ขี้ลืมได้โล่ห์เลยต้อลเอ๊ย
เช้ามืดวันอังคารหนุ่มหัวฟูตื่นขึ้นมาอย่างงัวเงียตอนตีห้า หลังจากเพิ่งหลับไปไม่ถึงสี่ชั่วโมงไอ้หนูก้มๆเงยๆอยู่บนเตียงจนไปถึง...เอียงตัว กวาดมือลงตามซอกเล็กๆข้างเตียงติดผนังจนก้นโด่งก็...รู้สึกว่ายังไม่สำเร็จหนุ่มน้อยในเสื้อยืดสีชมพูยืนแปรงฟันจนแก้มตุ่ยหันรีหันขวางไปมาอยู่ครู่ใหญ่หันหลังกลับไปเปิดล็อกเกอร์หัวใจสติ๊กเกอร์น้อยใหญ่เรียงรายตรงฝาประตูด้านในเจ้าหนูยืดคอมอง ย่อตัวหา กวาดตามองยัง...ยังไม่สำเร็จพี่ชายใจดีแต่งตัวเรียบร้อยมาเจอน้องสาวตัวยุ่งพอรู้ว่าพะแพงยังไม่ได้นอนตั้งแต่เมื่อคืนจึงส่งเสียงบ่นแกมดุทำไมไม่รู้จักนอนอ่ะ พี่ชายคนดีสั่งสอนเสียงเข้มสำทับอีกครั้งเป็นเด็กเป็นเล็กได้ยินแล้วก็ต้องอมยิ้มพร้อม...ตอกย้ำความคิดเดิมอีกครั้งไอ้น้องชายคนนี้ทำตัวอ้อนเป็นเด็กกับนับคนได้นอกนั้น...เราจึงได้เห็น ได้รู้สึกต้อลพึ่งพาได้เสมอยามคนรอบข้างซวนเซ เป็นหลักผอมๆโย่งๆแต่มั่นคงกว่าที่คิดโดยที่ไม่ต้องเซ้าซี้จนน่ารำคาญมีหลายอย่างที่คนภายนอกมักมองข้ามตัวตนของต้อล คงเพราะถูกภาพหน้าตาเหวี่ยงๆลวงตาแหงมเลย ต้อลน่ะดูแล ให้เกียรติ และสุภาพกับเด็ก ผู้หญิง และคนชรา ปานป้ายที่ติดไว้บนรถเมล์ตัวเราเองน่ะชอบภาพพจน์กาต้อลในรูปแบบนี้พอๆกับภาพน้องชายขี้อ้อนพี่ชายใจดีของน้องสาวออกจะดุนิดนิด เป็นการเตือนให้ระวังเนื้อระวังตัวตามแบบต้อลยิ่งเวลาเห็นภาพต้อลกับเด็กตัวเล็กๆ คอยปกป้องคุ้มครอง ดูแล และเอาใจใส่เราไม่แปลกใจเลยที่ได้ยินข่าวว่า น้องชายคนนี้ถูกบรรดาเด็กตัวน้อยตัวนิด ติดพี่ต้อลแจรู้เรื่องราวแบบนี้ทีไร ความรู้สึกอุ่นๆในใจก็เกิดขึ้น...ผู้ชายคนนี้ สักวันจะเป็น "พ่อคน" ที่วิเศษคนหนึ่งอย่างไม่ต้องสงสัยแน่นอนเพียงคิดเรื่องที่ว่า เจ้าน้องชายหัวฟูคนนี้ดูเป็นพี่ชายใจดีแว้บมาความรู้สึกก็ถูกเบรกเอี๊ยดด้วย....พี่ชายที่เป็นผู้ใหญ่จั๊งร้องบอกพี่บัทเลอร์ขึ้นมาว่า หาเป้(ของตัวเอง)ไม่เจอจนพี่เขาต้องบอกให้กลับไปหาที่ห้องนอนอีกรอบเจ้าตัวบ่นอุบอิบแต่ก็เดินกลับไปหาแล้ว...เดินกลับมาตัวเปล่าเป้ใบใหญ่เบ้งที่สะพายตอนแปรงฟันเมื่อวานเช้าอันตรธานหายไปได้ไงกันไอ้หนูเอ๊ย...พี่ส่ายหัวด้วยความอ่อนใจกับความขี้ลืมของเราจริงๆเมื่อคืนตอนเดินกลับเข้าบ้านเราน่ะต้อลเอ๊ย...สะพาย เป้ เดินมาด้วยท่าทางอ่อนระโหยโรยแรงจนพี่วิทย์กระเซ้าขึ้นมา เดินเร็วหน่อย บวกแซวท่าเดินไอ้หนุ่มเหนือว่า ยะเนิบ ยะเนิบแล้วเราหันมาร้องต่อปากต่อคำแก้ตัวแบบไม่ยอมแพ้ว่า เว๊ย! คนมันเหนื่อยเว้ยชวนหมั่นเขี้ยวปนเห็นใจดาราหนุ่มน้อยงานล้นตัวน่ะเพราะฉะนั้น...เป้มันต้องอยู่ในเส้นทางการเดินของเรานี่ล่ะไอ้หนูจอมขี้ลืมไม่เปลี่ยนเอ๊ย~เก็บบางมุขของเจ้ากาต้อลไว้พักเหนื่อยสบายอารมณ์เรียบร้อย การประชุมกลุ่มเริ่มต้นนอกจากเนื้อหาสาระ แนวเพลงที่ต่างแลกเปลี่ยนความเห็นกันเราจะได้ยินน้ำจิ้มกบเป็นระยะชวนอมยิ้ม...ต้อลใช้คำทดแทนบางคำเป็นนัยเมื่อพูดถึงสภาพของบางอย่างที่ทำให้พี่วิทย์ท้องเสียว่ามัน ซะละแหม่ง ใช่ไหมวิทย์เฉลยตามมันสุกนอกข้างในเป็นน้ำแข็งอยู่เหอ เหอ เหอ สุขอนามัยบ้านนี้ไม่ผ่านอมย.อย่างแหรง! ต้อลจ้องเขม็งบางจุดเอ่ยปากถามอย่างข้องใจ อะไรติดหัวอ่ะผม! พี่วิทย์ตอบสวนทันกันเป๊ะ...ไปด้วยกันได้ยืนยันซ้ำด้วยพี่วิทย์พูดถึงเพลงของตี๋ร้องอยู่ในรถต้อลประหลาดใจถามขึ้น อะไรอินคา ไง วิทย์ตอบหน้าตาเฉยต้อลมอง...ปลงรู้ตัวแล้วใช่ไหมต้อลเวลาเราปล่อยอะไรแป้กสุดแป้กน่ะคนรอบข้างเขารู้สึกเช่นไรในห้องอัดเสียงพี่พาสสาละวนหาสายไฟพร้อมบ่นกับตัวเอง สายอยู่ไหนต้อลสวนตอบ ไม่สายแล้ว ดึกแล้วต้อลเสนอให้มีวงเร้กเก้ส่วนตัวของทีมแต่ละคนมีเครื่องเขย่ากันไปคนละชิ้นพร้อมแนะแนวเพลงอย่างจริงใจตุ๊งตะลุ้งตุ่งม้ง สบง สไบ จีวรของเราไป...ไอ้หนูตัวแสบพูดธรรมดาอย่างคนอื่นเขาไม่เป็น พอแระ....กำลังทำใจกับเร้กเก้อยู่คอมเม้นต์เพลงบัวลอยตอนนั้น ยังจำสีหน้าสีตาต้อลได้ติดตามันอย่ากลับมาซ้ำเติมนะเฟ้ย
เหนือฟ้ายังมีฟ้า...เหนือแป้ก ยังมีแป้กกว่า 555555