มหาสมุทรที่ยิ่งใหญ่ได้ เพราะอยู่ต่ำกว่าแม่น้ำทั้งหลาย.....................
Lonely @ ดอยวาวี








ช่วงสงกรานต์ทำแต่งานงกๆ
เพราะไม่อยากไปแย่งที่กินที่เที่ยวกะคนอื่น

กะว่าจะอดเปรี้ยวไว้กินหวาน
เที่ยวตอนหลังสงกรานต์เอาดีกว่า นัดหมายกับเพื่อนร่วมทริปเอาไว้ดิบดี
แต่เผอิญวันที่เราจะไปจริงๆ เค้าดันไม่ว่าง
ติดภาระกิจด่วนจี๋ไปรษณีย์จ๋า

ไอ้เราก็ถ้าไม่ไปช่วงนี้ ก็คงอีกนานเลยถึงจะได้ไป
เพราะเดือนหน้าต้องไปรับจ๊อบสั้นๆที่เกาะเต่าอีก

เลยตัดสินใจขับรถออกเดินทางไปคนเดียว

มันก็รู้สึกแหม่งๆอยู่บ้างน่ะ ที่ไปคนเดียวในวันนี้
(ปกติก็ไปคนเดียวบ่อยน่ะครับ แต่วันนี้มันรู้สึกแปลกๆยังไงก็ไม่รู้)








แต่คิดในอีกทางนึง
ก็คิดปลอบใจตัวเองเอาไว้ว่า
อย่างน้อยเราก็มีเวลาอยู่กะตัวเอง

ได้คิดทบทวนอะไรๆที่ผ่านมาในชีวิตของเรามากขึ้นน่ะ

เพราะที่ผ่านมาเราอาจยุ่งมาก
หลายสิ่งหลายอย่างผ่านเข้ามาในชีวิต
เราไม่ค่อยมีเวลาได้ทบทวนมันเอาซะเลย

ขอใช้ช่วงเวลานี้ที่อยู่คนเดียว ไปเที่ยวคนเดียวมันนี่แหละ
เพื่อทบทวนในสิ่งเหล่านั้น

แต่ไม่คิดไม่ฝันว่าการที่เรามีเวลากะตัวเองมากๆมันจะทำให้เราคิดมากจนเกินไปซะนี่









ขับรถไปเรื่อยๆ
ทริปนี้ตอนแรกกะว่าจะไม่เอารถไปด้วยซ้ำ

อยากจะเปลี่ยนรูปแบบการเที่ยวที่จำเจอย่างที่เคยทำมา

กะว่าจะแบกเป้ไปเรื่อยๆ
อาจนั่งรถโดยสารไป เหนื่อยไหนก็พักนั่น
ไม่ซีเรียสว่าต้องไปถึงที่หมายให้ทันเวลา

แต่เอาไปเอามาด้วยเวลาที่จำกัด
เลยต้องเอารถส่วนตัวไป
แต่ก็ยังคงคอนเซปต์เดิมคือ ไปมันเรื่อยๆ ขับช้าๆเอื่อยๆ
ไปถึงที่หมายกี่โมงก็แล้วแต่ ไม่สนใจ เพราะไม่ได้คาดหวังอะไรมาก

จุดหมายที่จะไปคือเข้าไปเชียงใหม่
แต่ผมขับรถไปด้วยความเร็วช้าๆ เจออะไรที่ไหนสวยๆ ก็จะจอดถ่ายรูปตลอด
หากว่าคนที่ไปด้วยเป็นคนเมารถ เค้าคงด่าผมเปิงไปแล้วหล่ะ
เพราะเดี๋ยวจอด เดี๋ยวหยุด









บางครั้งการเดินทางของเราไม่จำเป็นต้องเป็นเส้นตรง
พุ่งปรู๊ดไปหาจุดหมายปลายทางซะเสมอไป

ลองทำชีวิตตัวเองซิกแซกบ้าง
ออกนอกลู่นอกทางบ้าง

แต่ถ้าออกนอกทางไปแล้ว
ต้องหาทางกลับมาเส้นทางเดิมให้เจอ

....................

ตอนที่ผมขับรถไปเพื่อจะไปเชียงใหม่ในวันนี้นั้น
ผมต้องขับผ่านทางแยกเพื่อไปดอยช้างกับดอยวาวี

ความคิดนึงมันก็แว่บเข้ามาในสมองโดยทันที
"เรายังไม่เคยไปที่นี่มาก่อนเลยนี่นา...ลองเข้าไปดูหน่อย"

ว่าแล้วก็หักพวงมาลัยเลี้ยวเข้าไปโดยไม่มีข้อแม้กับตัวเอง









ระยะทางจากปากทางแยก แล้วเราจะไปดอยวาวีนั้น
อยู่ที่ประมาณหกสิบกิโลเมตร
ก็ไกลใช้ได้เหมือนกันน่ะครับ สำหรับการขับบนเขา
และเส้นทางคดเคี้ยวไปมาแบบนี้


แต่ผมอยากจะบอกว่า ถนนสายนี้น่าขับรถกินลมมาก
เพราะบรรยากาศมันดีจริงๆ
ยิ่งถ้ามาตอนบ่ายแก่ๆแบบตอนที่ผมมา แสงสีของธรรมชาติมันดูสวยงามจริงๆ








ผมขับรถไปเรื่อยๆ
ความเร็วไม่เกิน 60 กิโลเมตรต่อชั่วโมง

แถมยังไม่พอ จอดทุกๆ 10-15 นาที

อย่างที่บอก มันเห็นอะไรก็สวยไปหมด
แวะถ่ายรูปตลอดทาง

แต่ไอ้สิ่งที่ผมบอกว่าสวย
บางคนมาเห็นก็อาจจะบอกว่า"ธรรมดามากๆ ฉันเห็นมาเยอะแล้ว"

ความสวยนั้น
มันวัดกันเป็นตัวเลขไม่ได้หรอกครับ
มันเป็นปัจเจกบุคคล แต่ละคนย่อมมีมาตรฐานไม่เท่ากัน










แม้กระทั่งสิ่งเล็กๆน้อยๆในธรรมชาติ
ที่เราเห็นจนเจนตาในชีวิตประจำวัน

หากจะมองให้มันสวย มันก็สวยได้

ขึ้นอยู่กับว่าเราจะมองมันออกหรือเปล่า...










เจอใครที่เราคิดว่าเค้าเป็นคนแปลกหน้าของเรา

ลองเปิดใจคุยกะเค้าดูบ้าง
เราอาจได้มุมมองอะไรที่มันกว้างขึ้น

ทริปนี้ก็เช่นกัน

ผมไปเจอใคร ผมก็เข้าไปทัก เข้าไปคุย
มิตรภาพมีอยู่ทุกที่

(ยกเว้นเจ้าตัวในรูปนี้ มันเห่าผมอีท่าเดียวเลยครับ)










ไปคุยกะคนปลูกส้มเขียวหวาน
ก็ได้กินส้มเขียวหวาน

แต่มันเป็นส้มเขียวหวานที่อร่อยกว่าที่เราไปหาซื้อมาจากตลาด
เพราะมันอิ่มเอิบความหวานไปด้วยไม่ตรีจิต










บางครั้งบางอารมณ์ เรามักจะคิดไปเองว่าเหมือนเราถูกทอดทิ้งให้โดดเดี่ยวในโลกใบนี้
แต่ถ้าหากเรามองลงมาจากมุมที่สูงกว่านั้น

เราจะรู้ได้เลยว่า
เราไม่ได้อยู่คนเดียวหรอก

แต่จิตของเราต่างหาก ที่ไปปรุงแต่งความรู้สึกเศร้า ความรู้สึกเหงาให้มันมากขึ้นเอง

มีคนที่รักเราอยู่มากมาย
แต่เรามองไม่เห็นมันเองต่างหาก
(อันนี้ได้ไอเดียมาจากคุณ กะว่าก๋าครับ)










เหมือนต้นไม้ใหญ่ต้นนี้
ถ้ามองเผินๆ เหมือนมันจะยืนต้นโดดเดียวอยู่ลำพัง

แต่มันจะมองออกหรือไม่ว่า
มันยังมีต้นหญ้าสีเขียวๆเล็กๆอยู่รายล้อมคอยเป็นเพื่อนมันอยู่

ตอนนี้หากคุณรู้สึกเศร้า รู้สึกเหงา ลองมองไปรอบๆ
คิดตรึกตรองดูให้ดี......เราอยู่ตัวคนเดียวแน่หรือ?










บางครั้งผมยอมรับว่าผมก็เป็นคนนึงที่จิตตกบ่อยๆ
ทั้งๆที่เราก็รู้ว่า การที่เราจิตตกนั้น มันไม่ได้เกิดจากอะไรเลย

เกิดจากตัวของเราเองทั้งนั้น
เราคิดเอาเอง ปรุงแต่งเอาเอง

จริงๆทุกข์อยู่ที่ไหน
เราก็ต้องดับที่นั่น แต่บางทีตอนที่เราจิตตกมากๆ
ผมก็ทำตามหลักการง่ายๆแบบนี้ได้ยาก

สักวัน ผมคงจะฝึกจิตให้ต่อสู้กับเรื่องแบบนี้ได้










เพราะชีวิตของเราก็มีอยู่แค่นี้

คงไม่มีใครที่จะมีความรุ่งเรืองได้ตลอดกาล
คงไม่มีใครที่จะตกอยู่ในห้วงความทุกข์ได้ตลอดกาล

ชีวิตมันมีขึ้นมีลง
มีเกิดมีดับ

ถ้าหากเราปล่อยชีวิตให้เป็นไปตามครรลองของมัน
ไม่ฝืนมัน ไม่ไปปรุงแต่งมัน มันก็จะมีความสุขตามยะถาของมันเอง










เวลาอยู่ในโลกมนุษย์กลมๆใบนี้
อย่าไปมองชีวิตคนอื่นเป็นบรรทัดฐานในการดำเนินตามซะหมด

บางคนเราดูเผินๆ อาจจะดูเหมือนชีวิตของเค้าสวยงาม ราบรื่น
แต่จริงๆแล้วเค้าอาจทุกข์มากกว่าเราก็ได้

สู้เอาเวลาที่ไปมองชีวิตคนอื่น
มามองชีวิตของเรา
แล้วดำเนินชีวิตของเราด้วยความมีสติจะได้ผลดีกับเราซะมากกว่า











วันนี้ผมมาที่นี่
ผู้คนไม่เยอะมากมาย

ผมรู้สึกว่าชีวิตผมได้ถูกธรรมชาติที่สวยงามซักล้างสิ่งสกปรกออกไปบ้าง

เคยอ่านหนังสืออยู่เล่มนึงบอกเอาไว้ว่า

"ทุกวันนี้คนเรามักคิดอะไรง่ายๆ

นำคนออกจากสิ่งแวดล้อมที่เป็นพิษ

แต่ไม่ยักที่จะนำสิ่งที่เป็นพิษออกจากตัวคน

เพราะตราบใดที่คนยังมีพิษ เขาก็จะให้พิษกับทุกสิ่งที่เกี่ยวข้อง"

(ข้อความบางส่วนจากหนังสือ "ค้นหาตัวเอง" โดย ดร.นวลศิริ เปาโรหิตย์)










ขับมาเรื่อยๆจนมาถึงหมู่บ้านวาวีจนได้
ชาที่นี่รสเยี่ยม ใครได้มาต้องมาลิ้มลองให้ได้

โดยเฉพาะชาก้านอ่อนเบอร์ 17

ผมมองหมู่บ้านชาวจีนที่นี่ดูแออัด
แต่มันกลับดูไม่"อึดอัด"

มันกลับดูอบอุ่น อุ่นไปด้วยอ้อมกอดของธรรมชาติ

...............

(ข้อความข้างล่างนำมาจากหนังสือ"ค้นหาตัวเอง" อีกเช่นกัน")

"ฉันเห็นคนหลายคน ที่เผอิญโชคชะตาฟ้าลิขิต
ให้ร่ำรวยด้วยวาสนาบารมี
หลุดออกมาจาก สลัม สิ่งแวดล้อมเดิม
ก้าวมาเป็นใหญ่ในแผ่นดิน

แต่ทำไมหนอ....
เขาจึงยังไม่สามารถหลุดพ้นออกมา
จากสลัมที่มีอยู่ในจิตวิญญาณของเขาได้เลย
ไม่ว่ากาลเวลาจะผ่านพ้นไปนานเท่าใดก็ตาม"










เคยมีหลายคนบอกว่าผมเป็นคนที่มีกำแพงกั้นตัวเองเอาไว้หนามาก
เป็นคนที่เปิดใจรับสิ่งต่างๆได้ยาก

อาจจะจริงอย่างที่เค้าบอกก็ได้
เพราะบางครั้งผมก็ไม่สามารถมองเห็นตัวเองได้ทั้งตัว
อะไรบางอย่างที่เราอยู่กะมันมาตั้งแต่เกิดจนโตป่านนี้
บางทีเราก็อาจจะอยู่กับมันด้วยความเคยชิน

บางครั้งคนเราก็ควรจะเปิดใจรับสิ่งที่คนอื่นพูดเอาไว้บ้าง
ไม่ควรจะเอาตัวเราเป็นศูนย์กลางเพียงอย่างเดียว
เพราะเรา"ไม่ได้อยู่คนเดียวในโลกใบนี้"

ใช่ไหมครับ?










เคยมีคนพูดเอาไว้ว่า
การที่เราได้มีโอกาสเกิดเป็นคนนี่ก็ถือว่าประเสริฐสุดแล้ว

เพราะมนุษย์เราเป็นสัตว์เพียงชนิดเดียวในโลกใบนี้
ที่มีสติและปัญญาในการที่จะรับรู้ว่าอะไรถูกผิด อะไรควรไม่ควร
หรือที่เค้าเรียกว่าสัตว์ประเสริฐนั่นเอง

เพราะฉะนั้น เมื่อเราได้รับโอกาสนั้น เราก็จงใช้โอกาสนั้น
ให้เกิดประโยชน์เสียดีกว่า

เพราะถ้าหากเราไปเกิดเป็นสัตว์ชนิดอื่น
เราคงไม่มีโอกาสเหล่านี้แน่นอน










ความรักที่ได้ยิน มักเป็นความรักที่มีเงื่อนไข
ต้องสอบให้ได้ที่หนึ่งน่ะ แม่จึงจะรัก

ฉันรักเขาเพราะเขาไม่สูบบุหรี่ ไม่กินเหล้า ไม่เที่ยวผู้หญิง

ผมรักเธอ เพราะเธอทำหน้าที่แม่บ้านไม่ขาดตกบกพร่อง

ตราบใดที่มันยังเป็นไปตามเงื่อนไขอยู่
ตราบนั้นความรักจะยังคงมีอยู่

หากทว่าความรักที่แท้จริง "ย่อมปราศจากเงื่อนไข"
ปราศจากความกลัว ปราศจากความคาดหวัง
ปราศจากการควบคุม

เช่นนี้แล้ว
ทุกเวลาที่ผ่านไป ย่อมไม่มีเครื่องกำหนด

(ข้อความนี้คัดลอกมาจากหนังสือ"ค้นหาตัวเอง" ครับ)










อย่างที่บอกมาตั้งแต่ต้น

วันนั้นผมพบเจอผู้คนเยอะแยะ
และผมก็มักจะเข้าไปทักทาย พูดคุยกับเค้า

และผมก็ได้ความรู้สึกดีๆกลับมา
รอยยิ้มที่เค้าให้มานั้น มันเป็นรอยยิ้มที่ดูจริงใจ ไม่เสแสร้้ง


ทำไมหนอ...เราจึงชอบตัดสินเพื่อนมนุษย์กันง่ายๆ
แค่เพียงเห็นชื่อ หรือกลุ่มที่เขามาจาก
โดยที่ไม่เคยรู้จัก ได้สัมผัสเขา
ในฐานะปัจเจกบุคคลที่มีเลือด มีเนื้อ
เช่นเดียวกับตัวเราเองคนหนึ่ง










บางทีผมยังคิดกับตัวเองว่า
ตอนนี้ที่เราค้นหา เราค้นหาอะไร

ผมควรจะหยุด แล้วหันหลังกลับมา
หรือหยุดเพื่อมองรอบๆตัว

บางทีความสุขที่ผมตามหานั้น มันอาจจะอยู่ไม่ไกล
เพียงแต่บางสิ่งบางอย่างนั้น มันไม่อาจจะมองเห็นได้ด้วยสายตา
ที่ประกอบไปด้วย เยื่อแก้วตา เลนส์ตา เรตินา เส้นประสาทสมองคู่ที่สองเท่านั้น

เพียงแต่ความสุขที่เราตามหานั้น
มันอาจต้องมองด้วยใจ....











บางครั้งเราทำงานหนัก หามรุ่งหามค่ำ
เพื่อหาเงินทองมามากมาย
เพราะหวังว่า เงินทองนั้น จะนำพามาซึ่งความสุขที่เราคาดหวัง
เราหวังว่า เงินทองนั้นจะสามารถซื้อได้ซึ่งสิ่งที่จำเป็นแก่ชีวิตของเรา

แต่บางทีเราอาจจะแยกแยะยังไม่ได้
ว่าอะไรเป็นสิ่งที่ "จำเป็นแท้" หรือสิ่งใด "เป็นสิ่งที่จำเป็นเทียม"











จริงๆ"สิ่งจำเป็นแท้"
ที่เราต้องการนั้น เราต้องการแค่ปัจจัยสี่ อย่างที่พระสัมมาสัมพุทธเจ้าได้กล่าวไว

แต่เราก็ยังไขว่คว้าหา "สิ่งจำเป็นเทียม" กันอยู่ตลอดทุกเมื่อเชื่อวัน

ซึ่งผมเองก็ยังคงวนเวียนอยู่กับวงจรอุบาทว์นี้อยู่เช่นเดียวกันกับเพื่อนร่วมโลกอีกหลายๆคน










คนที่เราดูภายนอกว่าเค้ามีความทุกข์ยากลำบาก
จริงๆแล้วเค้าอาจมีความสุขมากก็ได้

คนที่เค้าหาเช้ากินค่ำ บางทีตอนที่กลับไปบ้าน
เค้าอาจมีครอบครัวที่อบอุ่นรออยู่ที่บ้าน
กินข้าวด้วยกัน พูดจากันด้วยความรัก

แต่บางคนสิ
มีเงินทองที่ไม่รู้ว่าชาตินี้จะนำมาใช้หมดหรือไม่
ทว่าจริงๆแล้วเค้าอาจกลับไปเจอปัญหาครอบครัว ปัญหาชู้สาว
ลูกเสียคน มีความกังวลว่าธุรกิจจะล้มละลาย











คนที่ร่ำรวยบางคนถึงกับยอมสละทุกอย่างในชีวิต
เพื่อกลับมาใช้ชีวิตที่เรียบง่าย

บางคนเคยเป็นผู้บริหารระดับสูงๆ
แต่ยอมลดตัวมาทำธุรกิจเล็กๆ

แต่เค้ากลับยิ้มได้ เพราะเค้ามีความสุขกับสิ่งที่เค้ามีอยู่มีกิน











บางทีเราเคยฝันอะไรเอาไว้ใหญ่โต

ใช่....ความฝันจำเป็นสำหรับชีวิต และความก้าวหน้า

แต่บางทีความฝันบางอย่างก็ควรจะถูกทิ้งให้เป็นความฝันต่อไปจะดีกว่า










มีคนบางคนพูดว่า ชีวิตคือการแข่งขัน

บางคนอาจจะมีความสุขในการที่ได้เป็นผู้ชนะ
ไม่ว่าจะเป็นเรื่องอาชีพการงาน การเรียน การแข่งกีฬา
และเค้าจะพอใจมากหากว่าเค้าเป็นผู้ชนะทั้งหมด

แต่เราเคยคิดบ้างไหมว่า
การที่เราเป็นผู้ชนะตลอดนั้น
ทำให้เรามีเพื่อนน้อยลง

เราต้องการแลกความชนะเหล่านั้นกับมิตรภาพอย่างนั้นหรือ?










ในการเดินทางของผมครั้งนี้
ผมเจอทั้งคนที่ดีและไม่ดีผ่านเข้ามา

แต่ถ้าเราคิดในทางบวก
มันก็เป็นข้อดีทั้งนั้น

เพราะคนที่ดีกับเรา เค้าก็จะให้ความรักและสนับสนุนเรา

ส่วนคนที่ร้ายกับเรา อย่างน้อยๆ เค้าก็ช่วยสอนให้เรามีประสบการ์ณชีวิต
ที่สร้างความแข็งแรงให้เรา เผื่อในครั้งต่อไปเราจะได้มีภูมิคุ้มกัน

ถ้าเรามองโลกในแง่ดีแล้ว
เราก็จะได้ "พลัง" จากทุกชีวิตที่เราสัมผัส











เพราะเราคงเลือกเจอแต่คนที่ดีๆในโลกกลมๆใบนี้ไม่ได้

ไม่ว่าเราจะหลบเลี่ยงอย่างไร ก็คงต้องเจอ

ไม่มีใครที่เคยเจอแต่มนุษย์ที่สมบูรณ์แบบหรอก

ผมเองก็เช่นกัน
ผมอาจจะดูเป็นคนดีในสายตาของหลายคน

แต่บางที ผมก็อาจจะเป็นคนที่เลวมากๆในสายตาของอีกหลายๆคน


หากว่าคุณเป็นคนหนึ่งที่ไม่เคยเห็นมนุษย์ที่สมบูรณ์แบบ
เหตุใดคุณจึงมาเรียกร้องเอาจากผมหรือ?....













ในความโดดเดี่ยวที่ผมพบเจอมาในสามสี่วันของการเดินทางนี้
มันมีเวลาให้ผมมาก ....มากซะจนผมมองเห็นปัญหามากมายที่ผ่านมา

แต่เชื่อมั้ยว่าพอผมกลับมาแล้ว
ผมจมอยู่กับปัญหานั้นได้ไม่นานหรอก

ผมมีเพื่อนที่น่ารัก มีน้องที่น่ารักคอยแนะนำ
คอยให้กำลังใจ

ถึงแม้บางคนจะช่วยอะไรได้ไม่มาก
แต่บางครั้ง แค่การที่เราได้เล่าอะไรออกไป
ได้เรียบเรียงลำดับเหตุการณ์จากสิ่งที่เราเล่าออกไป
มันก็ทำให้ผมเห็นในสิ่งที่ผมทำผิดพลาดชัดเจนยิ่งขึ้น

และสิ่งนี้แหละที่ทำให้ผมเก็บมันมาเป็นข้อสอนใจ
และตัดสิ่งนั้นออกจากใจผมได้อย่างไม่ยากเย็นนัก
ถึงแม้ว่า ณ ขณะนี้ผมจะตัดสิ่งนั้นออกได้ไม่เต็มร้อย

แต่อย่างน้อยผมถือว่าให้ไอ้ที่มันเหลืออยู่เล็กน้อยนี้
เป็นเสมือนแผลเป็นที่คอยเตือนให้เรามีสติอยู่ตลอดเวลาดีกว่า











หนังสือ "ค้นหาตัวเอง" ได้บอกเอาไว้ว่า

ก่อนที่จะท้อแท้กับปัญหาที่มันดูมากมายจนแก้ไม่ไหว

ลองแบ่งปัญหานั้นออกเป็นสองกลุ่มดู

กลุ่มหนึ่ง เราสามารถทำอะไรกับมันได้

อีกกลุ่มหนึ่ง เป็นเรื่องที่ไม่อยู่ในบัญชาของเราเลย

ให้เราทุ่มเทพลังให้กับปัญหาที่เราแก้ได้
แทนที่จะจมปลักอยู่กับปัญหาที่เราแก้ไม่ได้ หรืออยู่นอกเหนืออำนาจของเรา

แล้วเราจะพบว่า...
แท้จริงแล้ว ปัญหาที่เราแก้ไม่ได้...มันมีอยู่นิดเดียวเอง











ชีวิตบางช่วงเราก็ต้องปีนขึ้นเขา
บางทีต้องทั้งฉุดทั้งเข็น

แต่เราเคยไหม ที่เราปั่นจักรยานขึ้นเขาเหนื่อยๆเสร็จแล้ว
ตอนที่เราปล่อยให้มันไหลลงไปเอง มีลมเย็นๆพัดโดนหน้าเรา

เรามีความสุขกับมันขนาดไหน

แสดงว่าถ้ายิ่งเรามีทุกข์มากขนาดไหน
เราก็จะยิ่งเห็นคุณค่าของความสุขหลังจากนั้นมากขึ้นไปด้วย














ในหนังสือเล่มที่ผมอ่านอยู่ตอนนี้พูดเอาไว้ดีทีเดียว

เค้าบอกว่าคนเราพยายามไขว่คว้าหาความสุข
บางคนพยายามไขว่คว้ามันมาทั้งชีวิต

แต่มันดูๆแล้วเหมือนการวิ่งไล่จับเงาของตัวเอง
ยิ่งไล่ เงาก็ยิ่งห่างออกไป

หากเราหยุดการไขว่คว้า...เหความสนใจไปสู่ปัจจุบัน
เราอาจพบว่า...

เงาที่เรากำลังไล่จับอยู่นั้น
แท้ที่จริงมันเกาะติดแน่นอยู่กับกายของเรา
อย่างนุ่มนวลอ่อนโยน...ทุกทิวาราตรีกาล













มิตรภาพที่ผมพยายามไขว่คว้าหาก็เช่นกัน

บางทีเราไปคาดหวังว่า

"ขอให้เขามองเห็นเรา ได้ฟังเรา ได้เข้าใจเรา"

แต่เรารู้ตัวหรือไม่ว่า
บางทีเราได้แต่คาดหวังในสิ่งเหล่านั้น
โดยที่เราไม่เคย มองเห็นเค้า ไม่เคยฟังเค้า ไม่เคยเข้าใจคนอื่น

แล้วอย่างนี้เราจะหวังจะมีมิตรภาพที่มั่นคงถาวรได้อย่างไร?











หนังสือเล่มนี้ได้กล่าวเอาไว้อีกว่า

"ฉันไม่ต้องการทะยานสูง ดังเช่นไม้เลื้อยที่ดูสูงลิ่ว
แต่ทว่าลวงตา เพราะมันสูงได้ด้วยการเกาะเกี่ยวต้นไม้อื่น

ฉันพร้อมที่จะงอกงามอย่างเตี้ยต่ำ เฉกเช่นต้นหญ้า ไม้พุ่ม
ที่สามารถเติบโตยืนหยัดได้ด้วยพลังของตนเอง

ฉันไม่ต้องการมีรัศมีพวยพุ่ง ดุจดั่งทะเลยามเที่ยง
ที่เป็นเพียงกระจกสะท้อนของแสงแดด

ฉันขอเพียงความสว่างของแสงเทียนในคืนมืด
ซึ่งให้แต่ความนุ่มนวลและเย็นตา

ตราบใดที่แสงเทียนยังเปล่งประกายอยู่ตรงนั้น
เกิดจากความกระจ่าง...ที่บังเกิดมาจากภายในตัวของฉันเพียงลำพัง"










มันคงดีไม่น้อย

ถ้าผมสามารถที่จะหยุดความคิดของผม

ไม่มองคนอื่นโดยที่ต้องไปตัดสินเขา ไม่ต้องไปต่อเติม และวิจารณ์เขา

ผมคงอยู่ในโลกนี้ได้อย่างแจ่มใส
คงได้ชื่นชมกับชีวิต และบุคคลรอบๆตัวอย่างหรรษา เปรมปรีดิ์

แต่ตอนนี้เราทุกข์เพราะ "ความคาดหวัง" คำเดียวแท้ๆ


(ดัดแปลงเนื้อหาบางส่วนจากหนังสือ "ค้นหาตัวเอง")











แต่อย่างที่บอก
ตอนนี้ผมดีขึ้นมากแล้ว

และผมก็หวังว่า หากผมเจอสิ่งที่เลวร้ายเหมือนที่ผมเจอผ่านๆมา
ผมจะผ่านมันไปได้
โดยใช้เวลาเร็วขึ้น

ผมจะกระโดดได้สูงขึ้นด้วยความดีใจ
ที่อย่างน้อยเราเป็นผู้ชนะในจิตของตัวเอง

ขอบคุณทุกท่านที่รับชม
จะดีไม่น้อยหากว่าท่านตั้งใจอ่านจนจบ

และขอขอบคุณหนังสือ "ค้นหาตัวเอง" ของ ดร.นวลศิริ เปาโรหิตย์
ที่ได้ชี้แนะแนวทาง

ผมอาจนำข้อความบางส่วน หรือข้อความบางส่วนมาดัดแปลง
เพื่อให้เหมาะสมต่อการนำเสนอ
หากผิดพลาดประการใด ผมขอน้อมรับเอาไว้ทั้งมวลครับ

ขอบคุณครับ








Create Date : 04 พฤษภาคม 2551
Last Update : 23 สิงหาคม 2552 17:07:51 น. 114 comments
Counter : 3952 Pageviews.

 
ขอบคุณสำหรับข้อคิดดี ๆ
และดีใจที่ได้ยินว่า คุณเจ้าของภาพรู้สึกดีขึ้นแล้วนะ


โดย: that yellow mustard IP: 58.8.45.34 วันที่: 4 พฤษภาคม 2551 เวลา:22:11:48 น.  

 
ขอบคุณครับคุณมัสตาร์ดสีเหลือง

ตอนนี้ขึ้นเยอะแล้วครับ

เหลือเวลาเก็บซากปรักหักพังอีกนิดหน่อย
เผื่อคราวหน้าจิตตกอีก มันจะได้เก็บกวาดได้ง่ายขึ้นครับ 555


โดย: Dr.Manta วันที่: 4 พฤษภาคม 2551 เวลา:22:19:16 น.  

 
ชอบที่พี่หมอเขียนวันนี้จังเลยค่ะ
ความสุขหาได้จากที่ๆอยู่ใกล้ตัวแต่เรามักลืมไป
ใจเราสำคัยที่สุดที่จะนำทุกข์หรือสุขมาให้

ตอนนี้นาห์กำลังอ่านหนังสือเรื่อง คู่มือมนุษย์ ของท่านพุทธทาสภิกขุค่ะ เหอๆ สงสัยใช่ไหมทำไมอิสลามแต่อ่านหนังสือนี้ ง่ายค่ะ ก็มันอยากอ่าน

แต่ถ้าอ่านจบแล้วคงไม่สามารถเอามาแนะนำคนอื่นๆได้เพราะนาห์ไม่ถนัดจะแนะนำอะไรใคร

...อย่าจิตตกบ่อยนะคะพี่หมอ แม้ไม่รู้จักกันมากมาย แม้ไม่เคยเจอหน้า แม้ไม่เคยพูดคุยมากไปกว่าผ่านตัวหนังสือ แต่นาห์ก็เป็นห่วงพี่ชายคนนี้นะคะ

สู้ๆ สู้ตาย ค่ะ^_^


โดย: มัยดีนาห์ วันที่: 4 พฤษภาคม 2551 เวลา:23:02:29 น.  

 
ขอเซฟรูปไปใช้รูปนึงนะคะพี่หมอ
รับปากพี่ก๋าไว้ว่าจะอัพบล็อกพรุ่งนี้เรื่องที่เคยคอมพ์เมนต์ในบล็อกพี่ก๋าไว้ ภาพของพี่โดนใจเข้ากับเรื่องทีเดียวเลยค่ะ

ขอบคุณนะคะ

ฝันดีนะคะพี่


โดย: มัยดีนาห์ วันที่: 4 พฤษภาคม 2551 เวลา:23:09:42 น.  

 
ถ่ายภาพสวยและได้อารมณ์มากๆ เลยค่ะ


โดย: เบบูญ่า วันที่: 4 พฤษภาคม 2551 เวลา:23:20:33 น.  

 
สวัสดีครับคุณหมอ

ได้เจอพี่โบ๊ตด้วยเหรอ
ดีจังครับ จิ๊กหนังสือเล่มไหนของพี่โบ๊ตมาอ่านครับ อิอิอิ
สงสัยจะเป็น "ค้นหา" นี่กระมังครับ
เล่มคำคมได้จิ๊กมามั้ยครับ 5555

เล่มนั้นผมบรรจงรวบรวมเองกับมือเลยนะครับ

"ค้นหา" หรือ "ค้นหาตัวเอง" ของอาจารย์นวลศิริ
เป็นหนังสือในดวงใจของผมเลยครับ
กล้าพูดได้ว่าชีวิตผมเปลี่ยนเพราะหนังสือเล่มนี้ครับ
ผมใช้เวลาหลายปีในการอ่านซ้ำแล้วซ้ำเล่า

ค่อยๆเปิดปมตัวเองออกมา แล้วยอมรับความจริง
ก่อนจะลงมือแก้ไขอย่างช้าๆแต่เด็ดขาด


..........................


ชอบทุกรูปที่คุณหมอนำมาลงไว้ในบล้อก
ไม่มีรูปไหรที่ไม่สวย

หลายรูปไม่ได้ถ่ายมาง่ายๆแน่นอน
แต่ต้อง "รออคย" และอยู่ "ถูกที่-ถูกเวลา"



คุณหมอถ่สยรูปถนนได้สวยมาก
เชื่อมั้ยครับว่าผมชอบถนนแบบนี้มาก
แต่ไม่เคยได้จอดถ่ายภาพเลยครับ
จะด้วยอะไรก็ตาม....


วันนี้โชคดีได้มาเห็นภาพที่เราอยากถ่าย
ซึ่งถ่ายโดยคุณหมอ
แล้วก็ถ่ายได้สวยมาก



ขอบคุณสิ่งดีดีและสวยงามที่นำมาแบ่งปันกันครับ





โดย: ก๋า เก็กเสียง (กะว่าก๋า ) วันที่: 4 พฤษภาคม 2551 เวลา:23:23:10 น.  

 
จริงๆเรื่องนี้ไม่ได้เป็นความลับเท่าไหร่
ผมกะว่าถ้าผมดังเมือ่ไหร่
คงมีคนถามว่า "หมื่นตา" มาจากไหนยังไงเป็นใคร

ผมแอบกระซิบคุณหมอไว้ล่ะกันนะครับว่า

"หมื่นตา" มาจาก " Dr.Manta" อ่ะครับ

หุหุหุ


มัณฑา แมนตา หมื่นตา






ถ้าคุณหมอได้ย้อนกลับไปอ่านการ์ตูนทั้งหมดของผม
ตั้งแต่ red boots พระเอกจะเป็นหมื่นตาทุกเรื่องเลยนะครับ





โดย: ก๋า เก็กเสียง (กะว่าก๋า ) วันที่: 4 พฤษภาคม 2551 เวลา:23:30:29 น.  

 
ขอบคุณสำหรับภาพสวยๆและข้อคิดดีๆครับ

นึกถึงคำพูดของเพื่อนผมคนหนึ่งที่ว่า
If your eyes open wide
you'll know life is beautiful,guy

บางเรื่องมันก็ง่ายๆแบบนี้เองนะครับ
เพียงแต่เรามองไม่เห็นมันเอง


โดย: jonykeano วันที่: 5 พฤษภาคม 2551 เวลา:0:08:24 น.  

 
อยากไปนั่งเป็นแบบแทน..หมาน้อยธรรมดา..555

"จุดหมายไม่ใช่เรื่องรีบที่ต้องไปถึง แต่การได้หยุดเสพความงดงามระหว่างสองข้างทางอย่างช้าๆต่างหากล่ะ คือการได้หยุดชมโลกอย่างหน้าอภิรมณ์และถึงแก่นอย่างแท้จริง"

เอามาจากหนังสืออีกที


โดย: uncha วันที่: 5 พฤษภาคม 2551 เวลา:0:17:19 น.  

 
ไปพบสัจธรรมบนดอยเหรอครับ ฮ่าๆ ยังไม่วายขอกระโดดหน่อย

จริงๆไปเที่ยวคนเดียวมักจะได้อะไรกลับมามากกว่าไปเที่ยวกับกลุ่มครับ เพราะไปกับกลุ่มเราก็ไม่ค่อยเปิดใจรับคนใหม่ประสพการณ์ใหม่ๆที่เจอระหว่างท่องเที่ยวเข้ามา มัวแต่ปากมันคุยกันเอง และจริงอย่างที่ว่าอยู่คนเดียวก็มีเวลาคิดมากขึ้น ใจสงบลง ไปบ่อยๆอาจจะกลายเป็นรำคาญการไปเที่ยวเป็นกลุ่มไปเลยก็ได้ครับ

ปล อย่าลืมใส่เบรกมือรถเวลาลงมาเก๊กถ่าย เดี๋ยวอาจจะได้วิ่งไล่รถ


โดย: แป๊กก วันที่: 5 พฤษภาคม 2551 เวลา:0:26:49 น.  

 
ชอบรูปที่4 กับรูปคนทอดแหครับ ดูแล้วได้ความรู้สึกเรียบง่ายของชีวิตจริงๆ วันๆแค่หากินไป ไม่ต้องกังวลอะไรมากมายเหมือนชีวิตคนกรุง ผมว่าคุณเบสก็น่าจะสงบกว่าอยู่ในกรุงเทพแล้วนะ วันๆมีแต่การต่อสู้บนถนน


โดย: แป๊กก วันที่: 5 พฤษภาคม 2551 เวลา:0:40:59 น.  

 
แค่ได้เห็นภาพมันก็สามารถที่จะสื่อความรู้สึกต่างๆได้มากมายค่ะ


โดย: JJ IP: 61.7.138.224 วันที่: 5 พฤษภาคม 2551 เวลา:3:32:25 น.  

 
ผมริบหนังสือมาทั้งสองเล่มเลยครับ

^
^

emoemoemo



เมื่อก่อนผมทำหนังสือรวมคำคมทุกปีนะครับ
ปีละ 4-5 เล่ม
ตอนที่ยังไม่ได้ทำบล้อกน่ะครับ 5555
ตอนนี้แทบจะไม่มีเวลาทำครับ
แบ่งภาคไม่ได้ 555 แค่บล็อกอย่างเดียวก็จะแย่อยู่แล้ว


ยังไงถ้ามีเล่มต่อไป
ผมจะขอที่อยู่คุณหมอเอาไว้
จะได้ส่งหนังสือไปให้อ่าน
ไม่ต้องจิ๊กของพี่โบ๊ตครับ 555

เดี๋ยวพี่โบ๊ตจะงอน 5555






โดย: ก.ก๋า (กะว่าก๋า ) วันที่: 5 พฤษภาคม 2551 เวลา:7:39:58 น.  

 
คุณหมอครับ

ถ้ามีเวลาว่างพอ
และเงียบสงบ

อยากให้คุณหมอลองฟังเพลงที่ผมลงไว้ในบล้อก

ส่วนที่หายไป (บล้อกที่ 2 ของเดือนนี้)

น่ะครับ

ผมก็นั่งฟังอยู่ครับ

อาจจะไม่คุ้นหูนัก
แต่อยากให้คุณหมอลองอ่าน "ความ" ที่อยู่ในเพลงน่ะครับ




โดย: ก.ก๋า (กะว่าก๋า ) วันที่: 5 พฤษภาคม 2551 เวลา:8:08:57 น.  

 
สวัสดีค่ะ
มาทักทายเพื่อนใหม่ค่ะ
ภาพสวยงามมากค่ะ
บทความอ่านแล้วก็ทำให้คิดอะไรได้เยอะค่ะ
เพราะเราก็อยู่ในช่วงจิตตกเหมือนกันค่ะ
สงสัยต้องไปหาหนังสือเล่มนี้มาอ่านมั่งแล้ว
จะได้ค้นหาตัวเองเจอซะที

ยินดีที่ได้รู้จักนะคะ


โดย: kai (aitai ) วันที่: 5 พฤษภาคม 2551 เวลา:8:57:12 น.  

 
เพิ่งกลับมาจากภารกิจช่วงเช้า..
บล๊อกนี้สวยงามกว่าที่ Pantip มากมาย..
พอใส่เพลงแล้วลงตัวทุกอย่างเลย

มาแอบอ่านคนคุยกันเรื่องหนังสือค้นหาตัวเอง..
เป็นหนังสือดีมากๆเลย...พอดีพี่ก๋าให้มา
ผมเห็นว่าคงเป็นประโยชน์กับหมอมากกว่าในชัวโมงนี้..

ดีใจครับที่หมอชอบ แล้วก็ต้องขอบคุณพี่ก๋าที่ให้สิ่งดีๆแก่ชาวโลก...ฮิฮิ
แอบชมพี่ก๋าที่แจกแต่สิ่งดีๆให้เพื่อนๆครับ


โดย: Little Knight วันที่: 5 พฤษภาคม 2551 เวลา:11:56:59 น.  

 
บทความดี แต่งภาพสุดยอดเลย


โดย: พี่รี่+ต๊อก โนล๊อกอิน IP: 118.174.206.209 วันที่: 5 พฤษภาคม 2551 เวลา:12:07:01 น.  

 
หากว่าคุณเป็นคนหนึ่งที่ไม่เคยเห็นมนุษย์ที่สมบูรณ์แบบ
เหตุใดคุณจึงมาเรียกร้องเอาจากผมหรือ?....

....อย่าคาดหวัง ...อย่าคาดหวัง



โดย: 1 ช้อนชา IP: 61.7.147.168 วันที่: 5 พฤษภาคม 2551 เวลา:12:20:40 น.  

 
คุณหมอครับ
อยากให้สนุบสนุนแผ่นจริงของศิลปินครับ
ซื้อหนังสือ "คิดถึงคนที่ไม่ได้ไปหา" ของอารักษ์ อาภากาศ

ผมคิดว่าที่ซีเอ็ดบุ๊คส์น่าจะมีนะครับ
พอดีผมก็จำไม่ได้แล้วครับว่าซื้อหนังสือเล่มนี้จากที่ไหน

เค้าจะมีแผ่นแถมให้ตรงซองกระดาษท้ายเล่มของหนังสือนะครับ




หรือถ้าเดี๋ยวผมเจอก่อน
ผมจะซื้อเก็บไว้ให้นะครับ




โดย: ก.ก๋า (กะว่าก๋า ) วันที่: 5 พฤษภาคม 2551 เวลา:12:55:42 น.  

 
คำแนะนำของคุณหมอ




โดย: Little Knight วันที่: 5 พฤษภาคม 2551 เวลา:13:04:40 น.  

 
สวัสดีค่ะคุณหมอ ต้อนรับสู่บล้อคอีกทีนะคะ

หลังจากคุณหมอหายไปช่วงนึง อะไรที่ไม่ดีที่มันผ่านเข้ามา

ก็ไห้มันผ่านไปนะคะ เหมือนคนเรา ที่ต้องเจอกับสายลมอ้ะคุณหมอ

เวลามันพัดเข้ามา เราอาจเซ ทรงตัวไม่อยู่ แต่พอมันผ่านไป

เราต้องทรงตัวไห้ได้ ดีใจที่คุณหมอคิดและทำใจได้แล้ว

กลับมาเขียนเรื่องราวเหมือนเดิม จะรออ่านเรื่องสนุกๆนะคะ

ปล. รูปที่สามถนนอะไร แถวไหนคะเนี่ย ชวนปวดหัวมากเลย อิอิ


โดย: coco-melon วันที่: 5 พฤษภาคม 2551 เวลา:13:18:24 น.  

 
ดูบล็อกนี้ตอนแรก นึกว่าจะอยู่ในหัวข้อ my life ซะอีกนะคะ

แต่อดูภาพชัดๆแต่ละภาพแล้ว ดูเหมือนว่าหัวข้อ Gallery ก็เหมาะสมไม่ต่างกัน


ปล.อยากหม่ำหมูกะทะด้วยอ่ะ ดูสิ พี่ๆหม่ำกันจนหม้อดำหมดแล้ว


โดย: honeybee042-ไว้ค่อยล็อกอิน ^^ IP: 125.26.75.171 วันที่: 5 พฤษภาคม 2551 เวลา:13:30:35 น.  

 
ดีจังคะที่คุณหมออาการดีขึ้นแล้ว
การไปเที่ยวก็ทำให้อะไรๆดีขึ้นได้นะคะ
โดยเฉพาะการไปเที่ยวคนเดียว
ภาพสวยมากๆเลยคะ


โดย: อาจารย์บ้านนอก วันที่: 5 พฤษภาคม 2551 เวลา:14:03:06 น.  

 
ขอเป็นเนื้อย่างไม่ได้หรอพี่
คนไม่กินหมูเสียดายของอ่ะ



โดย: มัยดีนาห์ วันที่: 5 พฤษภาคม 2551 เวลา:14:17:45 น.  

 



ไม่ยอมให้อัศวินน้อยเผาเราแต่คนเดีียว

เผากลับมั่ง อิอิ


โดย: Dr.Manta วันที่: 5 พฤษภาคม 2551 เวลา:15:03:29 น.  

 
พี่หมอ ถ้าย่างบนกะทะเดียวกันมันก็อดอยู่ดีอ่ะแหละพี่

ช่างไม่รู้อะไรบ้างเลย


โดย: มัยดีนาห์ วันที่: 5 พฤษภาคม 2551 เวลา:15:23:34 น.  

 
การคุยกับคนแปลกหน้าเป็นสิ่งที่ดี แต่การคุยกับหมาแปลกหน้าไม่ค่อยดีนะ มันอาจกัดเอา


โดย: แอบชอบ คห. ข้างล่าง วันที่: 5 พฤษภาคม 2551 เวลา:15:28:22 น.  

 
คุณหมอคะ สุดยอดเลยค่ะ

ทั้งภาพ ทั้งคำ อ่านไปรื่นรมย์ไป ภาพสวยงามจริง ๆ เลยนะคะ
คำก็คม อ่านแล้วจรรโลงใจค่ะ ได้ข้อคิดอะไรดี ๆ กลับไปเยอะ

หมูกะทะอร่อยไหมคะเนี่ย ฮ่ะ ๆ


โดย: แอบชอบ คห. ข้างบนเหมือนกัน (นางสาวดุ่บดั่บ ) วันที่: 5 พฤษภาคม 2551 เวลา:15:43:58 น.  

 
ก่อนที่ผมจะมีครอบครัว
การเดินทางคนเดียวเป็นอะไรที่ชอบมาก เหงานะ
แต่มันมันส์แบบไม่ต้องห่วงใคร

หลังยังจะหาเวลาไปคนเดียวอีก แต่อดไม่ได้ที่จะพาเจ้าตัวเล็กของผมไปเปิดโลกทรรศ์บ้าง




โดย: B/W วันที่: 5 พฤษภาคม 2551 เวลา:16:03:03 น.  

 
ขำรูปหนุ่มอยากกินหมูกระทะครับ 55555



หน้าตาละโหยห้อยมากๆ



โดย: ก.ก๋า (กะว่าก๋า ) วันที่: 5 พฤษภาคม 2551 เวลา:16:34:32 น.  

 
พี่หมอ....สุดยอดทุกรูปเลย...

ดูแล้ว สิ่งที่ผมอยากทำตอนนี้มากที่สุดคือ...หนีจากห้องแลปที่นี่..หนีงาน..กลับบ้าน...กลับไปหามุมสงบ เงียบๆ และให้เวลากับตัวเองได้คิด ได้ไตร่ตรอง....

ตรงจุดที่พี่หมอยืนแล้วเห็นวิว ม่อนดอยหลายๆดอยนั่น...ผมอยากไปตรงนั้นบ้างจังพี่...

ปลายปีเจอกันครับ...


โดย: อ๊อด ณ ลอนดอน (แหง่วในแลปวุ้ย) IP: 159.92.136.46 วันที่: 5 พฤษภาคม 2551 เวลา:16:36:13 น.  

 
เห็นด้วยค่ะพี่หมอ
แต่นาห์น่ะ อิอิ สมองค่อนไปทางขี้เลื่อยมากกว่าจะไปนั่งเลื่อยขี้เลื่อยอ่ะพี่


พี่หมอช่วยเปลี่ยนฟอนด์ตรงคอมเมนต์พี่หน่อยสิ เวลาพิมพ์ผิดแก้ยากอ่ะฟอนด์นี้ แล้วให้ตัวโตกว่านี้สักนิดก็ดี ขนาดนาห์อายุน้อย ยังเห็นไม่ค่อยชัด
อิอิ สงสารพวกพี่ๆเค้าอ่ะ


โดย: มัยดีนาห์ วันที่: 5 พฤษภาคม 2551 เวลา:19:12:08 น.  

 
สงสัยคุณหมอจะหลงรักหนังสือเล่มนี้
เหมือนที่ผมหลงรักซะแล้วสิครับ อิอิอิ



โดย: ก.วรกะปัญญา (กะว่าก๋า ) วันที่: 5 พฤษภาคม 2551 เวลา:20:21:05 น.  

 
เอนทรีนี้ทำให้แปงตายไปเลย
ทั้งรูป 37 รูป การเดินทางของพี่หมอ
และบางส่วนในหนังสือดีๆ

บล็อกพี่หมอ ทำให้แปงอยากหลุดไปจากวงโคจรเดิมๆบ้าง อยากเดินทาง
อยากเปิดใจ อยาก....





โดย: pangz วันที่: 5 พฤษภาคม 2551 เวลา:21:26:18 น.  

 
เพ่ แหมๆๆๆแอบไปแอ่วมาน่อ ถ่ายรูปมาอีกละ หายเครียดละก้าแอ่วนักขนาด ดูแลสุขภาพใจตัวเองด้วยละ


โดย: pond IP: 202.28.47.11 วันที่: 5 พฤษภาคม 2551 เวลา:21:51:58 น.  

 
เพ่ แหมๆๆๆแอบไปแอ่วมาน่อ ถ่ายรูปมาอีกละ หายเครียดละก้าแอ่วนักขนาด ดูแลสุขภาพใจตัวเองด้วยละ


โดย: pond IP: 202.28.47.11 วันที่: 5 พฤษภาคม 2551 เวลา:21:51:58 น.  

 
โอ้ว ยาวจริงๆเลยบล๊อกนี้

อ่านแล้วแอบเครียด
แต่ภาพประกอบผ่อนคลายดีครับ
ดีแล้วที่หายเศร้าได้โดยไว
ชีวิตเรามันสั้นอย่าเสียเวลาทำลายสุขภาพจิตเลย


โดย: Unravel วันที่: 5 พฤษภาคม 2551 เวลา:22:03:05 น.  

 
สวัสดีค่ะ...น้องมอ.รุ่น 24 ค่ะ แอบติดตามเงียบๆมานานแล้ว...
blog วันนี้ ดูรูปประกอบคำบรรยาย...แล้วรู้สึกมัเย็นเงียบบอกไม่ถูกค่ะ แต่ชอบมากๆค่ะ...


โดย: jouja IP: 58.8.220.42 วันที่: 5 พฤษภาคม 2551 เวลา:23:34:56 น.  

 
ขอบคุณที่แนะนำหนังสือให้ค่ะ
จะลองหามาอ่านดูค่ะ

ฝันดีนะคะ


โดย: kai (aitai ) วันที่: 6 พฤษภาคม 2551 เวลา:0:05:35 น.  

 

กว่าจะได้มาอ่านก็ค่ำมืดซะแร่ะ..
แต่ไม่เสียหลายเลยนะค่ะพี่หมอ
ที่ยอมนั่งทนง่วงนอนอ่านมาจนจบเรื่องน่ะจ่ะ..
สวยงามจริงๆทั้งเรื่องราวและรูปภาพ
เพราะพออ่านจบรับรู้ได้เลยว่า"อิ่ม" นะ
..อิ่มเอม..อิ่มอก..อิ่มใจ...
..อิ่มท้อง...อ๊ะ..ม่ายช่ายย
แหะๆ เพิ่งหม่ำข้าวเสร็จด้วยค่ะ


..ดีใจที่พี่หมอรู้สึกสบายใจขึ้นแล้วนะจ๊ะ
เวลาที่จิตตกเนี่ยมันก็ทุกข์
จนยากจะบอกใครได้เลยนะ..พอเข้าใจค่ะ...
แต่ทุกครั้งที่เราสามารถผ่านพ้นมาได้
..วันนั้น..วินาทีนั้น...
รู้สึกเลยว่าอะไรๆ รอบข้างมันช่างสวยงาม
ลมหายใจที่ยังมีอยู่นั้นมันช่างสดชื่น...
ทุกสิ่งทุกอย่างปล่อยให้ดำเนินไปตามกาลตามสภาพ
ไม่ต้องไปกะเกณฑ์อะไรให้มัน
แล้วสิ่งนั้นก็จะสวยงามตามธรรมชาติอย่างที่ควรจะเป็น..

อารมณ์เหงา เศร้ามักมาเยี่ยมแบบไม่ทันให้ตั้งตัวนะ..
แต่ก็ทำให้ได้รู้ว่า
ยังมีคนที่รักและเป็นห่วงอยู่รายรอบไม่น้อยเลยหละนะ
..ยิ้มไว้ๆ


โดย: สะพานไม้ วันที่: 6 พฤษภาคม 2551 เวลา:0:23:23 น.  

 
สุดยอดจริงๆ เลยนะจอร์ช
ภาพแหล่มขนาดหนัก
สวยๆๆๆๆ


โดย: อุ้มสี วันที่: 6 พฤษภาคม 2551 เวลา:0:25:44 น.  

 
เอ่อ ไม่ทราบว่าไปเกาะเต่าเนี่ย ไปทำงานหรือไปเที่ยวกันแน่เคอะ ไปไม่ชวน ขอให้จมน้ำป๋อมแป๋ม


โดย: butbbj วันที่: 6 พฤษภาคม 2551 เวลา:7:43:25 น.  

 
คุณหมอมีความคิดอันลึกซึ้งและด้วยความรู้ที่ได้ศึกษาค้นคว้าอยู่เสมอ ทำให้เกิดปัญญาความรู้ความเข้าใจ โดยอาศัยจังหวะเวลาอันเกิดขึ้นจากธรรมชาติของจิตประกอบกันขึ้น ผมขออนุญาตนำข้อความจากหนังสือหลวงปู่ฝากไว้มาโพสไว้ดังนี้ครับ "คิดเท่าไรก็ไม่รู้ ต่อเมื่อหยุด(คิด)ได้จึงรู้ แต่ต้องอาศัยความคิดนั้นแหละจึงรู้" ผมเชื่อว่าคุณหมอได้พบกับความรู้ความเข้าใจนั้นด้วยตนเองแล้ว


โดย: กิตติ IP: 202.90.6.36 วันที่: 6 พฤษภาคม 2551 เวลา:8:53:33 น.  

 
ถ่ายรูปได้สวยๆ..ก็ช่วยบำบัดจิตได้เหมือนกันนะ

ต้องหาเวลาออกไปถ่ายรูป ตจว.มั่งแระ


โดย: หมีบางกอก (Bkkbear ) วันที่: 6 พฤษภาคม 2551 เวลา:9:38:25 น.  

 
แหม...ถ้าเปลี่ยนไปยืนใต้เสาไฟฟ้าล่ะก็....ใช่เลย....ผีขนุน.... ถ้าใครรังแกน้องบอกพี่ได้....จะขอบคุณเค้าซะให้สาแก่ใจเลย


โดย: พี่ต๊อก IP: 58.137.129.220 วันที่: 6 พฤษภาคม 2551 เวลา:14:28:38 น.  

 
เข้ามาดูอีกรอบ
.
.
.
สงสัยว่าถ่ายรูปวัวทีไร ส่วนใหญ่เห็นแต่ก้นทั้งนั้นเลย หรือว่าพี่เบสชอบกินซุปหางวัวคะ


โดย: honeybee IP: 125.26.73.186 วันที่: 6 พฤษภาคม 2551 เวลา:16:23:29 น.  

 
^
^^
^^^
^^^^

พี่ชอบตูดวัวหน่ะครับน้องผึ้ง หุหุหุ


โดย: Dr.Manta วันที่: 6 พฤษภาคม 2551 เวลา:16:56:19 น.  

 
ไปทำงานมาเมื่อวาน
เห็นถนนสวยๆก็เลยเอามาฝากครับ




โดย: Little Knight วันที่: 6 พฤษภาคม 2551 เวลา:17:22:53 น.  

 
ทั้งภาพทั้งคำ กินใจอะคุณหมอ


โดย: แพนด้ามหาภัย วันที่: 6 พฤษภาคม 2551 เวลา:19:33:58 น.  

 
หวัดดีครับคุณหมอ

รายงานตัวตอนค่ำๆ
เพราะเพิ่งกลับมาได้สักพักนึงครับ
ไปเดินถ่ายรูปที่ดอยแถวแม่โจ้มาครับ

พี่ชายลากไป ตอนแรกผมก็ทำท่าอิดออด
แต่พอเจอดวงตะวันและฟ้าเปลี่ยนสีเข้าไป
ผมเดินถ่ายรูปเหมือนคนบ้าเลยครับ 55555


หมื่นตา...ผมตั้งใจว่าจะเขียนให้ครบ 30 ตอน
แล้วจะลองเสนอสำนักพิมพ์ดูนะครับ
ถ้ามีคนสนใจ หุหุหุ


..................


สำหรับหนังสือที่พี่แป๋วทำให้ผม
ผมเป็นคนตั้งชื่อเองครับ
คือภาษาอังกฤษผมอ่อนแอมากครับ 5555
คิดได้แค่นี้แหละครับ



ขอบคุณสำหรับคำชื่นชมครับคุณหมอ




โดย: ก๋า เก็กเสียง (กะว่าก๋า ) วันที่: 6 พฤษภาคม 2551 เวลา:21:28:13 น.  

 
สวัสดีครับคุณหมอ


คนที่ด่าคุณลุงที่ล้ม
ตอนนี้ไปเป็นนักการเมือง ทั้งฝ่ายรัฐบาลและฝ่ายค้าน เป็นพันธมิตร เป็นสื่อมวลชน


ส่วนเด็กหนุ่มที่ลงไปประคองคุณลุง
ตอนนี้เค้าเป็นชายที่มีความสุขกับชีวิตและความคิดตัวเองครับ





ขอบคุณเรื่องเล่าดีดีที่นำมาแบ่งปันกันนะครับ




โดย: ก.ก๋า (กะว่าก๋า ) วันที่: 7 พฤษภาคม 2551 เวลา:16:28:31 น.  

 


โดย: ก.ก๋า (กะว่าก๋า ) วันที่: 7 พฤษภาคม 2551 เวลา:17:53:51 น.  

 
ตี้มันจื้อเก๊ากิ่ว
เพราะก้านของต้นมันกิ่วคอดครับคุณหมอ
กิ่วตรงก้านแล้วก้มาอวบๆตรงกลางลำครับ

ออกดอกแบบว่าสนั่นหวั่นไหวครับ

งามขนาดเลยครับ



โดย: ก.ก๋า (กะว่าก๋า ) วันที่: 7 พฤษภาคม 2551 เวลา:19:28:17 น.  

 
มาบอกว่าไปบ่ได้ครับ ฮ่าๆ ถ้าออกค่าตัวให้ก็น่าสนนะ กลับไปไม่เคยตรงซะที เคยตรงกับAdexครั้งเดียว

งั้นฝากดูของเด็ดๆด้วยละกันครับ เจออะไรถูกๆเจ๋งอย่าลืมเอามาโพสให้อิจฉาเล่นละครับ แต่ตอนนี้อยากได้ไฟฉายเป็นumbilical cordอย่างเดียว บ้านเราคงไม่มีขาย


โดย: แป๊กก วันที่: 8 พฤษภาคม 2551 เวลา:4:53:01 น.  

 
บล็อกนี้ชนะเลิศค่ะคุณหมอ
ทั้งเนื้อหา และภาพที่ถ่ายมา
เริ่ดมากกกค่ะ

ปอลอ ความสุขอยู่รอบตัวเราค่ะ


โดย: มันจะดีเหรอคะ วันที่: 8 พฤษภาคม 2551 เวลา:11:28:32 น.  

 
ดีใจด้วยนะค่ะ...ที่ดีขึ้น...


โดย: NuHring วันที่: 8 พฤษภาคม 2551 เวลา:16:00:18 น.  

 
สวัสดีครับคุณหมอ


เดินทางปลอดภัยนะครับ
เอารูปสวยๆของเกาะเต่า เกาะนางยวนมาฝากด้วยนะครับ

เกาะเต่าเป็นสถานที่ในความทรงจำของผมมากๆเลยนะครับ
เป็นที่ที่สวยมากกกกกกกกกกกกกครับ


(ดูรูปในบล้อกกระบี่-ชุมพร-เกาะเต่าของผมได้ครับ)

หวังว่ามันจะเป็นสถานที่ที่ทำให้คุณหมอทำงานอย่างมีความสุข
สนุกกับงานที่ทำนะครับ



โดย: ก.ก๋า (กะว่าก๋า ) วันที่: 8 พฤษภาคม 2551 เวลา:16:37:29 น.  

 
เห็นด้วยกับคำว่า"ไม่คาดหวัง"นะครับ ปล่อยให้มันเป็นไปบางทีก้สบายใจแล้วได้เห็นธรรมชาติที่แท้จริงของสิ่งนั้นๆด้วย...


โดย: บ่าวเจียงฮาย IP: 125.25.190.203 วันที่: 8 พฤษภาคม 2551 เวลา:16:58:10 น.  

 
+ โอว! หน้านี้ของหมอเบสซุดย้อดดด อ่ะครับ ผมใช้เวลาโหลดตั้ง 6-7 ครั้งแน่ะ กว่าจะได้ภาพมาครบอ่า เน็ตบริษัทผมมันช่างเต่าได้ใจแต๊ๆ เลยอ่ะคับ เซ็งเป็ด ... แถมยังยาวได้ใจมากกกก กว่าจะอ่านจบ อิๆ อิ่มปรัชญาไปเยยอ่ะกั๊บ

+ โทษทีอ่ะครับ ที่ผมมาช่าไป(ไม่)หน่อย ช่วงสัปดาห์นี้ งานค่อนข้างรุมเร้า เลยไม่ค่อยมีเวลาไปเยี่ยมเยียนเพื่อนๆ บล็อกเท่าไหร่อ่ะครับ ต้องค่อยๆ ทยอยๆ ย่องๆ ไปเยี่ยงนี้อ่า

+ ชอบรูปหมู่บ้านวาวีอ่ะครับ
+ เวลาไปร้านกาแฟวาวีทีไร ผมก็ไม่ค่อยได้นึกเนาะ ที่แท้ก็มีที่มา มาจากชื่อดอยๆ นี้นี่เองอ่า

+ มีป้าย 8% ด้วยเหรอเนี่ย? ฮาโคตะระ
+ ว่าจะแซวเรื่องตรูดวัว เหมือนกันอ่ะครับ พอดีหมอเบสมาสารภาพซะก่อน กร๊ากๆๆ

+ ขำรูปหมูกระทะในเม้นต์อ่ะครับ

+ ผมก็ชอบนะครับ ถ้ามีรถเอง ขับไปเรื่อยๆ เหนื่อยก็พัก เห็นอะไรข้างทางสวยงามก็ลงไปยล มันทำให้ชีวิตเราเพลิดเพลินและเรียบง่าย รู้สึกสงบดีครับ
+ ส่วนเรื่อง 'จิตตก' ก็อย่าเป็นบ่อยนะครับ ศึกษาธรรมะเข้าไว้ และอ่านหนังสือแบบเล่มที่หมออ่านอยู่นี่ ก็ช่วยได้เยอะอ่ะครับผม

+ หมอเบสกำลังจะไปเกาะเต่าอีกแล้วเหรอคับเนี่ย? เที่ยวให้หนุกหนานนะคร้าบ ส่วนรูปสวยๆ คงไม่ต้องฝาก เด๋วก็คงได้เห็นกันที่นี่แหละน้อ


โดย: บลูยอชท์ วันที่: 8 พฤษภาคม 2551 เวลา:19:21:15 น.  

 
รูปสวยเหลือเกิน บรรยายไม่ถูกดูแล้วสบายใจดีจริงๆค่ะ อยากมีโอกาสได้ไปขับรถแล้วค่อยๆจอดละเลียดถ่ายรูปบนดอยสูงๆแบบนี้สักครั้งจริงๆ (เขียนอย่างนี้แปลสั้นๆได้ว่าอิจฉา)


ชอบเรื่องที่ไปกับรูปด้วย
หนังสือเล่มนี้ได้อ่านด้วยความใจดีของคนในบล็อก แต่มีรูปด้วยอ่านแล้วยิ่งรู้สึกดีมากขึ้นอีกค่ะ


โดย: SevenDaffodils IP: 65.203.0.242 วันที่: 8 พฤษภาคม 2551 เวลา:23:30:40 น.  

 
เที่ยวให้สนุกนะคร้าบบบ

อยากพักบ้างจังเลย

เดี๋ยวสิ้นเดือนนี้ก็จะได้พัก Quarter break ซะที เย้...


โดย: Unravel วันที่: 9 พฤษภาคม 2551 เวลา:8:07:57 น.  

 
สวัสดีเช้าวันศุกร์ค่ะคุณหมอ


โดย: coco-melon วันที่: 9 พฤษภาคม 2551 เวลา:10:14:04 น.  

 
สวัสดีค่ะพี่หมอ
แวะเข้ามาทักทาย พอได้มาอ่านบล๊อกของพี่หมอแล้วก็รู้สึกดีค่ะ เจ๋งไปเลย


โดย: รถเมล์ IP: 125.27.7.121 วันที่: 9 พฤษภาคม 2551 เวลา:14:41:31 น.  

 
เมื่อก่อนเกลียดการขึ้นไปทำงาน หรือธุระที่ดอยวาวี และอีกหลายดอยแถวๆนี้


เพราะ ตอนนั้น รู้สึกทุกอย่างต้องรีบเร่ง จนไม่มีเวลาได้ชื่นชมความงาม


ดูภาพ และอ่านบรรยายของคุณหมอ งดงามมากค่ะ



ดูตรงนี้แล้ว ได้มุมมองที่เปลี่ยนไป

ถ้ามีโอกาส จะกลับไปเยี่ยมดอยวาวี ไปและคงเลยไปดอยช้างด้วย


โดย: Farm Girl in High Sierra วันที่: 9 พฤษภาคม 2551 เวลา:15:23:04 น.  

 
ตั้งใจมาขอบคุณ สำหรับตู้ไปรษณีย์ใบเขื่อง ที่ให้ยืมไปใส่จดหมาย อิ อิ

สีแดงด้วย น่ารักมากค่ะ


emo emoemoemo






โดย: Farm Girl in High Sierra วันที่: 9 พฤษภาคม 2551 เวลา:15:27:26 น.  

 



โดย: สิงห์นครพิงค์ วันที่: 9 พฤษภาคม 2551 เวลา:17:24:48 น.  

 
คนเราย่อมมีหนทางของตนเอง

แต่พี่ลองสังเกตในบล๊อกพี่สิ มิตรรักแฟนเพลงตรึมมากๆ
อย่างน้อยผมว่าพอพี่เหงา เข้ามาในนี้ก็น่าจะทำให้ยิ้มได้นะครับ

ชีวิตมันก็มีแค่นี้แหละครับ บางครั้งมันก็ไม่ใช่ทั้งหมดของเรา

คิดถึงนะครับ แล้วสักวันหนึ่งเราจะได้เจอกัน


โดย: นายวุ้นกะทิ วันที่: 9 พฤษภาคม 2551 เวลา:23:55:36 น.  

 
มาฟังเพลงแจ๊สกันไหมครับ
จะบอกว่าเพราะนะ เพลงแบบไม่มีเนื้อ
เหมือนชีวิตบางทีมันก็ไม่สมบูรณ์แบบไงครับ เพลงบรรเลง ก็ยังทำให้เราฟังแล้วมีความสุขได้เลยเนอะ

หามาฝากโดยเฉพาะเลยนะครับ

//www.familiesties.com/MidiFiles/index.html

//atodaria.tripod.com/audio.html


โดย: นายวุ้นกะทิ วันที่: 10 พฤษภาคม 2551 เวลา:0:03:50 น.  

 
ภาพสวย คำบรรยายเยี่ยมยอด..อิ่มมากๆ คะกับบล๊อกนี้ของคุณ


โดย: ชมพู่น้อย วันที่: 10 พฤษภาคม 2551 เวลา:1:03:40 น.  

 
สวัสดีครับคุณหมอ


ดูเหมือนจะมีคนพูดถึงคุณหมออยู่นะครับ 5555
ในเม้นท์ข้างบนนั่น หุหุหุ


เน็ตนี่ความเร็วเท่าในบ้านผมเลยนะครับ 5555


"หัวใจเดินทาง" ผมก็เคยอ่านแล้วครับ

แต่ผมว่า "เดินทางด้วยหัวใจ" ดีกว่า




โดย: ก.ก๋า (กะว่าก๋า ) วันที่: 10 พฤษภาคม 2551 เวลา:9:36:45 น.  

 
ชอบอ่านบล็อกคุณหมอมากเลยค่ะ รูปสวย เพลงเพราะ ทำให้อยากกลับไปเที่ยวเมืองไทยมากๆเลย ถึงตัวไม่ได้ไป ก็ไปผ่านรูปในบล้อกคุณหมอก่อนละกันนะ


โดย: Snow_flurry วันที่: 10 พฤษภาคม 2551 เวลา:10:51:08 น.  

 
รูปเยอะดีค่ะ เหมือนได้ตามติดไปเที่ยวด้วยเลย ... รูปสวยตามเคยค่ะ

บางครั้งได้ไปใช้เวลาอยู่กับตัวเองแบบนี้ก็ดีนะคะ อ่านที่น้องหมอเขียนดูจะได้มุมมองชีวิตมากมาย คิดว่าน่าจะคุ้มมากเลยนะคะสำหรับการเดินทางครั้งนี้



โดย: VA_Dolphin วันที่: 10 พฤษภาคม 2551 เวลา:11:11:46 น.  

 
คุณหมอลองไปแถวๆจามจุรีรีสอร์ตดูนะครับ
มีหินสามก้อนที่ผมชอบมากครับ

แต่ อืมมม....ไม่แน่ใจว่าเค้าจะให้เข้าไปได้รึเปล่านะครับ


แถวนั้นพระอาทิตย์ตกสวยมากครับ




โดย: ก.ก๋า (กะว่าก๋า ) วันที่: 10 พฤษภาคม 2551 เวลา:11:13:32 น.  

 
ชอบจัง...


โดย: ตาลบูด (GaljaZZZ ) วันที่: 10 พฤษภาคม 2551 เวลา:12:09:42 น.  

 
ตั้งใจอ่านทุกข้อความ

และค่อยๆละเมียดชมทุกรูปภาพ

อิ่มมากค่ะ

อิ่มทั้งตา อิ่มทั้งใจ


โดย: หยุ่ยยุ้ย วันที่: 10 พฤษภาคม 2551 เวลา:13:34:37 น.  

 
อาทิตย์นี้ผมไปถ่ายรูปมา 2 ทริปกับพี่ชายครับ
หุหุหุ


ว่างก้เรียนเชิญนะครับคุณหมอ
จะเอามาอัพเรื่อยๆครับ

วันนี้เริ่มที่เก้าร้อยเจ็ดไร่ก่อนเลย




โดย: ก.ก๋า (กะว่าก๋า ) วันที่: 10 พฤษภาคม 2551 เวลา:14:11:15 น.  

 
คุณหมอครับ

ไร่นี้คงมีพื้นที่ 907 ไร่นั่นแหละครับ
เพราะกว้างสุดลูกหูลูกตาเลยครับ

มช.ก็สวยนะครับ
ผมเข้าไปถ่ายรุปมาครั้งนึง
ได้หอธรรม กับ ต้นคูน

รู้สึกว่าจะลงไว้ใน kawaka.multiply น่ะครับ
ลองเข้าไปดูได้นะครับ




โดย: ก. วรกะปัญญา (กะว่าก๋า ) วันที่: 10 พฤษภาคม 2551 เวลา:17:43:46 น.  

 
เข้ามาเยี่ยมบล็อคครั้งแรกนะคะ....และก้ออ่านทุกบรรทัด ดูทุกรูปภาพ

ทำให้วันหยุดที่แสนร้อนวันนี้....รู้สึกมีความหมาย และเย็นในใจขึ้นมาทันที

ขอแอดบล็อคเลยนะคะ


โดย: unsa วันที่: 10 พฤษภาคม 2551 เวลา:21:33:08 น.  

 
สวัสดีค่ะคุณหมอ manta นี่เป็นครั้งแรกที่เข้ามาเมนท์ในบล็อค หลังจากที่แอบแอดบล็อคมานานเป็นปีๆ ทุกครั้งจะแอบเข้ามาดูรูปถ่ายสวยๆที่ฝีมือถ่ายถึงขั้นเทพ ขอชมว่าถ่ายรูปได้สวยกว่านิตยสารบางฉบับเสียอีก ชอบมาเลยกับรูปถ่ายล่าสุดที่ดอยวาวี ทั้งที่ตัวเองก็เคยเห็นภาพพวกนี้จนชินตา(อยู่เชียงรายเหมือนกัน) แต่พอมาดูในภาพถ่ายที่คุณหมอถ่ายมาให้ดู มันกลับสามารถถ่ายทอดเรื่องราวได้มากกว่าที่เราเห็นจนชินตาจริงๆ..ถ่ายไว้เยอะๆนะ จะเข้ามาดูบ่อยๆค่ะ..เป็นกำลังใจสำหรับคนเชียงรายเหมือนกันค่ะ อย่าท้อกับงานก็แล้วกันนะคะ..คนไข้คือผู้มีพระคุณกับเรา.. เพราะถ้าไม่มีพวกเค้า เราก็คงตกงาน...


โดย: L (louis_jd ) วันที่: 11 พฤษภาคม 2551 เวลา:7:50:16 น.  

 
เจ๋งมากๆเลยครับท่านพี่

นอกจากรูปถ่ายที่สวยสุดๆแล้ว ยังรวบรวมข้อคิดที่ดีและโดนใจสุดๆอีกต่างหาก


โดย: zmen วันที่: 11 พฤษภาคม 2551 เวลา:16:18:04 น.  

 
หวัดดีครับคุณหมอ


วันนี้ขับรถไป
ยังนึกถึงเรื่องเล่าของพี่โบ๊ต
ที่พูดถึงชายคนนึงที่ขับรถด้วยความเร็ว 26 กิโลเมตรต่อชั่วโมง
และหยุดถ่ายรูปถนนเป็นระยะ

55555



มาดามพูดว่าไงรู้มั้ยครับ

มาดามบอกว่า "นั่นมันเป็นความใฝ่ฝันของที่รักเลยใช่มั้ย"


555555


ผมชอบมากครับรูปถนนคดโค้งเนี่ย
แต่ไม่เคยได้จอดถ่ายหรอกครับ
เพราะเวลามีมาดามไปด้วย ผมห่วงเรื่องความปลอดภัยครับ
เค้าก็ห่วงผมกลัวรถราวิ่งมา



.........................


เรื่องที่คุณหมอเล่าก็เหมือนเรื่องที่ผมเคยคุยกับน้องๆ นศ.ฝึกงานนั่นแหละครับ

ทุกคนอยากได้งานดี เงินดี งานสบาย
ซึ่งผมว่ามันไม่มีเลยครับ

มีแต่งานหนัก ที่หากคุณทำมันด้วยใจรักและชอบแล้ว
งานหนักมันจะลดน้ำหนักของตัวมันเอง

ส่วนจะรู้มากพอจะสอนใครหรือไม่นั้น
ผมว่าในขณะที่เราสอนคนอื่น
เราก็สอนตัวเองไปด้วยเสมอครับ

มีความสุขมากๆนะครับคุณหมอ
อยากเห็นถนนบนเกาะเต่ามากๆเลยครับ

55555

ครั้งที่แล้วผมอยู่แต่ในรีสอร์ตครับ




โดย: ก.วรกะปัญญา (กะว่าก๋า ) วันที่: 11 พฤษภาคม 2551 เวลา:19:36:46 น.  

 
โห....คุณหมอคงทำงานแบบไม่มีวันหยุดเลยนะครับ
เพราะคนป่วยรอไม่ได้

คนเกาหลีทำยังไงน้อ
เมารึเปล่าครับเนี่ย เฮ้อ









โดย: ก๋า เก็กเสียง (กะว่าก๋า ) วันที่: 11 พฤษภาคม 2551 เวลา:20:37:34 น.  

 
ดีใจที่หายป่วย แล้วถ่ายภาพมาให้ชมอีกค่ะ


โดย: little sun IP: 202.91.19.206 วันที่: 11 พฤษภาคม 2551 เวลา:23:40:43 น.  

 
พ่อผมเป็นพ่อค้าที่เก่งมากครับคุณหมอ
แต่ผมก็ได้คุณสมบัตินี้มาน้อยมาก

แต่ไปได้คุณสมบัติของแม่ผม
คือ การเป็นคนนอนง่าย
และมีความสุขได้ง่ายกับสิ่งต่างๆรอบตัว



โดย: กะว่าก๋า (กะว่าก๋า ) วันที่: 12 พฤษภาคม 2551 เวลา:21:22:18 น.  

 
การได้ใช้เวลากับการไปเที่ยวคนเดียวก็ได้อะไรอีกแบบนึง ที่มันอาจมากกว่าไปหลายๆคนก็ได้นะครับ อย่างน้อยก็ได้รู้จัก "ใจ" ตัวเองมากขึ้น เหมือนกับสิ่งที่พี่หมอพรรณนาออกมาหละครับ

ตอนไปไต้หวัน ผมก็ทำแบบนี้นะ บางอย่างไม่ได้อยู่ในโปรแกรมแต่เดินๆไป แล้วเห็นว่าน่าสนใจผมก็แวะไป แวะเข้าไปสัมผัส มันอาจไม่น่าสนใจ ไม่สวยงามในสายตาคนอื่น แต่มันน่าประหลาดใจ น่าตื่นเต้น ดูประทับใจในสายตาเราก็พอครับ ความสวยงามต่างคนต่างมองจริงๆ


ชอบภาพหลายๆภาพครับ ถ่ายออกมาได้สวยมากๆ ...เพลงก็เหงาเพราะได้ใจจริงๆ ขอบคุณครับ


โดย: ตงเหลงฉ่า วันที่: 12 พฤษภาคม 2551 เวลา:23:18:00 น.  

 
แวะมาเยี่ยมค่ะ


โดย: coco-melon วันที่: 13 พฤษภาคม 2551 เวลา:11:19:50 น.  

 
หวัดดีคราบคุณพี่หมอ
ไม่ได้เข้ามาเยี่ยมนานแล้ว


โดย: หนูเหน่ง ณ วอลลองกอง IP: 202.7.166.167 วันที่: 13 พฤษภาคม 2551 เวลา:18:15:59 น.  

 
เย้ๆๆ พี่หมอใจดีเปลี่ยนฟอนด์ให้แล้ว
ทีนี้จะได้ไม่เมนต์ไปหงุดหงิดไปอีกแล้ว

คืนนี้ฝันดีนะคะ


โดย: มัยดีนาห์ วันที่: 13 พฤษภาคม 2551 เวลา:22:57:51 น.  

 
หวัดดีครับคุณหมอ


เมื่อคืนผมทำท่าจะเป็นหวัด
เลยรีบอาบน้ำนอนเลยครับ
ปิดคอมแต่หัววัน 5555

ตอนนี้พลังชีวิตฟื้นเต็มที่แล้วครับ




คุณหมอใกล้จะกลับแล้วนี่ครับ

ประสบการณ์ 10 วันที่เกาะเต่า
คงสะสมแต้มต่อให้คุณหมอได้ไม่น้อย
อย่างน้อยก็ทำให้รู้ว่า
คุณหมอหน้าเด็ก
ก็อาจทำให้ฝรั่งเข้าใจผิดคิดได้ว่าเป็น doorman 5555555


มีความสุขมากๆนะครับคุณหมอ




โดย: ก.ก๋า (กะว่าก๋า ) วันที่: 14 พฤษภาคม 2551 เวลา:8:03:02 น.  

 
คุณหมอรักษา "ความอยาก"
ในการอยากเข้าถึง "ความจริงของชีวิต" เอาไว้ให้ต่อเนื่องนะครับ

มันไม่ใช่เรื่องของพระอริยะ
หรือคนแก่ใกล้ตายเพียงอย่างเดียวครับ

ผมคิดว่าเด็ก 10 ขวบก็บรรลุธรรมได้ครับ




โดย: ก.ก๋า (กะว่าก๋า ) วันที่: 14 พฤษภาคม 2551 เวลา:8:15:43 น.  

 
+ อ้อ ... หมอเบสไป 'ติดเกาะ(เต่า)' อยู่นี่เอง ถึงว่าว่าเห็นไปเยี่ยมแค่บางบล็อกเท่านั้น เด๋วไว้รอหมอกลับมาประจำการอีกทีก่อนก็ได้ครับผม
+ เกาะเต่าเป็นอีกที่นึงที่ผมอยากไป แล้วยังไม่ได้ไป อยู่ในลิสต์อันดับต้นๆ เช่นกันครับ ไว้มีโอกาสต้องหาทางไปเยือนให้ได้ ตอนนี้เด๋วรอชมภาพงามๆ จากหมอเบสไปพลางๆ ก่อนแล้วกันน้อ อุๆ


โดย: บลูยอชท์ วันที่: 14 พฤษภาคม 2551 เวลา:12:30:01 น.  

 
ทำไมวันนี้เข้ามาได้ยินเพลงแล้วมันรู้สึกเศร้ายังไงไม่รู้

ชีวิตไม่มีอะไรมากหรอกค่ะ เราเกิดมาเพื่อที่จะเรียนรู้มันไม่ใช่หรอคะ

สุขบ้างทุกข์บ้าง สมหวังบ้าง ผิดหวังบ้างมันอยู่ที่ว่าเราจะเรียนรู้มันด้วยรูปแบบไหนก็เท่านั้น บางคนก็เอามันมาทุกข์ทั้งชีวิต เราลองมาเปลี่ยนมุมในการมองสิ่งต่างๆกันดูไหม

ทุกอย่างมีทั้งข้อดีและข้อเสีย เราลองมาเปิดใจมองข้อดีกันดีกว่าไหม

แล้วจะพบว่าความสุขอยู่ใกล้เราจริงๆ

ปลาดาวว่า "จิตตกบ่อยๆมันก็ไม่ใช่เรื่องแปลกเลย เพราะเรายังเป็นมนุษย์คนหนึ่ง แต่มันอยู่ที่ว่าเวลาจิตตกแล้วเราได้อะไรจากมันบ้างนอกจากความทุกข์ ความเศร้า "

อิอิ วันนี้ร่ายยาวเลย แต่เวลาปลาดาวจิตตกก็คิดแบบนี้เสมอ แล้วก็สบายใจขึ้นนะคะ

ปล.แก้คำผิดอีกนิดนะคะ
1.ปัจเจกบุคล(บนภาพที่ 7)
2.ไมตรีจิต(ข้างล่างรูปส้มค่ะ)
3. กล่าวไว้(ข้างบนภาพที่ 14 )

สู้ๆ สู้ตาย จ้า


โดย: *starfish* IP: 222.123.214.43 วันที่: 14 พฤษภาคม 2551 เวลา:19:02:18 น.  

 
หวัดดียามค่ำครับคุณหมอ


น้ำน่าจะลดจริงๆแหละครับ
แต่ผมไม่คิดว่าจะมีที่ที่เหมาะสม
สำหรับผูกเปลญวนอ่านหนังสือหรอกนะครับ




โดย: ก๋า เก็กเสียง (กะว่าก๋า ) วันที่: 14 พฤษภาคม 2551 เวลา:21:42:15 น.  

 
คุณหมอครับ

คุณหมอเชื่อมั้ยว่า
ผมมีวิธีแก้ไขปัญหาชีวิตที่ดีมากข้อนึง
ผมใช้มันมาในช่วงหลังๆ
เมือ่ก่อนเวลามีปัญหาผมชอบพาตัวเองไปจมอยู่กับปัญหา
แล้วก็เศร้ากับมันนานๆ


แต่ตอนนี้ผมแก้ปัญหาชีวิตเหมือนเวลาผมจะหาของหายในห้องน่ะครับ
ผมจะดูมันจากใกล้ตัวที่สุดก่อนเลย
เหมือนหวีอันหนึ่งหายไป
ผมไม่ต้องเดินหาไกลตัว หรือโวยวายอะไรเลย

ผมจะนั่งนิ่งๆ แล้วเริ่มดูจากใกล้ๆตัวก่อน
บ่อยครั้งนะครับ
หวีอันนั้นมันอยู่บนหัวของเราเอง 555
แบบว่าหวีเสร็จแล้วลืมน่ะครับ 5555




โดย: ก๋า เก็กเสียง (กะว่าก๋า ) วันที่: 14 พฤษภาคม 2551 เวลา:21:58:36 น.  

 
อยู่เกาะสบายดีไหม
หมดงานแล้วเหงาไหมพี่
คงไม่หรอกนะเพราะคอมพ์ยังมี

พี่เบส กลับมาแล้วจะได้เห็นรูปสวยๆบนเกาะไหมค่ะ

ฝนตกไหมค่ะแต่ได้ยินมีเตือนระวังฝนด้วยที่นั่น
บ้านนาห์ไม่มีเตือนแต่ตกทุกวันเลย


โดย: มัยดีนาห์ วันที่: 14 พฤษภาคม 2551 เวลา:22:42:03 น.  

 
หวัดดีครับคุณหมอ

ใกล้กลับมาแล้วนะครับ

รอชมภาพสวยๆจากเกาะเต่าอยู่นะครับ




โดย: ก.ก๋า (กะว่าก๋า ) วันที่: 15 พฤษภาคม 2551 เวลา:11:43:22 น.  

 

ผมเข้ามาอ่านในเวลาที่ตัวเองไม่ต้องถูกจำกัดด้วยการทำอะไรแบบเร่งรีบทำให้ผมได้อะไรเยอะขึ้นทีเดียว ผมรู้ว่าภารบรรจงถ่ายทอดของพี่หมอตลอดทุกบล็อกนั้นสอดแทรกอะไรไว้เยอะทีเดียว

ผมขอขอบคุณสำหรับการแบ่งปันประสบการณ์ที่ทำให้ผมได้เห็นความเรียบง่ายและธรรมชาติที่สวยงามที่อยู่รายล้อมให้เข้าไปได้สัมผัส ณ ดอยวาวี แม้ผมยังไม่มีโอกาสได้ไปแต่เพียงเท่านี้ก็เสมือนได้ไปเยือนแล้วครับ

ผมห่างหายไปจากการมาเยี่ยมเยือนที่บล็อกแกงค์ แต่ทุกครั้งที่ได้เข้ามายังบล็อกของพี่หมอผมได้กำลังใจกับไปทุกครั้ง

ท้ายนี้ ผมขออวยพรให้พี่หมอมีกำลังมากขึ้นตลอดไปนะครับไม่ว่าจะต้องทำงานหนักขนาดไหนเชื่อว่าด้วยความสามารถบวกกับความเก่งของพี่หมอทุกสิ่งทุกอย่างคงจะลุล่วงไปได้อย่างสมบูรณ์

เข้าหน้าฝนแล้วพี่หมอรักษาสุขภาพด้วยนะครับ


โดย: J.C. IP: 202.44.136.194 วันที่: 15 พฤษภาคม 2551 เวลา:12:01:04 น.  

 
หวัดดีค่ะหมอเบส (ขอเรียกตามเจ้าโบ๊ตน่ะค่ะ)
รูปสวยงามมากมายค่ะ จริงๆแล้วมาดามแอบตามผลงานอยู่ในห้องแกเลอรี่น่ะค่ะ แต่ไม่ค่อยชอบเปิดเผยตัวซักเท่าไหร่ รูปที่ไปเที่ยวญี่ปุ่นก็แจ่มมากๆๆ ชอบจังค่ะ
ปล... มาดามไม่ได้ไปเที่ยวเลย น้ำมันลิตรล่ะเกือบสี่สิบบาทแบบนี้จะไปไหนต้องคิดนานนิดนึง ไม่เหมือนแต่ก่อนที่คิดจะไปก็ไปเลยและต้องขอคิดนิดนึงว่าไปไหนจะไม่เจอฝนบ้าง เอ้ แถวนั้นฝนตกมั้ยน้า


โดย: มาเรีย ณ ไกลบ้าน วันที่: 15 พฤษภาคม 2551 เวลา:12:30:25 น.  

 
ดีใจด้วยครับ

จะกลับมาทำบล็อคแล้วล่ะ

แต่ยังไม่รู้จะเขียนไรเลย แหะๆ


โดย: สเก๊ต~มนุษย์หมาน้อย IP: 58.9.29.119 วันที่: 15 พฤษภาคม 2551 เวลา:12:41:37 น.  

 
เห็นเลขคอมเมนต์สวย

แวะมาจองตำแหน่งเอาไว้ก่อน

บ่งบอกว่า....ดองบล๊อกเอาไว้นานทีเดียว

ร่วมสองอาทิตย์ได้..

ตอนนี้ทำภาพเซทใหม่ไว้แล้วครับ

แต่ยังไม่ได้อัพ...เพราะว่าเนตสปีดไม่เอื้ออำนวย

รอกลับเจียงฮายก่อนเน้อเจ้า

..............................



โดย: Dr.Manta บ่ได้ล๊อกอินเด้อ IP: 118.173.229.70 วันที่: 15 พฤษภาคม 2551 เวลา:18:13:47 น.  

 
สวัสดีครับคุณหมอ

จำได้ดีว่าขากลับจากเกาะเต่า
คลื่นแรงมากครับ
มาดามเกือบโอ๊กอ๊าก 5555

ผมอฐิษฐานถึงเสด็จเตี่ยฯกรมหลวงชุมพรเลยครับ
ขอให้คลื่นหยุดทีเถอะ
เพราะไม่ไหวแล้ว

ปรากฏว่าเหมือนปาฏิหาริย์ครับ
คลื่นหยุดทันทีเลยครับ
ไม่งั้นผมตายแน่ เพราะนั่งหัวเรือด้วยครับ
ทริปนี้ฝรั่งอ๊วกกันตรึมเลยครับ 5555

นั่งไปครึ่งทางมีแจกถุงแซ่วๆด้วย 55555


จะรอชมรูปสวยๆจากฝีมือการถ่ายของคุณหมอเน้อ



โดย: ก๋า เก็กเสียง (กะว่าก๋า ) วันที่: 15 พฤษภาคม 2551 เวลา:20:49:24 น.  

 

แวะมาชวนหมอไปเดินปาดเหงื่อท่ีน้ำตกกรุงชิงครับ



โดย: B/W วันที่: 16 พฤษภาคม 2551 เวลา:9:28:54 น.  

 
ภาพสวย ความหมายดีค่ะ
คงต้องไปหาหนังสือเล่มนี้มาอ่านบ้าง

ชอบน้ำเสียงของเด็กผู้ชายคนนี้ค่ะ
เพลงนี้ ได้ความหมายและได้อารมณ์มากๆจริงๆ


โดย: คนชอบอ่าน IP: 117.47.121.44 วันที่: 16 พฤษภาคม 2551 เวลา:15:04:21 น.  

 
สวัสดีจ้า สบายดีน่ะคะ เจนนี่แวะมาขอบคุณที่แวะไปอวยพรวันครบรอบวันเกิดหนูมูวี่ที่บล็อคที่ผ่านมาค่ะ และวันนี้เจนนี่ก็มาชวนไปชมรูปควันหลงสงกรานต์ที่บล็อคเจนนี่ด้วยนะคะ อย่าลืมแวะไปทักทายกันอีกน่ะคะ

ด้วยมิตรภาพ


โดย: สาวอิตาลี วันที่: 16 พฤษภาคม 2551 เวลา:17:28:36 น.  

 
สวยจังคับบบบบบบบบบ



ชอบรูปของหมอทุกรูปเลยครับ
แต่ครับ แต่ผมชอบรูปหมาในไร่ส้มที่สุดเลยครับ

มันน่ารักอ่ะ


โดย: อืม...ครับ เชิญตามสบาย วันที่: 16 พฤษภาคม 2551 เวลา:17:48:20 น.  

 
ฮาโหลววว อยู่ป่าวเนี้ยย


โดย: Unravel วันที่: 17 พฤษภาคม 2551 เวลา:11:19:47 น.  

 
การได้เดินทางคนเดียวสบายใจดีนะค่ะอยู่กับตัวเองได้คิดอะไรไปเรื่อยๆ
การได้สัมผัสวิถีชีวิตในแบบที่เราไม่มีเป็นความรู้สึกที่น่าตื่นเต้นท้าทาย
อ่านไปเรื่อยๆรู้สึกว่าเราทำให้ชีวิตมันง่ายก็ได้อยู่ที่ตัวเราเองนี่แหละขอบคุณค่ะ มีรูปธรรมชาติกับข้อความดีๆมีพลังใจขึ้นเยอะเลย


โดย: วนิส วันที่: 18 พฤษภาคม 2551 เวลา:10:54:00 น.  

 

อ่านมาตั้งนาน หายเคลียสเลยแต่กายเป็นง่วงแทน


โดย: กิจจาวรรณ 555 IP: 58.9.146.102 วันที่: 19 พฤษภาคม 2551 เวลา:20:46:40 น.  

 
ภาพถนน ภูเขา และต้นไม้ สวยจนตะลึง ...


โดย: พลทหารไรอัน วันที่: 13 มิถุนายน 2551 เวลา:1:30:07 น.  

 
ผมก็เป็นคนหนึ่งที่ชอบเที่ยวธรรมชาติมาก ๆๆๆได้สูดอากาศบริสุทธิ์ ได้ผักผ่อน ซึ่งมันเป็นภาพที่ไม่สามารถบรรยายเป็นคำพูดออกมาได้หมดแต่คนเราสามารถที่สัมผัสมันได้ด้วยใจเรา ผมได้อ่านบทความของพี่แล้วทำให้ผมรู้จักตัวตนของผมมากขึ้นซึ่งแต่ก่อนผมคิดว่าเราเกิดมาทำไมแล้วอยู่เพื่อใคร แต่ตอนนี้ปัญหาที่คาใจผมมานานได้ถูกไขความลับแล้ว.......ผมรู้แล้วว่าเราเกิดมาทำไมแล้วอยู่เพื่อใคร......ขอบคุณครับพี่ขอเป็นกำลังใจให้พี่นะครับ


โดย: ปฏิภาณ IP: 118.172.103.235 วันที่: 25 มิถุนายน 2551 เวลา:11:04:24 น.  

 
รูปภาพสวยมากๆ ครับ
สุดยอดคำบรรยายครับผม
ขอให้มีผลงานแบบนี้อีกนะครับ
จะติดตามชมครับ


โดย: ณัฏฐนันท์ IP: 117.47.88.218 วันที่: 5 กันยายน 2551 เวลา:11:46:25 น.  

 
ผ่านมาดูรูปอ่าคะ

ภาพสวยมากเลย ชื่นชม ๆ ๆ^ ^ *


โดย: *ดาวเรือง IP: 125.27.146.179 วันที่: 10 พฤศจิกายน 2551 เวลา:21:52:51 น.  

 
นึกว่าตากล้องจาก บอลโลก 2010 มาเอง........ ทุกภาพสุดยอดเลยค่ะ


โดย: จีน่า เยอรมัน IP: 84.152.35.151 วันที่: 25 กรกฎาคม 2553 เวลา:7:30:35 น.  

 
ฉันมีของให้y8


โดย: วรรณพร หม่อนกันทา IP: 182.93.217.45 วันที่: 9 ธันวาคม 2553 เวลา:13:59:18 น.  

ชื่อ :
Comment :
  *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 

Dr.Manta
Location :
เชียงราย Thailand

[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 30 คน [?]




&key



Group Blog
 
<<
พฤษภาคม 2551
 123
45678910
11121314151617
18192021222324
25262728293031
 
4 พฤษภาคม 2551
 
All Blogs
 
Friends' blogs
[Add Dr.Manta's blog to your web]
Links
 

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.