'*^-+...ไม่มีอะไรงดงาม เท่าความสงบสุข...+-^*'

ตกผลึกทาง 'ความลับ'

คำเตือน: ความเรียงต่อไปนี้ เป็นส่วนหนึ่งของสิ่งที่ผู้เขียนได้รับจากการอ่านหนังสือ The Secret
เป็นความคิดเห็นของผู้เขียนล้วน ๆ...ค่อนข้างเหมาะสำหรับผู้ที่เคยอ่านหนังสือเล่มนี้มาแล้ว เพราะว่าค่อนข้างสปอยล์หนังสือพอสมควรค่ะ
ขอบคุณสำหรับการติดตาม


บลอคเก่า รีวิวหนังสือ The Secret (คลิกได้!)





ในโลกอันสับสน ในสังคมอันกว้างใหญ่ โลกที่เทคโนโลยีก้าวไกล และผู้คนนับถือตัวเองเป็นหลัก...คนจำนวนมากมายไม่สนใจคำบอกเล่า คำสั่งสอนและความเชื่อที่ถูกปลูกฝังกันมาแต่ในอดีต พยายามสลัดตัวเองและความคิดในหัว ให้ห่างไกลจากสิ่งโบร่ำโบราณโดยหาว่าคร่ำครึและล้าสมัย ไม่ใช่น้อยที่ประกาศตัวเองว่า ‘non-religion’ หรือว่าเป็นคน ‘ไร้ศาสนา’

แต่ความเปราะบางและอ่อนแอภายในจิตใจมนุษย์ ทำให้เบื้องลึกแล้ว ทุกคนต่างก็ยังคงแสวงหาอะไรบางอย่างเพื่อยึดเกาะ ยึดเหนี่ยว และเป็นที่พึ่งทางจิตใจให้ตัวเองอยู่ดี บางคนอาจแสวงหาความร่ำรวย ชื่อเสียง เกียรติยศ การยอมรับเพื่อให้เป็นที่นับหน้าถือตาในวงสังคม บางคนอาจแสวงหาเพียงใครสักคนมาอยู่เคียงข้าง เพื่อเติมเต็มให้จิตใจอบอุ่นและรู้สึกว่าไม่ได้โดดเดี่ยวคนเดียวบนโลกนี้

The Secret หนังสือแนวจิตวิทยา / self help หรือว่าแนวลึกลับเปิดเผยความจริง...อะไรก็ตามสุดแล้วแต่คนอ่านจะตีความและเรียกชื่อมัน...หนังสือเล่มนี้ออกตีตลาดและสร้างปรากฏการณ์สั่นสะเทือนคลื่นความถี่บนโลกให้กระเพื่อม เนื่องจากหนังสือกล่าวถึงการเปิดเผยความลับบนโลกซึ่งนำไปสู่ความสำเร็จ ความสุข ความรักหรืออะไรก็ตามที่ปุถุชนพึงปรารถนาไว้ในครอบครอง






………………………………………..



‘ความลับ’ ที่ว่า...ฉันแยกแยะออกมาเป็นหลักใหญ่ ๆ ได้หลายหลักด้วยกัน ซึ่งบางหลัก ฉันก็ค่อนข้างจะต่อต้านและไม่เห็นด้วย แต่บางหลักฉันกลับพยักหน้าหงึกหงักและอือออตามอย่างไม่ลังเล


-1-
“ความปรารถนาของท่าน คือ งานของข้า” (Your wish is my command.)
‘ความลับ’ บอกว่า ไม่ว่าอะไรก็ตามที่คุณต้องการ เพียงแค่ ‘ขอ’ กับจักรวาลเท่านั้น เพราะจักรวาลนี้เป็นเหมือนแคตตาลอคที่มีสินค้าอย่างไม่จำกัด ไม่ว่าอยากจะได้อะไร ก็แค่เพียงเปิดแคตตาลอคและขอ...สิ่งนั้นก็จะเป็นของคุณ ไม่ว่าจะบ้าน รถ เงิน หรือคู่แท้ ขอเพียงแค่เชื่อและมุ่งมั่น พร้อมทั้งสำนึกรู้คุณไปด้วย สิ่งนั้นก็จะถูกส่งให้ถึงที่ทันที พร้อมทั้งหนังสือยังยกตัวอย่างผู้ปฏิบัติมากมายและเกิดผลอย่างที่ขอ

เมื่อแรกอ่าน ฉันแอบเยาะในใจ ว่ามันคือการสอนให้คนงมงายโดยแท้...นอกจากนั้นยังเอาบ้าน รถ เงิน คนรักซึ่งเป็นสิ่งที่คนยุคใหม่ต่างแสวงหามาเป็นตัวล่อให้คนละโมบโลภมากและเพิ่มพูนความอยากในจิตใจ...แต่เมื่อได้พูดคุยกับผู้อ่านบางคนและวิเคราะห์ตามเหตุตามผลแล้วนั้น ฉันก็รู้ว่า จริง ๆ หลัก ‘ความลับ’ ที่ว่านี้ มันลึกซึ้งกว่านั้นหน่อย

ฉันว่า การสอนให้คนมุ่งมั่นและจดจ่อกับอะไรบางอย่างอยู่เพียงอย่างเดียว มันก็สัมพันธ์กับการที่เราตั้งเป้าหมายชีวิต...เมื่อเรามีเป้าหมายอะไรบางอย่าง และแน่วแน่กับมันอย่างจริงจัง เราก็จะพยายามทำทุกวิถีทางเพื่อให้สิ่งนั้นเป็นผลและได้มันมาในที่สุด สุดท้ายมันก็เกิดจากน้ำมือเราแท้ ๆ นั่นเอง และเมื่อประกอบกับจิตสำนึกรู้คุณตามหนังสือบอก ระดับจิตใจเราก็จะถูกยกขึ้นด้วยเหมือนกัน และการที่เราได้มา ก็จะทำให้รู้สึกว่า ‘โลกนี้ช่างน่าอยู่เสียนี้กระไร’ อันเป็นความคิดที่ทำให้จิตใจเบิกบาน เปิดกว้าง และนำไปสู่อะไรดี ๆ ข้างหน้า

และถึงวันนึงที่ใจเราสูงและกว้างพอ บ้าน รถ หรือเงินทองที่เราเฝ้าขอ
ก็อาจจะไม่จำเป็นอีกต่อไป ในเมื่อเรามีความสุขได้กับสิ่งที่เรามี เราเป็น
กับสำนึกรู้คุณที่เราเฝ้าขอบคุณทุกวี่วัน


แต่ถ้าผู้อ่านรับไปปฏิบัติอย่างงมงาย มัวแต่นั่งรอโชคชะตาและร่ำร้องหาเงินทอง เกียรติยศ ชื่อเสียง บ้าน รถโดยไม่ลืมหูลืมตา งมงายและไม่คิดจะลงมือทำอะไรเป็นชิ้นเป็นอันจากสิ่งที่พร่ำขอ...ฉันเองก็ไม่เชื่อเหมือนกัน ว่าสิ่งที่ขอ จะกลายเป็นความจริงให้สัมผัสได้








-2-
“หัวใจของกฎนี้ ก็คือ คุณต้องนึกถึงความสมบูรณ์พรั่งพร้อม มองเห็นความสมบูรณ์พรั่งพร้อม รู้สึกถึงความสมบูรณ์พรั่งพร้อม และเชื่อในความสมบูรณ์พรั่งพร้อม อย่ายอมให้ความคิดเรื่องความจำกัดอัตคัดโผล่เข้ามาในใจคุณเป็นอันขาด”

“คุณยิ่งพูดถึงสิ่งที่คุณไม่ต้องการ หรือพูดถึงข้อแย่ของสิ่งนั้น หรืออ่านข้อมูลเกี่ยวกับสิ่งนั้นตลอดเวลา แล้วพูดว่าสิ่งนั้นเลวร้ายขนาดไหน คุณก็ยิ่งกำลังสร้างสิ่งนั้นเพิ่มขึ้นอีก”


ฉันชอบที่ ‘ความลับ’ บอกว่า ให้เราคิดถึงแต่เรื่องดี ๆ มองโลกในแง่บวกและสิ่งดี ๆ จะเข้ามาหาเราเอง เพราะเราเป็นคนดึงดูดเข้ามา แต่ว่าถ้าเราคิดถึงแต่เรื่องแย่ ๆ โลกนี้โหดร้าย สิ่งต่าง ๆ ก็จะเป็นไปตามที่เราคิด หรือว่า You become what you think.

หลักนี้ไม่ใช่เรื่องใหม่...แต่ได้ถูกพร่ำสอนกันมานมนาน เพียงแต่คำสอนก็เป็นเพียงลมผ่านมาและผ่านไป ไม่ได้ถูกใส่ใจให้ปฏิบัติจริงจังสักเท่าไหร่...ฉันเองก็เช่นกัน รับรู้ก็แค่เพียงผ่าน ๆ แต่หลังจากอ่านหนังสือเล่มนี้ ด้วยอะไรบางอย่างตอกย้ำฉันว่า ‘ฉันมีความสุขได้ ณ วันนี้’ เพียงแค่คิดแต่เรื่องดี ๆ และคิดว่าตัวเองมีความสุข...น่าประหลาดที่ฉันก็เคยพูดกับตัวเองมาก่อน แต่วันนี้ฉันรู้สึกมีความสุขได้จริง ๆ อย่างที่ต้องการ

แต่ถึงอย่างนั้น ฉันก็ไม่ใช่คนประเภทอ่านหนังสือ self help แล้วเชื่องมงาย บูชาและทำตามอย่างหัวปักหัวปำทีเดียว จึงอดตั้งคำถามกับทฤษฎีตามหนังสือขึ้นมาไม่ได้
...แล้วถ้า "ความลับ" คือ การได้มาซึ่งทุกสิ่งทุกอย่างอย่างที่ใจคิด หากทุกคนใช้ความลับในการดำเนินชีวิต คนทุกคนก็จะมีแต่ "ได้กับได้" อย่างนั้นหรือ?

แล้วที่ว่า "ได้อย่างก็ต้องเสียอย่าง" หรือว่า "มีขึ้นก็ต้องมีลง" ล่ะ? หายไปไหน???
“น้ำตา…จะมีไว้ทำไมถ้าคนทั้งโลกมีความสุขตลอดเวลา”
แล้วที่บอกว่า ชีวิตมีความสุขก็ต้องมีความเศร้า...ถ้าทุกคนหันมาใช้ ‘ความลับ’ ในการดำเนินชีวิตทั้งหมด
โลกนี้จะไม่มีความเศร้า ความหม่นหมองอีกต่อไปแล้วหรือ?????







.......................................................


แต่สุดท้ายแล้ว ฉันก็ไม่เชื่อว่าจะมีอะไรมาเปลี่ยนแปลงชีวิตเราได้ ถ้าเราไม่เริ่มลงมือทำด้วยตัวเอง ถ้าไม่นำความคิดที่คนกลุ่มหนึ่งเผยแพร่และมาทำตามอย่างถูกวิธี ประยุกต์ใช้อย่างรู้คุณค่า ความคิดที่ว่าก็ไม่มีอะไรผิด แต่ไม่ใช่นำ ‘ความลับ’ มานับถืองมงายและใช้อย่างผิดวิธี อย่างนี้ก็จะไม่ต่างอะไรกับการดำเนินคำสอนของศาสนาแต่ละศาสนาอย่างผิด ๆ เลยสักนิด และสุดท้ายก็จะนำมาซึ่งความผิดหวังและหมดศรัทธากับอะไรต่อมิอะไรตามไปด้วย

ฉันอยากจะยกให้ The Secret เป็นเหมือน “ลัทธิ” ใหม่ลัทธิหนึ่งบนโลกนี้ไปเลยทีเดียวก็ว่าได้ เนื่องจากมีสาวกอยู่ทั่วโลกที่มีความเชื่อและจุดยึดโยงเดียวกัน คือ กฎแห่งการดึงดูด ฉันเชื่อว่า...มันคือวิธีการอีกวิธีการของคนกลุ่มหนึ่งในการปลุกความหวังของผู้คนทั่วทั้งโลก...ผู้คนที่ ต่างแสวงหาที่พึ่งพิงพักทางใจ ด้วยความรู้สึกขาดที่ต้องการการเติมเต็มและตอบสนอง ดังนั้น The Secret...จึงเป็นเหมือนลัทธิทางเลือกใหม่ ที่นำเสนอข้อมูลกระแทกใจจัง ๆ สำหรับกลุ่มผู้คนเหล่านั้นที่กำลังแสวงหาอะไรบางอย่างอยู่

เป็นความหวังใหม่สำหรับผู้หมดหวังกับชีวิต
เป็นคำตอบสำหรับคำถามที่ผู้คนชอบเหวี่ยงขว้างคำถามว่าทำไมชีวิตตัวเองไร้ค่า
เป็นแรงบันดาลใจให้ผู้เฝ้ารอการเกิดขึ้นของปาฏิหาริย์กับตัวเอง
เป็นหลายสิ่งหลายอย่างที่ตอบคำถามคนยุคใหม่ได้อย่างลงตัว



หลังจากที่อ่านหนังสือจนจบ ดูหนังครบทุกนาทีและตกผลึกทางความคิดจนสมบูรณ์...บทสรุปจากหนังสือของฉันก็มีอยู่ง่าย ๆ เพียงแค่ว่า... ความเชื่อทุกอย่าง...ไม่มีผิดไม่มีถูก อยู่ที่ใครจะเลือกเชื่ออะไรให้กับตัวเอง...ตราบใดที่เชื่ออะไรแล้ว นำสิ่งดี ๆ และความสุขมายังตัวเองก็เพียงพอ


*ขอบคุณภาพจากเวบ thesecret.tv

*ขอบคุณพี่แป๋งเจ้าของหนังสือด้วยค่ะ







เวบลิ้งค์ที่เกี่ยวข้อง

กระทู้พันธุ์ทิพย์เกี่ยวกับ The Seret

เวบ The Secret

ดูหนังเรื่อง The Secret





Create Date : 06 มีนาคม 2551
Last Update : 11 มีนาคม 2551 0:14:50 น. 16 comments
Counter : 779 Pageviews.

 
สวัสดีค่ะ มาทักทายและเยี่ยมเยียนค่ะ

ขอบคุณที่ไปอ่านข้อมูลที่บล๊อกนะคะ


โดย: kai (aitai ) วันที่: 11 มีนาคม 2551 เวลา:0:23:23 น.  

 


เหมือนกับที่เราทำอยู่ทุกวันนี้ว่า
อยากทำอะไรก็ทำไปเห๊อะแต่อย่าทำให้คนอื่นเดือดร้อน
หลับฝันดีเน๊าะ
ว่าแล้วก็ชวนไปทำบุญโครงการ 3 ห้องสมุดเพื่อน้อง
ที่โรงเรียนบ้านหนองชุมแสง
ตำบลวังชะพลู อำเภอขาณุวรลักษบุรี จังหวัดกำแพงเพชร


โดย: อุ้มสี วันที่: 11 มีนาคม 2551 เวลา:0:36:59 น.  

 
สวัสดีครับน้องปอย

พี่ก๋าอัพบล็อกเดียวกลายเป็นเรื่องผิดปกติไปแล้ว 5555
แถมมีพี่ๆถามด้วยว่า
ไม่สบายรึเปล่า งานยุ่งใช่มั้ย ถึงอัพบล้อกเดียว 55555


พอดีเพลงหมดน่ะครับ
พี่ก๋าเลยกำลังนึกอยู่ว่าจะอัพอะไรตอนเย็นดี

ถ้าลงรูปหรือเรื่องที่ต้องคิด
สงสัยจะทำให้คนอ่านนอนไม่หลับได้ 55555

เลยยังคิดอยู่ว่าจะเอาภาพวาด หรือเอาภาพถ่าย
หรือเอาบทกวีมาลงดี

น้องปอยอยากดูอะไรล่ะ
เดี๋ยวพี่จัดให้ล่ะกัน 5555

ช่วงตามใจผู้อ่าน 5555



โดย: ก.วรกะปัญญา (กะว่าก๋า ) วันที่: 11 มีนาคม 2551 เวลา:7:43:51 น.  

 
(ดุ่บดั่บ กำลังอยู่ในห้วงแห่งความอึมครึม)

^
^
^


วันนี้น้องปอยอยู่ในรั้วรอบของชิดซะด้วย

อยู่ใน (....นางสาวดุ่บดั่บ.....)



เพราะฉะนั้นก่อนอื่นต้องออกมาจากความอึมครึม
และกรอบที่ขังเราไว้ก่อนครับ


....นางสาวดุ่บดั่บ......



ยังไม่พอ

ต้องพาเจ้าความสงสัย ความลังเลออกไปด้วย
เจ้าตัวนี้คือความลังเลครับ .....



นางสาวดุ่บดั่บ

^
^

ตอนนี้ดีขึ้นแล้ว
ยิ้มซะนิด




ฮาไปเลยดีกว่า



หรือแบบนี้จะฮากว่า





อา.....พี่ก๋าพาน้องปอยบ้าไปแล้ว 555555



มีเรื่องอะไรที่ทุกข์ ขอให้ทุกข์กับมันมากๆ
ทุกข์ให้ถึงที่สุด
แล้วบอกตัวเองว่า ถ้าฉันทุกข์อีก 10 นาที
10 นาทีในวันนี้มันจะเป็น 10 นาทีที่ไร้ค่าและทำร้ายตัวเองมากๆ
และฉันจะยอมมันแค่ 10 นาทีนี้เท่านั้น

ต่อจากนี้ฉันจะมีความสุขกับชีวิตฉันซะที




สู้ๆๆๆครับน้องปอย
อย่าปล่อยให้ความทุกข์ครอบงำอารมณ์




โดย: หล่อกว่าเบยองจุน (กะว่าก๋า ) วันที่: 11 มีนาคม 2551 เวลา:7:54:55 น.  

 
รูปวาดนี่ไม่ขัดศรัทธาเลยครับ
เดี๋ยวจัดให้ครับ อิอิอิ

ดูพู่กันเดียวล่ะกันเนาะ


................


ส่วนเรื่องเพลง
พี่ก่าไม่มีเวลาไปห้องอัดเสียงเลยครับ
พี่ก๋าอยากอัดเองที่บ้านนะครับ
ถ้าทำได้คงสะดวกดี
จะร้องเพลงตามคำขอทุกเพลงเลย
ตอนนี้เพื่อนๆขอไว้ 10 เพลงได้แล้วมั้งครับ
พี่ก๋าจำได้น้องปอยขอ "เดือนเพ็ญ" ไว้ด้วยอีกเพลง 5555



โดย: ก. วรกะปัญญา (กะว่าก๋า ) วันที่: 11 มีนาคม 2551 เวลา:8:09:27 น.  

 
วันนี้อดีว่างจัดอ่ะจ้ะ เข้าเน็ตได้ไม่หลุด
เลยได้เล่นอะไรกับภาพไปเรื่อยๆ ... เลยลองทำ
แบบโปรแกรมสำเร็จรูป พี่ว่ามันก็ดีเหมือนกันนะ
ทำแล้วเพลินดี เลยเปลี่ยนหัวบล็อกเล่นไปเรื่อยๆ
ตอนนี้ เวปฝากรูปมัน down ก็เลยเอาว่า
เราเลิกทำชั่วคราวมาตอบบล็อกก่อนดีกว่า 55+


โดย: JewNid วันที่: 11 มีนาคม 2551 เวลา:8:29:54 น.  

 
หวาดดีค้าบบบบบบบบ


โดย: อืม...ครับ เชิญตามสบาย วันที่: 11 มีนาคม 2551 เวลา:12:48:44 น.  

 
You are what you eat เอ๊ย!! ไม่ใช่ค่ะ
You are what you think..ขอบสำนวนเขาจัง

เป็นคนไม่ค่อยอ่านหนังสือค่ะ
ได้มาอ่านเรื่องย่อ(หลอกให้อ่านต่อไป) อิอิ

ก็มีประโยขน์กับเรามากเลยค่ะ
ได้บุญหลายนะคะเนี่ยะ..Miss Tob Tub..


zwani.com myspace graphic comments
Myspace Hello Comments & Graphics


โดย: เริงฤดีนะ วันที่: 11 มีนาคม 2551 เวลา:14:15:57 น.  

 
ยินดีต้อนรับกลับบล็อกค่ะ
แวะมาทักทายกัน....ไว้ก่อน
ทำอาหารเช้า...ให้นางฟ้าน้อยก่อน
เดี๋ยวมานะคะ...คุณปอย

ขอบคุณที่นึกถึง
ขอบคุณสำหรับ"น้ำ"ที่ไปเติมให้กัน
ส่วนคำว่า"ดาวดวงเดิมเกินเอื้อมถึง"
เรามาอยู่นี่...เรารู้ว่าเพื่อนไม่ได้หายไปไหน
แต่ด้วยภาระหน้าที่....ระยะทางความห่างไกล
มันยากจัง....ที่จะติดต่อกันอย่างที่เคยเป็น

แฮปปี้ เดย์ค่ะ...



โดย: nikanda วันที่: 11 มีนาคม 2551 เวลา:15:28:20 น.  

 
สวัสดีค่ะ
มาอ่านอีกครั้งยังรู้สึกดีเหมือนเดิมอ่านรอบที่สามแล้วละ
คิดถึงนัค่ะ


โดย: มุกสีทอง วันที่: 11 มีนาคม 2551 เวลา:15:51:30 น.  

 
แวะมาอ่านเหมือนกันครับ


โดย: หนูหล่อ IP: 124.121.212.197 วันที่: 11 มีนาคม 2551 เวลา:18:00:52 น.  

 
สวัสดีครับน้องปอย

วันนี้มาดามไปงานเลี้ยงที่บริษัท
พี่ก๋าเลยออกกำลังกายคนเดียว
เสร็จแล้วก็มานั่งตอบคำถามของเพื่อนบล็อกที่ถามไว้

พรุ่งนี้เป็นการ์ตูนครับ

การ์ตูนพี่ก๋าไม่ค่อยเนี๊ยบ
เพราะไม่มีเวลาวาดีดีหรอกครับ
ต้องทำงานทั้งวันเลยครับ

แต่ก็สนุกดี
ได้จับปากกาวาดรูปบ้าง รู้สึกดีครับ

ฝันดีครับน้องปอย
พี่ก๋าคงนั่งแต่งรูปไปเรื่อยๆครับ




โดย: ก๋า เก็กเสียง (กะว่าก๋า ) วันที่: 11 มีนาคม 2551 เวลา:20:25:30 น.  

 
เป็นการสรุปที่ดีมากๆ เอาไว้ถ้าชั้นอ่านจบเมื่อไหร่ ก็ว่าจะเขียนลงบนบล๊อกเหมือนกัน แล้วจะชวนไปให้แวะอ่านดูอีกทีเน่อ


โดย: ใครช่วยเอาปืนมายิงกรูที IP: 124.120.65.35 วันที่: 15 มีนาคม 2551 เวลา:1:57:31 น.  

 
ก่อนอื่น อยากจะบอกว่าขอบคุณมาก และดีใจมากเลยค่ะที่คุณอ่านข้อความของเราและคอมเมนท์ทุกหน้า

เราตามมาขอบคุณและก็สะดุดกับบทความในหน้านี้
เพราะกำลังอ่านหนังสือเล่มนี้อยู่เหมือนกัน
ความคิดเห็นไปในทิศทางเดียวกับคุณเลย
จึงอ่านเนื้อหาในเล่มไปอย่างช้าๆ ค่อยๆคลายความขัดแย้งในใจ
สุดท้าย ณ ตอนนี้ก็ได้รับสาร์นจากหนังสือคล้ายๆกันกับคุณ (แต่ยังอ่านไม่จบนะคะ)

อยากตอบคำถามนี้ค่ะ

"ถ้าทุกคนหันมาใช้ ‘ความลับ’ ในการดำเนินชีวิตทั้งหมด
โลกนี้จะไม่มีความเศร้า ความหม่นหมองอีกต่อไปแล้วหรือ?????"

คำตอบ เราเอามาจากกฎแห่งแรงดึงดูดที่หนังสือแจงความลับออกมานั่นแหละค่ะ
ที่บอกว่า
เราจะดึงดูดทุกอย่างในความคิดของคนเราไม่ว่าเรื่องดีหรือไม่ดี
ดังนั้น เราเชื่อเป็นอย่างยิ่งว่า ไม่ว่าจะยังไงคนเราไม่มีทางคิดแต่เรื่องดีได้อย่างเดียว
คนเรายังเป็นแค่มนุษย์ธรรมดา เกิดมาพร้อมกับกิเลส และเต็มไปด้วยอารมณ์ที่ซับซ้อน
ต่อให้พยายามคิดแต่เรื่องดีเท่าไหร่ เราไม่มีทางกำจัด ความเห็นแก่ตัว ความกลัว ความระแวงสงสัย ความท้อแท้ ความอิจฉา ความเบื่อ และอีกมากความที่เป็นความคิดในเชิงลบออกไปได้หมด และความรู้สึกนี้มันก็ส่งคลื่นไป แล้วก็ย้อนกลับมาตามกฎแรงดึงดูดอันเดิม

บวกกับการใช้ชีวิตในโลกแห่งความจริง ยังมีปัจจัยมากมายที่ทำให้เราต้องพบกับความคิดด้านลบ เช่น ความเจ็บป่วย ความตายของคนรอบข้าง ความสูญเสียจากภัยธรรมชาติ การกระทบกระทั่งกับคนในสังคม และอีกมากมาย


หนังสืออาจจะบอกความลับให้เรามีความสุขขึ้น และทุกข์น้อยลง
เพราะได้มีโอกาสทำความรู้จักวิธีลดความทุกข์
แต่ไม่ว่าจะพยายามยังไง...
เราสลัดความทุกข์ออกไปจากชีวิตจนหมดไม่ได้แน่นอน
ลึกๆแล้ว เราคิดว่าความทุกข์เป็นสาเหตุทำให้คนเราอยากมีความสุข
ถ้าเราไม่เคยมีความทุกข์
แล้วเราจะรู้ได้ยังไงว่าสิ่่งที่เรากำลังขอกับจักรวาล มันจะเ็ป็้นสิ่งที่มีความสุข


ยินดีที่ได้รู้จักค่ะ


โดย: NanCy_T วันที่: 31 มีนาคม 2551 เวลา:12:27:33 น.  

 
อ่านเม้นบล็อกนู้นแล้วมาเม้นในนี้ งง ๆ ค่ะ

ขอบคุณที่เตือนใจกันเรื่อง สติ นะคะ
อ้อนเห็นด้วยเป็นอย่างยิ่ง
ตั้งใจอยากเป็นอะไร อยากให้เกิดอะไรขึ้น
แค่คิดคงไม่ได้ ต้อง เชื่อ และ เชื่อ อย่างมีสติด้วย

แค่คิดก็ยากแล้วเนอะ แต่ว่าถึงจะยากแต่ก็ทำได้นะคะ
สู้ๆ ค่ะ เราสองคน ขอให้ความสุขจงมีแก่ดุ่บดั่บ
และ ทุกคนบนโลกใบนี้ (แน่นอนรวมทั้งอ้อนด้วยค่า อิอิ)


โดย: BeCoffee วันที่: 28 มิถุนายน 2551 เวลา:23:26:42 น.  

 
เนเธงเธฐเธกเธฒเธญเนˆเธฒเธ™เธ„เธฃเธฑเธš
เธชเธฃเธธเธ›เน„เธ”เน‰เธ”เธตเธˆเธฑเธ‡เธ„เธฃเธฑเธš เน€เธฃเธฒเธเน‡เธญเนˆเธฒเธ™เธซเธ™เธฑเธ‡เธชเธทเธญเน€เธฅเนˆเธกเธ™เธตเน‰เน€เธซเธกเธทเธญเธ™เธเธฑเธ™ เธŠเธญเธšเธกเธฒเธเน€เธฅเธข เธญเนˆเธฒเธ™เนเธฅเน‰เธงเธเน‡เน€เธญเธฒเธกเธฒเธ„เธดเธ”เน‚เธขเธ‡เธเธฑเธš เธจเธฒเธชเธ™เธฒเธžเธธเธ—เธ˜ เธžเธฃเธฐเธžเธธเธ—เธ˜เน€เธˆเน‰เธฒเธ•เธฃเธฑเธชเน„เธงเน‰เธงเนˆเธฒ เน€เธˆเธ•เธ™เธฒเธ„เธทเธญเธเธฃเธฃเธก เธเธฒเธฃเธเธฐเธ—เธณเน„เธ”เน†เธฅเน‰เธงเธ™เธกเธฒเธˆเธฒเธเธ„เธงเธฒเธกเธ„เธดเธ” เธˆเธดเธ•เน€เธ›เน‡เธ™เธ™เธฒเธข เธเธฒเธขเน€เธ›เน‡เธ™เธšเนˆเธฒเธง เธ„เธดเธ”เนเธฅเน‰เธงเธˆเธถเธ‡เธ—เธณเน„เธ”เน‰ เน€เธžเธฃเธฒเธฐเธ‰เธฐเธ™เธฑเน‰เธ™ เธ„เธดเธ”เธ”เธต เธžเธนเธ”เธ”เธต เธ—เธณเธ”เธต เธชเธดเนˆเธ‡เธ”เธตเน†เธเน‡เธˆเธฐเน€เธเธดเธ”เธ‚เธถเน‰เธ™ เน€เธซเน‡เธ™เธ”เน‰เธงเธขเธญเธขเนˆเธฒเธ‡เธขเธดเนˆเธ‡เธ„เธฃเธฑเธš


โดย: git111.blogspot.com IP: 222.123.88.221 วันที่: 2 ตุลาคม 2551 เวลา:15:29:22 น.  

ชื่อ :
Comment :
  *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 

นางสาวดุ่บดั่บ
Location :
Vichy France

[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 20 คน [?]




\\\ดุ่บดั่บๆ///
ดุ่บดั่บ คือ การเคลื่อนตัวของหนอน
หนอนตัวน้อย ๆ ที่สามารถไปไหนก็ได้ตามใจต้องการ
ฉันเองก็อยากเป็นหนอนตัวน้อย
จะได้ทำอะไรก็ได้ และไปที่ไหนก็ได้ตามที่ใจฉันฝัน
...ดุ่บดั่บ ๆ ๆ...





>>>คลิก ๆ...สารบัญและสมุดเยี่ยมค่ะ<<<




อ่านบลอคเก่า ๆ ก็ได้นะ

<<การปรับตัว-Acclimatisation>>
::สวนสาธารณะวันหม่น::
ภาพ: ดอกมูเก้
โดยสวัสดิภาพ-Bon Voyage(2)
โดยสวัสดิภาพ-Bon Voyage(1)



















Status: ขาวดำ



Group Blog
 
<<
มีนาคม 2551
 1
2345678
9101112131415
16171819202122
23242526272829
3031 
 
6 มีนาคม 2551
 
All Blogs
 
Friends' blogs
[Add นางสาวดุ่บดั่บ's blog to your web]
Links
 

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.