการ ::BeCoffee:: ::nikanda:: ::กะว่าก๋า:: ::Paulo:: ::Artagold:: ::Little Knight:: ::ปีศาจความฝัน:: ::บุยบุย:: ::Unravel:: ::inmemoir:: ::นัทธ์:: ::tempopo::
ขอบคุณสำหรับการติดตามค่ะ หวังว่าจะได้ร่วมเดินทาง ในถนนสายมิตรภาพโรยตัวอักษรนี้ด้วยกันนะคะ
Create Date : 31 สิงหาคม 2552 |
|
37 comments |
Last Update : 2 กันยายน 2552 0:25:05 น. |
Counter : 2846 Pageviews. |
|
|
|
|
| |
โดย: อาคุงกล่อง (อาคุงกล่อง ) 31 สิงหาคม 2552 14:54:01 น. |
|
|
|
| |
โดย: กะว่าก๋า 31 สิงหาคม 2552 15:21:40 น. |
|
|
|
| |
โดย: Paulo 31 สิงหาคม 2552 17:00:32 น. |
|
|
|
| |
โดย: Unravel 31 สิงหาคม 2552 17:17:51 น. |
|
|
|
| |
โดย: กะว่าก๋า 31 สิงหาคม 2552 17:20:40 น. |
|
|
|
| |
โดย: แม่ภุมิ (Artagold ) 31 สิงหาคม 2552 19:07:14 น. |
|
|
|
| |
โดย: หนูหล่อ (nulaw.m ) 31 สิงหาคม 2552 19:17:42 น. |
|
|
|
| |
โดย: แม่ภูมิ (Artagold ) 31 สิงหาคม 2552 19:18:11 น. |
|
|
|
| |
โดย: be-oct4 31 สิงหาคม 2552 22:01:04 น. |
|
|
|
| |
โดย: tempopo 1 กันยายน 2552 2:09:04 น. |
|
|
|
| |
โดย: nikanda 1 กันยายน 2552 5:50:06 น. |
|
|
|
| |
โดย: กะว่าก๋า 1 กันยายน 2552 12:49:52 น. |
|
|
|
| |
โดย: กะว่าก๋า 2 กันยายน 2552 12:58:20 น. |
|
|
|
| |
โดย: JewNid 2 กันยายน 2552 17:37:49 น. |
|
|
|
| |
โดย: katoy 3 กันยายน 2552 6:11:51 น. |
|
|
|
| |
โดย: be-oct4 3 กันยายน 2552 15:23:56 น. |
|
|
|
| |
โดย: mayday (savita29 ) 5 กันยายน 2552 11:51:39 น. |
|
|
|
| |
โดย: นายกสมาคมพ่อค้าจิ้งเหลนเพื่อการส่งออก..แห่งประเทศไทย.. (อสัญแดหวา ) 5 กันยายน 2552 15:03:42 น. |
|
|
|
| |
โดย: น้องข้าวเหนียวกะพี่หมูปิ้ง (MooBamBam ) 5 กันยายน 2552 16:49:51 น. |
|
|
|
| |
โดย: pranfun 5 กันยายน 2552 19:23:03 น. |
|
|
|
| |
โดย: oa (rosebay ) 21 ตุลาคม 2552 19:48:14 น. |
|
|
|
|
|
|
|
|
| 1 |
2 | 3 | 4 | 5 | 6 | 7 | 8 |
9 | 10 | 11 | 12 | 13 | 14 | 15 |
16 | 17 | 18 | 19 | 20 | 21 | 22 |
23 | 24 | 25 | 26 | 27 | 28 | 29 |
30 | 31 | |
|
|
|
|
|
|
|
|
|
มาเยี่ยมชม มาทักทายครับ
ได้มาอ่านเรื่องราวดี ๆ ที่ใช้อาการ กอด เป็นการนำเสนอ จากบล็อคนี้ ถือว่าได้ทั้งสาระความบันเทิงและได้ประโยชน์ที่จะช่วยสร้างสรรค์สังคมเป็นอย่างมากเลยครับ
ผมไม่ค่อยถนัดเรื่องซื้อหนังสือบริจาคเท่าไหร่ครับ เพราะว่าหนังสือที่ผมมีส่วนใหญ่อาจจะไม่เหมาะกับเด็กและเยาวชนครับ
แต่จะบอกว่า หนังสือชุดวรรณกรรมเยาวชน ที่ราชบัณฑิตฯ พิมพ์แจกให้แก่โรงเรียนและหน่วยงานตาง ๆ ฟรีครับ โดยสามารถทำจดหมายอย่างเป็นทางการ (ในนามของห้องสมุดก็ได้) เขียนความประสงค์เพื่อขอรับหนังสือได้เลยครับ ในหนังสือให้เรียน เลขาราชบัณฑิตฯ แล้วไปรับหนังสือได้ที่สำนักงานราชบัณฑิต สนามเสือป่าได้เลยครับ
ส่วนในเรื่องข้างบน ผมคาดว่าครูปอยต้องเป็นสาวขาใหญ่แน่ ๆ เลยครับ เด็ก ๆ เลยชอบวิ่งเข้ามากอด เหมือนเล่นลิงชิงหลักที่จะต้องวิ่งไปหาเสากอดไว้ไงครับ
ระวังนะครับ .... หนังสือลงข่าวว่า ...
"ตำรวจกำลังตามจับพวกขาใหญ่"
ออกจากบ้านระวังตำรวจจับนะครับ
อิอิ