'*^-+...ไม่มีอะไรงดงาม เท่าความสงบสุข...+-^*'

::ครั้งแรก...หนังสือเปลี่ยนชีวิต::


"อ่ะ...หนังสือเล่มนี้ดีนะ" แม่ฉันยื่นหนังสือเล่มขนาดเหมาะมือเล่มนึงมาให้
"หือ? แล้วแม่เคยอ่านไหม?" ฉันหยิบหนังสือมาจากแม่และถามด้วยความสงสัยใคร่รู้อย่างเด็ก ๆ
"เคยนะ เหมือนจะเคย แต่ก็จำไม่ได้แล้วล่ะว่าเป็นยังไง" แม่ฉันใช้เวลานึกครู่หนึ่ง
ฉันจึงรับมันมาอย่างว่าง่ายเหมือนหนังสือเล่มอื่น ๆ ที่แม่ฉันหยิบยื่นให้ในรูปแบบเดียวกัน

ความทรงจำในตอนนั้นฉันอายุ 12 ปีเห็นจะได้ อยู่ประมาณประถม 6 แม่ฉันก็เริ่มหยิบยื่นหนังสือเล่มหนา ๆ ให้ เหนืออื่นใดมันคือการหยิบยื่นนิสัยการอ่านหนังสือให้ฝังรากมาจนถึงทุกวันนี้ เล่มแรก ๆ ที่แม่ให้ฉันอ่านเองไม่นับนิทานอีสป ฉันจำได้ว่าเป็นเรื่องโต๊ะโตะจัง เด็กหญิงข้างหน้าต่าง แล้วก็แมรี่ ป๊อปปิ้นส์กับวรรณกรรมเยาวชนเล่มอื่น ๆ อีกมากมายเพราะแม่เห็นฉันโปรดปรานหนังสือแปลแนวนี้เหลือเกิน

ฉันหยิบหนังสือที่แม่เพิ่งยื่นให้ขึ้นมาพลิกดู ปกสีเขียว ๆ ของใบไม้จากต้นไม้ใหญ่มีผลส้มเต็มต้นและเด็กชายยืนเอามือไพล่หลังก้มหน้าก้มตาหันหน้าเข้าต้นส้ม ฉันอ่านชื่อปกหนังสือ 'ต้นส้มแสนรัก' แล้วจึงค่อย ๆ พลิกเปิดหน้าแรกขึ้นมาอ่านช้า ๆ ตามประสานิสัยการอ่านหนังสือเชื่องช้าของฉัน โดยที่ไม่อาจรู้ได้เลยว่า...มันจะเป็นจุดเริ่มต้นของอะไรบางอย่างในตัวฉันมาจนถึงทุกวันนี้...







เซเซ่เด็กชายชาวบราซิลอายุ 5 ขวบอยู่ในสภาวะแวดล้อมของครอบครัวขยาย มีพี่น้อง 5 คน แม่ทำงานโรงงาน พ่อยังเป็นหนี้สินค้างค่าเช่าบ้านถึง 8 เดือนจนทำให้ต้องย้ายบ้านไปอยู่บ้านใหม่ที่เล็กและแคบลงกว่าเดิม ซึ่งนั่นกลับนำมาสู่มิตรภาพเล็ก ๆ ระหว่าง 'มิงกินโย' ต้นส้มเขียวหวานหลังบ้านใหม่ของเซเซ่ และในขณะเดียวกัน ความซุกซนของเด็กตัวน้อยก็ยังนำพาเขาไปสู่มิตรภาพที่ยิ่งใหญ่กว่านั้น ระหว่างเขาและ 'โปรตุก้า' เพราะว่ามันคือมิตรภาพครั้งแรกและสัมผัสได้จริง...แต่ขณะที่ต้นส้มกำลังจะถูกตัดทิ้งเพื่อทำถนนผ่าน ข่าวการจากไปของโปรตุก้าเพื่อนแท้จริงเพียงคนเดียวของเขาก็เข้ามาพร้อม ๆ กัน แล้วเด็กอายุ 5 ขวบจะรับมือกับความเจ็บปวดอย่างนี้ได้อย่างไรกัน?


“ผมเลิกคิดถึงเขาไม่ได้ ผมรู้แน่แล้วว่า ความเจ็บปวดมันคืออะไร
ความเจ็บปวดไม่ใช่จากการถูกตีจนสลบ ไม่ใช่โดนเศษแก้วบาดเท้า หรือโดนเย็บแผลที่ร้านหมอ
ความเจ็บปวดนั้นคือการเจ็บที่หัวใจทั้งหมด
............”


ดอกไม้ของมิงกินโยบานเป็นครั้งแรกแล้ว อีกหน่อยเขาก็จะเป็นต้นส้มที่เป็นผู้ใหญ่ แล้วก็เริ่มออกลูก
ผมเฝ้าจูบดอกไม้เล็กๆ สีขาวที่นิ้วมือผม ผมจะไม่ร้องไห้เพราะเรื่องเล็กๆ น้อยๆ อีกต่อไปแล้ว
แม้ว่ามิงกินโยจะพยายามกล่าวคำอำลาผมด้วยดอกไม้เล็กๆ
เขาจากโลกในความฝันของผมไปสู่โลกแห่งความจริงและความเจ็บปวด



...........................



การเล่าเรื่องและดำเนินเรื่องโดยใช้ตัวละครอายุ 5 ขวบ มุมมองเด็กอายุ 5 ขวบผู้เต็มเปี่ยมไปด้วยพรสวรรค์และจินตนาการ อาจจะทำให้เรื่องนี้เป็นวรรณกรรมเยาวชนได้ แต่เรื่องราวอันเป็นปัจจัยภายนอกที่เกิดขึ้นกับเด็กน้อยเซเซ่...มันกลับโหดร้ายเกินไป เกินกว่าวัย 'เยาวชน' อย่างฉันจะห้ามไม่ให้ฝังมันลึกลงไปในจิตใจได้ แม้ต้นส้มแสนรักจะไม่ใช่หนังสือเล่มแรกของฉัน แต่ต้นส้มแสนรักเป็นหนังสือเล่มแรกที่ทำให้ฉันร้องไห้!

เมื่อไม่นานมานี้ฉันได้กลับไประลึกวัยเด็กกับการอ่าน ต้นส้มแสนรัก อีกครั้ง แม้จะด้วยวัยที่ต่างไป ด้วยประสบการณ์ที่มากขึ้นแต่ริ้วรอยความรู้สึกอันท่วมท้นที่มาพร้อมกับสายน้ำตายังคงเดิม ทำให้ฉันอดถามกับตัวเองไม่ได้ว่า...

หรือว่าจริง ๆ แล้ว เราทุกคนก็มีวัยเด็กอันน่าเศร้าและสะเทือนใจแอบเร้นบ้างกันทุกคนอยู่แล้วนะ?
หรือว่าจริง ๆ แล้วเราทุกคนก็มีส่วนเป็นเซเซ่อยู่ในตัวและมี 'มิงกินโย' ของตัวเองด้วยกันทั้งนั้น?


ในขณะที่เซเซ่ทิ้งความสวยงามในวัยเด็กเพื่อเปลี่ยนแปลงไปสู่วัยผู้ใหญ่
ฉันเองก็กำลังทิ้งโลกแห่งวัยผู้ใหญ่เพื่อจะเข้าไปรื่นระเริงในโลกแห่งจินตนาการของเซเซ่
เหมือนฉันเห็นตัวเองว่า ฉันเองก็เคยนั่งกิ่งของ 'มิงกินโย' เล่น ณ ที่ใดที่หนึ่งในช่วงวัยที่ผ่านพ้น

น้ำตาที่เสียไป อาจเนื่องมาจากบทตอนแห่งการพลัดพรากจากสิ่งที่รัก อาจเป็นตอนการทำผิดอย่างไร้เดียงสา หรืออาจเป็นตอนถูกลงโทษโดยไม่รู้ว่าตัวเองผิดอะไร ซึ่งเหล่านั้นเองอาจเป็นสิ่งที่เราเองต่างก็เคยผ่านกันมาแล้วทั้งนั้น และเซเซ่เองก็กำลังเปลี่ยนผ่านเพื่อเติบโต หรือไม่แน่ เราอาจจะกำลังหลั่งน้ำตาให้กับวัยวานอันแสนหอมหวานซึ่งไม่มีวันย้อนกลับมาก็ได้?



.......................................



สมัยยังเป็นเด็กอายุ 12 การอ่านหนังสือแล้วร้องไห้เป็นเรื่องแปลกใหม่มากทีเดียว ฉันจำได้ว่านอนอ่านหนังสืออยู่ในห้องนอนยามโพล้เพล้และสาวกระ
ดาษทิชชู่ร้องไห้สะอึกสะอื้นจนหายใจไม่ออก หลังจากพายุน้ำตาเมื่อปิดหนังสือลงได้ผ่านพ้นไป ฉันนอนหายใจอยู่บนเตียงเฮือก ๆ กลบเกลื่อนน้ำตางุด ๆ แล้วเดินถือหนังสือไปหาแม่

"อ่านจบแล้วล่ะค่ะ" ฉันบอกแม่หน้าตาซึมเซาอย่างกลบไม่มิด
"ร้องไห้ไหม?" แม่ฉันยิ้มและถามกลับมา ทำเอาฉันตกใจเล็กน้อยนึกเอาว่าแม่คงเห็นรอยยับ ๆ บนหน้า
"แม่ก็ร้อง ใครอ่านก็ร้อง หนังสือเค้าดีใช่ไหมละ" แม่ฉันบอกต่อไปพลางหัวเราะฮ่า ๆ แบบไม่ได้ใส่ใจอะไร ทำเอาฉันโล่งอกโล่งใจเพราะเผลอนึกไปว่าตัวเองมีปมอะไรไหมถึงได้ร้องไห้โฮ ๆ ขนาดนั้น แอบเผลอโทษยามเหงาของยามตะวันตกดินด้วยซ้ำไป

นั่นเองเป็นครั้งแรก...ที่ฉันได้สัมผัสถึงพลังอันยิ่งใหญ่ของหนังสือ พลังที่ทำให้ฉัน 'อิน' จะเป็นจะตายกับเรื่องราวแสนสะเทือนใจของเด็กชายผู้สูญเสียวัย 5 ปี ทั้งยังมีริ้วรอยแห่งความความตื้นตัน ความประทับใจ ความหดหู่ ความวังเวง ความโหยหา ไออบอุ่นทิ้งกรุ่นไว้หลังจากหน้าสุดท้ายในคราเดียวกัน หลังจากนั้นเองฉันจึงเกิดความโหยหาในพลังแห่งตัวอักษรที่สามารถนำพาอารมณ์ฉันให้โลดแล่นและจมดิ่งจากนั้นเป็นต้นมา และเมื่อรู้ตัวอีกทีฉันก็ค้นพบว่าฉันขาดหนังสือไม่ได้เสียแล้ว


แด่...ต้นส้มแสนรัก ที่นอกจากจะเปิดโลกการอ่านของฉันในมุมกว้าง
และยังทำให้ฉันค้นพบตัวตนว่าฉันมีความเป็น 'เซเซ่' ซ่อนอยู่มุมใดมุมหนึ่งในอดีตกาลอีกด้วย




ทดลองอ่านต้นส้มแสนรักได้ 2 ตอน ขอบคุณสำนักพิมพ์ประพันธ์สาสน์ด้วยค่ะ
ทดลองอ่านต้นส้มแสนรัก (คลิกค่ะ)






ย้อนอ่าน ::ถนนสายนี้...มีมิตรภาพ:: คลิกได้ค่ะ
ขอบคุณผู้ร่วมเดินทางเส้นทางสายมิตรภาพเส้นแรกนี้ด้วยกันทุกคนนะคะ
สำหรับถนนเส้นที่สอง จะมาในหัวข้อที่ชื่อว่า "แฟนฉัน...กับรักครั้งแรก"ค่ะ

หากสนใจร่วมถนนสายมิตรภาพโรยตัวอักษรเส้นที่สองกับพวกเรา ทำตามกติกาง่าย ๆ เหมือนเคย ดังนี้ค่ะ
-ลงชื่อบอกกล่าวกันไว้
-เขียนเรื่องอะไรก็ได้ที่เกี่ยวข้องกับหัวข้อนี้ และอัพบลอคในหมวดงานเขียน/บทประพันธ์
-อัพบลอคในวันจันทร์ที่ 30 มีนาคมนี้ เวลาใดก็ได้
-เมื่ออัพบลอคแล้ว กรุณามาแจ้งอีกครั้งในบลอคของคนใดคนหนึ่ง และเราจะทำการรวบรวมลิงค์อีกทีค่ะ



::ครั้งแรก...หนังสือเปลี่ยนชีวิต:: จากสาวสาวและมิตรอื่น ๆ

สาวอ้อน BeCoffee
สาวแจง Nikanda
คุณขอรบกวนทั้งชุดนอน
คุณกะว่าก๋า
คุณนัทธ์
คุณสาวไกด์ใจซื่อ
คุณแม่นู๋มี่
คุณปณาลี
คุณกิ่งไม้ไทย



ขอบคุณสำหรับการติดตามค่ะ
หวังว่าจะได้ร่วมเดินทาง ในถนนสายมิตรภาพโรยตัวอักษรนี้ด้วยกันนะคะ




Create Date : 16 มีนาคม 2552
Last Update : 17 มีนาคม 2552 4:08:30 น. 49 comments
Counter : 1536 Pageviews.

 
เจิมก่อนน้า...


โดย: BeCoffee วันที่: 16 มีนาคม 2552 เวลา:6:02:56 น.  

 
แง๊..มีคนแย่งเจิม


โดย: nikanda วันที่: 16 มีนาคม 2552 เวลา:6:06:02 น.  

 
^
^
^
นึกว่าคุณแจงแอบหลับไปแล้วนะเนี่ย
อิอิ อัพพร้อมกันนี่่มันสนุกคึกคักดีแท้ค่ะ


โดย: นางสาวดุ่บดั่บ วันที่: 16 มีนาคม 2552 เวลา:6:19:28 น.  

 
น่ารักจังค่ะ อ่านแล้วทำให้อยากกลับไปอ่านต้นส้มแสนรักอีกรอบนึงจังเลย
เห็นจริงด้วยนะคะ ใครร้องไห้เพราะอ่านเล่มนี้ไม่มีอะไรผิดปกติหรอกค่ะ
เพราะว่าอ้อนก็ร้องเป็นเผาเต่าเหมือนกัน(สำนวนโบราณซะ) หรือว่าเราต่างก็ผิดปกติเหมือนกัน
555 ช่วงนี้โดนอ้ายก๋ากับพี่โบ๊ตแซวจนเริ่มหลอนละ

หนังสือแต่ละเล่มทำให้คนอินได้ไม่เหมือนกัน
ยิ่งเวลาผ่านไป คนคนเดิมกลับมาอ่านก็ยังอินได้ไม่เท่ากันเลย
เอ ถ้าอ้อนกลับไปอ่านเล่มนี้อีกรอบจะเป็นยังไงน้า
อยากรู้ๆ ต้องลองๆ

แอบแซวหัวข้อต่อไปนิดนึงนะคะ
แหมๆ คุณปอย อ้อนเขินนะคะบอกไว้ซะก่อน
ความรักครั้งแรกหน่ะ อนุบาลสองนะคะ 555
แต่คิดดูก่อนว่าจะเอาคนไหนดี ...อิอิ ล้อเล่นค่า


โดย: BeCoffee วันที่: 16 มีนาคม 2552 เวลา:6:37:38 น.  

 
อุ๊ย เขียนผิด ตอนป.สองหน่ะค่ะ


โดย: BeCoffee วันที่: 16 มีนาคม 2552 เวลา:6:39:44 น.  

 
ว้าว..ในที่สุดก็ได้เริ่มบล็อกแรกกันเสียนะเรา
ต้นส้มแสนรัก..ได้ยินชื่อมานานแล้วค่ะ ได้ยินมาว่า
เป็นหนังสือที่เข้าถึงหัวใจคนอ่าน ทำให้คนอ่านร้องไห้มานักต่อนักแล้ว
เคยพูดหลายครั้งในบล็อกที่รีวิวหนังสือเล่มนี้
ว่าอยากลองอ่านซักครั้ง แต่ก็ยังไม่มีโอกาสเสียที
อยากสัมผัสความรู้สึกเวลาซาบซึ้งไปกับมัน..น่าอ่านค่ะ

ที่จากยกตัวอย่างมาด้านบน
"ผมเลิกคิดถึงเขาไม่ได้
ผมรู้แน่แล้วว่า ความเจ็บปวดมันคืออะไร
ความเจ็บปวดนั้นคือการเจ็บที่หัวใจทั้งหมด"
มันกินใจมากเลยค่ะ..ประโยคนี้


แล้วที่ว่า"หรือว่าจริง ๆ แล้ว เราทุกคน
ก็มีวัยเด็กอันน่าเศร้าและสะเทือนใจแอบเร้นบ้างกันทุกคนอยู่แล้วนะ?"
อันนี้ ก็โดนใจค่ะ..เราว่าคนทุกคนแหล่ะ..
ถ้าแจงเล่าเรื่องที่แย่ๆในตอนเด็กให้คุณปอยฟัง..
คุณปอยต้องคิดว่า..เอ้ย..ขนาดนั้นเลยเหรอ..แน่ๆค่ะ

ปล.สนุกจังค่ะ..เคยคิดว่าชอบเขียนนอกกรอบ มีอิสระ
มาทำอันนี้ถึงรู้..เขียนอะไรบางอย่างที่มีกรอบให้เขียน
มีหัวข้อครอบคลุมแบบนี้ก็สนุกไปอีกแบบ..ชอบค่ะ



โดย: nikanda วันที่: 16 มีนาคม 2552 เวลา:7:00:50 น.  

 
สวัสดียามเช้าครับน้องปอย


ต้นส้มแสนรัก
พี่ก๋ามาอ่านตอนโต
เศร้ามั้ยเศร้า
แต่ไมไ่ด้ร้องไห้

พี่ก๋าคิดว่าถ้าพี่ก๋าอ่านตอนเป็นเด็กกว่านี้สักนิด
คงได้เสียน้ำตา...

แต่บังเอิญเพิ่งอ่านตอนแก่ครับ 555
เลยมีความรู้สึกเหมือนคนเขียนเค้ากำลังสอนเราเรื่องความพลัดพราก
ความีักและความผูกพัน....


ก็เลยอ่านจบแบบไม่เศร้า แต่ ซึ้งครับ

เล่ม 2 ยังวางอยู่ในห้อง
ไมไ่ด้เอามาอ่านซะทีครับ



ปล. หัวข้อที่ 2 ก็น่าสนใจครับ
ว่าแต่ว่าพี่ก๋าเขียนแล้วมันจะหวานเกินไปรึเปล่าครับ 5555


ปล.2 ภูเขานี้อยู่ที่กุ้ยโจวครับ
จิื่วจ้ายโกวก็สวย
แต่สวยคนละแบบ คิดว่ามันเป็นจังหวะที่พี่ก๋าไปกุ้ยโจวก่อน
เลยรู้สึกผูกพันกับกุ้ยโจวมากกว่าที่จิ่วจ้ายโกวครับ











โดย: ก.ก๋า (กะว่าก๋า ) วันที่: 16 มีนาคม 2552 เวลา:7:50:21 น.  

 
แหะๆ โครงการแรกพลาดไปแล้ว แต่หัวข้อคราวนี้น่าเล่นด้วยจังเลยอ้ะ

เดี๋ยวจะลองไปร่างๆดูนะครับ แล้วจะมาเฟิร์มอีกทีว่าจะเล่นด้วยมั๊ย


โดย: แฟนผมฯ IP: 202.134.119.218 วันที่: 16 มีนาคม 2552 เวลา:8:10:05 น.  

 
แวะมาทักทายครับ
หนังสือคู่ชีวิต อิอิ


โดย: อัสติสะ วันที่: 16 มีนาคม 2552 เวลา:8:18:02 น.  

 
ได้อ่านต้นส้มแสนรักเมื่อตอนโต (แก่) แล้วค่ะ.. ยังรู้สึกเศร้า และหดหู่ตามจังเลย แต่ก็ชอบนะคะเป็นหนังสือเล่มหนึ่งที่ถ้าไม่ได้อ่านคงเสียดาย

และก็แอบคิดเหมือนคุณ จขบ.เหมือนกันค่ะ ว่าทำไมหนังสือเยาวชนถึงเครียดจริง




โดย: iamsquid วันที่: 16 มีนาคม 2552 เวลา:8:43:56 น.  

 
หวัดดีวันจันทร์นะ


โดย: อืม...ครับ เชิญตามสบาย วันที่: 16 มีนาคม 2552 เวลา:8:59:08 น.  

 
ว้าว...หนังสือน่าอ่านอีกแล้วครับ..

มาเยี่ยมสมาชิกในโครงการเยี่ยมๆครับ..
อยากเข้าร่วมเขียนนะครับ..แต่พี่ไม่ใช่หนอนหนังสืออ่ะซิ

แล้วก็บวกกับอารมณ์ที่ไม่ค่อยจะเข้าร่องเข้ารอยในการอัพ
แต่ Blog ตอนสิ้นเดือนของกลุ่มน้องปอยเนี่ยน่าสนใจนะครับ..

เดี๋ยวใกล้ๆจะแวะมาแจ้งข่าวอีกทีนะครับ..




โดย: Little Knight วันที่: 16 มีนาคม 2552 เวลา:9:00:48 น.  

 
สวัสดีค่ะคุณปอย (ขอเรียกชื่อตามคนอื่นๆเลยนะคะ)

หนังสือ "ต้นส้มแสนรัก" เราเคยอ่านทั้งเล่มหนึ่งและสองค่ะ
แต่ว่านานมากมาแล้ว ครั้งล่าสุดที่หยิบหนังสือเล่มนี้มาอ่านอีกครั้ง
เห็นจะเป็นตอนสมัยเรียนอยู่มหาลัย (อ่านใหม่เฉพาะเล่ม๑ นะคะ)
จำได้ว่าอ่านแล้วก็น้ำตาซึมอยู่เหมือนกัน แต่ไม่ค่อยแน่ใจว่า
ถ้าหยิบมาอ่านอีกรอบตอนนี้จะอารมณ์เหมือนเดิมหรือเปล่า
ก็โตขึ้นมากกว่าเดิมเยอะน่ะค่ะ ความคิดอะไรก็คงเปลี่ยนไปบ้าง

โครงการ "ถนนสายนี้ มีมิตรภาพ" สร้างสรรค์และน่ารักดีนะคะ ^^

ขอบคุณคุณปอยด้วยค่ะที่แวะมาเยี่ยมเยียนที่บล็อก

มีความสุขมากมากนะคะ


โดย: discipula วันที่: 16 มีนาคม 2552 เวลา:9:13:51 น.  

 
เขียนได้ดีจังค่ะ
เป้ไม่ค่อยถนัดเลยเส้นทางสายอักษรเนี่ย
แต่ก้อชอบนะคะ
สงสัยเพราะอ่านหนังสือน้อย

เป็นกำลังใจให้นะคะ
และก้อ...อยากอ่านเรื่องต่อไปของคุณปอยมากค่ะ..อิอิ
30 มีนาคม ใช่มั้ยคะ...อิอิ..ไม่พลาดๆ


โดย: AB_PAE วันที่: 16 มีนาคม 2552 เวลา:9:32:00 น.  

 

มาเยี่ยมบ้านนักอ่านตัวยง แต่ละเรื่องที่ปอยอ่านมาแล้วบางเรื่องที่ได้อ่านตามไปด้วย .. รับประกันได้เลย ไม่มีผิดหวังซักเรื่อง ..

หนังสือหลายเล่มเปลี่ยนทัศนคติ ชีวิต และมุมมองหลายอย่าง
ตัวหนังสือยึกยือ ช่างมีอิทธิพลต่อเรามากมายเลยเน๊อะ ^^


โดย: พี่ปุ๊กค่ะ IP: 125.24.17.128 วันที่: 16 มีนาคม 2552 เวลา:9:40:54 น.  

 
สวัสดีค่ะ
เข้ามาบอกว่า ร่วมด้วยๆ ค่ะ หนังสือเปลี่ยนชีวิต


โดย: กิ่งไม้ไทย วันที่: 16 มีนาคม 2552 เวลา:9:55:01 น.  

 
เรื่องนี้เคยอ่านเมื่อนานมาแล้วเหมือนกันค่ะ

สงสัยต้องกลับไปรื้อฟื้นความทรงจำซะหน่อยแล้ว

หนังสือเล่มแรกที่อ่านมีแต่การ์ตูนอ่ะค่ะ ทั้งขายหัวเราะและโดเรมอน แล้วก็ยังอ่านมาจนปัจจุบันนี้ (การ์ตูนทั้งหลาย)

เป็นโครงการที่สนุกดีค่ะ เดี๋ยวตามไปอ่านของคนอื่นๆต่อ ^^


โดย: nanida วันที่: 16 มีนาคม 2552 เวลา:11:48:08 น.  

 
สวัสดีค่ะน้องปอย...
เคยได้ยินเรื่องนี้มาตั้งแต่เด็กเหมือนกัน แต่ยังไม่ได้อ่านเลยค่ะ
ขอบคุณที่นำมาเล่าให้ฟังกันนะคะ...
มีความสุขสดชื่นในวันแรกของสัปดาห์คะ...


โดย: Devonshire วันที่: 16 มีนาคม 2552 เวลา:12:48:28 น.  

 
อ่านเล่มเดียวกันเลยค่ะแต่ที่ชอบมากที่สุดคือ โต๊ะโตะจัง เด็กหญิงข้างหน้าต่าง อ่านจนเป็นมรดกตกทอดถึงหลาน หลาน ๆ ก็ชอบอ่านเรื่องนี้มากค่ะ ปัจจุบันเวลาไปญี่ปุ่นก็ยังได้เห็นโต๊ะโตะในทีวีอยู่บ้างบางรายการ โต๊ะโตะยังเป็นคุณป้าที่น่ารักของเด็ก ๆ เหมือนเดิมค่ะ หลาย ๆ อย่างที่โต๊ะโตะเขียนในหนังสือเป็นสิ่งที่นำมาใช้ได้ในปัจจุบัน เช่นอาหารจากทะเล จากภูเขา ทุกวันนี้ก็มีคนตระหนักเรื่องอาหารธรรมชาติและกินให้ครบ 5 หมู่มากขึ้น หนังสือคือการเริ่มต้นเรียนรู้ที่ดีค่ะ และเป็นเพื่อนเราไปได้ตลอดค่ะ อิ อิ


โดย: Jujastar วันที่: 16 มีนาคม 2552 เวลา:12:59:07 น.  

 
ตามมาจากบ้านคุณอ้อนค่ะ

เรื่องนี้ภาค 2 ยังไม่ได้อ่านเลยค่ะ
แต่ภาคแรกนี้เรียกว่าอ่านกี่ที ๆ น้ำตาก็ร่วงค่ะ
เป็นการร้องไห้แบบน้ำตาไหลพราก ๆ อีกต่างหาก
เพราะงั้นอยากจะหยิบเรื่องนี้ และกลับไปหา เซเซ่เมื่อไหร่
ต้องหาที่หลบมุมอ่านเงียบ ๆ คนเดียวค่ะ ..
ก็แก่ป่านนี้อ่านไปร้องไห้ไป มันอายนี่น่า

จะติดตามครั้งต่อ ๆ ไปนะคะ


โดย: Paulo วันที่: 16 มีนาคม 2552 เวลา:14:14:16 น.  

 
นุ้ยไม่เคยอ่านเรื่องต้นส้มแสนรักเลย เห็นพี่สาวนุ้ยเค้าบอกว่าเศร้า น้ำตาท่วมหนังสือ นุ้ยเลยไม่กล้าอ่านค่ะ อิๆๆ

แต่นอกจากน้ำตา ยังได้อะไรไปอีกมากมาย ก็น่าจะคุ้มกันเนอะ ไว้กลับบ้านไปอ่านมั่งดีกว่าค่ะ


โดย: N_Nirvana วันที่: 16 มีนาคม 2552 เวลา:16:20:52 น.  

 

เราได้หนังสือต้นส้มแสนรักจากน้องคน 1
ที่รู้จักผ่านพันทิพดอทคอม
และก็ได้หนังสือดีดีมาอีก 5 เล่ม
แต่จนป่านนี้
น้องคนนั้นหายไปจากสารบบ
ไม่ทราบว่า
หายไปเพราะเหตุการณ์ปักษ์ใต้หรือเปล่า
ก็ไม่อาจทราบได้


โดย: อุ้มสี วันที่: 16 มีนาคม 2552 เวลา:19:00:45 น.  

 
วันนี้อาการดีขึ้นเรื่อยๆค่ะ
เลยแว๊บมาเยี่ยมเยียนกันอีกแล้ว
ไม่มีอะไรจุเม้นท์ ไม่รู้จะเม้นท์ไรดี
มาคุยเรื่อง97%กันดีกว่า
แม่นแล้วจ้า..อย่างที่คุณปอยเดานั่นแหล่ะ
ไอ้น้องตัวเปี๊ยกมาเดินมาเราต้อยๆ
แต่เราชอบพี่ชายเค้ามากกว่า..อิอิ

ตอนเรียนก็เคยอ่านกลอนแจ่มใสนะ
ชอบมากเลย..มีจดอยู่ในไดอารี่เต็มเลย
เคยมีอยู่ครั้ง..แจงเคยเขียนกลอนส่งแจ่มใส
กลอนเป็นร้อยๆกลอนเลย..หลายเดือนผ่านมา
มีจดหมายส่งมา..บอกว่า..แจ่มใสเลิกทำหนังสือกลอนแล้วค่ะ
แง..แง..ฮ่วย เสียกำลังใจอย่างแรง..แล้วตอนนี้พี่สาวย้ายบ้าน
กลอนเก่าๆที่แต่งไว้เต็ม..หายไปไหนหมดก็ไม่รู้..เสียดายอ่ะ

ปล.ถามเรื่องหัวข้อใหม่ค่ะ..ว่าคุณอ้อนอยากอ่านเรื่องจริงหรือเรื่องแต่ง..จะได้จัดให้ถูก..อิอิ


โดย: nikanda วันที่: 16 มีนาคม 2552 เวลา:20:27:30 น.  

 
ยังไม่เคยอ่านเรื่องนี้เลยค่ะ
สงสัยต้องไปหาอ่านบ้างแล้วว
...
ถนนสายนี้มีมิตรภาพ แค่ชื่อก็อบอุ่นแล้วค่ะ
ขอบคุณที่มีโครงการดีๆแบบนี้นะค่ะ


โดย: ผู้หญิงชื่อส้ม วันที่: 16 มีนาคม 2552 เวลา:20:30:06 น.  

 
เขียนผิดค่ะ..คุณปอย ไม่ใช่คุณอ้อน


โดย: nikanda วันที่: 16 มีนาคม 2552 เวลา:20:34:33 น.  

 
เขียนของตัวเองเสร็จ และ upload ขึ้นไปแล้ว จึงมาอ่านของสาว สาว สาว เจ้าของโครงการ
ต้นส้มแสนรัก วรรณกรรมเยาวชนที่เรียกน้ำออกจากตาได้เป็นเล่มแรกเลยล่ะ

~~~~~~~
กลายเป็นว่า เราอ่านจุดประสงค์โครงการผิดไปซะได้
กลายเป็นเรื่องแต่งซะได้

แต่ก็...นะ ไหนๆ ก็ผิดไปแล้ว
ตามไปอ่านกันเอง

ครั้งหน้า...ก็ยังลงชื่ออีกเหมือนเดิม ...ไม่ค่อยแน่ใจในเรื่องอารมณ์อ่ะนะ
ช่วงนี้ผันผวนชอบกล


โดย: นัทธ์ วันที่: 16 มีนาคม 2552 เวลา:21:21:42 น.  

 
เคยคิดจะอ่านหนังสือเล่มนี้อยู่หลายครั้ง
แต่กลับกลัว "ความเศร้า" ที่ซ่อนอยู่ด้านใน

สักวันจะพยายามทำใจแข็ง อ่านหนังสือเล่มนี้



โดย: ปณาลี วันที่: 16 มีนาคม 2552 เวลา:22:41:13 น.  

 
อ้า ได้อ่านเรื่องหนังสือจากพี่ก๋า
แล้วมาอ่านของคุณพี่
ก็นึกอยากอัพเรื่องหนังสือบ้างแล้วสิคะ


โดย: แม่ภูมิ (Artagold ) วันที่: 16 มีนาคม 2552 เวลา:22:50:12 น.  

 
ถ้าครบแล้ว อ้อนจะทำสรุปไว้ท้ายบล็อกเหมือนของคุณปอยดีกว่าเนอะ ^^


โดย: BeCoffee วันที่: 16 มีนาคม 2552 เวลา:22:58:38 น.  

 
รวมลิ้งค์ ผู้เข้าร่วมโครงการ
ทั้งจากที่ลงชื่อไว้ที่บล็อกนี้
บล็อกคุณปอย และบล็อกคุณแจงค่ะ
เท่าที่ทราบนะคะ ตกหล่นยังไงบอกกันบ้างน้า ^^

บล็อกตัวเอง::BeCoffee (บอกทำไมเนี่ย)

คุณปอย ::นางสาวดุ่บดั่บ

คุณแจง ::nikanda

คุณชุดนอน ::ขอรบกวนทั้งชุดนอน

อ้ายก๋า ::กะว่าก๋า

คุณนัทธ์ ::นัทธ์

พี่เต้ย ::สาวไกด์ใจซื่อ

แม่นู๋มี่ :: แม่นู๋มี่

คุณปณาลี :: ปณาลี

คุณกิ่งไม้ไทย :: กิ่งไม้ไทย

ขออนุญาตทุกๆ คนนำลิ้งค์มารวมกันมา ณ โอกาสนี้ด้วยนะคะ

คุณปอยคุณแจงคะ ครบรึยังคะ อ้อนลืมบล็อกใครไปรึเปล่าเอ่ย


โดย: BeCoffee วันที่: 16 มีนาคม 2552 เวลา:23:13:40 น.  

 
^
^
อิอิ คุณอ้อนเมากาแฟ เม้นท์ซ้ำซ้อน


โดย: nikanda วันที่: 16 มีนาคม 2552 เวลา:23:23:37 น.  

 
สวัสดียามเช้าครับน้องปอย


โครงการแรกยังคึกคักขนาดนี้
โครงการสองจะขนาดไหนเนี่ย อิอิอิ

พี่ก๋าลงชื่อไว้ว่าจะมาร่วมแจมแน่นอนครับ







โดย: กะว่าก๋า วันที่: 17 มีนาคม 2552 เวลา:7:50:16 น.  

 
สวัสดีจ้า

มาอ่านๆ

เป็นหนังสือที่ทำให้พี่ร้องไห้ตาบวมเหมือนกันเลย


นี่ๆ พี่เพิ่งอ่าน "เด็กในกรง" หละ อ่านแล้วพี่ได้ความรู้สึกเดียวกับต้นส้มฯ เลยนะ

ลองหามาอ่านจิ เชียร์ๆ


โดย: สาวไกด์ใจซื่อ วันที่: 17 มีนาคม 2552 เวลา:8:26:10 น.  

 
ได้เลยครับ..น้องปอย..เดี๋ยวค่อยเขียน Blog ล่วงหน้าดีกว่า
อิอิ..ลืมเรื่องนี้ได้ยังไงเนอะ..เขียนไปก่อน..รอวันอัพ


หัวข้อมันน่ารักดีอย่างที่ปอยว่า..คนอ่านชอบแนวกุ๊กกิ๊ก..
อ่านได้สบายๆ..ประมาณว่าแฟนฉัน..ของเธอ..เปล่าเนีีย..555


ว่าแล้ว...เดี๋ยวเริ่มหาเวลา..ลุยดีกว่าถ้าเสร็จแน่ๆแล้วจะไปลงชื่อนะครับ..
ว่าแล้วตอนนี้กลับมาตุภูมิ หรือ ว่ายังท่องเที่ยวต่างแดนอยู่ครับ..

รักษาสุขภาพนะครับ..




โดย: Little Knight วันที่: 17 มีนาคม 2552 เวลา:8:27:09 น.  

 
สวัสดียามเช้าจ้าหนูปอ


โดย: ชีวิตมีลีลา วันที่: 17 มีนาคม 2552 เวลา:9:02:36 น.  

 
ขอบคุณมากๆเลยที่ชวนค่ะ
เดี๋ยวต้องลองมาอ่านของสาวสาวสาวก่อน..55
เผื่อจะเกิดความคิดสร้างสรรค์กะเค้าบ้าง

อ้อ..แต่เรื่องของเรื่องคือ "รักแรกไม่ใช่รักปัจจุบัน" นี่สิ
คุณชายที่บ้านเค้าจะงอนรึป่าวไม่รุ

อิอิ
อยากเห็นหน้าคุณปอยจัง..ต้องหาในบล็อกนี่ละ..ต้องเจอแน่เลย..


โดย: AB_PAE วันที่: 17 มีนาคม 2552 เวลา:12:20:33 น.  

 
สวัสดีค่ะคุณปอย

ขอบคุณนะคะที่แวะเวียนมาชวนให้ร่วมเขียนในโครงการนี้
ก็สนใจอยู่ล่ะค่ะ แต่หัวข้อหน้านี่คงไม่ไหวนะคะ
ฮ่าๆๆ ไม่ค่อยถนัดเรื่องรักๆใคร่ๆสักเท่าไหร่

-----------

เรื่องชา gunpowder ที่คุณปอยถามที่บล็อก
มันเป็นชาเขียวจีนที่มาในแบบเป็นเม็ดกลมๆ
เวลาชงสีจะออกเหลืองๆ กลิ่น รส ใช้ได้ค่ะ
ไม่ค่อยเหมือนชาเขียวญี่ปุ่น แต่เราก็ว่าดีอยู่นะคะ

Happy Tuesday ค่ะ


โดย: discipula วันที่: 17 มีนาคม 2552 เวลา:14:42:05 น.  

 
สวัสดีครับคุณปอย ยินดีกับโครงการ "ถนนสายนี้ มีมิตรภาพ" ด้วยครับ จากแค่ สาว สาว สาว ตอนนี้มีเพื่อนมาเพิ่มอีกเยอะเลย ถือว่าเปิดตัวได้อย่างอลังการเลยครับ



โดย: nongmalakor วันที่: 17 มีนาคม 2552 เวลา:17:34:51 น.  

 
อดีต ไม่ว่าดีหรือร้าย ย่อมมีเสน่ห์เย้ายวนให้ชวนคิดถึง


จะติดตามผลงานของ สาว สาว สาว รุ่นใหม่เรื่อยๆ นะครับ


อิอิ ^ ^


โดย: ยางมะตอยสีชมพู วันที่: 17 มีนาคม 2552 เวลา:21:42:59 น.  

 
ร้องไห้เป็นวรรค เป็นเวร เลยเชียวค่ะ
ตอนนี้ เล่มสอง กองอยู่ในถุง

ยังอยากกลับไปอ่านเล่มหนึ่งก่อน
แต่ยังไม่อยากร้องไห้อีก

..
ความเจ็บปวดนั้นคือการเจ็บที่หัวใจทั้งหมด
..
หวัดดีค่ะ



โดย: .. IP: 119.31.14.209 วันที่: 17 มีนาคม 2552 เวลา:22:16:31 น.  

 
ปอย ปาจ๋อยอ่านหนังสือเรื่องเดียวกับพี่เกือบทุกเล่มเลยอ่ะ

นอนหรือยังเอ่ย พี่บียังไม่ได้นอนเลย
วันนี้คุณแม่มาตรวจร่างกาย แล้วก็นอนอยู่ รพ จ้า

พี่ไม่มีอะไรทำ ก็อั่พบลอคซะเลย
ง่วงซะ นอนก่อนนะปาจ๋อย

จ๊วบๆๆๆ


โดย: be-oct4 วันที่: 17 มีนาคม 2552 เวลา:23:22:53 น.  

 
สวัสดียามเช้าครับน้องปอย








โดย: กะว่าก๋า วันที่: 18 มีนาคม 2552 เวลา:8:02:25 น.  

 
สวัสดีเช้าวันฝนตกค่ะ..พี่ปอย
(ขออนุญาตเรียกพี่นะคะ..แอบเข้าไปดูโปรไฟล์มาแหละ อิอิ ^^)

แอบแวะมาบอกว่าเรื่องในบล็อกโน้นเป็นเรื่องจริงทั้งหมดจ้า ^^



ส่วนหนังสือต้นส้มแสนรักเล่มนี้ยังไม่เคยอ่านเลยค่ะ ^^"

ต้องไปหามาอ่านบ้างแล้ว...


โดย: แม่นู๋มี่ วันที่: 18 มีนาคม 2552 เวลา:8:52:15 น.  

 
ชอบอ่านหนังสือวรรณกรรมเยาวชนเหมือนกันคะ
ทำให้เปิดมุมมองได้ดีจริงๆคะ


โดย: aomamm (Forest-ic ) วันที่: 18 มีนาคม 2552 เวลา:10:04:24 น.  

 
ชอบ ชอบ เหมือนกันค่ะน้องปอย

เก็บตังค์ซื้อเองด้วยแหละเล่มนี้...

แต่ว่าเล่มสอง...ไม่ค่อยหนุกเท่าเล่มแรกเลยเนอะ...



โดย: เอื้องสามปอย วันที่: 18 มีนาคม 2552 เวลา:17:42:17 น.  

 
ดีจ้าน้องปอย ...
โครงการแรกเขียนกันไปแล้ว ... เดี๋ยวพี่ตามโครงการ 2
ล่ะคะ เอาว่าแวะมากระซิบว่าลงชื่อก่อนน๊า มีเวลา
จะได้เขียนๆ เอาไว้อัพยามถึงเวลากัน
..............
โครงการหนึ่งเขียนไม่ทันแต่ก็ได้อ่านของหลายๆ คน
อ่านแล้วก็คิดคล้ายๆ กันนะคะสำหรับส่วนเริ่มต้น
ของการอ่าน .. มันมีที่มาที่ไป .. และของพี่
มันก็เริ่มด้วยเรื่องและประเภทที่ชอบอ่านแหละ
ตอนนี้ก็ยังคงชอบเหมือนเคย .. .

สมัยก่อนตอนเป็นเด็กๆ เน๊าะ อ่านหนังสือแล้วหัวเราะ
ร้องไห้เป็นเรื่องแปลก พี่เห็นแม่อ่านหนังสือสกุลไทย
เมื่อก่อนนี้แล้วเค้ามีหัวเราะเราก็ขำ ยังถามว่า
แม่อ่านหนังสือแล้วหัวเราะทำไม มันขยับไม่ได้
เหมือนในทีวีสักหน่อย แม่บอกว่าก็สนุก บอกไปแล้ว
อาจจะไม่เชื่อแต่ว่าถ้าเราได้ลองอ่านแล้วจะรู้
นี่ล่ะคะ ... เป็นอะไรที่ยังจำได้อยู่เลย


โดย: JewNid วันที่: 18 มีนาคม 2552 เวลา:19:24:40 น.  

 
ต้นส้มแสนรัก นี่นัทอยากอ่านมานานแล้วค่ะแต่หาซื้อไม่ได้ซักกะที have a nice day นะคะ


โดย: NLN วันที่: 19 มีนาคม 2552 เวลา:0:17:43 น.  

 
เล่มแรกที่อ่านก็เศร้าเลยหรือครับ ร้องไห้ตามได้แต่อย่าเศร้าจริงจังนะครับ
เดี๋ยวเหงาหงอยขึ้นไปใหญ่

ยินดีด้วยนะครับกับอาการของน้องคอมที่หายขาดดีแล้ว
กล้องของผมก็หายดีเหมือนกัน

ไว้จะแวะมาอ่านอีกนะครับ


โดย: คว้าฟ้า วันที่: 22 มีนาคม 2552 เวลา:13:03:26 น.  

 
เรื่องนี้เป็นเรื่องที่ชอบชื่อเรื่อง ชอบปก ชอบอะไรหลายๆ อย่าง
แต่ไม่เคยหยิบมาอ่านเลยค่ะคุณปอย
เพราะกลัวจะต้องร้องไห้น่ะ T^T ปุ๊กเซ้นสิทีฟกับอะไรพวกนี้
บางทีเลยป๊อดๆที่จะอ่าน ไม่อยากซึมๆ เศร้าๆ
ครั้งแรกที่อ่านหนังสือแล้วร้องไห้ก็ตอนได้อ่านแบล็คบิวตี้
อายุประมาณ 11-12 เหมือนกันค่ะ เศร้ามากๆ
แต่ก็สนุกมากด้วยเหมือนกัน เป็นครั้งแรกเลยที่อ่านหนังสือได้เยอะขนาดนั้น
เพราะปกติอ่านแต่มานะกะมานี แฮ่ๆๆ

อีกเรื่องที่ร้องให้ก็แมงมุมเพื่อนรักน่ะค่ะ
มันอบอุ่นแต่มันก็เศร้าลึกๆ การลาจากนี่แย่จังเลยเนอะ


โดย: Hobbit วันที่: 2 เมษายน 2552 เวลา:10:50:52 น.  

ชื่อ :
Comment :
  *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 

นางสาวดุ่บดั่บ
Location :
Vichy France

[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 20 คน [?]




\\\ดุ่บดั่บๆ///
ดุ่บดั่บ คือ การเคลื่อนตัวของหนอน
หนอนตัวน้อย ๆ ที่สามารถไปไหนก็ได้ตามใจต้องการ
ฉันเองก็อยากเป็นหนอนตัวน้อย
จะได้ทำอะไรก็ได้ และไปที่ไหนก็ได้ตามที่ใจฉันฝัน
...ดุ่บดั่บ ๆ ๆ...





>>>คลิก ๆ...สารบัญและสมุดเยี่ยมค่ะ<<<




อ่านบลอคเก่า ๆ ก็ได้นะ

<<การปรับตัว-Acclimatisation>>
::สวนสาธารณะวันหม่น::
ภาพ: ดอกมูเก้
โดยสวัสดิภาพ-Bon Voyage(2)
โดยสวัสดิภาพ-Bon Voyage(1)



















Status: ขาวดำ



Group Blog
 
 
มีนาคม 2552
1234567
891011121314
15161718192021
22232425262728
293031 
 
16 มีนาคม 2552
 
All Blogs
 
Friends' blogs
[Add นางสาวดุ่บดั่บ's blog to your web]
Links
 

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.