28 กค 53 เมืองแก่นท้าว ประเทศลาว
วันหยุดยาว ไปสำนักปฏฺบัติธรรมป่าหิมพานต์ ที่วังสะพุง จ.เลย ถ้ามีโอกาสตั้งใจไปดูความเป็นอยู่ ชาวเมืองลาวมีช่องทางให้เลือกสามทาง หนึ่งข้ามแม่น้ำโขงทางเรือที่เชียงคาน สองข้ามแม่น้ำโขงทางรถยนต์ที่หนองคาย เข้าลาวไปถึงเวียงจันทน์ สามข้ามแม่น้ำเหืองทางรถยนต์ที่ชายแดนอำเภอท่าลี่ จ.เลย เข้าเมืองแก่นท้าว ของลาว สรุปว่า เลือกทางที่สามเพราะระยะทางใกล้ที่สุดค่ะ แต่เช้าหลังจังหันแล้ว ออกจากสำนัก ขับรถมาตามทางวังสะพุง มุ่งหน้าสู่ภูเรือ
บรรยากาศ ยามเช้าสองข้างทาง วังสะพุง- ภูเรือ หลังคืนฝนตกหนัก มีหมอกทั่วไป ตลอดสองข้างทางมีภูเขาสูงสลับเนินเขา คล้ายสวิสเซอร์แลนด์ แต่สวยงามน่าอยู่มีชีวิตชีวาและมีเสน่ห์มากกว่า ชาวบ้านปลูกข้าว สลับกับสวนยาง อากาศเย็นสบาย 23 องศาเซลเซียส
ก่อนถึงอำเภอภูเรือ เลี้ยวขวา ขับไปตามป้ายบอกทาง มุ่งไปสะพานมิตรภาพน้ำเหืองไทย-ลาว ค่ะ
มาถึงอาคาร ตม.ของไทย วันหยุดยาวมีคนมากเป็นพิเศษ คนไทยมาที่นี่เพื่อข้ามไปซื้อสินค้าเลียนแบบที่ริมชายแดนฝั่งลาว มีกระเป๋าแบรนด์เนม และโทรศัพท์มือถือรุ่นที่คนนิยมใช้ วันนี้โทรศัพท์ผลไม้รุ่นใหม่ขายหมดเกลี้ยง เฉพาะกองขยะกระดาษที่ห่อกระเป๋าแบรนด์เนมแต่ละร้าน มีประมาณหนึ่งถึงสองกระสอบ มาครั้งนี้ครั้งที่สอง สังเกตว่าสินค้าที่นี่หมุนเวียนเร็ว สินค้ารุ่นเก่าไม่มีเหลือเป็นวัสดุและรูปแบบใหม่ทั้งหมด ราคาถูกมากๆ ถ้าในเมืองไทยขาย 500 ที่นี่ราคาประมาณ 120 บาท
หลังจากทำเอกสารผ่านแดน หรือใช้พาสปอร์ต นั่งรถสามล้อจากฝั่งไทย คนละ 10 บาท ข้ามแม่น้ำเหืองผ่านตม.ทั้งสองฝั่งขึ้นๆลงๆ รถสามล้ออยู่สี่ครั้ง เพื่อให้ตรวจสอบ ข้ามมายังฝั่งลาว เพื่อมาต่อรถนำเที่ยวฝั่งลาวไปเมืองแก่นท้าว อยู่ห่างชายแดน 7 กิโลเมตร ค่าบริการนำเที่ยวเมืองแก่นท้าวไปกลับ คนละ 150 บาทไม่จำกัดเวลา ดูแล้วคนลาว ซื่อกว่าคนไทย เราจะจ่ายเงินให้เมื่อมาส่งที่เดิมก็ยินดีบริการ ยิ้มแย้มดี ไม่กลัวเราหนีค่ะ
บนซ้าย อาคาร ตม.ของลาว สร้างได้สวยมีเอกลักษณ์ของลาว..ชอบ บนขวา ร้านอาหารข้างทาง ของฝั่งลาว เหมือนร้านอาหารของไทย ล่างซ้าย รถยนต์ฝั่งลาว มีหลากหลายรถกะบะเหมือนฝั่งไทย ที่ลาวรถยนต์ราคาถูกเพราะเสียภาษีเพียง 1% รถจักรยานยนต์ใหม่คันละสองหมื่นกว่าบาท ล่างขวา สภาพทุ่งนา สองข้างทาง โดยรวมเหมือนประเทศไทย แต่ยังเห็นควายอยู่หลายตัว ปัจจุบันคนไทยใช้รถไถนากันหมดค่ะ
บ้านพักบริเวณทุ่งนา เหมือนของคนไทย ความเป็นอยู่บ้านเรือนแยกกันไม่ออก แต่บ้านในประเทศลาว ส่วนใหญ่สร้างด้วยไม้กระดาน บ้านใหญ่เล็กตามฐานะเจ้าของบ้าน แต่มีไม้กระดานแผ่นให้ใช้มาก เพราะประเทศลาวยังมีป่าไม้อุดมสมบูรณ์
บรรยากาศในเมืองแก่นท้าว เป็นเมืองเล็กๆชายแดน ถ้าไม่ดูตัวหนังสือตามป้ายโฆษณา จะรู้สึกว่ายังอยู่ในประเทศไทยค่ะ คนไทยที่มาที่เมืองนี้ส่วนใหญ่เพื่อมาเที่ยวสถานบันเทิงคาราโอเกะสาวบริการ เนื่องจากราคาถูก เราจึงนึกย้อนไปได้ว่าเมื่อผ่านด่านตม.ถูกถามย้ำหลายครั้งและทำหน้าตาอมยิ่มว่าเราจะมาเที่ยวเมืองแก่นท้าว เพราะนอกจากนี้แล้วเมืองแก่นท้าว ไม่ได้มีจุดสนใจอะไรที่แตกต่างจากอำเภอในภาคอีสานของไทยเลย มีตลาดขายของขนาดเล็กอยู่ขอบหมู่บ้าน ภายในตลาดมีของจำเป็นสำหรับการครองชีพประจำวัน อาหาร และอุปกรณ์เกษตร มีบ้านชาวบ้าน ปลูกหนาแน่นริมขอบถนน เหมือนบ้านคนในภาคอีสาน
ภาพวัดแห่งเดียวในเมืองแก่นท้าว บรรยากาศวันอาสาฬหบูชา ชาวบ้านนุ่งผ้าซิ่น มารวมตัวกันที่บนศาลา แต่อุโบสถปิดประตูจึงไม่ได้เข้าไปดูภายใน ถนนภายในเมืองเป็นลูกรังอัดแน่น ไม่ราดยาง ขุรขระ นั่งรถกระเทือน ชาวบ้านส่วนใหญ่เดินทางด้วยเท้า ชาวบ้านไม่อดอยากขาดแคลนปัจจัยสี่ เพราะอุดมสมบูรณ์ ขาดแคลนแต่ธนบัตร เงินเดือนจนท.ตม เดือนละ 800 บาท แต่คนส่วนใหญ่มีจิตใจนิ่ง สงบสุขร่มเย็นภายใต้ศาสนาพุทธ ความร่ำรวยรวมตัวอยู่เฉพาะคน 10 % กลุ่มผู้บริหารประเทศ โครงการใหญ่ๆได้รับสัมปทานและรับเหมาในหมู่พรรคพวกตน บ้านของข้าราชการชั้นผู้ใหญ่แต่ละหลังสร้างด้วยไม้แผ่นใหญ่ ขนาดบ้านใหญ่โตมาก ผู้ได้ไปเห็นเล่าให้ฟังว่าบ้านขนาดนั้นน่าจะใช้ไม้เกือบหมดป่า ซึ่งถ้าทุกคนสร้างบ้านกันแบบนี้อีกหน่อยป่าไม้ในลาว ก็คงจะหมดเหมือนบ้านเราค่ะ
Create Date : 28 กรกฎาคม 2553 |
|
4 comments |
Last Update : 28 กรกฎาคม 2553 17:17:45 น. |
Counter : 7082 Pageviews. |
|
|
|