Group Blog
 
 
พฤศจิกายน 2551
 1
2345678
9101112131415
16171819202122
23242526272829
30 
 
28 พฤศจิกายน 2551
 
All Blogs
 
สองหนุ่ม นัทต้อล และหัวหินที่ยังคงมนต์ขลัง:partA


ถ้าหากคุณยังไม่เคยหลงรักหัวหิน ค่ำคืนนี้คุณจะรู้ซึ้งถึงเสน่ห์ที่ไม่เคยมีวันจางหาย


เมื่อสองหนุ่มนำบทเพลงรักผ่านค่ำคืนที่เหล่าหมู่มวลดาราต่างกระซิบคลอเคลียสายลมท่ามกลางสายตาขี้อิจฉาของเกลียวคลื่น

บทเพลงที่สองหนุ่มน้อยนำมาขับขานแม้ไม่ใช่เพลงรักที่หวานที่สุด แม้ไม่ได้ขับขานด้วยความสมบูรณ์แบบจนไร้รอยตะเข็บ

แต่กลับโอบอุ้มหัวใจให้อบอุ่นด้วยรอยยิ้มของความสุขจนเกิดรอยประทับไว้ในความทรงจำ



ชายหนุ่มร่างเล็กกับท่วงท่าผ่อนคลายฉายความสบายใจส่องออกมา ส่งเสียงร้องเรียกหนุ่มน้อยอีกคนที่วันนี้ดูจะต้องรับมือกับอาการท้องไส้ไม่เป็นใจของตัวเองแต่ก็ยังคงเส้นคงวากับมาดกวนไร้ที่ติดมาตั้งแต่เริ่มปาร์ตี้

“ขอเชิญอาหลานหน่อย” นัทชงเรียกเป็นการโฆษณาให้น้องชายข้างเขียง “อาหลานลื้อเป็นคงจีนเหรอ?”

“จีน..จีน” อาหลานหันมาตอบเบาๆก่อนตลบหลังไม่ให้เสียลายด้วย “จีนเตี๊ยะ!”







หนุ่มมาดเนี้ยบเริ่มชี้ชวนให้ดูการเปลี่ยนแปลงที่เข้ากับบรรยากาศ

“วันนี้เป็นครั้งแรกที่ใส่แตะเล่นคอนเสิร์ต” สติชลำลองชี้ให้มอง “นั่งเล่นคอนเสิร์ต” มีขอย้ำ “และจะไม่ลุกไปไหน”

“ต้อลคิดว่าวันนี้นะ...” ต้อลยิ้มกริ่ม “ไม่ข้างใดก็ข้างนึงอ่ะนะ...” หยุดนิดนึงให้ชวนติดตาม “ต้องหลับกันไปข้างนึง”



ลมโชย ริมหาด และหมู่ดวงดาว......................................และกรึ่มมมมมมของคนรอบกาย



เมื่อพี่ชายโปรยโฆษณาไปก่อนหน้า น้องชายเลยต้องไม่ให้น้อยหน้าขอชงคืนกลับบ้างตามหน้าที่น้องที่ดี

“เป็นไงบ้างครับดูหนังมา...ละคร ละคร” กบง่วนอยู่กับขาตั้งไมค์แต่ก็ยังถามไม่ขาดตอน “สนุกไหมครับ”


เสียงตอบรับกลับมาเบาเกินไป....ไม่ทำให้กบพอใจ


“เสียงดูจริงใจมากนะเนี่ย” กบขี้ประชดเพิ่มวอลลุ่มเสียงถามกลับอีกครั้ง “สนุกไหมครับ”


คราวนี้เสียงตอบรับกลับดังเป็นที่พอใจ



“เป็นไงครับ...พี่นัทตลกไหมครับ” ต้อลเริ่มเช็คเรตติ้ง “พี่นัทน่ารักไหมครับ” กบหน้าม้าต่อ “พี่นัทหล่อไหมครับ”


เสียงตอบกลับแต่ละคำถามไม่มีปฏิเศษ กบปล่อยให้พี่ชายเก็บเกี่ยวความสุขด้วยรอยยิ้มเปื้อนหน้าชั่วอึดใจ


“พอใจไหม?!?” น้องชายหันถามด้วยน้ำเสียงเจือหัวเราะน้อยๆ ประหนึ่งดุจได้ทำภารกิจน้องชายที่แสนดี๊ ดีสำเร็จลุล่วงอย่างงดงาม


มันเป็นการขอคำชมเพื่อเป็นกำลังใจ ทำให้เล่นละครได้ดีขึ้น ดีขึ้น...น้องชายแจงแถลงไข


“นี่เป็นมินิคอนเสริ์ตหรือว่าโปรโมทละครเนี่ยฮะ” ต้อลทำเป็นสับสนในตัวเอง




เมื่อน้องชายทำหน้าที่ตัวเองไปเต็มเอี้ยดแล้ว พี่ชายคนดีก็ขอเริ่มต่อจากที่เกริ่นนำแต่แรก

“ของต้อลเริ่มถ่ายทำเมื่อไหร่”

“ของต้อล...ยังไม่รู้จริงๆ” กบผู้อะไรก็ได้ตอบ “แต่คือแน่นอนอ่ะคือ...” ต้อลต่อหนักแน่น ”ได้เล่นแน่ๆ”


ต้อลตอบได้อย่างคนที่ไม่ค่อยรู้เรื่องราวแผนชีวิตตัวเอง ทำเอาพี่นัทหัวเราะอย่างเข้าใจตัวตนน้องชายคนนี้




แล้วสุขภาพกบวันนี้เริ่มเปิดเผยโดยพี่นัท หลังจากคุยเรื่อง “ความแห้ง”ของกบในวันฟิตติ้ง

“วันนี้ก็แห้งกว่าเดิมอีก”

“แห้งกว่าเดิม..เพราะไม่ได้กินอะไรเลยวันนี้” กบยอมรับอย่างว่าง่าย

“ป่วยฮะ” นัทบอกเล่าให้กับบรรดาแฟนคลับ




กบหมดฤทธิ์ เซียวลงเยอะกับน้ำเสียง....ป่วยแล้วพูดนิ่ม พูดเพราะจริงๆ

ต้อลสปรีดต่ำกว่า 50 km/hr ดูน่าเอ็นดูดี ทุกทีจะเจอแต่สปรีดเร็วกว่านรกเข้าไปทำเอาคนตามแทบไม่ได้พักหายใจ

...ช่างเข้ากับบรรยากาศพอดี๊ พอดี ที่นาน นานทีมีหน






เพลงลมหนาว ลอยมาพร้อมลมแห่งท้องทะเล มินิคอนครั้งนี้เพลงแต่ละเพลงฟังสบายเสียจนศิลปินออกปาก


“เพลงมันจะเป็นแบบนี้ทุกเพลงเลยนะครับวันนี้” นัทเริ่มร้องเตือน “ชิวๆหน่อย อย่าเพิ่งหลับนะครับ” แถมขอเน้น “เพราะข้างหลังอันตรายมาก”

“หงายเงิบตกลงไปข้างหลังนี่แย่นะฮะ” เด็กจายจาวเหนือเอิ้นเตือนตามบ้าง


คำเมืองวันละคำทำกบน่อยต้องอธิบายความหมายของคำ “หงายเงิบ”


“หงายเงิบแปลว่าอะไรใช่ไหมฮะ” ต้อลขยายความ “แปลว่า....หงายหลังไง”



ดนตรีดำเนินไป ลมหนาวกับเมโลดี้สวยๆ...ทำเอาต้อลชักกะไม่ถูก ขอถามพี่ชายที่ตอบได้ทุกข้อสงสัย


“จะจบละยัง?”

“ยัง...มันยังมีดนตรีอีกท่อน”


เมื่อดนตรีอีกท่อนจบลง ต้อลที่หันก้มหน้าก้มตากับการเปิดฝาขวดน้ำดื่ม จับไมค์ตั้งท่าจะพูด...ชั่งใจชั่วครู่...หันไปสบตาพี่ชายที่นั่งมองอากัปกิริยาเจ้าตัวยุ่งไม่วางตา...น้องชายแก้เก้อด้วยการยกน้ำขึ้นดื่ม(ดีกว่า) แต่แววตาบ่งบอกมุขที่ชักเก็บเข้ากรุทำเอาพี่ชายอดไม่ได้ขอชี้หน้า ท้วงเบาๆ

“จะพูดอะไร...จะพูดอะไรสักอย่าง” น้ำเสียงแสดงความเท่าทันก่อนยอมปล่อยน้องชายไปง่ายๆ....นัทน่ะใจดี เห็นแก่สุขภาพน้องล่ะสิ




เมื่อเพลงต่อไปกำลังจะมา...ต้อลขอฟ้อง


“เพลงต่อไปไม่ใช่เพลงของผมนะครับ” ต้อลขอแฉ “แต่เขาจะไม่ให้เราลุกไปไหนเลย คือจะให้นั่งเป็นพระอิฐพระปูนอยู่ตรงนี้”

“เออ จริงเหรอ...นี่เขาบอกมาเหรอ!” ทำเอานัทแปลกใจที่ได้รู้

“ใช่...โดน โดนบรีฟมาอย่างงี้” กบโดนกำกับชุดใหญ่ จึงขอท้วง “คือเราก็บอกว่า พี่ครับ...ผมอาหารเป็นพิษนะครับพี่ มันไม่ออกช่วงบนมันก็ออกช่วงล่าง”

“ปวดมากๆให้ผมทำไงนะฮะ” เมื่อกบชักสงสัยก็ได้รับคำตอบ “ก็..ไม่เป็นไรหรอก ลองดูละกัน” กบตบท้าย “ว่ามันจะมาช่วงไหน”

“มาช่วงไหนก็อย่าบอกละกัน” นัทรีบส่งเสียงห้ามไว้ก่อน

“อาจจะไม่บอกทาง อ่า ทางวาจานะ” กบยอกย้อน ก่อนหักมุมอีกนิด “ตรงสีหน้า อ่ะ มันก็จะออกมานิดนึง...อย่าว่ากันนะครับ”



หาดทราย สายลม กับสองเรา ดังขึ้นจากหนุ่มโรแมนติกที่ขออาสาสมัครมาเคียงคู่ริวิวประกอบ
ทุกอย่างดูชิวๆดังปากศิลปิน



แบบนี้ล่ะที่อยากเห็นจากนัท สบายๆ ผ่อนคลาย ทำเอาไม่กล้าจับขอบตาทั้งสองข้าง ด้วยเกรงความร้อนจะเผาเกรียม

หนุ่มน้อยวันนี้ดูเซ็กซี่ชวนหลงใหลในความชิวๆแค่นี้เอง





ส่วนน้องชายที่ขอนั่งเป็นแบ็คกราวด์ก็ไม่ได้นิ่งเฉย เขย่าตลับยาวสีดำในมือประกอบจังหวะทำเอานัทต้องขอถาม

“นี่อะไร?”

“อ่ะ...จะตอบยังไงล่ะ?”

สองหนุ่มเกิดความสงสัย พี่นักดนตรีเจ้าของอุปกรณ์เลยขอเฉลย

“เชคเกอร์นะฮะ” นัทย้ำอีกครั้ง

“You know Shaker” Mr.Tol said

“My turn! , my turn!” Mr. Nat grasped the shaker from his brother's hands


เอิ้กกกกก พอแระ.....พี่ไม่ไหวว่ะ คืนครูบาอาจารย์ไปหมด แค่นี้ก็จะแย่...ภาษาบ้านเกิด(เขา)



พี่นัทเวลาแกล้งเนี่ย...แกล้งเงียบๆไม่กระโตกกระตาก

“ต้อลเข้าใจป่ะ!” วางเสียงนุ่มเกินไป กับตาเจ้าเล่ห์ที่กะต้อนน้องให้จน...

“ห๊า!!!”

“ถึงตาพี่เล่นเช็คเกอร์ละ” นัทใจดีปล่อยน้องอีกแระ


กบชอบมีคนให้ท้าย พี่นักดนตรีใจดีให้หยิบยืมเชคเกอร์อันใหญ่มาอีก ต้อลเอื้อมมือไปหยิบ

“อันนี้กระเป๋ารถเมล์...พี่เค้าบอก” ทำเอาพี่เค้า...นั่งยิ้มฟันขาวจากด้านหลัง แล้วต้อลขอหยอกแฟนคลับอีกนิดหน่อย “วันนี้ใครมาดูไม่ยอมร้อง เดี๋ยวจะเก็บตังส์”


แต่จู่ๆ นัทที่นั่งอยู่ฟากขวามือของต้อลขยับลุกเดินไปอีกฟาก ชายหนุ่มที่ชอบคิดถึงใจคนรอบข้างออกปาก

“ผิดด้าน...บ้านต้อลเขาอยู่แถวนั้นกันเต็มเลย”

“โอ๊ย...ไม่เป็นไรหรอก”

“ไม่...ให้เขาได้เห็นหน้าต้อลชัดๆ!”

นัทหันรีหันขวางหาทางวางตัวเองให้ถูกที่ตามใจคิด....แต่เจ้าน้องชายนั่งจองที่ไม่มีแม้แต่จะขยับ...เพราะว่า

“ลุกมากมันจะกระทบกระเทือน” กบชี้มือชี้ไม้แถวๆพุง(ที่ไม่มี) แถมย้ำชัดอีกทีเมื่อพี่นัทบอกให้สลับที่ “ลุกมากเดี๋ยวมันกระทบกระเทือนเยอะ...เรานั่งนิ่งๆนี่ล่ะนะ”

“นั่งร้องทั้งคอนเสิร์ตเลยเหรอ” นัทกลั้วหัวเราะ

“ไม่เป็นไร” ต้อลยืนยัน “เซฟ เซฟ เซฟ....เพลย์เซฟดีกว่า”

นัทก็เลยต้องใจอ่อนอีกครั้ง

...กบก็ยังขอมีข้ออ้าง

“ตากล้องแต่ละคนก็บ่นนะฮะว่า ถ่ายรูปยากจังเลย อยู่นิ่งเป็นไหมเนี่ย” กบพูดฟังดูดี “วันนี้ได้ถ่ายสมใจแน่นอน”

.....แล้วในที่สุด กบก็เจอเข้ากับตัวเองเต็มๆ ไอ้คำพ้องเสียงที่เป็นสหายสนิทของน้อง เจอพี่ๆแฟนคลับหยิบมายอกย้อน

“ถ่ายยยยย”

ทำเอากบที่วันนี้ไม่ได้เป็นคนเริ่มต้องกลับเป็นคนแก้

“ถ่ายรูป ถ่ายรูป” ต้อลขอปฏิเศษ “ไม่ได้ถ่ายอย่างงั้นนะฮะ”



กว่าจะเข้าเพลงเดี่ยวของตัวเอง กบอารัมภบทแม้อยู่ในสภาวะไหนก็ไม่เคยห่างหาย

“เพลงนี้นะเราเตรียมมาเพื่อการนี้เลย” และยังคงรู้(จัก)ตัว “เพื่อการนี้ตลอด”

“เพลงตัวเองไม่ค่อยชอบร้อง...เขิน” กบยังใส่ตัวเองไม่มียั้ง “เพราะว่าร้องทีไรไม่เคยมีใครร้องตามได้”



พูดถึงตรงนี้ทำเอาเสียงฮือฮาดังขึ้นปลอบใจกบใจน้อย ขนาดพี่ชายที่นั่งข้างๆก็ยังอดร้องโหยยยยยเอาใจน้องไม่ได้



“ร้องทีไร มองไป...พอสบตา ปิ๊ง ปิ๊ง ปิ๊ง” ต้อลยกมือเน้นย้ำไปยังกลุ่มที่น่าจะเป็น “ตาใส งงกันเลย..อะไรนี่”

พี่นัทรอกบตัดพ้อจบ ก็ขอเสริมเพิ่มเติม

“เวอร์ชั่นใหม่วันนี้”

“เหรอออ ยังไม่ได้ซ้อมด้วย เวอร์ชั่นนี้” เจ้าของเพลงยังสงสัยอยู่

“เวอร์ชั่นริมทะเล” นัทขยายความให้

“พี่มันต่างกันกับอันเก่าไหม” กบหันไปขอความช่วยเหลือพี่นักดนตรีผู้ใจดี “ไม่ต่างมากหรอกนะ?”

ทำเอานัทอดไม่ได้หลุดขำความก่งก๊งของเจ้าน้องชาย

“ไม่ต่างเลย...เพราะว่าไม่เปลี่ยน” ต้อลเริ่มใจชื้นกับความช่วยเหลือที่ได้รับ “งั้นลองดูละกันอย่างงั้น”




~เกิดรักในหัวใจ เกิดในใจกับเพื่อนที่ใกล้กัน~


~~~~~~~~~~~~




~ฉันคงไม่เสียใจ~

~ฉันคงไม่เสียเธอ~



ดนตรียังคงดำเนินต่อ...พี่ชายที่นั่งเคียงข้างกำลังอินลงที่ความรู้สึกกับเสียงทั้งนุ่มและแสนเหงา


~ฉันคงไม่เสีย.....ตัว~








.......ทันทีที่คำสุดท้ายลากจางหาย นัทขอกุมขมับ หลับตาขบคิด

“เดี๋ยวก่อน เดี๋ยวก่อน”

น้องชายตัวแสบที่กะจังหวะไว้อย่างดี มีคำตอบให้กับคำถาม

“เธอ!...ก็เธอไง” น้องชายหันมาย้ำพร้อมรอยยิ้มซุกซน “ฉันคงไม่เสียตัวเธอ”

นะ....แต่งเองนี่นา จะแต่งเพิ่ม...เติมแค่ไหน ก็ยังไปได้เสมอ

“อ้ออออ!!!!” นัทยอมแพ้


ขณะน้องชายผู้เป็นจอมเถลไถลกำลังทำหน้าที่อย่างดีเข้าเพลงต่อไป
แต่วันนี้พี่ชายกลับไม่ยอมปล่อยผ่านโดยง่าย

“เมื่อกี้ไหนบอกไม่มีใครร้องตามเพลงต้อล” นัททำเป็นไม่เข้าใจ “เมื่อกี้ได้ยินข้างนี้....”

นัทกวาดมือก่อนปล่อยเสียงแผดเลียนแบบ

“หว่า~~~~~ร้ากกกกกกก” ชายหนุ่มล้อแฟนคลับแถมย้ำชัด “เสียงแผดเผาวิญญาณมากเลยอ่ะ”

ต้อลเลยอดไม่ไหวกับอาการเป็นไปได้ของพี่ชาย

“ขอใหม่อีกรอบนึง” พูดไปหัวเราะไป “เสียงพี่แผดเผากว่าเค้าอีกนะ”


เด็กสองคน...ทันกันจริงๆ


หลังจากปล่อยให้พี่ชายเล่นกับแฟนคลับตัวเองไปนิดหน่อย น้องชายขอบ้าง

“ชอบดูพี่เสื้อฟ้ามากเลยนะฮะ” กบหันมาทางแฟนคลับดงชา “มีลิปซิ้งค์ร้องเพลงต้อลด้วยนะฮะ” ยังไม่ขอหยุด “ไม่เป็นไร ชอบ ชอบ ชอบ...ลิปซิ้งค์ได้” กบอนุมัติต่อ “ขอให้มองไปแล้วปากขยับ...โอเค”


ต้อลนำพาเข้าเพลงต่อไป....ที่แสนจะเข้ากับบรรยากาศ

“ตอนแรกก็มองหาอยู่ จะมีดาวสักดวงไหมคืนนี้”

น้องชายกวาดตามองฟ้า พี่ชายกวาดตาหาดาว

“โน่น โน่น โน่น” นัทชี้ชวนเมื่อหาเจอ “หนึ่งดวงนะครับ”

“ต้องมองดีดีนะฮะ” ต้อลมองตามจนคอแหงน


เด็กหนุ่มสองคนทวนความหลัง

“เคยร้องกันมาหรือยัง” ต้อลหันไปถามพี่นัทที่ความจำดีกว่ามากแล้ววกกลับตอบตัวเอง “เคยแล้ว”

“เคย!” นัทตอบไม่ต้องคิดพร้อมขยายความ “เคยแต่ครั้งนั้นมีต้าด้วย”

“อ๊ะ!!!” ต้อลทำหน้างุนงงเหมือนไม่แน่ใจ

“ที่เราร้องด้วยกัน” นัทย้ำชัดอีกครั้ง

“ตอนนั้นพี่ต้ากวนตีนมากนะครับ” พอความจำกบกลับมาก็เริ่มปราศรัย “กำลังจะร้องได้ฟิล ได้ฟิลนะ...จำได้เลย”

เสียงกรี๊ดดังรับวาจากบจอมโว ทำเอา............

“อย่ากรี๊ดกันดังสิ เดี๋ยวเป็นเรื่อง” พี่นัทรีบขอเบรกทั้งๆที่ก็ยังหัวเราะตามอยู่

“ไม่เป็นไร...เราเคลียร์กันแล้ว เคลียร์กันแล้ว” กบยืนยันหนักแน่น

“ไม่...วันนั้นไม่ได้โกรธอะไรกัน” นัทเล่าให้ฟัง

“ไม่ได้โกรธ ไม่ได้โกรธ...ไม่เคยโกรธอยู่แล้ว” ต้อลย้ำชัด
“เรื่องคอนเสิร์ต เรื่องตรงนั้น จบตรงนั้นนะฮะ” ต้อลเน้นให้เข้าใจอีกครั้ง “อย่าคิดมาก อย่าเก็บไปคิดต่อนะฮะ...ไม่ดี ไม่ดี”

ก่อนตามน้ำ....แฟนคลับที่ตะโกนแทรกมาตามประสากบ กบ


“ต่อยก็ต่อยตรงนั้น...นะฮะ” กบพูดทวนตามแฟนคลับก่อนปิดท้าย “จะดีเหรอ? ไม่ดีนะ”




ดีจัง....ชอบเด็กผู้ชายก็ตรงนี้ล่ะนะ ไม่มีการต่อความยาวสาวความยืด

เห็นความแฟร์ที่ชัดเจน ความเป็นลูกผู้ชายที่บ่งบอกตัวตน กับการอบรมเลี้ยงดูมาอย่างดี




เพลงดาวก็ยังไม่ได้เริ่มบรรเลงสักที

“ก็..วันนั้นฟิลมันยังไม่ได้ขนาดนี้” ต้อลบรรยาย “วันนี้มันมาหมดเลย มันมีดาว มีลม มีทะเล”

“ดาวข้างบนมันอาจจะน้อยนะ” นัทไม่ยอมแพ้ “แต่ดาวบนพื้นดินน่ะเต็มไปหมดเลย”


ต้อลแพ้การพูดการจาของพี่นัทตามเคย พอสู้ไม่ได้ก็ต้องขอเหน็บทั้งที่ปากยิ้มกริ่ม

“โห~~~อ่ะ...ยิ่งยิ่งอยากอ้วกอยู่แล้วเนี่ย”




ดาวของสองหนุ่มจึงได้เริ่มขึ้น



~.....ฉันขอได้ไหมสักดวงหนึ่ง ช่วย....กาต้อลที~



~~~~~~~~~~




....มาถึงท่อนที่นัทโซโล


~จึงวอนขอดาวให้ช่วย.....บอก~~~~



.....นัทชะงักกับลมหายใจ ดนตรีหยุดเพื่อส่ง...

นัทหันไปสะกิดยิกๆที่หัวไหล่เจ้าน้องชายที่ทำเป็นไม่รู้ไม่ชี้....ตาเราแล้ว

น้องชายจอมเผอเรอจึงได้ต่อ................หรือเริ่มใหม่


~ช่วยบอกให้ฉันได้รู้.....ได้มั่นใจ~



พี่ชายทำอะไรไม่ได้นอกจากยิ้มตามเคย และต้องเดินตามรอยเส้นทางของกบจอมมั่ว


~การรอคอยมันยากเกินทนไหว~




.................จนกบมาถึงท่อนสุดท้าย(ที่ควรร้องไปแล้วตามพี่สะกิด)



~จึงวอนขอดาวให้ช่วยบอก...............ที~~~



~ที~~~~~~~~~~~


.........ไลน์ประสานที่ควรจะเป็นก็มาถึงอย่างสวยงาม



ขอดาวจบ


“ไม่เตี๊ยมกันเลยนะ” พี่ชายอดไม่ไหวออกปากประท้วง

“สนุกดี....เตี๊ยมไปก็ไม่สนุกดิ ใช่ไหม” เจ้าตัวแสบตอบกลับหน้าตาเฉย



มาถึงคิวเพลงต่อไป....


“ขอดาวไปแล้ว...ขอจันทร์มั่งดีกว่า” Mcต้อลเอาเข้าเรื่องดื้อๆแถมตัดสายเบรคด้วย “วันนี้จะขอให้หมดเลย...ขอหวยด้วย”

แต่ไหงเป็นว่า....

“ขอจันทร์...เพลงนี้ต้อลก็ไม่ได้ร้องอีกนั่นแหล่ะ”

“ขอดูเนื้อด้วย” คนขออนุญาตมาพร้อมกับกางกระดาษแผ่นใหญ่

“ได้...ได้” น้องชายอนุมัติอย่างไม่อิดออด ใบหน้าฉาบรอยยิ้มกริ่มที่(นานๆ)เห็นพี่ชายคนเก่งขาดความพร้อมที สายตาจับจ้องที่กระดาษเนื้อเพลงอย่างกระหยิ่มยิ้มย่อง

“ขอดูเนื้อ” เสียงน้องชายที่พูดขึ้นมาเบาๆกลั้วเสียงหัวเราะอย่างปิดไม่มิด

“ไม่แน่ว่าจะต้องใช้หรอกนะครับ เผื่อไว้ เผื่อไว้” พอโดนทัก พี่ชายรีบพับกระดาษสอดนั่งทับไว้ทันที




~จันทร์เจ้าเอย จะไม่ขอหม้อแกงแหวนใด~



เสียงจากชายหนุ่มโรแมนติกขอจันทร์




พอพี่ชายร้องจบน้องชายก็ซุกซน เคาะโป้กเป้กโป้กเป้กไปเรื่อย จนนำพาความกังขามาสู่

“ทำอะไรเนี่ย” นัทถามขึ้นอย่างอดไม่ได่

“หาเสียง...หาเสียง” สอเสือของกาต้อลนี่มันช่างเป็นเอกลักษณ์ “สอ สอ...สอ สอ”

ทำเอาพี่นัทชักนึกย้อน...ยังคอนทรูเมนอีกครั้ง

“พูดถึงหาเสียง...มันมีมุขหนึ่งในคอนเสิร์ตนัทต้อลเดอะทรูเมนโชว์” นัทถามน้อง “มันมีมุขหนึ่งจำได้เปล่า”

“ห๊า?” น้องยังตามไม่ทัน

“ที่ตอนที่เข้าไปในผับอ่ะ” นัทย้อนความทรงจำให้ “ต้อลขอเบอร์สาว”


แทนที่ต้อลจะต่อเรื่องตามพี่ กลับพูดต่อคนละเรื่องเดียวกัน

“คือไม่อยากจะบอกว่าไอ้...ทรูเมนโชว์เนี่ย” ต้อลเอ่ยขึ้นมาดื้อๆ “ต้อลว่าต้อลมุขแป้กแล้วนะครับผม” กบยอมรับแต่โดยดุษฎี ทำเอานัทเผลอหัวเราะกิ๊กตามมา “คนเขียนสคริปต์นี่แบบว่า....”

กบฉุกคิดได้บางอย่างจึงตัดสินใจเพลย์เซฟด้วยการขอสอบถามผู้รู้

“ใคร...ใครเขียนรู้ไหม?!?”

“พี่ยุทธมั้ง” นัทก็ไม่ค่อยแน่ใจ

“พี่ยุทธเหรอ” กบต้องยับยั้งชั่งใจคราวนี้ “ไม่ได้แล้วล่ะ...ไม่เป็นไร” เพราะ “เดี๋ยวต้องร่วมงานกันอีกนะฮะ” กบมองการณ์ไกล “เดี๋ยวเขียนสคริปต์ห่วยๆมาให้...แย่เลย”


พอกบยอมจบ นัทก็ชักกลับมาเรื่องที่ตั้งใจไว้แต่เริ่ม

“มันเป็นมุขยังไงนะ” นัทลองถามอีกทีก่อนเปรย “เกี่ยวกับหาเสียงนี่ล่ะ”

“จำไม่ได้แล้วล่ะ” ปากจัดเป็นปกติกบ “มุขเสี่ยวเยอะมากและก็เป็นมุข... อ่า มุขดักควายเยอะมาก”

นัทรีบจูงกลับมาเข้าเรื่อง....อีกครั้ง

“อ๋อ....จำได้ละ มันเป็นอย่างงี้” นัทขอเล่าต่อไม่ยอมให้น้องชายจูงไปอีกเรื่อง “ต้อลเข้าไปเจอสาว” นัทเลียนเสียงกาต้อล “แล้วคราวหน้าอย่าลืมเลือกเบอร์นี้นะครับ

พอพี่เขาย้อนความทรงจำมาให้ กบชักความจำดีกว่า...ขอแก้

“ไม่ใช่...ไม่ใช่” กบขอเล่าเอง “ถ้าเลือกตั้งคราวหน้าอย่าลืมเลือกผมเป็นส.ส.นะครับ”

“ไม่ใช่~~” นัททำเสียงท้วงอ่อนๆ

“ใช่แล้ว!” เจ้าของซีนยังยืนยัน

ทำเอานัทต้องงคล้อยตาม ก่อนปล่อยให้น้องชายอธิบายต่อให้เคลียร์

“สมมติว่าต้อลเจอใครสักคนหนึ่งเนี่ย....เลือกตั้งคราวหน้าอย่าลืมเลือกผมเป็นส.ส.นะครับ....แล้วเขาจะถามต่อว่า เบอร์อะไร” ผู้ชายมาดเจ้าชู้ตอบกลับไปว่า “อ่า...089-...”


มุขบอกเบอร์สาวนี่เอง!!!



“เป็นไงล่ะ...โอ๊ยยย” พี่นัทเน้นเสียงหนักโอดครวญให้เห็นชัด(มุข)กบคาสโนว่า






มาเข้าเพลงต่อไป

“อ๋อ...เพลงนี้ เพลงของผมเองแล้วฮะ” กบโมเมหน้าตาเฉยด้วย “เป็นเพลงที่แต่งไว้นานแล้วแต่ว่า..ไม่เคยเอาไปร้องที่ไหนหรอกครับ”

“เหรอ แต่งเองเหรอเพลงนี้” นัทซักถามด้วยเสียงใสซื่อไร้ความนัยย...จริง จริง

“แต่งไว้นานมากแล้ว....ตั้งแต่สมัยประถมอ่ะ” กบแถต่อ “เขียนเพลงนี้เก็บไว้นานมาก”

“เขียนให้ใคร” พี่ขอเป็นลูกคู่อีกสักครั้ง

“หลุดไปให้ใครก็ไม่รู้ร้อง ก็เลยแบบว่า อ๊ะ...เพลงเรานี่” กบยังยืนยันน้ำขุ่นๆ

“อ๋อ เหรอ....อืมมมม” พี่นัทไม่ยอมเบรก

“หน้าด้านๆยังงี้ล่ะฮะ...ชีวิต” กบเลยต้องเบรกตัวเอง แต่ยังไม่วาย “ต้อลแต่งจริง ขอโทษ เพลงขอโทษ”


นัทไม่ยอมหยุด ปล่อยกบไปเต็มสตรีม ดนตรีที่นำขึ้นเรียกรอยยิ้มจากทุกๆคน



~มีเพียงความเดียวดาย กับใจเราดวงเดิมๆ~




.....ก็เพลงขอโทษ แต่ขอโทษนะต้อล...เพราะต้องขอถาม...เราแต่งเมื่อไรกันจ๊ะ

พี่ว่ามันช่างตรงกับที่ เอก สุรเชษฐ์ เป็นคนแต่งเด๊ะเลยอ่ะ


แล้ว......ขอโทษ ที่แต่งโดย ต้อล วันธงชัย อินทรวัตร มาปิดท้ายเป็นคนละเนื้อเดียวกัน


~ได้โปรดอภัยให้กัน สักครั้ง....จะได้ไหม~




ทำเอาพี่นัทจนปัญญาจัดการกับความลื่นไถลของกบจอมซิกแซก


“แต่งไว้นานมาก” ต้อลยังย้ำ “อย่าลืมช่วยโปรโมตด้วยนะ....โดยเฉพาะท่อนสุดท้ายนะ”






ดอกกุหลาบที่มีการกระซิบบอกศิลปินให้แจกแฟนคลับได้ทำเกิดปัญหา เมื่อต่างคนต่างอยากได้ จนต้อลขอแฮ้บเก็บไว้เอง จนเกิดการต่อร้องต่อเถียงระหว่างศิลปินกับแฟนคลับ


“จะเอาไปทำไม เอาเก็บไว้ก็เหี่ยวดอกไม้อย่างเนี้ย” ต้อลวางเหตุผลก่อนหยอดความหวานต่อด้วยรอยยิ้มในน้ำเสียง “ก็...สู้ ภาพในใจวันนี้...นะฮะ เก็บไว้ในใจดีกว่า”

นัทฟังจบแทบทรุดแนบที่หน้าตัก

“พี่ว่าพี่เน่าแล้ว ก็ยังมีคนเน่ากว่า” นัทเย้าน้อง


“เราเล่นเองได้ไง....เพราะว่าเราเตรียมใจไว้แล้วว่าจะเล่น อะไรอย่างงี้ไง เลยไม่อ้วกไง” ต้อลยอมรับง่ายๆกับน้ำเสียงกลั้วหัวเราะที่ปิดไม่มิด

“เพลงต่อไปนี่.....” ก่อนพูดต่อนัทเกิดแวบอยากรู้อะไรบางอย่างขึ้นมาเลยขอถามก่อน “ทำไมถึงเลือกเพลงนี้”

“เพลงนี่...อ่า ได้แต่งอีกแล้วเพลงนี้” ต้อลจอมโมเมอีกตามเคย แต่พี่คุ้นแฮะไอ้มุขเพลงนี้ผมเป็นคนแต่งน่ะ

“อันนี้คือ...แต่งไว้แบบละเมอ ละเมอ ออกมาเป็นเพลงนี้” พ่ออัจฉริยะน้อยไม่ถ่อมตนเอ่ย

ก่อนย้อนถามราวจะแกล้ง “เอ๋....อยากรู้ใช่ไหมล่ะเพลงอะไร” เว้นวรรคนิดหน่อยก่อนต่อ “เพลงบริษัท”



ขณะน้องชายต่อปากต่อคำกับบรรดาแฟนคลับ พี่ชายก็ควักโพยขึ้นมาครั้งที่สอง...เพลงบริษัท...เอิ่มมม....เข้าใจ!

“คำละเมอของต้อล จำไม่ค่อยได้นะครับเพลงนี้” นัทโบ้ยความผิดไปให้กบนักแต่งเพลง

ต้อลชะงักหนึ่ง ชะงักสอง เมื่อกวาดสายตาไปเห็นโพยในมือพี่ สายตาสองคู่ของเด็กสองคนหันมามองหยั่งเชิงกัน

“พี่เอาจริงเหรอ” ต้อลขอถามเสียงจริงใจ “เสียชื่อนะเนี่ย เสียชื่อแฟนเทเชียนะเนี่ย”

“แฟนเทเชียไม่ได้ร้องเพลงนี้นะ” นัทขอแก้ก่อนตามมาด้วยการโฆษณาชวนเชื่อ “แฟนเทเชียเวทีนัทเพลงดีมากนะครับ”

กาต้อลอึ้งไปหนึ่งวูบก่อนยอมชงให้

“เพลงอะไร”

แต่กบไม่เคยใจดีขนาดน้านนนนเพราะสวนขึ้นมาไม่รอช้า ไม่เปิดโอกาสให้นักโฆษณามือหนึ่ง

“ช้าง ช้าง ช้าง ช้าง ช้าง” พาแฟนคลับพาเหรดเพลงช้างกันจนจบ แถมพี่นักดนตรีข้างหลังวันนี้น่ารักสุดยอดหยอดดนตรีตึ่งโป๊ะปิดท้ายเฮฮาโชว์ จังหวะดีไม่มีสะดุด

กบชักสนุกตาม ขอหยอดต่อ

“เพลงธีมเพลงเวทีพี่เค้ามีสองเพลง เพลงนี้เพลงนึง” กบโชว์สองนิ้ว “กับอีกเพลงนึงชื่อว่า เพลงเป็ด”

พูดจบปุ๊บเสียงร้องเป็ด ก๊าบ ก๊าบ ดังออกมามาปั๊บ แฟนคลับก็ไม่ยอมน้อยหน้า เป็ดอาบน้ำในคลองจึงดังประสาน(คอย)เอาใจศิลปิน จบตามด้วยเสียงก๊าบสามจังหวะจากคีย์บอร์ดอีกครั้ง....ชอบพี่นักดนตรีชุดนี้จริงๆ มากทั้งฝีมือมากทั้งอารมณ์ขัน



จบเวทีช้างของพี่ชายไป เลยโดนสวนถามถึงเวทีตัวเองบ้าง

“เวทีต้อลเหรอครับ โหย...พูดแล้วอย่าให้เซดเลยดีกว่า” กบทำเสียงชวนเชื่อชวนหลอกลวง

“จำได้เปล่าว่าร้องเพลงอะไรเนี่ย” พี่นัทสวนขัดคอดังปึ้ง

“จำไม่ได้” กบขี้ลืมยอมรับอย่างว่าง่าย




กว่าจะจบเรื่องแฟนเทเชียปลายปี เด็กสองคนก็เอามาโยงกัดตัวเองต่อกับการเดินแฟชั่นโชว์ที่ผ่านมา

“ไม่ต้องห่วงยังไงเขาก็กรี๊ด” นัทบรรจงหยอดความเข้าใจแฟนคลับตัวเองลงไปเต็มเปี่ยม “เมื่อวานมีคนเห็นเราแล้วก่อนที่จะเดินแบบว่าแต่งตัวทำผมยังไง เดินแบบจริงเขาก็ยังกรี๊ดอยู่”

“ไม่ ไม่ ไม่...ไม่เหมือน” กบรัวเสียงขอแย้ง “ตอนนั้นคือเราออกมาขาย มันยังเป็นชุดเราเอง มันยังไม่เต็มยศนะฮะ” กบขอชี้ให้ตรงประเด็น “ชุดเต็มยศจะเป็นกางเกงขาเต่อๆหน่อยและรัด...รัดเป้าสักนิดนึง” ต้อลปิดท้ายด้วยรอยยิ้มเด็กเกเร


เอ๋ยยยยยย แต่พี่ว่ากบใส่แล้วดูดีออก ขึ้นรถไฟใช้ได้อ่ะกบ ชุดแบบนี้บางทีหน้าตาก็ไม่อาจช่วยอะไรได้ แต่เราน่ะเยี่ยมเลย
และที่เยี่ยมก็ม่ายช่าย...ไอ้ที่เราออกปากว่ามันรัดน้า





กูรูด้านแฟชั่นยังไม่ยอมจบ



“แต่รู้สึกว่าเมื่อวานนี้มันไม่ได้เน้นชุดนะ” ต้อลขออธิบายเป็นการเป็นงาน “เน้นลีลาท่าทาง แต่ละคนสู้ตายกันมาก”

“ขายคาแรกเตอร์” นัทขอเสริมตาม

“คาแรกเตอร์” กบทวนย้ำก่อนหลังหักดังป๊อก “ซึ่งเราไม่มี!”








กว่าจะเข้าเพลงต่อไป...คุยกันไปอีกหลายจบ



“เรามาดูกันดีกว่าว่า เพลงต่อไปใครร้องได้ถือว่าเป็นแฟนพันธุ์แท้นะ” ต้อลหยอกแกมหยิก “แทบจะค่อยหาไม่ได้ยินที่ไหนนะ” สาเหตุก็ตามมา “เพราะว่าหาซื้อไม่มีแล้ว”

“อัลบั้มอะไรเนี่ย?” นัทถามก่อน

“อัลบั้ม เอ่อ....” กบสะดุด

“So Much In Love หรือเปล่า?” นัทเลยสวนขึ้นพร้อมกับที่ต้อลตอบเหมือนกันพอดี



นัท ชายหนุ่มที่เอาใจใส่คนรอบข้างผิดสังเกตอีกครั้งกับอากัปกิริยาแฟนคลับรอบนอก

“จะไปไหนเหรอครับ” นัทโบกมือถาม


เสียงตอบกลับมาคือการขยับหาที่ใหม่ให้มองเห็นได้ชัดขึ้น คำตอบนี้มาจากทางฝั่งแฟนคลับดงชาฟากข้างที่ต้อลนั่งอยู่ ทำให้...........



“ต้อลบังเหรอครับผม ต้อลบังเปล่าครับ” คราวนี้ต้อลเป็นฝ่ายถาม “ต้อลบังใช่ไหมฮะ”

หนุ่มน้อยในหมวกแก็ปเลยเตรียมขยับ ท่ามกลางเสียงห้ามเซ็งแซ่

“ยืนไม่ไหวจริงเหรอ” นัทชะโงกตัวมาถามอย่างเป็นห่วง ก่อนเสียสละ “ต้อลจะนั่งหล่อ เดี๋ยวนัทยืนละกัน”


เสียงร้องนุ่มๆของหนุ่มน้อยดังขึ้นพร้อมๆกับชายหนุ่มร่างบางลุกไปยืนอยู่ที่ฟากให้แฟนคลับดงชงมองมาชัดขึ้น


~กาลครั้งหนึ่งยังผ่านไปไม่นาน มีนิทานในคืนแห่งความฝัน มีดวงดาวดวงจันทร์ ~



~~~~~~~~~~~~



ชายหนุ่มที่ลุกขึ้นยืนกลับไม่ลืมที่จะสอดกระดาษแผ่นขาวไว้ที่กระเป๋ากางเกงด้านหลัง เพลงดำเนินมาจนถึงช่วงที่จำเป็นต้องใช้ ท่าทีที่รีบควักขึ้นมาดูเนื้อเรียกเสียงหัวเราะชวนเอ็นดู สติชขี้ลืมวันนี้


จบเพลงนิทานก่อนนอน ตามมาด้วย......


“เพลงนี้นะครับมันก็พูดถึงบรรยากาศยามค่ำคืน” นัทคุยไปเดินไป “เวลาอยู่ใกล้ใครสักคน บางทีเราก็อยากกอดเค้า” ชายหนุ่มพูดชวนเคลิบเคลิ้ม “บางทีเราก็อยากจะหอม”


“คืนนี้ขอหอมครับ” เสียงนัทลอยมาตามลมอุ่นๆพาชวนใจสั่น

“ใครอยากให้พี่นัทหอม...ต้องช่วยร้องดังๆนะฮะ” กบจอมซุกซนตบท้าย


เอ่อ....ต้องร้องดังแค่ไหนดีล่ะ ถึงจะได้ให้นัทหอม...ได้







เพลงที่จะตามมา เพลงที่เหมาะกับหัวหิน...เป็นถิ่นสัญญา

เด็กสองคนเริ่มเล่นใบ้คำ

“รุ่น...รุ่นสุนทราภรณ์รึเปล่าไม่รู้” ต้อลตอบคำถามที่พี่โยนถามเกี่ยวกับเพลงต่อไปที่จะร้อง “ไม่ใช่หรอก”

“พี่ชายคนที่ร้องเพลงนี้ไว้ เค้าจะไม่ร้องเพลงอีกแล้วใช่เปล่า...ปัจจุบันนี้” นัทเริ่มใบ้คำต่อ

“เค้าไม่ร้องแล้ว เค้าไปเล่นหนัง” ต้อลรับลูก

“เค้าไปเล่นละครโด่งดังนะครับ” นัทขอแก้ให้นิดก่อนเล่าต่อ “เพลงนี้ฝ่ายผู้จัดรีเควสต์มา”


ส่วนต้อล...ตอนนี้ชักมีปัญหากับไมค์ตัวเอง ติดๆดับๆให้ชวนขัดใจจนต้องร้อง....

“เฮ้ยยยย...เออ!” สิ้นเสียงร้อง ไมค์ก็ดัง “เห็นไหม...มันต้องดุ มันต้องดุ...ไมค์ซาดิสต์หรือเปล่าเนี่ย”

พอไมค์ดังต้อลก็ต่อประโยคให้พี่นัทที่ค้างไว้

“เพลงนี้ไม่อยากจะบอกว่าเค้ารีเควสต์มาก็จริงพี่ แต่ว่า....” หนุ่มน้อยผู้โตมาท่ามกลางเพลงรุ่นพ่อตอบ “เพลงนี้เป็นเพลงหากินมากเลย” ต้อลเล่าความหลัง “สมัยตอนเด็กๆชอบไปร้องคาราโอเกะนะครับ เป็นเพลงที่สั้น ร้องแป๊บเดียวได้ตังส์แล้ว” กบขยันทำมาหากิน “ก็เลยหยิบเพลงนี้ขึ้นมาร้องบ่อยๆนะฮะ”

“ชื่อว่าเพลง........” กบหยุด “ไม่บอก!”

“เดี๋ยวก็กรี๊ดกันเอง” นัทพูดพร้อมรอยยิ้มพราว




~หากฉันเพ่งตาเธอให้ลึกหน่อย อย่างน้อยอาจทำให้ต้องเฉลียวใจ ~


~~~~




.....และแล้วท่านชายพจน์ปรีชาก็ดำเนินออกมารอปริศนา ณ ชายหาดหัวหิน ดินแดนแห่งมนต์ขลัง



เพลงจบ แต่ยังคงจารในความทรงจำ




“อัลบั้มหน้าออกเป็นเพลงลูกกรุงไหม” นัทผู้ยืนมองแรงสะท้อนจากผลของเพลงนี้จากแฟนๆเอ่ยขึ้น

“ทำไมอ๊ะ” กบถามเหน่อเสียงสูง

“ท่าจะรุ่งกว่า” นัทมองความจริง(ของเหล่าแฟนเพลงออก)

“โอ๊ย~ไม่หรอกพี่ สมัยนี้เค้าไม่ฟังกันหรอก” ต้อลพูดไปเกาขาไป

“ไม่..คือ ร็อคก็ดีแล้วนะ แต่ว่า” นัทหันไปขอตัวช่วย “เพราะมากไหมครับ”

เสียงปรบมือที่ดังขึ้นคือคำตอบ

“เป็นเพลงสมัยเก่านะฮะ...เป็นเพลงหากินของต้อลเอง...เพลงนี้” ต้อลพูดทำเอาพี่จำได้ ไอ้ที่ร้องแล้วพี่ป้าน้าอาเค้าชักใบแดงๆม่วงๆมาให้ แต่เรากลับอยากได้ใบเทาๆนั้น...ใช่เปล่า

“เลยอยากเอามาร้องเหมือนกัน ลองดู” ต้อลหันบอกพี่ชาย “เพราะว่าเลือกเพลงลูกกรุงมาเยอะแล้ว”

นัทพยักหน้ารับฟังอย่างเข้าอกเข้าใจ

“ทำไมยุงเยอะจังเลยอ่ะ” กบเกาขายุกยิก “อ่ะ...ขอเกาก่อน ให้พี่นัทร้อง คั่นเวลา”

นัทถึงกับนั่งนิ่งไปครู่หลังจากโดนกบโบ้ยมา

“ไม่ร้องได้ไหม” พี่ชายร้องขอเสียงอ่อยๆ

ทีมงานส่งปฏิบัติการช่วยเหลือกบให้พ้นยุง

“โหย...พร้อมมากเลย” กบเอื้อมไปหยิบโลชั่นกันยุงจากด้านหลัง พร้อมส่งเสียงแซวแทนคำขอบคุณ “ทีมงานคุณภาพอีกแล้วครับท่าน”

“มันเป็นกลิ่นตะไคร้ใช่เปล่า” นัทมองการจัดการน้องไม่วางตาถามขึ้น ทำเอากาต้อลที่กำลังก้มตัวลงฉีดต้องยกขึ้นมาดูอีกครั้ง

“ฉีดแล้วเหม็นมากเลยอ่ะ” นัทท้วงขึ้นมาก่อนที่ต้อลจะลงมือ

ต้อลชะงักกึก หันมองหน้าคนพูดที่ทำให้รู้สึกเหมือนโดนหาเรื่อง

“เขาเอาไว้ฉีดกันยุง” ต้อลร้องออดเสียงสูงตอบโต้ “อ๊ะ!” พร้อมกับก้มฉีดที่ปลายขา

ทันที่ที่ก้มฉีดพ่นสเปรย์กันยุง คุณชายแอ็คติ้งเก้าที่นั่งข้างๆทำผงะปิดหน้าป้องจมูก กบกลัวยุงเห็นดังนั้น

“เว่อร์ละ...เว่อร์! เวอร์!” พูดไปก็ยังเหลือให้ฉีดขาอีกข้าง “ฉีดแล้วคนรักยุงเกลียดนะฮะ”




...................โหยยยยยยยยยยยยยยยยยยยย






พอกบกันยุงเรียบร้อยก็ได้เวลาเข้าเพลงต่อไปของสติช

“อ่ะ...เพลงนี้ ไม่รู้หน้าตาจะออกมายังไงนะฮะ” ต้อลเริ่มชงชา “เพราะปกติมันเป็นเพลงเร็วมาก” (งั้นเหรอ?!?)

“เพราะว่าทุกคนจะต้อง...ลันลันลันลันลา...” ต้อลหยุดรอ คนรอบวงก็ไม่ทำให้ผิดหวัง ตบมือเป็นจังหวะพร้อมตะโกนร้อง...รักนัท

“อ่ะ...มันจะยังงี้” ต้อลพยักหน้ารับอย่างพออกพอใจ ก่อนหันไปถามพี่นัท “วันนี้ได้ไหม อย่างเงี้ย”

“วันนี้มันก็ต้องเป็นอย่างเงี้ยล่ะ” นัทยังคงยืนยัน

“มันก็ต้องเป็นอย่างงี้อ่ะนะ” ต้อลรับส่งตามกัน

“เราก็ต้องพยายามประคับประคองเวอร์ชั่นนี้ให้มันไปรอดด้วยกันหน่อยนะครับ” นัทหันมาขอความร่วมมือ “เวอร์ชั่นชายทะเลนี่นะครับ”


รักได้อีก เวอร์ชั่นเรกเก้ชายทะเลจึงได้เริ่มขึ้น


แล้ว.............นัทน่าร้ากกกกกกกกกกกก

น่ารักเหมือนลูกแมวเลยวันนี้ ท่าส่ายสะโพกเหมือนแกล้ง ทำเอาอมยิ้มแก้มตุ่ย
พี่ชอบมากเลยล่ะนัท เวอร์ชั่นชายทะเลแบบนี้ ไม่ใช่แค่การร้องนะ รวมการเต้นด้วย
ช่ายยยยละ การเต้นวันนี้ ดูธรรมดาๆ ดูไม่มากไม่น้อยไป ดูขี้เล่น ..............และดูเป็นธรรมชาติ

เป็นชายหนุ่มที่น่าหม่ำชวนกอดให้กลมกลิ้ง เอ๋ยยยยยยยยยย






หนุ่มเอนเตอร์เทนจบช่วงลง เจ้าน้องชายจอมฉวยโอกาสก็กำลังรอ เพราะช่วงที่พี่ชายส่ายสะโพกเต้นระบำฮาวายอยู่ตรงหน้า กบจ้องเขม็ง ตางี้ยิ้มกริ่ม ไอ้อาการก้มหน้าส่ายหัวมันบ่งบอกถึงกับการเตรียมเก็บข้อมูลมาเป็นอาวุธทำลายล้างชิ้นงาม


“เต้นซะน้ำเหงื่อหยด” ต้อลยิ้มกริ่มแซวเบาๆ ทำเอานัทหัวเราะหมดทางแก้ตัว

“นี่ยังดีนะไม่ใช่ฮาวาย...ฮาวายต้องเต้นแบบนี้” ท่าฮูลา ฮูล่าประกอบคำพูดตามมา

“เป็นขั้นที่สูงขึ้นไปอีกหน่อย” นัทสอนเชิง “นี่แค่เบสิค เบสิค”

“อืมมม” กบรับคำเสียงต่ำ ก้มหน้าก้มตาพยักหัวหงึกหงัก “เบสิค”


นัทเลยทำอะไรไม่ได้กับกบกวนโอ๊ยเต็มสตรีมแบบนี้ ได้แต่ยืนยิ้มรอและขอมอง...กลับ


กบเงยหน้า จ้องตา รู้ตัวและ....ออกตัว


“อ๊ะ..เปล่า ไม่ได้ว่าอะไรเลย” แล้วขอเอาใจสักนิด “น่าร้าก น่าร้ากกก เห็นไหม เขายังว่า...” กบชี้หาพวกจากขอบเวที

“จะบอกว่า...อยู่AFมาด้วยกันก็น่าจะรู้ว่า เราอยู่ค่ายนี้เราต้องทำได้ทุกอย่างนะครับ” พนักงานดีเด่นของบริษัทเอ่ยให้เข้าใจ “ตั้งแต่....” นัทชั่งใจที่น้ำหนักของมันต้องทำให้เปลี่ยนใจ “ไม่พูดดีกว่า”




ต้อลเตรียมเข้าเพลงที่ต้องร้อง แต่ปรากฏว่า

“เพลงนี้...” กบเปรยเบาๆ “จำเนื้อไม่ค่อยได้ด้วย"

“อ้าว!” พี่นัทถึงกับมองหน้า

...........เอ มีชายหนุ่มคนไหนนะที่ถึงกับต้องกางเนื้อมาก่อนหน้านี้น้า???


“เป็นเพลงใหม่ของรุ่นน้องนะครับ เราอยากจะหยิบมาร้องบ้างนะครับ” กบใบ้คำ

แต่สงสัยคำใบ้นั้นจะยากเกินไป คำทายถึงได้ออกทะเลไกล

“นางฟ้าตาชั้นเดียว!!!”

คำตอบจากแฟนคลับพ่อมดทำเอาเจ้าของซุ้มถึงกับเหวอ

“ห๊ะ!!!” ก่อนตั้งตัวติด “มึนหรือเปล่า...ของรุ่นน้อง รุ่นน้อง” แล้วขอเอาคืน “เต้นฮาวายมากไปเปล่าเนี่ย หมุนตัวมากไปเปล่าเนี่ย


พี่นัทอดไม่ไหว หัวเราะตัวเอน ถูกใจกับการต่อร้องต่อเถียงระหว่างศิลปินกับแฟนเพลงที่มีมาเป็นน้ำจิ้มตลอดงาน



“เป็นเพลงของรุ่นน้องนะฮะ” ต้อลพยายามโยงกลับ “เพลงมันตรงกับชีวิตจิตใจต้อลเหมือนกันนะ”

ต้อลหันไปหาพี่นัทเมื่อพูดประโยคนี้ ทำเอาพี่นัทต้องรับลูก


“เพลงนี้บรรรยายต้อลได้ดีนะ” นัทถึงกับชี้ให้เห็น “ชื่อเพลงน่ะใช่เลย”

“เอาแต่ใจ” หนุ่มน้อยรับคำอย่างเด็กว่าง่าย



พี่ว่า ต้อลน่ะเป็นเด็กเอาแต่ใจ ในเรื่องที่ตัวเองมั่นใจว่า “ใช่” ในเรื่องที่ตัวเองรู้ว่า “ถูก”

แต่พี่คิดว่า ต้อลไม่ใช่เด็กเอาแต่ใจที่ดื้อจนไม่ฟังเสียงใคร แต่เป็นเด็กที่ฟังคำคนอื่นมาเก็บไปคิดเสมอ

เด็กนิติ...ไม่ง่าย ไม่โง่งี่เง่า และไม่บื้อหรอก ....จริงไหม

ขอมีเหตุผล น้องก็พร้อมจะรับฟัง

พี่มองต้อลแบบนี้ล่ะ





เพลงเอาแต่ใจเริ่มมาจนถึงประโยค


~สาระไม่ค่อยมี อยู่ไปอย่างงี้ตามฟิลหัวใจ~~


ต้อลชี้เข้าหาตัวเอง

ส่วนพี่นัทก็....อดไม่ได้ที่จะเห็นด้วย

“ใช่” นัทส่งเสียงเข้มกำกับตามมา


เมื่อท่อนสำคัญมาถึง คนร้องร้องอย่างได้ฟิล


~จากคนเอาแต่ใจ แต่ใจ ตัวเองทุกที~~



พี่ชายแดนเซอร์ก็ทำท่าเด็กเอาแต่ใจประกอบไม่รอช้า พร้อมรอยยิ้มเด็กเกเรประดับใบหน้า



....มันเป็นบรรยากาศที่ทำให้รู้สึกได้ว่า เด็กสองคนนี้ทำไมน่ารักได้ขนาดนี้ และ ถึงกับต้องจับที่หัวใจแล้วแอบถามตัวเองว่า เราจะมีความสุขมากเกินไปไหมเนี่ย





สาระ(ที่ไม่มี)ในเพลงนี้ก็ยังมีต่อ เพราะกบชวนเชื่อไว้ก่อนร้องว่า จำเนื้อไม่ค่อยได้
ท้าพิสูจน์คำพูดกบจึงได้เริ่มต้น.....



~ขอให้เธออดทนอย่างนี้ไป ...อืม เออออ อืมอา...เอ่ออออ~





กบดำน้ำปุ๋งปั๋ง ทำเอาเรือดำน้ำที่ชื่อนัทนาวีต้องกล้อสมอเรือเข้ามาช่วย กบถึงได้โผล่พ้นน้ำมาหายใจได้ทัน




เมื่อเพลงจาง ทุกอย่างจึงเห็นชัดขึ้น....จากการสังเกตของพี่ชายนักคิด

“จะบอกว่าร้องเพลงของรุ่นน้องก็มีข้อดีอย่างหนึ่งนะ” เสียงเข้มจากนัททำเอาร้อนๆหนาวๆ

บรรดาแฟนคลับชักรู้ตัว....พลาด

“ทำให้เรารู้ว่า...” นัททิ้งช่วงเวลาให้หลายต่อหลายเสียงรู้ตัว “ใครบ้างยังติดตามAF5อย่างจริงจัง”




เสียงเข้มข้นคลั่กที่นัทปล่อยออกมาทำเอาหลากเสียงที่ร้องตามระงมแก้ตัวทั้งน้ำใสน้ำขุ่น

“ได้ยินจากแถวนี้หมดเลย” ศิลปินจับผิดแฟนคลับฝั่งสีเขียว ก่อนกวาดมือไปยังฝั่งสีฟ้า “แถวนี้ไม่มีเลย...เงียบ!”

กบตาพราว พร้อมปฏิบัติการณ์หาคนผิดให้เท่าเทียม ตาชั่งจะได้ไม่เอียง

“เงียบอะไร...ตะกี้เห็นลิปซิ้งค์อยู่” กบย้ำแกล้ง “อย่า อย่า อย่า เห็นด้วยนะ ทำอะไรกันน่ะ”

แฟนคลับต้องแก้ต่างให้ตัวเองเพื่อให้ศิลปินวางใจ

“อ๋อ...เขาบอกตี๋เอามาร้องแล้วเลยร้องเป็น” กบได้ยินคำแก้ตัว เอ๊ย แก้ต่างจากจำเลย

“อ๋อ..ตี๋เอามาร้องเลยร้องเป็น” นัททำเสียงแบบเมื่อชวนให้เชื่อ...ก็ด้ายยยยย

แต่นัทยังขอแก้เผ็ดต่อ

“ตกลง...ชอบตี๋มากกว่านัทต้อล” เสียงประชดของนัทชวนใจหวิว







ศิลปินคนแรกแกล้งแฟนคลับหมดไปรอบ

รอบต่อมา ศิลปินผู้น้องขอจอง

“เมื่อวานน้องเกด น้องเกดที่แสดงMVของพี่นัทเอง คือตั้งใจมากเลยนะฮะที่จะมาบอกพวกเรานะว่า....วันนี้มาแต่เช้าเลย เหนื่อยมากเลย เหนื่อยมากแต่หายเหนื่อยเลย ได้เจอพี่ไมค์ ได้ถ่ายรูปกับพี่ไมค์แล้ว”

กบเผาแฟนคลับไม่มีขาดตอน แต่กลับสะดุดเพราะพี่ชายที่ตั้งใจฟังจับประเด็นไม่ทัน

“พี่ไมค์ไหน” นัทงุนงงจริงๆ

“กอล์ฟไมค์” กบต้องขยายความ

เป็นการขยายความที่ทำให้ศิลปินถึงกับทรุดราวกับโดนเจาะยาง

ส่วนศิลปินจอมแฉยังไม่จบ

“โอ๊ย ดีใจมากเลย” กบเลียนเสียงดีใจ ก่อนกดเสียงต่ำ “แล้วมาบอกเรานะฮะ”

ต้อลทำท่าอ่อนอกอ่อนใจ มือยังกดที่หัวใจบอกอาการ

“จะให้เราพูดอย่างไงเหรอ” กบบอกด้วยความไม่เข้าใจปนความโหวงเหวง

แต่นึกเหรอแฟนคลับจะเห็นใจ ซ้ำกระหน่ำ กับชื่อศิลปินอีกคนสวนขึ้นมา

“กอล์ฟด้วย...ใช่ไหม” กบยอมรับความจริงอันโหดร้ายของการรู้ทันแฟนคลับ “อ๋อ...นั่นไง นั่นไง”

พอเสียงที่ส่งมาอีกทีกับอีกชื่อศิลปิน...ที่คราวนี้ทำสองหนุ่มกระชุ่มกระชวย

“พอลล่าก็ไปเหรอ” พี่นัทแปลกใจ

“จริงเหรอ...แล้วไม่บอกจะได้ไปถ่ายด้วย” กบมีชีวิตขึ้นมาทันที




อ๋ออออ เข้าใจละ ศิลปินผู้ชาย...ต้องห้าม แต่ศิลปินสาวสวย...ขอตามไปด้วย


เอิ้กกกกกกกกกกกกก




เรื่องแฟชั่นโชว์ยังไม่จบ


“เมื่อวานก็เป็นงานอดิเรกของของเราสองคนนะฮะ” กบบอกแบบสบายๆ

“งานอดิเรก!!!” นัทอดไม่ได้ “โอ้ว!!!” นัทประชดกลับ “เหมือนเลือกได้เนอะ”

“ดูเหมือนยิ่งใหญ่มากเลยเนอะ” ต้อลต่ออย่างรู้ตัว

“เอ๊ย เดี๋ยวว่างๆไปลาวแฟชั่นวีค” นัททำเสียงโอ่ “ไปมนิลาแฟชั่นวีคอะไรอย่างงี้ แคมโบเดียแฟชั่นวีค”

พี่ชายไปแฟชั่นวีคแถวประเทศเพื่อนบ้าน แต่น้องชายบินข้ามไปอีกทวีป

“ความจริงจะมีที่ปารีสด้วยนะฮะ” น้องชายโอ่ตามพี่ “เราแคนเซิลไป แคนเซิลไป”

“ดูสำเนียงซะก่อนนะฮะ” กบจิกกัดตัวเอง “แม้วมากเลยนะฮะ”


ถึงจะทำเป็นโอ่เรื่องงานอดิเรก แต่ยังแฝงความจริงที่ติดอยู่ในใจศิลปินนักร้อง

“งานอดิเรกจริงๆ” ต้อลยังคงยืนยัน “งานหลักของเราเป็นไกด์”




ถูกกกกกกกกกกกกกกกกกกก

กร๊ากกกกกกกกกกกกกกกกก



“นี่น่ะเป็นงานเสริม อาชีพเสริม” พี่นัทตามต้อลมาอย่างไม่รอช้า

“งานเสริม...ร้องเพลงเป็นอาชีพเสริม” ต้อลต่อด้วยน้ำเสียงที่ปลงแล้วทุกสิ่ง


.....................ทุกการกระทำของบริษัทที่กระทำต่อศิลปิน........................



“ใครในที่นี้ยังไม่เคยไปคณะทัวร์ของเราบ้าง” ไกด์หนุ่มช่างจำนรรจาถาม



สองหนุ่มนักเดินทางเป็นว่าเล่น เริ่มชักชวนอย่างรู้ซึ่งในชะตากรรมของตนเอง


“เราจะมีจัดทัวร์ไปอีกนะฮะ ปีหน้ามีแน่นอน” กบเล่าต่อด้วยเสียงเรียบเฉย









partB


Create Date : 28 พฤศจิกายน 2551
Last Update : 30 พฤศจิกายน 2551 14:57:55 น. 4 comments
Counter : 696 Pageviews.

 
น่ารักมากเลยค่ะ
อ่านแล้วอมยิ้มไปตลอดเรื่อง

รอ partB นะคะ



โดย: หมูน้อยของแมวเหมียว วันที่: 28 พฤศจิกายน 2551 เวลา:13:39:13 น.  

 
ชอบจังเลย จะตามอ่านนะค่ะ


โดย: บางส้มเปรี้ยว วันที่: 28 พฤศจิกายน 2551 เวลา:14:16:56 น.  

 
คุณหมูน้อยของแมวเหมียว
คุณบางส้มเปรี้ยว

ขอบคุณที่เข้ามาเป็นกำลังใจนะคะ
ดีใจล่ะที่ชอบกัน



โดย: Quaver วันที่: 2 ธันวาคม 2551 เวลา:18:23:49 น.  

 
น้อง คิวววววว
ไหน part B จ๊า

อยากอ่านแล้วใจอุ่นๆ อีก จ้ะ


โดย: แม่กบตัวอ้วน (แม่กบตัวอ้วน ) วันที่: 19 มกราคม 2552 เวลา:7:58:44 น.  

ชื่อ : * blog นี้ comment ได้เฉพาะสมาชิก
Comment :
  *ส่วน comment ไม่สามารถใช้ javascript และ style sheet
 

Quaver
Location :


[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 77 คน [?]




เป็นคนหัวแข็งที่มาพร้อมรอยยิ้มอ่อนๆ
เป็นคนหัวอ่อนที่มาพร้อมท่าทางแข็งๆ




Friends' blogs
[Add Quaver's blog to your web]
Links
 

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.