Group Blog
 
 
พฤศจิกายน 2551
 1
2345678
9101112131415
16171819202122
23242526272829
30 
 
14 พฤศจิกายน 2551
 
All Blogs
 
มินิคอนรวมพลคนพูดเยอะ "นัทต้อลโจว่าน" partA


เช้ามืดวันหยุดลมหนาวแรกของปีเคาะหน้าต่างทักทายพร้อมๆกับเสียงนุ่มๆของสาวเจ้านางหนึ่งรอคอยอยู่ที่หน้าห้อง พอเปิดประตูออกไปก็เจอแผ่นดีวีดียื่นสวนแทบหลบไม่ทัน สาวสวยก็แทรกกายเข้ามาในห้อง ก่อนสั่งสั้นๆ “เปิด”
ถึงยังเมาขี้ตาอยู่ก็พอรู้ล่ะว่าคำสั่งให้เจ้าของบ้านเปิดน่ะคือแผ่นดีวีดีที่ยื่นหรามาให้ตั้งแต่ไก่โห่น่ะ ก่อนทรุดตัวลงไปนั่งรออยู่ที่โซฟาแล้ว ส่วนไอ้ตัวเราก็เดินโซซัดโซเซทำงานตามคำสั่ง ในใจก็โอดครวญ.... กะแปลงกายเป็นผีผ้าห่มทั้งวันอยู่แล้ว มารมานิทราพัง หมดกันเลยตู

พอจัดการเสร็จสรรพ ก็มาคลุมโปงเตรียมดู...ที่ยังไม่รู้เลยว่าต้องดูอะไร

พี่เค้าก็เริ่มบ่นงึมบ่นงำอะไรก็ไม่รู้ พาลมหนาวนอกกายชอนไชลึกลงไปตามรอยแทรกของเส้นเลือด ใจก็เลยวิบๆวับๆไงชอบกล กระตุ้นให้ตาสว่างโดยไม่ต้องพยายาม

“นัทต้อลโจว่าน...ดูเหอะวะ” พอพี่สาวบอกเราก็อ้าวเหรอ แต่พอตบท้าย “ดูจบค่อยคุยกัน” ทำเอาใจที่กำลังป่องๆฟีบโดยทันใด

มีเรื่องอะไรอีกวะเนี่ย

ก็มาดูพร้อมกันเลยละกัน



คอนเปิดตัวมาด้วยคุณว่าน เสียงนุ่มหวานกับประโยคปิดท้าย “แต่ยังไงก็รักเธอยายแก่” คำหยาบคายบาดหัวใจแต่ทำเอาอยากเป็น “ยายแก่” ของใครสักคน


ว่านก็ยังเป็นว่าน จากคิงคองตัวใหญ่ ก็ปรับลงมานิดเป็นพ่อหมีตัวเบ้ง เป็นหนุ่มที่ร้องเพลงแล้วฟังไม่ขัดหู คำเคิมงี้ชัดฟังสบาย ทำเอาคนข้างๆเพ้อเหมือนเช่นเคยว่า ใช่ไหม..ใช่ไหม ว่านนี่ร้องเพลงแล้วน่าฟังที่สุดเลยนะคิว พี่น่ะชอบเสียงว่านที่สุดในบรรดาเด็กAFทุกคนเลยนะ ทำเอาเราชักวางใจ ฟ้าฝนคงเริ่มหยุดพัดกระหน่ำล่ะมั้ง เลยรีบหันไปเออออว่า ใช่พี่ ร้องแล้วถูกจริตน่ะ ไม่ต้องดัด ฮ่า ฮ่า ฮ่า ขอตบท้ายที่ทำเอาต้องพยักเพยิดแบบรู้กันสองคนแบบฮากระจุย



พอว่านร้องจบ...และมันคงเป็นธรรมเนียมของมินิคอนนี้ ร้องสามสลึง พูดสมทบไปให้ครบบาท ไม่ว่ากับเด็กคนไหนก็ตาม ทอร์คกันแบบไม่มีใครยอมใคร ยังกับว่าถ้าพูดน้อยกว่าจะทุนหายกำไรหดยังงั้นน่ะ
เมื่อว่านเริ่มขอเสียง ของแฟนคลับพี่นัท มายัง น้องต้อล ก้าวมาที่พี่โจ และขอปิดท้ายด้วย “น้อง”ว่าน.....เอ๋ยยยยย น้องมากเลยว่านเอ๊ย เห็นไซส์เราแล้วพี่ก็เกิดความเกรงใจสูงเลยล่ะ

คุณว่านทิ้งท้ายแบบรู้จักตัวเองและพลพรรคดีก่อนเดินตัวโตกลับไปว่า “อย่าเสียเวลากับผมมาก เพราะวันนี้พูดเยอะทุกคน”
.....ฮ่า ฮ่า ฮ่า ถูกกกกกกก เป็นคอนที่รวมพลคนพูดมากระดับตัวพ่อมาจนครบองค์ประชุม



จำได้ว่าเคยดูคอนด้วยความรู้สึกใกล้เคียงแบบนี้เลยตอนสมัยเรียนอยู่ที่มอชอ เวลาพี่จุ้ย ศุ บุญเลี้ยงมาเปิดคอนท่ามกลางลมหนาวทีไร สิ่งที่หลงเหลือในความทรงจำกลับเป็นตอนที่พี่จุ้ยพูดเรื่องโน้นเล่าเรื่องนี้ให้ฟังระหว่างการร้องเพลงมากกว่า มันทำให้ติดกับพี่จุ้ยทุกทีที่เวลาพี่จุ้ยมา ไม่ว่ามีงานกองท่วมหัวหรือต้องเร่งส่งแต่เช้า ...คอนสี่หนุ่มนี่ให้ความรู้สึกคล้ายๆกันดีจัง


พูดไปซะโน่นนนนเลย..............


ย้อนกลับมาที่ว่านต่อดีกว่า

ว่านนี่เป็นเด็กที่ตั้งแต่อยู่ในบ้านละ ชอบการพูดจาชอบวิธีการคิดที่ปล่อยออกมาเป็นคำพูด ฟังแล้วต้องร้อง หุ หุ ในใจ พร้อมขอดิกแปลแสลงส่วนตัวของว่านสักฉบับได้ไหมจะได้เข้าใจถ่องแท้ ฮ่า ฮ่า ฮ่า

ก็อย่างคราวนี้ คุณว่านแนะนำล่วงหน้ากับศิลปินที่จะออกมาเป็นคนต่อไปว่า ดาวรุ่งดวงใหม่ของวงการ วงการอะไร ว่านต่อแบบเนียบกริ๊บ...เขาคนนี้จะมาเขย่าวงการ “ไมค์ ไทสัน”


โอยยยย ไม่อยากนึกเลยว่าว่านเอาส่วนไหนของไมค์ ไทสันมาโยงเข้ากับ โจแบล็ก เอ๋ยยยยยย



โจ...วันนี้ทั้งวันขอกินเรียบกับมุขเดียว เพลงทุกเพลงคือเพลงที่โจแต่ง....เอ่อ นะ สักวันคงได้ฟังเพลงของโจจริงๆสักทีนะน้อง

แล้วก็...ถ้าเทียบเรื่องการพูด...เยอะ โจถือเป็นมือวางอันดับหนึ่ง ที่คิดว่ายิ่งกว่าว่านนะ เพราะน้องเล่นไม่พูดแค่ตอนปิดท้ายเพลง แต่ระหว่างเพลง กับโซโลที่ขึ้นมาอย่าหวังจะได้ฟังดนตรี เจ้าน้องชายคนนี้ ขอพูดแทรกตลอด ตอดนิดตอดหน่อย ตอดบางอย่างทำเอาพี่ล่ะกลัวจะต้องหิ้วโอเลี้ยงข้าวผัดไปเยี่ยมเลยว่ะโจเอ๊ย

พอเพลง “หยุด” หยุดลง โจก็เริ่มด้วยคำพูดถล่มตัวเองว่า ห่างหายไปนานกับเวทีมินิคอนแบบนี้ อาจได้เห็นนัท ต้อล และว่านบ่อยๆ แต่ผมนี่เรียกว่า “เก็บตัวอยู่”

....รู้เลยโจมาละ.....ทำเป็นหยุดทิ้งจังหวะเรียกความสนใจ... “เก็บตัว" เงียบ!!!

แล้วมันก็มาจนได้...โจทิ้งจังหวะอีกที เริ่มมุขแรก เสียดสีพอเจ็บๆคันๆ....ระวังนครบาลอะไรสักอย่างนะน้องเอ๊ย ฮ่า ฮ่า ฮ่า


โจขอต่อจากเก็บตัวเงียบด้วย.... “อยู่ที่ประเทศอังกฤษ!!!”
แถมหัวเราะขำตัวเองแบบรู้ตัวอย่างหยุดไม่อยู่ มุขล้อการเมืองแบบนี้ทำเอาพี่ล่ะนึกว่านั่งดูโขนธรรมศาสตร์อยู่

โจรอจนเสียงเฮดังรับหยุดลง น้องก็ต่อไม่มียั้งว่า “มาตามเสียงเรียกร้องนะฮะ ถ้าที่เมื่อวานไม่มีรัชมังคจะไม่มีวันนี้” ...น้องทำท่าอย่างกับปราศรัยอยู่บนเวที ก่อนรู้ตัวเอง “ตายยย ตาย!!!”

....ไม่ต้องกลัวโจ!!! เราอยู่บนโลกเสรี สิทธิเสรีภาพในการพูดจาเป็นพื้นฐานของประชาธิปไตย เขามีสิทธิ์พูด เราก็มีสิทธิ์นั้นไม่ต่างกัน อย่าไปกลัวดิ๊


ปากก็พูดว่า ตายแต่นึกว่าโจจะยอมหยุดงั้นเหรอ จะเล่นทั้งทีต้องเล่นให้มันสุด ทำเป็นควักอะไรสักอย่างออกจากประเป๋าหลังแล้วว่า “เดี๋ยวผมจะโฟนอินนะฮะ”....เรียกเสียงฮาตรึม เจ๋งได้ใจเจงๆไอ้น้องเอ๊ย

พอโจทำเป็นกดโน่นกดนี่แล้วโยนเข้าตัวเอง “ไม่รู้มีใครมากดเบอร์ไว้นะฮะ...เบอร์ 191” ฮ่า ฮ่า ฮ่า



ช่วงนี้เป็นช่วงที่พี่ชอบที่สุดเลยว่ะโจ โจก็ยังเป็นโจที่เคยรู้จัก
นี่ถ้าสมัยนี้ยังมีกลุ่มซูโม่อยู่นะ พี่ว่าโจคงถูกเรียกว่าซูโม่โจแทนโจAF2 คงหนีไม่พ้นหรอกนะเรา



โจเล่นช่วงพูดคุยต่อเนื่องไม่มียั้ง เพลงน่ะร้องไปประมาณไม่ถึงห้านาที แต่ทอร์คโชว์ปาเข้าไปกว่าเท่าตัว หลังจากจิกกัดพอเจ็บๆคันๆ โจก็เริ่มหันมาเหน็บสิ่งใกล้ตัวกับการจัดมินิคอนครั้งนี้

“สถานที่ใหญ่ขึ้น จำนวนคนเยอะขึ้น” พูดเหมือนชมเชยก่อนหักหลังแทบหลังหักว่า “เพราะราคาบัตรลดลง”

....โอยยย บาด บาด เรียกเสียงตอบรับดังกระหึ่ม พี่ก็เพิ่งรู้นี่ล่ะว่าครั้งที่แล้วราคาบัตรมันโหดขนาดนั้น เพิ่มอีกไม่กี่ตังส์ก็เท่าราคาบัตรของX แล้วอ่ะ ...เห็นราคาบัตรแล้วสงสัยไม่เหลือขนให้ลุก อื๋ยยย



ช่วงพูดคุยของโจช่วงนี้ โจกวาดเรียบ เอามันตั้งแต่การเมือง การบ้าน ยันเศรษฐกิจ ไม่รู้ไปเก็บกดมาจากไหน....อ๋อ ช่าย ใช่ ก็น้องเก็บตัวเงียบที่...ประเทศอังกฤษ....เข้าใจ เข้าใจ ฮ่า ฮ่า ฮ่า


แล้วโจขอปิดท้ายด้วย “สี” ทั้งเหลืองทั้งแดง มายังสีฟ้าเขียวที่เรียกเสียงตอบรับกระหึ่ม แล้วก็ไม่วาย..

“นัทต้อลโจว่านครั้งที่สาม เราไปเจอกันที่รัชมังคลานะครับ”

.....ฮ่า ฮ่า ฮ่า พี่ว่าคอนครั้งที่สามพี่น่ะไปได้ แต่โจพี่สงสัยอยู่ว่าเราน่ะไปได้จริงเหร้อ พี่ว่าพี่อาจต้องไปแวะเยี่ยมโจที่ไหนสักที่น่ะซี้


ลืมพูดถึงเพลงของโจเลย หลายเสียงไม่ค่อยให้เครดิตโจนะเรื่องการร้องเพลง แต่แปลกพี่ว่าพี่ชอบเสียงของโจนะ คือถ้าใครฟังเพลงโอเปร่าบ่อยๆคงจะเคยชินกับน้ำเสียงแบบโจ
มันก็ตั้งแต่โจร้อง the phantom แล้ว คิดเลยว่าโจเหมาะกับการร้องแบบนั้นที่สุด การปล่อยเสียง การออกเสียงลงตัวไปหมด ถ้าได้เรียนเพิ่มเติมอีกสักหน่อยนะ... แต่มันขายยากใช่ไหมล่ะ.....เข้าใจ
วงการเพลงบ้านเราเพลงโอเปร่ามันแคบยิ่งกว่าแคบ แล้วด้วยนิสัยโจ มันก็อาจไม่เหมาะกับแบบแผนแบบนั้นด้วยสิ

พี่เคยได้ดูมินิคอนเดี่ยวของโจ ก็นานพอตัวแล้ว ขอบอกเลยว่าทึ่งมากกับ ไม่ต้องมีคำบรรยายกับIt’s my life

...หลายๆคนเวลาพูดถึงนักล่าฝันที่ถูกมองข้าม โจมันถูกมองข้ามจากกลุ่มถูกมองข้ามอีกที พี่ว่า โจถูกทำให้เสียของไปจริงๆกับการจัดการของบริษัทที่ใช้ความฝันเป็นไลน์ในการดำเนินงาน

ถ้าโจจะมีข้อตินะ...มีอย่างเดียวเลยในสายตาพี่ คือ โจคิดเยอะไป คิดเยอะกับเพลงว่าต้องจัดท่ายังไง ต้องสื่อออกมายังไง จนลืมพื้นฐานว่าแค่ปล่อยไปตามอารมณ์จริงๆเท่านั้นก็พอแล้ว มันเป็นข้อที่แก้ไม่หายสักทีตั้งแต่จากในบ้านละ

แล้วบางที....บางทีนะ เพราะอะไรก็ไม่รู้ มันอาจมาจากความไม่มั่นใจในด้านดนตรีของตัวเองด้วยหรือเปล่าที่ทำให้โจใช้วิธีการตลกโปกฮามากลบเกลื่อนจนทำให้เพลงที่โจร้องมันด้อยลงจนคนลืมที่จะฟังมัน
พูดถึงโจเยอะแฮะ...น่ะขอพูดรวบยอด ก็ไม่เคยพูดถึงเลย ...บ่นไปอย่างงั้น ยังกับน้องมันจะมาได้อ่านยังงั้นล่ะ ฮ่า ฮ่า เฮ้อออออ



กว่าหนุ่มคนที่สามจะออกมาได้ คงรอแล้วรอเล่ากว่าโจจะยอมปล่อยเวลาให้นัทกับเพลงแรก “รักได้อีก”
มาถึงท่อนท่อนที่ต้องปรบมือ หรือเรียกเสียงบอกรัก นัทก็ทำหน้าทำตารอรับ เสียงถามย้ำ “อะไรนะ!อะไรนะ!” ดังประกอบจนเสียงรักนัทค่อยดังกระหึ่มตาม


ดูนัทร้องมาถึงตรงนี้ ก็เจอสะกิดยิกๆข้างตัว ถาม “คิว คิว...คิวเริ่มชอบการเต้นของนัทยัง”
ไอ้เราหันไปก็เจอสายตาคาดหวังรอสบอยู่ ทำเอากลืนน้ำลายเอื้อกใหญ่ เลยอุบอิบๆถามกลับไปว่าพี่อยากให้คิวตอบแบบตั้งกระทู้หรือตอบแบบเขียนบล็อกล่ะ
เลยโดนค้อนเข้าไปอีกโครมนึง “งั้นก็ไม่ต้องตอบก็ได้” พี่แกเล่นทำเสียงสะบัดสะบิ้งยังกับสาวรอให้ไอ้หนุ่มง้ออย่างงั้นล่ะ


....เอาไงดี การเต้นของนัท อธิบายลำบากแฮะ ส่วนตัวคิดว่านัทยังไม่เหมาะกับการเต้น การจัดการร่างกายของนัท การเคลื่อนไหวของนัท ไม่ใช่มันไม่พลิ้วนะ
แต่มัน...จะใช้คำอะไรดีว้า...มันเหมือนมีการกระตุกของเส้นสายน่ะ ยังไงดี..จะว่าเกร็ง ก็มีส่วน จริงๆการเต้นน่ะมันต้องเกร็งกล้ามเนื้อให้มันไปตามความต้องการอยู่แล้วแต่เพียงเราต้องทำให้มันเหมือนเราไม่ได้เกร็งมันเอาไว้
แต่เวลาพี่ดูนัทเต้น การเกร็ง การบังคับกล้ามเนื้อมันเห็นจะ จะผ่านมาตามท่าทางที่นัททำน่ะ โดยเฉพาะช่วงต่อการเปลี่ยนจากท่าหนึ่งไปท่าหนึ่งนะมัน...ตึก ตัก เป็นจังหวะเหมือนหุ่นกระบอกที่ถูกชักเชิด...
(รู้สึกว่าตูอาจต้องร้อง....ตายยยย ตามโจซะละมั้ง )

มันทำให้พี่รู้สึกอึดอัดทุกครั้งที่เห็นการเต้นของนัท จนต้องร้องบอกกับตัวเองว่า นัทผ่อนคลายหน่อย เล่นๆหน่อย สบายๆหน่อย
...ใช่ ใช่ละ ต้องใช้คำนี้ ดูนัทเต้นแล้วมันไม่รู้สึกสบายๆน่ะ นัทเล่นเอาจริงเอาจังกับมัน พยายามมากกกจนเห็นได้ชัดผ่านทางร่างกาย และที่สำคัญผ่านทางสีหน้าและโดยเฉพาะแววตา

แววตาที่แฝงความเครียดคลุมความมุ่งมั่นอยู่ ดูเหมือนคิดอะไรในใจตลอดเวลา ส่งให้พี่รู้สึกว่านัทบังคับตัวเองอยู่...บังคับความรู้สึก หรือ บังคับให้ตัวเองรู้สึก เห็นแล้วอยากบอกเลยว่า ปล่อยๆไปบ้าง อย่าคิดเยอะ ทุกอย่างไม่ต้องเป๊ะ ไม่จำเป็นต้องสมบูรณ์แบบ ความผิดพลาดก็คือส่วนหนึ่งของธรรมชาตินะนัท


ยิ่งพักหลังๆที่นัทดูจะไปเอาดีทางด้านเพลงเซ็กซี่น่ะ ทำเอาพี่เสียเซลฟ์ไปเลยว่านัทที่พี่ชอบมันจะหายไปหรือเปล่าวะเนี่ย
ท่าเต้นที่หลายๆคนส่งเสียงเชียร์ฮู่วฮ่าว์เนี่ย ขอพูดตรงๆได้ไหมว่า พี่ไม่ชอบ เพราะใจพี่มันบอกกับตัวเองว่ามันไม่เหมาะกับนัท นัทที่เชื้อชวน นัทที่ส่งสายตาเซ็กซี่ แต่กลับทำให้พี่รู้สึกว่านั่งดูละครเวทีอยู่ ความธรรมชาติมันหมดไป
ความรู้สึกที่นัทพยายามส่งออกมา พี่เหมือนได้ยินนัทตะโกนบอกว่า ฉันคิดว่าฉันเซ็กซี่ ซึ่งที่จริงมันควรเป็นว่า ฉันเซ็กซี่ ต่างหากไม่ใช่เหรอ


ไม่ว่าเมื่อไร นัทที่พี่ชอบก็ยังเป็นเด็กผู้ชายตัวเล็กๆที่ทำหน้าเรียบเฉยหลังแกรนด์เปียโน
เด็กผู้ชายที่เล่นดนตรีราวกับทำวิทยานิพนธ์คนนั้น
เด็กที่มีความสุขแม้ทำเรื่องเล็กๆน้อยๆ เอาจริงเอาจังกับทุกเรื่อง
เด็กที่มาพร้อมกับเมโลดี้สวยๆ ของเพลงป๊อบสบายๆคนนั้น

แต่...พี่ก็เข้าใจ
การแสดงสด มันต้องพ่วงการเอ็นเตอร์เทนไปด้วย
นัทที่เป็นเอ็นเตอร์เทนเนอร์ มันอาจจะเหมาะกับสังคมAFที่มุ่งเน้นการเล่นมินิคอนมากกว่ายอดขายแผ่นก็เป็นได้ล่ะมั้ง
....ก็พยายามขยายหัวใจตัวเองให้กว้าง จะได้เหลือที่พอยอมรับเรื่องที่ขัดใจได้ง่ายและสบายขึ้น

ถ้างั้นขอไว้อย่างนะนัท
อัลบั้มต่อไปขอยังเป็นบัลลาดป๊อบไว้ด้วยละกันนะ
อยากฟังนัทใช้เนื้อเสียงเต็มๆกับเพลงอารมณ์หนักๆ ประเภทหน่วงอารมณ์ให้ตายกันไปข้างน่ะ
นัทป็นคนที่สื่ออารมณ์เศร้าผ่านเสียงร้องของตัวเองได้เก่งมากเลยล่ะ
อย่าเพิ่งหันไปออกป๊อบแดนซ์เลยนะ พี่ว่าพี่คงยังขยายหัวใจตัวเองให้กว้างพอไม่ทันน่ะ




ย้อนกลับมาที่มินิคอนก่อนจะลอยทะเลไปไกล


เรื่องการพูดจา .... นัทนี่ถ้าเทียบกับสามหนุ่มที่เหลือ ทางนัทก็เชี่ยวไม่เท่าเค้า พวกนั้นปล่อยกันเฟี้ยวฟ้าว
ส่วนนัทของพี่(อ๊ากกกก โดนดึงหูจากคนข้างๆ...เค้าแค่อุ๊บอิ๊บนิดเดียว จะหวงไปไหนฟะ....ฮึ่มมมม)

นัท...ของทุกๆคนก็ยังเป็นแค่ล่ะอ่อนน้อย ต้องค่อยๆเรียนรู้ไปเรื่อยๆ

...แต่จริงๆ พี่น่ะชอบนัทที่เป็นนัทแบบนี้นะ นัทที่ทำหน้างงๆเวลาโดนเกี้ยว เอ๊ย โดนหลอกล่อ
เวลานัทดูน้องๆปล่อยเป็นเป็นปืนกล แววตานัทจะพยาย้าม พยายาม พยายามตามให้ทันน่ะ ยิ่งเวลาความไม่น่าวางใจสูงด้วยนะ ความระวังตัวจากนัยน์ตานัทนี่มันพุ่งปิ๊ดให้พี่ต้องเม้มปากเก็บเสียงหัวเราะด้วยความเกรงใจนัทเลยล่ะ
แล้วนัทจะเป็นแค่ชายหนุ่มคนหนึ่งที่แสนธรรมดาแทนที่หนุ่มฮาวาร์ดมากความคิดน่ะ

แต่ก็อย่างว่านะ ผ่านมาจนป่านนี้แล้ว โดนหยอกโดนหลอกมาเยอะ นัทก็เริ่มมีสายน้ำเชี่ยวของตัวเอง
จบเพลงรักได้อีก นัทก็ตามรอยรุ่นพี่มาติดๆ หยอกนิดๆจึงมีมาให้เห็น เมื่อนัทว่าคนที่มาคอนเสิร์ตครั้งนี้โชคดีมากเพราะ บัตรคอนนี้หายากมาก และที่หายากไม่ใช่อะไร แต่ก็เพราะ....

“ไม่มีใครอยากจัด” .....ใช้ได้ ใช้ได้

จากนั้น นัทก็เริ่มอ้อน ฮ่า ฮ่า ฮ่า เริ่มเล่าพร้อมจับศอกที่ปิดพลาสเตอร์ยาไว้ สมเป็นมือหนึ่งด้านประชาสัมพันธ์ ขนาดคอนสองหนุ่มจบไปแล้วก็ยังไม่ลืมเช็คเรตติ้ง ถามว่า “คอนอะไรครับ” (....ชอบจังเวลานัทพูดเพราะๆแบบนี้ ฟังแล้วรู้สึกนุ่มๆในอก)

เสียงเซ็งแซ่ฟังไม่ได้ศัพท์ตอบกลับมา นัทเลยทำเสียง “เบ้เบเบ่เบบบบบ” ล้อกลับไป ทำตัวเป็นไจแอ้นท์ได้โคตรน่ารักเลย เอ๋ยยยยย ชอบจัง(อีกแร้น)นัทภาคเกเรแบบนี้

พอนัทว่าคอนทรูเมน นัทเล่นมากไปหน่อยเลยเกิดแผล ทำเอาเสียงตะโกนแซวกลับอีกว่า อาบน้ำเหรอ !!!

.......ไม่รู้เป็นไงสิ นัทนี่ชอบเปิดโอกาสให้คนอื่นแอบย้อนกลับมาแกล้งนัทเล็กๆได้เสมอเลย
........น่าเอ็นดู ฮ่า ฮ่า ฮ่า ไม่นึกเลยว่าจะเอาคำคำนี้มาใช้กับนัทอยู่เรื่อย


พอนัททำเป็นยอมรับก็อาบน้ำตั้งสี่รอบนี่ เปิดให้คน “รุกไล่” อีกแระ โดนเสียงเรียกร้อง เอาอีก เอาอีก เจ้าตัวเลยขอใส่อารมณ์ย้อนกลับว่าไม่มีแล้ว วันนี้บัตรราคาเท่าไร!!!
.....มันก็จริ๊ง ดีด้วย ถูกด้วย สมัยนี้จะไปหาที่หนายยยย

แต่จริงๆแล้วมันไม่ได้เกี่ยวกับราคาใช่ไหมนัท...หนุ่มหุ่นดีเริ่มเฉลยความจริง
ที่ไม่มีทางโชว์ได้ก็เพราะ....แต่น แตน แต๊นนนนน
วันนี้กินมาเต็มคราบ จากซิกส์แพคมันมารวมเหลือวันแพค ....กร๊ากกกก เข้าใจหัวอกเลยอ่ะ สงสัยช่วงคอนสองหนุ่ม มีหวังคาร์โบไฮเดรตคือศัตรูใช่ไหมล่ะ


พอเริ่มเช็คเรตติ้งเต็มตัว ขอเสียงคนที่ได้ไปดูคอนทรูเมนโชว์ให้ตอบว่า “ใช่” ดังๆ
แต่พอถามว่าใครไม่ได้ไปดูให้ยกมือหน่อย โธ่เอ๊ยยยย คนที่เขาไปดูส่วนมากหรือเกือบทั้งหมดเขาก็ตามคอนนัทต้อลอยู่แล้วล่ะ จะมีแต่คนประเภทพี่นี่ล่ะนัท ที่มายกมืออยู่หน้าจอน่ะ!

(แล้วพนันได้เลยตอนที่นัทเล่นคำถามนี้น่ะ นัทไม่มีทางนึกไปได้ว่าเจ้าน้องชายตัวแสบจะหยิบเอามาย้อนเอามาแซวทีหลัง )


เมื่อนัทหักหลังอย่างแรงกับคำถามนี้เมื่อพูดว่า แล้วเราจะรวมกลุ่มคนที่ไม่ได้ไปดู แล้วนัทจะไปอาบน้ำโชว์ที่ข้างหลัง....ฮ่า ฮ่า ฮ่า ทำเอาแต่ละคนไม่เคยไปดูกันเป็นทิวแถว
นัทพูดเองเขินเอง ยืนยิ้มแบบสติชท์บนเวทีอยู่นาน มาตบท้ายด้วยประโยคเด็ด...ที่พี่ขอบอกว่า พี่ชอบมากเลยล่ะนัท คิดได้ เก่งจริงๆน้องคนนี้

“คนที่โกหกอ่ะนะ ไม่มีทางได้อะไรอะไรพิเศษหรอก!!!”




เหลือเชื่อจริงๆนัทใช้ช่วงนี้คุ้มมาก ไม่ต้องเชี่ยวไปไหนหรอกนัท เล็กๆน้อยๆแบบนี้ล่ะ กำลังดี กำลังน่ารัก


พอนัทเดินเข้าไปเพื่อเปิดช่วงให้น้องชาย ดนตรีเริ่มขึ้น เสียงร้องลอยมา ...ยิ่งใกล้กันมากเท่าไร ยิ่งเข้าใจว่ารักเรา

.....ขัดช่วงสูดลมหายใจด้วยเสียงพูดที่ดังขึ้น “ไม่ร้องดังๆไม่ออกจริงๆด้วย”


เฮ้ยยยย เด็กตัวแสบไม่ยอมโผล่หน้า โผล่แต่เสียง พอเสียงร้องตามเริ่มกระหึ่มก็เริ่มเอาหน้าตากบมาให้เห็นพร้อมกับลุกส์...พี่นึกว่าเป็นเด็กช่างกลที่ใส่เสื้อช็อปอยู่นะ กบเอ๊ยยย จะห้าว จะร็อค จะเข้มไปหนาย ไอ้มาดพวกนี้ค่อยๆสร้างค่อยๆเป็นก็ได้ มันจะได้ไม่กร้าวแกร่งจนเกินหน้าอ่อนๆของเราน่ะ


กบก็เล่นกับเพลงได้สนุกสมกับเล่นสดนะ พลิกโน้ต หน่วงจังหวะ...เก่งเหมือนเคย ตอนที่ต้องโชว์พาวก็ไม่เคยพลาด

แล้วก็ต้องขอมอบแชมป์คนพูด...มาก มาก ให้กับกบโดยไม่มีใครกล้าแย่ง เพลงเกือบสี่นาที พ่อคุณเล่นทอล์คตามมาไม่ต่ำกว่าอีกหก หาคนพูดได้เรื่อยเปื้อย เลื้อยตามใจฉันได้เทียบหนุ่มน้อยคนนี้ก็ยากอยู่

แต่วันนี้เนื่องจากมีแผลยังสดให้เปิดอยู่ เมื่อต้อลออกปากว่า เสียงแหบเพราะว่าโดนใช้แรงงานมาเยอะ ร้องทั้งวัน
ก็เลยโดนย้อนกลับทันทีว่า ร้องไห้มาล่ะสิ ....ฮะ ฮะ ฮ่า กบพลาด กบพลาด

ต้อลไม่ขอยอมแพ้สวนทันควัน “ขอร้องเถอะ ร้องเหมือนกัน ได้ข่าว”
...กบจอมกลัวเสียหน้า


แล้ว...พอเริ่มบทสนทนาต่อไป
“ขอบคุณมาก...สำหรับคนที่ไปดู ขอบคุณมาก”
...แล้วมาละ ช่วงย้อนรอยพี่ชาย
“สำหรับคนที่ไม่ได้ไปดู ไม่เป็นไร....จะไม่ถาม” เด็กคนนี้มันแสบจริงๆ “ถึงถามก็คงไม่มีใครกล้ายกหรอก”


พร้อมโยงไปยังเหตุการณ์ที่ผ่านมาต่ะกี้ ที่พี่นัทให้คนไม่ไปดูยกมือมือขึ้น

ดูกบมันว่าสิ...ปากคมยังกะตะไกร “อื๋ยยย ใครยกมือขึ้น ใครไม่ได้ไป...ใครจะกล้ายกวะ!” พูดด้วยสีหน้ากวนชวน...มั่กเลยกบเอ๊ย

แล้วพี่นัทก็ยังไม่รอดพ้นปากเหยี่ยวปาก...กบ วันนี้กบปากจัดต่อเนื่อง ทำเป็นพูดว่าวันนี้จะรีบเล่นรีบเลิกคอนให้เร็วขึ้น เพราะ....

“เล่นจบปุ๊บ จะพาพี่เค้าไปเช็คประสาทหูนิดนึงเพราะว่า...อะไรนะ! อะไรนะ ! อยู่ได้” แถมโยกหัวเป็นจังหวะประกอบคำกระแนะกระแหน


โหย....สงสัยตอนยืนรออยู่ กบไม่ทำอะไร คงตั้งอกตั้งใจฟังกับทุกคำพูดทุกการกระทำของพี่นัทกะเกี่ยวมาใช้เต็มเหนี่ยว ความสนใจสูงปิ๊ดจริงนะกับสาระแบบนี้ โฮ่ โฮะ โฮะ


แล้วสงสัยกรณีพี่ชายอาบน้ำ กบคงเก็บมาเล่นอีกนาน

“อะไรนะ! อะไรนะ!...สงสัยอาบน้ำบ่อย น้ำเข้าหู” แล้วนึกเหรอว่าจะหยุดแค่นี้ แซวได้อีก อย่าให้มีวันไหนที่ “จำ” ต้องโชว์ขึ้นมาบ้างนะต้อลนะ มีคนรอซ้ำ...เยอะ

“จากการได้อาบน้ำสี่รอบ เค้าจะมีความฟิตมากขึ้น...ช่วงหน้าอก ช่วงหน้าอก” เน้นเรียกเสียงฮือฮา “เพราะอาบบ่อยๆ มันหนาว แอร์มันเย็น” ฟังกบมันปิดท้ายดิ “ปอดเลยบวม!!!”


กบเอ๊ยกบ เป็นพี่นัทก็เลยแซวได้นะแบบเนี้ย อย่าเผลอไปแซวกับคนที่ไม่ค่อยสนิทล่ะ ปากเรามันจะบวมกว่าปอดพี่นัทอีก


พี่เข้าใจเราว่ะ เพราะความสนิทสนมทั้งกับพี่นัทแล้วก็กับแฟนคลับมันทำให้ดูกันเองจนไม่ต้องระวังตัว แต่ก็ควรต้องเรียนรู้ไว้ว่า บางทีบางครั้ง ระวังไว้บ้างก็ไม่เสียหลาย คนเข้าใจเราก็เยอะ แต่อีกด้านก็อย่าลืมว่ามันก็ยังมีคนที่ไม่เข้าใจอยู่ด้วยนะ
...เสียงติติงพฤติกรรมกบมันชักหนาหู จากที่ไอ้เรามองมันน่ารักปากเสียไปตามประสา เลยชักระแวงแถมประสาทไปเองหรือเปล่าวะ

บางทีการเล่นไปแล้วตบท้ายว่า “ล้อเล่น” น่ะมันก็บ่งบอกบางอย่างได้นะต้อล
มันบอกได้เลยล่ะว่า เราเองรู้ตัวพอเลยล่ะว่าที่เล่นไปน่ะมันแรงใช่เล่น
...เฮ้อออ ไม่ชอบสอนใคร การเรียนรู้ด้วยตัวเอง มันจะทำให้คนเรายอมปรับ ยอมแก้ได้ดีกว่าการถูกสั่งสอนนะ
ขอเพียง...พอรู้ตัว ก็ถือเป็นการเริ่มต้นแล้วล่ะ



กลับเข้าสู่บรรยากาศที่ควรจะเป็นดีกว่า

จบช่วงหยิบยกคำพี่มายอกย้อนแล้วต้อลขอออกตัว... ที่พี่ก็ไม่เคยเห็นต้อลทำได้เลยนี่หว่า แต่ก็นะส่วนที่พี่ชอบรองจากการเป็นคนดนตรีของต้อลก็คือ การพูดจาของเรานั่นล่ะ ถึงแม้ว่าบางทีมันจะดูมากไปนิดเกินไปหน่อย พี่ก็ยอมรับได้เสมอล่ะ


“ไม่มีอะไรของต้อลที่คิวไม่ชอบ” พี่สาวข้างตัวหันมาแซวทำเอาสะดุ้งรีบต้องขอแก้ประโยคให้ชวนติดเรทให้มันน้อยลงเป็นว่า “ไม่มีอะไรที่เป็นต้อลแล้วคิวไม่ชอบ”


เอ๋ยยยยยยย

...จริงๆแล้วมีเยอะไปไอ้ที่ไม่ชอบน่ะ เพียงแต่ส่วนที่คิวไม่ชอบ คิวยอมรับได้ ก็เท่านั้น
คิวไม่ได้ต้องการให้ต้อลมันเปลี่ยนในสิ่งที่ขัดหูขัดตา(เราเอง)เพราะต้อลจำใจต้องเปลี่ยน
แต่ถ้าต้อลจะเปลี่ยนก็เพราะเป็นความต้องการจากใจ...ถ้ามันเป็นได้อย่างนั้น จะภูมิใจในเด็กคนนี้มากเลยล่ะ



กลับเข้าบรรยากาศเป็นครั้งที่สอง คราวนี้เข้าจริงๆละ


“ไม่พูดมากดีกว่า วันนี้เรานัดกันไว้แล้ว วันนี้แต่ละคนมาไม่ต่ำกว่า..ต้องพูดน่ะ” กบชักพูดไม่รู้เรื่อง ก็มันเล่นพูดไปเรื่อยกว่าจะเข้า...
“วันนี้เราขอแปลกแยกมั่ง จะได้ดู อะไร... โดดเด่นขึ้นมา”


เอิ้กกก พี่ว่าต้อลพูดทำนองนี้มากี่ครั้งแล้ว...ทำไม่ได้ก็อย่าพูด พูดทีก็โป๊งชึ่งที อยากเด่นด้วยการพูดน้อย
พูดน้อย!?! ...จะมีวันนั้นเหรอ ?!?


กว่าจะได้ฤกษ์เพลงถัดไป กบก็อารัมภบทยาวว พอๆกับคนที่ต้องมาร้องด้วย ก็ยาววพอกันเล้ย
เมื่อกบอยากอัพเดทด้วยการร้องเพลงของกี๋AF5 ว่านก็เลยต้องมาอัพเดทความเกี่ยวข้องในเพลงนี้แบบอย่างฮา.....

เมื่อว่านเดินเป็นคิงคองส่ายอาด อาด ก่อนทำเป็นเขิน ขยุกขยิกสะกิดสะเกาไม่ยอมหยุดเมื่อต้อลชงคำถามเกี่ยวกับเพลงนี้แบบดูจริงจัง ทำเอาน้องต้องทักขึ้นว่า “เป็นอะไรเนี่ย!”

ไอ้การจงใจเขินแบบนี้กับคนตัวขนาดนี้อย่างว่าน มันดูเทอะทะตุบตับไงชอบกลว่ะว่านเอ๊ย ฮ่า ฮ่า ฮ่า

เพลงคนไม่เอาไหน ที่ครูบิ๊กคนแต่งทำนองโทรมาขอตอนเที่ยงคืนให้ว่านแต่งเนื้อเพลงให้ พอว่านถามกลับไปว่าใครร้องครับ พอครูบิ๊กบอกว่า กี๋AF5 ว่านทำเป็นสวนถามกลับหน้าตาเฉย

“อื๋ออออ กี๋ AF5 ไม่รู้จัก”

เพราะ....

“ในใจมีแต่นัท-ต้อล” ขอจับหัวใจย้ำยืนยัน


พาเสียงฮามาสมใจ
แล้ว....นานๆถึงจะเห็นต้อลต่อไม่ติด เจอมุขมาสเตอร์เข้าไป ถึงเป็นต้อลก็ต้องปล่อยทาง

ว่านขอชงต่อ “ถามว่า...ส่วนตัวเนี่ยอยากจะทำไม๊ อยากจะเขียนให้ไหม ก็...เอ๊อออ มัน...อยากจะเขียนให้นัทกับต้อลมากกว่า”

55555 ขอให้เขียนจริงเหอะว่าน ฝีมือว่านน่ะ ไม่ว่ายังไงก็ไว้ใจ ไม่ต้องประกันความผิดหวัง อย่าแค่ปากหวานล่ะน้อง


ว่านก็ปาก...นะ บอกว่าต้องเขียนก็เพราะ...นะ ต้องกินข้าวต้องหาเงิน

แล้วก็เพราะ “เขียนเพลงนี้มันตรงกับชีวิตเลย...ชีวิตของเรามันก็คนไม่เอาไหนคนหนึ่ง”

“เหมือนกัน!” ต้อลต่อทันควัน

ว่านก็ไม่ยอมให้เสีย “ เหมือนกัน...ใช่ งั้นเราเขียนให้ต้อลด้วย...ถ้างั้น”



เฮ้อออ กว่าจะได้ยินเด็กสองคนร้องเพลง คนรอก็รอเหนื่อย(กราม)
พอต้อลนำเข้าเพลง ยังมีการนัด...ว่าค่อยพูดต่อหลังร้องจบ เพลงเพลงเดียวจะพูดกันไปถึงไหน!!!


ขอพูดถึงเรื่องนี้ได้ไหม ต้อลพอร้องคู่กับว่านแล้ว สิ่งหนึ่งที่เห็นชัดเลยคือ เสียงร้องของว่าน ฟังแล้วคม ชัด มันพุ่งให้ได้ยินครบถ้วน
ในขณะที่ต้อลกลับต่างเยอะ เยอะจนแปลกหูไปเลย บอกตรงๆก็ได้ พี่ชอบการออกเสียงของว่านมากกว่าต้อล
ว่านน่ะเป็นคนดนตรีไม่ยิ่งหย่อนกับต้อลเลย แต่สิ่งหนึ่งที่ว่านเหนือกว่าต้อลอย่างเห็นได้ชัดคือ ว่านร้องแล้วฟังรู้เรื่องกว่าต้อล

สิ่งที่ไม่ชอบเลยที่ต้อลมีก็คือ วิธีการออกเสียงตัวสะกด การออกเสียง เธอะ เฉอะ แล้วก็ สอ เสือ ...มันเป็นการใช้เสียงร้องที่พอมันโดดขึ้นมา อารมณ์มันก็สะดุดลงทันควัน
การออกเสียงตัวสะกดไม่เต็มเสียง ออกกึ่งเสียงจนทำให้คำมันไม่ชัด จนบางทีฟังยากว่าร้องอะไร
เทคนิคที่มีมันก็ดี แต่เน้นพื้นฐานหน่อยสิน้อง ไม่ว่ากบจะเป็นร็อค จะร้องแบบไหน ขอให้ออกคำให้ชัดได้ไหม แล้วอารมณ์ในเพลงที่เราต้องการจะสื่อมันจะได้ผลเต็มเม็ดเต็มหน่วย


พอเจ้าเด็กสองคนร้องกันจนจบ ต่างคนก็ต่างใส่ไม่มียั้ง

ใส่แรกเริ่มด้วยต้อล “เชื่อเลยว่าแต่งตอนเที่ยงคืน” ว่านย้อนถาม“ทำไมอ่ะ!”

ต้อลไม่รอช้า “คำมันจำง่ายมากเลย ต้อลฟังไม่กี่รอบก็จำได้ เพราะ...” เพราะ...ของต้อลนี่มันกวนจริงๆสิพับเผื่อย “ เพราะสระไอเยอะเหลื้อเกิน”

ต้อลภาคกวนประสาทเริ่มเลย หลับหูหลับตาร้องแปลงเพลงเขาซะ “ทิ่ง ตง ไหน จะ ลง ไหม ยัง ส่ง ไป๊ หนั่ง ไหน....” จะอะไรไปทางไหน...ก็ไม่รู้ ที่เห็นแล้วต้องบอกเด็กนี่มันแสบจริงๆ


นานๆจะเห็นว่านไปเที่ยวบางอึ้ง ต้อลมันทำว่านหลายทีแล้วใช่ไหม

พอตั้งตัวติดว่านก็ย้อนรอย “เดี๋ยวถ้าเพลงต้อล เราจะแต่งสระอัว” ...กร๊ากกกก ขอคิดลึกแทนใจว่านได้ไหม ...สระอัว สระอัว ฮ่า ฮ่า ฮ่า
“สระเอาะอะไรอย่างงี้” ว่านเอาบ้าง เพลงสระอัว สระเอาะ ก็ลอยมา “ไม นา สะ ระ เงาะ ไม อัน นะ มะ อัน เลาะ ....เฮ เฮ่ เฮ~~~”

ทำเอาต้อลรับไม่ไหว “อัลเลาะฮ์นี่มันแนวอิสลามแล้วละพี่”

ฮ่า ฮ่า ฮ่า .....สองแสบแบบว่าว่ามันทันกันเว้ยเฮ้ย ดีที่ไม่มาเจอปีเดียวกันไม่งั้นคงเอาตายกันไปข้าง....


จบช่วงขยี้เพลง(ตัวเอง)ให้ตายคามือ
ว่านเริ่มพูดเสียงเอางานเอาการว่าอยากร้องเพลงอื่นกับต้อลมากกว่า อยากร้องเพลงที่เราไม่ได้มีโอกาสร้องด้วยกันเลย
ร่วมงานกันมาหลายเดือน อยากจับมือกับต้อล...ว่านพูดพร้อมยื่นมือออกมา ทำเอาไอ้หนุ่มหวงตัวถอยหลังกรูดทันควัน....โหย ต้อล น้องช่าง.....

“สุขเกินกว่าความฝัน....” ว่านร้องพร้อมกางปีกโผบินพร้อมอ้อล้อตบท้าย “เราอยากจะเป็นโจโจ้ซังให้ต้อลสักครั้งนึง”



....................อีกาบินผ่านหนึ่งตัว แป่ว แป่ว...............................



มาจนตรงนี้ อีกสองหนุ่มอดรนทนไม่ไหว ต้องออกมาแจม


พี่นัททำการหยุดว่านด้วย “ในคอนนัท-ต้อล เขาเป็นพิงเคอร์ตันอยู่นะเนี่ย” ชี้มือชี้ไม้ไปยังน้องชายที่รอความช่วยเหลืออยู่ แต่หารู้ไหมตัวนัทเองต่างหากที่ต้องได้รับความช่วยเหลือครั้งใหญ่กับปฏิบัติการณ์ที่จะตามมา

ว่านยืนท่าเป็ด ชี้นิ้วไปที่เคโระ “นี่เป็นพิงค์เคอร์ตัน” พร้อมชี้ควับกลับมาที่สติช “นี่เป็นโจโจ้ซัง”



อยากหัวเราะก็อยาก จะสงสารก็สงสาร นัทเอ๊ยยยย พี่ไม่รู้จะช่วยเรายังไง เปลืองเนื้อเปลืองตัวตลอด เฉยๆอย่างพี่โจก็รอดไปแล้วเนี่ย


ต้อลชักเห็นว่าตัวเองพลาดมาหลายตา ขอเอาคืน เล่นเกทับกลับด้วยการบอกว่าอยากเป็นโจโจ้ซัง แต่เป็นไม่ได้ พอว่านถามถึงเหตุผล ต้อลตอบหน้าตาเฉยว่าสู้เค้าไม่ได้หรอก...ไม่สู้ก็ตรง

“ก็คิดสภาพหน้าพี่เป็นโจโจ้ซังดิ”....เฮ้ยยยย ต้อลรู้ไหม นี่มันคือด่าตัวเองกลับชัดๆนะ สองเด้ง สองเด้ง

ทำเอาว่านต้องขุดมุขเวทนาตัวเองมาใช้ ก้มหน้าก้มตาร้องเพลงรับสภาพ “เหมือนรักของทรามวัยในนิยายญี่ปุ่น”

เสียงร้องงึมงำจากลำคอของว่าน ทำเอาโจที่ถูกตัดหายออกนอกจอไปชั่วขณะคว้าหมับ

“ความหมายของ ทรามวัยจะเปลี่ยนไป” โจพูดหน้าตาเฉย “แต่เรายังพูดออกมาเหมือนเดิมไง” ย้ำเน้น “ทรามวัยเนี่ย...แต่มันจะไม่ใช่เด็กวัยรุ่นสาวขนาดนั้น”

...โจพูดซะเคลียร์ ทำเอานัทยืนหัวเราะกึกกักหาทางลงไม่ถูก อาการเดียวกับพี่ที่นั่งดูอยู่เลยอ่ะ



และแล้ว...ก็มาถึง ปฏิบัติการณ์ว่านอ้อล้อ ซึ่งจากนี้ไปนัทจะโดนทั้งเกี้ยวโดนทั้งป้อซ้ายป้อขวา ทั้งรู้ตัวทั้งตามไม่ทัน

ในขณะที่นัทยังยืนยิ้มรับมุขโจ คิงคองตัวโตหันมาส่งสัญลักษณ์ I Love U แบบไม่มีปี่มีขลุ่ยพร้อมกับรอยยิ้มที่(ไม่)ยากเดาความรู้สึก ทำเอาสติชต้องรีบรับไว้แบบระวังตัวแจพร้อมหาทางแก้คืน

“พอไม่ได้ต้อลถึงมาเอาพี่ใช่ไหม” พอว่านพยักหน้ารับ “เห็นพี่เป็นตัวสำรองใช่ไหม”

จนได้.... กี่ครั้งแล้วที่นัทของพี่โดนย้อนรอย

“เปล่า...เปล่า ผมกำลังค้นหาตัวเองอยู่ ว่าผม...เหมาะกับตรงจุดไหน” ว่านทำเสียงขบคิดจริงจังขณะยืนตระหง่านระหว่างสองหนุ่มน้อย
(โอ๊ยโหยว...พี่เปล่าลืมโจน้า เดี๋ยวโจก็เข้ามามีเอี่ยว...ไม่ลื้ม ไม่ลืม)

“ว่าเอ้อ...จะ Destination” คิงคองทำเสียงสูงขณะก้าวเท้าไปหากบ
“หรือความรักมันจะอยู่รอบตัวเรา” คราวนี้ก้าวอาด อาด อาด ไปหาหนุ่มตัวเล็กที่ยืนหัวเราะทำตัวไม่ถูก
“หรือว่าจะกลับไปตายรัง” พูดจบพร้อมก้าวขายาวอ้อมไกลกลับไปหาโจที่ยืนปลงอยู่ตรงริมทาง แต่คงกลับไปกินน้ำพริกถ้วยเก่าไม่ได้แล้วนะว่าน โจเค้าตัดรอนอย่างสิ้นเชิง ขนาดรองเท้าไซส์XXLคือคำตอบ




ว่านโชว์จบลง......................




ขอจบpartA ตรงนี้จ้า












Create Date : 14 พฤศจิกายน 2551
Last Update : 14 พฤศจิกายน 2551 12:21:23 น. 0 comments
Counter : 631 Pageviews.

ชื่อ : * blog นี้ comment ได้เฉพาะสมาชิก
Comment :
  *ส่วน comment ไม่สามารถใช้ javascript และ style sheet
 

Quaver
Location :


[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 77 คน [?]




เป็นคนหัวแข็งที่มาพร้อมรอยยิ้มอ่อนๆ
เป็นคนหัวอ่อนที่มาพร้อมท่าทางแข็งๆ




Friends' blogs
[Add Quaver's blog to your web]
Links
 

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.