Group Blog
 
<<
มีนาคม 2552
1234567
891011121314
15161718192021
22232425262728
293031 
 
17 มีนาคม 2552
 
All Blogs
 

บล็อกนี้คือ...ความรัก



การเขียนครั้งนี้ได้รับแรงบันดาลใจจากการพูดคุยกับน้องสาวคนหนึ่ง
...ขอออกตัวว่า ไม่เกี่ยวกับเจ้าน้องชายสองคนที่เป็นเจ้าของบล็อกนี้ เกี่ยวพันด้วยเป็นเพียงช่วงเวลาที่อบอวลอยู่รอบกาย
อยากเพียงแค่บันทึกเพื่อเก็บช่วงเวลาเดียวกันนี้ไว้อ่านเมื่อยามแก่เฒ่าเท่านั้นเอง



เด็กสองคน เป็นเด็กที่เราผ่านเมียงมองด้วยรอยยิ้มเสมอ
ความรู้สึกระหว่างเด็กทั้งสองนี้ เราคงไม่กล้าฟันธงว่า มันคือความรัก
แต่ถ้ามันไม่ใช่ “รัก” เราก็ยากจะใช้คำอื่นใดมาอธิบาย
หรือจะใช้คำว่า “ความรู้สึกดีดีที่ต่างมอบให้กัน”
งั้น...มันต่างจาก “รัก” ตรงไหนกันนะ

ความสัมพันธ์ระหว่างเด็กสองคนนี้
จะใช้คำว่า “แฟน” คงจะหนักไปสำหรับยุคสมัยนี้ที่คำคำนี้แทบเป็นคำต้องห้าม
คำว่า “เพื่อนสนิท” ดูจะน่ารักและอธิบายได้หมดจดและงดงาม

เจ้าเด็กผู้ชาย เป็นหนุ่มหน้านิ่งเฉย ปากหนักคนหนึ่งเท่าที่เคยเจอมาทีเดียว
ไม่ใช่แค่ปากนะ ท่าทางก็ไร้ซึ่งความอ่อนหวาน ยิ่งไปให้ถึงความโรแมนติก
เอ๊อออ...เจ้าหนุ่มนี่คงทำหน้ายียวน พร้อมเหล่มอง เกาหัวเดินจากไป
แต่สิ่งหนึ่งที่มองเห็นจากคราวนี้ เด็กผู้ชายคนนี้อ่อนโยนแบบแข็งๆได้นารักจิฟ
ความห่วงใยโดยไม่ปริปากแม้สักครึ่งคำ กลับทำให้ยิ่งมองเห็นหัวใจผู้ชายหนึ่งคนต่อผู้หญิงอีกคน

แล้วเด็กผู้หญิงล่ะ
เป็นสาวห้าวมากคนหนึ่งชนิดทำให้ผู้หลักผู้ใหญ่ตกใจโขเลยล่ะ
เพียงแต่ว่า เด็กผู้หญิงห้าวๆแบบนี้ กลับซื่อตรงกับความรู้สึกตัวเองเกินกว่าใคร ตรงไปตรงมา ไม่กังวลกับสายตาใครอื่นจนกดดันตัวเองเพื่อรักษาภาพพจน์
ความห้าวที่มีกับตัว ไม่ทำให้สาวน้อยหยาบจนมองข้ามความรู้สึกคนใกล้ตัว
จึงไม่แปลกใจแม้สักนิดเมื่อ... ไม่ว่าจะเกิดเหตุการณ์ใดขึ้นมากับเพื่อนสนิท เพื่อนสนิทคนนี้จึงพร้อมมองเห็นและคอยเคียงข้างเสมอ


จากเวลาที่ผ่านมา
สำหรับตัวเราเองกับเด็กสองคนนี้ที่มีฐานะอยู่แค่คนดูรายการเรียลลิตี้คนหนึ่งเท่านั้น
จะเกิดความรู้สึกว่า มองเห็นเด็กผู้หญิงชัดกว่าเด็กผู้ชาย
เพราะเจ้าหนุ่มน้อยคนนี้ไร้ซึ่งการแสดงออกอย่างแรง


ตอนAF4
คืนหนึ่งทำให้เรารู้ว่าที่ผ่านมา เจ้าหนูนี่เก็บความรู้สึกเก่งได้ไม่เลว
เมื่อช่วงจังหวะเวลา ความกดดันทำให้เริ่มหลุดมาให้เห็นให้เราจับพิรุธบางอย่าง
คนเราก็มักจะเป็นแบบนี้ เวลาที่คิดว่านี่คือโอกาสสุดท้าย ไอ้สิ่งที่คิดว่ากักไว้ก็มักเก็บไม่อยู่

คืนวันศุกร์ ในวีคที่ตลอดทั้งวีคเด็กผู้ชายโดนคาดโทษพฤติกรรมจนคิดไปเองว่า นี่คือคืนสุดท้ายที่จะได้อยู่ในบ้าน
บนโต๊ะอาหารกับเพื่อนมากมายนั่งคุยกัน
เด็กผู้หญิงนั่งเก้าอี้อีกฟาก
เด็กผู้ชายกระวนกระวายด้วยความรู้สึกหลากหลายในใจ เดินไปมาอย่างกระสับกระส่าย
จนในที่สุด....
เด็กผู้ชายเดินมานั่งแทรกเก้าอี้เดียวกันกับเด็กผู้หญิง

...ตอนนั้นล่ะมั้ง ที่เราคิดว่า มองเห็นอะไรบางอย่างระหว่างเด็กสองคน
มันคงไม่ถึงคำว่า “รัก” แต่มันต้องมีคำว่า “ความผูกพัน” ผูกเด็กสองคนนี้ไว้ด้วยกัน

แต่ความรู้สึกหวานในใจพังทลายครืน
เมื่อเด็กผู้หญิงเดินไปนั่งปล่อยอารมณ์ต่อที่ริมสระ
เมื่อเด็กผู้ชายตามไปตอแย
ภาษาพ่อขุนที่ปล่อยออกมาทำเอาแทบหงายหลัง
จำได้ว่า ตัวเองไปตอบกระทู้ถึงกรณีนี้ว่า “งั้นก็เป็นเพื่อนกันไปก่อนล่ะไอ้น้อง”

แม้เจอกับเหตุการณ์ตอกย้ำ หลังจากนั้นอีกหลายวีค
ที่บรรดาเพื่อนช่วยกันให้สองหนุ่มสาวปรับความเข้าใจกันในห้องนอน
จนกลายเป็นหนึ่งในเรื่องเล่าขานในช่วงเวลาAF4
เราก็แค่แอบอมยิ้ม...กับเรื่องราว


จากนั้น...
กับเรื่องราวของเด็กสองคนนี้สำหรับเราก็จบ
แม้จะได้ยินมาเป็นระยะจากหลายสาย ต่างปลาบปลื้ม มีความสุขมาพร้อมคำพูด...
“เรารู้กันในใจ”

ซึ่งเราฟังแล้วก็แค่นั้น...


กลับมาคราวนี้...
ผ่านไปวีคแรก
เราก็ยังคิด...เราก็ยังเห็นเด็กผู้หญิง
ไม่น่าเกลียด ดูน่ารักตามประสา
เพียงแต่...เด็กผู้ชาย ก็ยังเป็นเด็กผู้ชายคนเดิม
หน้าเฉย ปากแข็ง ท่าทางนิ่งไม่แสดงออกใดใด

ปัญหาเริ่มถาโถม
เด็กผู้ชายเหมือนเป็นแกสโซฮอลล์เล็กๆ
คำตำหนิ การถูกกระทำ คิดว่าถูกกระทำ
ไม่ว่าเรื่องราวใครจะผิด ใครจะถูก หรือไม่มีใครผิดใครถูก
แต่สิ่งหนึ่งที่เรายังมองเห็น
เราเห็นความผูกพันของเด็กสองคนนี้เด่นชัดขึ้นมา

แม้ภาพออกมาว่าเด็กผู้หญิงคอยตามตอแย คอยอยู่ใกล้ไม่ห่างไปไหน
แล้วในขณะเดียวกัน เด็กผู้ชายก็เฉย ถึงเฉยมาก
ดูตัดกันจนชวนส่ายหัวกับสายตาบางคน

แต่แล้วคืนหนึ่ง...
คงเป็นคำตอบให้กับหลายคำถามที่มองอย่างสงสัย
เด็กผู้ชายก้มหน้าก้มตาเล่นเกมดูเหมือนไม่ให้ความสนใจเด็กผู้หญิงที่นั่งอยู่เป็นเพื่อน
สภาพเด็กผู้หญิงก็ดูเหนื่อยอ่อนกว่าปกติ
จนเวลาล่วงเลยไป อาจด้วยสภาพร่างกาย บวกกับสภาพจิตใจ อาจผสมความน้อยใจเล็กๆที่สาวห้าวคนหนึ่งมีกับเขาเป็นเหมือนกัน
เด็กผู้หญิงบอกออกไปว่าจะกลับไปนอนแล้ว
เราถึงได้เห็นเจ้าหนูที่ก้มหน้าก้มตาแทบไม่มองไม่ให้ความสนใจ เอ่ยปากฉุดรั้งให้เด็กผู้หญิงอยู่เป็นเพื่อน

การมีกันและกันอยู่ข้างกาย
ไม่ใช่เรื่องน่ารำคาญ ไม่ทำให้รู้สึกอึดอัด
การไม่พูดด้วย ก็ใช่ว่าไม่อยากให้อยู่ด้วย

...ผู้ชายอะไร ท่าทางและปากแข็งได้อย่างชวนอ่อนใจ
เพียงแต่ว่า เด็กผู้หญิงเพื่อนสนิทไม่ใช่สาวขี้ใจน้อย ไม่จู้จี้ไม่เรียกร้อง

เพราะอย่างงี้
...ความรู้สึกระหว่างเด็กสองคนถึงได้งอกงามสินะ


เราเคยคิด...
เด็กผู้ชายแบบนี้ เวลาหวานจะหวานได้แค่ไหนและหวานแบบไหนกันนะ

ไม่น่าเชื่อเลย
คำตอบลอยลงมาแค่เอื้อมมือ

เด็กผู้ชายออกไปทำงานตั้งแต่เช้ามืด
เด็กผู้หญิงนอนซมในห้องไม่ออกไปไหนด้วยอาการเจ็บป่วย ข้าวปลาไม่สนใจ

เด็กผู้ชายกลับมาเมื่อราวสองยาม
เมื่อรับรู้ถึงอาการเจ็บป่วยของเพื่อนสนิท
เด็กผู้ชายไม่รอช้า เดินเข้าไปถามไถ่พร้อมนำเจ้าลูกบอลมาเป็นเพื่อนแก้เขิน
ทิ้งระยะห่างไม่เข้าไปถึงเตียงนอน ยืนหมุนลูกบอลในมือพร้อมพูดคุยเรื่องราวต่างๆให้ฟัง
จนรุ่นพี่อีกคนเดินจากไป ปล่อยหรือเปิดโอกาสให้เด็กสองคน
หนุ่มน้อยก็ยังยืนอยู่ที่เดิม ทำท่าทางเดิม ไม่แสดงความหวานออกมาด้วยถ้อยคำ
มองเห็นเพียงความห่วงใยด้วยหัวใจ

เมื่อหัวใจหนึ่งส่งมา
หัวใจอีกดวงก็สัมผัสได้

สาวน้อยเปรียบดั่งทิวลิปไม่ใช่กุหลาบสวยหวาน
คลุมโปงอยู่ใต้ผ้าห่ม หลุดคำพูดเบาๆจากหัวใจเพียงหนึ่งคำก็...เพียงพอ
“เว่อร์”

ถ้าต้องเขียนบทรัก
เราก็คงไม่อาจคิดคำพูดใดมาแทนได้ดีไปกว่านี้อีกแล้ว
ผู้หญิงมากมายคงต้องการเพียงสักวันจะได้พูดคำที่มีความหมายด้วยหัวใจ ด้วยความรู้สึกอย่างที่เด็กผู้หญิงคนนี้เอ่ยออกมาสักครั้งในชีวิต


ไม่ว่าระหว่างเด็กสองคนนี้ นับจากนี้ไปจะกลับกลายเรื่องราวเป็นเช่นไร
สิ่งหนึ่งที่อยากมั่นใจ ดวงใจสองดวง
ค่ำคืนนี้...
คือค่ำคืนในความทรงจำ
และ
จะฝังลึกในหัวใจให้โหยหาไม่ว่าจะนานแค่ไหน

และ...นี่คือเรื่องราวอันเหลือเชื่อเมื่อโลกใบนี้ก้าวมาสู่โลกแห่งพลังข้อมูลข่าวสาร
เรื่องราวของสองคน ไม่ได้อยู่แค่กำมือของสองเรา
แต่กวาดจับหัวใจอีกหลายร้อยดวงผูกเข้ากับเรื่องราวความห่วงใยนี้

คือความรู้สึกที่สัมผัสจับไว้ด้วยหัวใจ






โดยส่วนตัวแล้ว
คิดว่าความรักน่ะสวยสดและงดงามที่สุดเมื่อเริ่มเวลาเดินทางของตัวมันเอง
แรกตั้งไข่ หกล้มลุกคลุกคลาน
ช่วงนี้ล่ะ...
คนเราจะมองเห็นสีสันทุกสีที่กระจายอยู่บนโลกใบนี้ สัมผัสได้แม้กระทั่งสีบางสีที่เราไม่เคยรับรู้มาก่อนด้วยซ้ำว่ามันมีอยู่จริง
มันเป็นสีสดจนกระจ่างตา ใสสว่างจนโลกใบนี้พราวระยับ

ในช่วงหนึ่งของคนเราจะโชคดี(เอ๊ะ! หรือโชคร้าย) ได้รับเรื่องราวดั่งเทพนิยายไม่กี่ครั้งในชีวิต
บางคนอาจโชคร้าย(เอ๋~หรือที่จริงโชคดี)เจอะเจอกับมันเพียงแค่ครั้งในชีวิต

เพราะหลังจากเราตั้งตัวติด
บนเส้นทางเดินต่อจากนั้น
เศษใบไม้แห้งเริ่มโปรยปราย กิ่งไม้เกะกะตามรายทาง
ลมเริ่มแรง แสงแดดเริ่มร้อน(กร๊ากกก)
สายฝนพัดกระหน่ำ หนาวเย็นจับขั้วหัวใจ

สีสันต่างๆที่เคยมองเห็นจะเริ่มจางหาย
แม้บางครั้งมันยังคงสดใสไม่ต่างจากแรกเริ่มที่มองเห็น
แต่ความเฉยชาทำให้เราไม่รู้สึกกับมันเฉกเช่นเดิม


เวลาก็โหดร้ายแบบนี้ล่ะ
แต่...
“ความทรงจำ” คือสิ่งที่เวลาเหลือทิ้งไว้ให้คนเราเพื่อหวนรำลึก





 

Create Date : 17 มีนาคม 2552
3 comments
Last Update : 17 มีนาคม 2552 11:44:14 น.
Counter : 616 Pageviews.

 

น่าให้คนรักเด็กผู้หญิงกะเด็กผู้ชายสองคนนั้นมาลองอ่านนะพี่ ^^

ความรักเหรอ... ตู่ไม่รู้จักเท่าไหร่ ฮะ ฮะ...


ปล. ไม่รู้เป็นไร เปิดหน้าพันทิปแล้วมักจะเจอบล็อกพี่ Q ขึ้นอยู่ด้านบนทู้กกกกทีไป ฮะ ฮะ

 

โดย: tazzz 17 มีนาคม 2552 13:48:10 น.  

 

พี่ Q

หนูอ่านตอนแรกๆด้วยความงง

ตามมาด้วยความเข้าใจ

และความซึ้ง...

ร้องไห้เลยอ่ะ T___________T

เห็นด้วยตา สัมผัสด้วยใจจริงๆค่ะ

ประทับใจเด็กผช กับเด็กผญ สองคนนี้มากๆเหมือนกัน...

 

โดย: gibt 17 มีนาคม 2552 14:30:05 น.  

 




...

แฟนหนูฝากยิ้มมาให้ค่ะพี่ Q

...เฮียกลายเป็นป้อมยามไปเรียบร้อย



...

เค้าเป็นคนพิเศษของกันน่ะพี่ ...ที่บางที คำจำกัดความแคบ ๆ อย่างคำว่า 'แฟน' ...หรือคำจำกัดความกว้างเกินไปอย่างคำว่า 'เพื่อน'

มันอธิบายไม่ได้



...

ในฐานะที่เคยเป็นคนโชคดี (เอ ...หรือโชคร้าย ?!!) ผ่านมาแล้ว 2 ครั้ง ...และกำลังเก็บเกี่ยวความทรงจำที่สวยงามของ รักแท้ ครั้งที่ 3

บางที ความรักมันก็คืออารมณ์นึงที่เกิดมีขึ้น ...แล้วจางลงหรือเปลี่ยนแปลงไปเป็นรูปแบบอื่นตามกาลเวลา

...ชีวิตคนเรามันแค่นี้จริง ๆ นะเออ

เกิดมาเพื่อพบเจอ ...พรากจาก

แต่ในระหว่างนั้น เราได้เรียนรู้ ได้เติบโต

ท้องฟ้ามันฟ้าได้หลาย shade ขึ้น

ใบไม้เสียดสีกันตอนลมพัดเสียงเพราะขึ้น

รักทำให้โลกนี้มันมีสีได้มากกว่าสีที่เราเห็น ...ทำให้คนคนนึงได้รู้ว่า ดีใจยิ่งกว่าดีใจ เศร้ายิ่งกว่าเศร้า ...มันเป็นยังไง



ให้เราได้มองโลกเปลี่ยนไป

...มันเป็นสีสันของชีวิตอ่ะ

...

เจ้าสองคนนี้ อาจจะห้วน เงียบ ๆ ไม่ค่อยพูด ใส่ใจแบบแปลก ๆ ...แต่มันสวยงามจริงน้อ

พลอยให้เราสุขใจเมื่อได้มอง 'ความพิเศษ' ของเค้า



พล่ามอะไรไม่รู้เว้ย

 

โดย: Ploy/abcdeeep (Giraffe-P ) 23 มีนาคม 2552 8:41:38 น.  

ชื่อ : * blog นี้ comment ได้เฉพาะสมาชิก
Comment :
  *ส่วน comment ไม่สามารถใช้ javascript และ style sheet
 


Quaver
Location :


[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 77 คน [?]




เป็นคนหัวแข็งที่มาพร้อมรอยยิ้มอ่อนๆ
เป็นคนหัวอ่อนที่มาพร้อมท่าทางแข็งๆ




Friends' blogs
[Add Quaver's blog to your web]
Links
 

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.