Group Blog
 
 
สิงหาคม 2548
 123456
78910111213
14151617181920
21222324252627
28293031 
 
28 สิงหาคม 2548
 
All Blogs
 

7 วัน 6 คืน ละลายเงินสองหมื่น (กว่า) ที่ฮ่องกง ตอนที่ 4

ได้ไปซะที Repulse Bay, Stanley Market

วันอังคารที่ 16 ส.ค. 2548 ตื่นกัน 8 โมงครึ่งค่ะ ออกจากบ้านกัน 9 โมงกว่าๆ เดินไปร้าน Hing Fat กันอีกที เพื่อนอยากทานข้าวหน้าเป็ดแต่เช้าเลยค่ะ ไปถึงปรากฏว่าร้านเค้าไม่มีข้าวหน้าเป็ดสำหรับมื้อเช้าค่ะ เค้าจะมีจัดเซ็ตเอาไว้ เป็นติ่มซำ 1 เข่งหรือผัดหมี่ หรือข้าว กับโจ๊ก หรือชา หรือกาแฟค่ะ



เพื่อนมี่สั่งผัดหมี่ฮ่องกง + ชา หน้าตาแบบนี้ค่ะ



ส่วนมี่ก็สั่งซาลาเปาหมูแดง + กาแฟค่ะ



พอได้ทานแล้วรู้สึกว่าไม่น่าสั่งชากับกาแฟเลยค่ะ เพราะจืดมากๆ มีแต่รสนมข้นจืด ผัดหมี่จืดค่ะ ไม่ผ่าน ส่วนซาลาเปาหมูแดง ชนะเลิศค่ะ อร่อยมาก ตัวแป้งเค้านิ่มค่ะ ถึงจะวางอยู่ซักพักก็ยังไม่ตึงหรือแข็งค่ะ



ส่วนหมูแดงก็หวานๆ หอมๆ ค่ะ อร่อยถูกใจ มื้อนี้จ่ายไป 32 เหรียญค่ะ



วันนี้เราจะไป Repulse Bay กันค่ะ นั่งเรือ Ferry ข้ามไปฝั่งฮ่องกงกัน เดินไปไม่ทันค่ะ เรือออกไปก่อน เก็บภาพมาแทน



ไปแล้วววว เดี๋ยวเรารอลำใหม่กันค่ะ



ถึงฝั่งแล้วค่ะ สะพานก็ถูกปล่อยลง



ใจเย็นๆ นะคะ ค่อยๆ ขึ้น เดี๋ยวจะลื่นตกค่ะ



ออกจากท่าเรือ เดินไปทางที่จอดรถใต้ Exchange Square เพื่อขึ้นสาย 6 หรือ 6X ตามคู่มือ ระหว่างทางเจอที่ทำการไปรษณีย์ค่ะ



ตึกสูงๆ มีให้เห็นกันประจำค่ะ



เราได้นั่งสาย 6X ค่ะ ขั้นไปนั่งชั้น 2 ชมวิวไปเรื่อยๆ



รถรางค่ะ เดี๋ยววันหน้าค่อยมานั่งนะ



รถเมล์เค้าสูงมากเลยค่ะ ได้นั่งแถวหน้าๆ นี่จะเห็นวิวชัดเจนดีค่ะ



จะลอดเข้าอุโมงค์อีกแล้วค่ะ รู้สึกจะลอดกันทุกวันเลยแฮะ



นั่งไปเรื่อยๆ จนกระทั่งรถเริ่มขึ้นเขา (ถ่ายไม่ได้แล้วค่ะ พอดีมี่นั่งฝั่งซ้าย ติดกำแพง ถ้าฝั่งขวาจะเห็นวิวค่ะ) พอมองเห็นอาคารที่มีรูตรงกลางก็เตรียมลงได้เลยค่ะ ลงจากรถปุ๊ปข้ามถนนไปฝั่งตรงข้าม เดินลงไปที่ชายหาด แล้วเดินเลียบชายหาดไปเรื่อยๆ ก็จะไปถึงวัดที่มีเจ้าแม่กวนอิมค่ะ แต่มี่กับเพื่อนข้ามถนนมาแล้วเดินเลียบริมถนนไปเรื่อยๆ ค่ะ เจอเขตก่อสร้าง เจอบ้านคน ตอนแรกนึกว่าผิด แต่ไม่ผิดค่ะ เห็นรถทัวร์จอดอยู่เป็นระยะ ก็เลยเดินตามๆ กันไป ไปเข้าทางด้านหน้าค่ะ ขากลับค่อยเดินเลียบชายหาดกลับ

สิงห์โตอยู่หน้าวัดค่ะ



เจ้าแม่กวนอิมค่ะ คนเยอะมาก ถ่ายรูปไม่ค่อยสะดวกเท่าไหร่เลย



เง็กเซียนฮ่องเต้ค่ะ



ป้ายนี้เป็นชื่อสถานที่ค่ะ จำไม่ได้เหมือนกันว่าเค้าเรียกเป็นภาษาอังกฤษว่าอะไร Tian... Statue อะไรประมาณนี้อ่ะค่ะ



ที่นี่จะมีรูปปั้นเจ้าแม่กวนอิม เง็กเซียนฮ่องเต้ พระสังกัจจาย และเซียนอื่นๆ อีกเยอะแยะเต็มไปหมดค่ะ ไปวันธรรมดาคนก็ยังแยะ ถ้าไปวันหยุดมีหวังไม่ได้ถ่ายรูปแน่ๆ ค่ะ



องค์นี้เหมือนมังกรค่ะ



ดูกันไปเรื่อยๆ นะคะ



องค์นี้เหมือนเง็กเซียนนะ ไม่แน่ใจค่ะ



องค์นี้เป็นพ่อสื่อเทวดาค่ะ สำหรับขอเรื่องความรัก คู่ครอง ว๊า..เสียดายมาก เพราะรู้หลังจากกลับมาแล้ว เลยไม่ได้ขอจากท่าน



แพะสวรรค์ ปากคาบอะไรอยู่ไม่ทราบเหมือนกันค่ะ เห็นไม่ชัด



เสานี้เหมือนเป็นโคมไฟแห่งชีวิตอะไรประมาณนั้นน่ะค่ะ เห็นฝรั่งคนหนึ่งเรียก Lamp of Life



ส่วนปลาสีเหลืองนี่ ไม่รู้ใครเป็นคนเริ่มต้นนะคะ แต่มี่เห็นคนพยายามโยนเหรียญใส่ปากปลาค่ะ โยนกันจนหนวดหัก แถมเงินกระเด็นมาโดนหัวคนอื่นอีก แย่จัง



ฮก ลก ซิ่ว ค่ะ



พระพุทธรูปค่ะ เป็นหินสีขาวๆ สวยมากๆ เลยค่ะ



ตามกันมาเรื่อยๆ ค่ะ เยอะมากๆ



เริ่มงง ไม่รู้จะบรรยายยังไงแล้วค่ะ



เทวรูปที่นี่เยอะจริงๆ ค่ะ วันที่ไปฝนไม่ตกนะคะ แดดออกเป็นระยะ ค่อนข้างอบอ้าวค่ะ แต่ติดทะเลก็เลยมีลม



องค์พระสังกัจจายท้องจะเป็นสีดำๆ เพราะคนเอามือไปลูบค่ะ



ภาพรวมค่ะ



มุมเจ้าแม่กวนอิมค่ะ



เมฆเยอะจังค่ะ



ซักพักแดดก็ออก



มุมด้านหน้า ถ่ายจากทางเดินที่ยื่นไปในทะเลค่ะ



ออกจาก Repulse Bay เราเดินมาขึ้นรถเมล์ตรงป้ายที่ลงค่ะ เห็นเจ้าบ่าวเจ้าสาวเค้ามาถ่ายรูปกันพอดี น่าอิจฉาจัง



เรานั่งสาย 66 ไปลง Stanley Plaza ค่ะ เดินลงไปข้างล่างตรงลานกว้างๆ จะมีทางเดินไป Stanley Market ค่ะ คอยสังเกตป้ายต่างๆ ไว้ก็ไม่หลงค่ะ เดินง่าย แต่รู้สึกว่ามี่จะเดินไปไม่ถึงตลาดสดค่ะ เห็นแต่ตลาดที่ขายของให้นักท่องเที่ยวค่ะ เดินวนไปวนมา ไม่ค่อยได้อะไรเท่าไหร่ค่ะ เพราะค่อนข้างเหมือนเมืองไทย

ป้ายนี้มาเห็นตอนเดินกลับค่ะ ตอนเดินไปไม่ท้นได้มอง



แต่ก็เดินไปได้เรื่อยๆ ไม่หลงนะคะ



อ้อ..ตอนเดินอยู่ใน Stanley Market เห็นร้านอาหารร้านนี้ด้วยค่ะ แต่เห็นราคาแล้วตกใจ เก็บไว้ให้ฝรั่งกับนักท่องเที่ยวบ้านอื่นเมืองอื่นเถอะค่ะ เรากลับมาทานที่บ้านเราดีกว่า อิอิ



ตึกด้านหลังมี่เป็นร้านอาหารค่ะ มีช่องตรงหน้าต่างเป็นโต๊ะที่ดีที่สุด เห็นวิวชัด สองคนนั้นเลยนั่งไม่ลุก ตั้งแต่พวกเราเดินไป จนเดินกลับก็ยังอยู่



ขากลับแอบซื้อขนมปัง Muffin ในร้านที่ Stanley Plaza มาไว้ทานมื้อดึกค่ะ มี่เป็นโรคติดขนมปังค่ะ เห็นแล้วอยากทุกที มีไส้ไม่มีไส้ทานได้หมด ขากลับเรานั่งสาย 973X ค่ะ เห็นว่าไปถึง Tsim Sha Tsui ก็เลยลองนั่งดู ขึ้นรถปุ๊บก็ไปชั้น 2 ปั๊บเลยค่ะ คนขับขับซิ่งมากค่ะ ขึ้นเขาลงเขานี่เล่นเอาใจหายวูบ มี่กับเพื่อนั่งแถวที่สองด้านซ้ายค่ะ มีคุณลุงคุณป้าฝรั่งคู่หนึ่งนั่งอยู่ด้านหน้าเรา ร้องกันตลอดทาง ฮาดีค่ะ วิวสวยดีค่ะ มี่ก็กดชัตเตอร์ไปเรื่อยๆ ประมาณว่าเสียดายค่ะ อยากให้คนอื่นๆ ได้เห็น แต่รูปที่ถ่ายออกมามันสวยสู้ของจริงไม่ได้เลยค่ะ เป็นเพราะกระจกรถกับอากาศข้างนอก รวมกับฝีมือห่วยๆ ของมี่มังคะ อิอิ





รถวิ่งขึ้นเขา ลงเขาอยู่อย่างนั้นอ่ะค่ะ แต่เพลินนะคะ ไม่น่าเบื่อ



ใครง่วงก็หลับได้ค่ะ เพราะเราไปกันอีกไกล






แอบเห็นนี่ด้วยค่ะ วู้..น่าไปเรียนจัง



ส่วนตึกนี้คือ University of Hong Kong ค่ะ เป็นคณะ Medicine โห..นั่งเรียนกันวิวสวยกว่าโรงแรมอีกอ่ะ



มีฟ้า มีน้ำ ภูเขา และตึก



ส่วนนี่.. สุสานค่ะ ตอนแรกมี่ไม่กล้าถ่าย กลัวอ่ะค่ะ เพื่อนบอกนี่มันที่เค้าใช้ถ่ายหนังบ่อยๆ ไง ที่เห็นในหนังฮ่องกงอ่ะ เลยรีบกดชัตเตอร์ เกือบเลยไปแล้ว



เรือมีขาค่ะ อยู่ข้างหน้าเห็นไม๊คะ



ซูมอีกนิด วิ่งเร็วมากๆ เลยค่ะ



เรากำลังจะลอดผ่าน Western Harbour Tunnel ค่ะ มันคือทางใต้น้ำหรือเปล่าคะ ใครรู้บอกที



ลอดเข้าไปก็เป็นอุโมงค์ แล้วมาโผล่ที่นี่ค่ะ



ตอนนั้นพลิกแผนที่ให้วุ่นไปหมด หาไม่เจอว่าตัวเองอยู่ที่ไหน ไม่ได้กลัวหลงนะคะ แต่สงสัยอ่ะ เพราะไม่รู้มาก่อนว่ามีถนนวิ่งจากฝั่งฮ่องกงมาเกาลูนได้ นึกว่ามีแค่ MTR กะ Ferry



แถวๆ นี้ดูเงียบๆ กว้างๆ ค่ะ ไม่วุ่นวายแออัด



เรามาลงกันที่ฝั่งตรงข้ามห้าง Harbour City ใกล้ๆ Marco Polo Prince ค่ะ แล้วเดินไปหาร้าน Sweet Dynasty อยากจะทานขนมหวานๆ เย็นๆ ให้ชื่นใจ แต่เพื่อนเห็นว่าแพงเลยไม่เอาด้วยค่ะ

แถวนี้ร้านอาหารเยอะมาก น่านั่งทุกร้าน แต่ราคาก็สมฐานะเลยค่ะ



ร้านที่นี่ส่วนใหญ่จะมีเมนูให้ดูหน้าร้าน เราก็ประมาณการได้ว่าเราจะทานอะไร หรือเงินในกระเป๋าจะมีพอจ่ายไม๊ อะไรแบบนั้น



ร้านนี้มีโจ๊กขายด้วย อ่านได้ตัวที่ 3 จากซ้ายอ่ะค่ะ อิอิ



แล้วเราก็เจอร้านนี้ค่ะ Happy Garden เลยตกลงทานมื้อเย็นกันที่นี่ ไม่ผิดหวังค่ะร้านนี้



เก้าอี้เค้าสวยเนอะ



มี่สั่งแป้งห่อหมูแดง (ไม่รู้เรียกว่าอะไรอ่ะค่ะ) กับบะหมี่เกี๊ยวกุ้ง (อีกแล้ว) ตัวแป้งเป็นแป้งนิ่มๆ ค่ะ ไม่เหมือนก๋วยเตี๋ยวหลอดบ้านเรา ส่วนหมูแดงนี่สู้ร้าน Ho Hung Kee ไม่ได้ค่ะ อิอิ



บะหมี่เกี๊ยวกุ้ง



แป้งห่อหมูแดง



ที่เด็ดเห็นจะเป็นเกี๊ยวกุ้งค่ะ คือเกี๊ยวกุ้งร้านอื่นๆ ที่ทานมาเนี่ย กุ้งเป็นกุ้งค่ะ แต่จะหั่นมาอาจจะ 2 หรือ 3 ชิ้นต่อลูก แต่ร้านนี้มาเป็นตัวค่ะ กุ้งเป็นตัว อิอิ เต็มปากเต็มคำ



แป้งเกี๊ยวบางๆ ห่อกุ้งทั้งตัว วุ้ย..อยากหม่ำอีก



นี่เจ้าแป้งห่อหมูแดงค่ะ ดูกันชัดๆ ก็อร่อยดีนะคะ แป้งจะนิ่มๆ จืดๆ ส่วนหมูแดงก็เค็มๆ หวานๆ ซอสที่ราดมาเหมือนซีอิ๊วดำหวานอ่ะค่ะ แต่ให้มาน้อยไปหน่อย

มื้อนี้จ่ายไป 48 เหรียญค่ะ



ทานอิ่มก็เดินกันต่อ ผ่านหน้าร้าน Hard Rock Cafe โดยที่มี่ไม่รู้ตัว เพื่อนบอกเฮ้ย..Hard Roack มี่ก็เหวอเลยค่ะ ไม่ได้สังเกตค่ะ หน้าร้านเค้าเล็กมากๆ แต่ไม่รู้ข้างในเป็นยังไง ไม่ได้เข้าไปดูค่ะ



เดินกันไปที่ Toy R’ Us ค่ะ ดูของเล่นให้หลานเพื่อน ประทับใจเจ้านี่ค่ะ เซ็ต Star Wars



ทำเหมือนมากๆ หน้าตาถอดพิมพ์คนแสดงออกมาเลยค่ะ ก็เลยอดใจไม่ไหว แอบถ่ายมานิดนึง



อ้อ..เดินห้างที่นี่จะเห็นเจ้าเครื่องนี้เกือบทุกห้างเลยค่ะ ถ้าเข้าใจไม่ผิด น่าจะเป็น Alcohol Gel เอาไว้ให้ล้างมือค่ะ



ออกจาก Ocean Terminal เดินผ่านมาทางหน้า Peninsula สวยจริงๆ เลยค่ะ ถ้ามีโอกาสได้พักที่นี่ซักคืนคงจะดี อิอิ




 

Create Date : 28 สิงหาคม 2548
0 comments
Last Update : 13 กรกฎาคม 2549 23:34:46 น.
Counter : 1552 Pageviews.

ชื่อ :
Comment :
  *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 


luvammie
Location :
กรุงเทพ Thailand

[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 3 คน [?]




เป็นผู้หญิงตัวเล็กๆ ช่างฝัน ฝันเพ้อเจ้อไปเรื่อย ไม่รู้จักโต ชอบอ่านหนังสือจินตนิยาย เอาแต่ใจตัวเอง คลั่งไคล้สีชมพู สีม่วง สีฟ้า และเฮลโลคิตตี้เป็นที่สุด ชอบฟังเพลงร็อค พังค์ โดดๆ ในคอนเสิร์ต รักการทำขนมและเดินทางท่องเที่ยวเป็นชีวิตจิตใจ ตอนนี้ได้โลโก้และชื่อแบรนด์เป็นของตัวเองแล้ว อิอิ "The Baker Witch" แม่มดคนนี้ทำขนมไม่เก่ง แต่รักที่จะทำ ยังไงก็ฝากตัวด้วยนาคะ


Friends' blogs
[Add luvammie's blog to your web]
Links
 

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.