|
| 1 | 2 | 3 | 4 |
5 | 6 | 7 | 8 | 9 | 10 | 11 |
12 | 13 | 14 | 15 | 16 | 17 | 18 |
19 | 20 | 21 | 22 | 23 | 24 | 25 |
26 | 27 | 28 | 29 | |
|
|
|
|
|
|
|
หญิงคนชั่ว - ก. สุรางคนางค์
เรื่องย่อ
รื่นเป็นหญิงสาวบ้านนอก ชื่อเดิมว่า หวาน ถูกวิชัยหลอกมากรุงเทพ มาทิ้งไว้ในซ่องของนางตาด วิชัยปอกลอกรื่นจนหมดตัวแล้วก็หายไป รื่นจึงจำต้องขายตัวเพราะไม่มีทางไป ต่อมา วิทย์ มาเป็น 'แขก' ประจำของรื่น ทั้งคู่รักกันและรื่นก็ท้องกับวิทย์ แต่ก่อนที่รื่นจะมีโอกาสบอกวิทย์เรื่องลูก วิทย์ก็หายตัวไปโดยทิ้งสร้อยไว้ให้ต่างหน้า ก่อนลูกคลอดรื่นหนีออกจากบ้านนางตาดโดยความช่วยเหลือของ สมร เพื่อนโสเภณีที่อายุมากกว่าคนหนึ่ง สมรฝากให้รื่นทำงานเป็นคนใช้ที่บ้านของคุณหลวงคนหนึ่ง แต่รื่นก็อยู่ที่นั่นได้ไม่นานเพราะคนที่เคยเป็นแขกของซ่องนางตาดไปเห็นเข้า รื่นย้ายไปเป็นคนใช้ของผู้หญิงหากินอีกบ้าน แต่ก็อยู่ได้ไม่นาน ต่อมารื่นคลอด เป็นการคลอดแบบอนาถา สมรมาเยี่ยม และทั้งคู่ก็ตัดสินใจไปเช่าบ้านอยู่ด้วยกัน สมรขายตัวอีกเหมือนเดิมเพื่อหาเงินมาเป็นค่าเช่าห้องพักและเลี้ยงดูรื่นกับลูก ต่อมาสมรไม่สบายตาย รื่นต้องออกหากินแทนเพื่อหาเงินมาเลี้ยงลูก โดยเอาลูกไปฝากไว้กับคนข้างบ้าน ทั้งๆ ที่รู้ว่าลูกถูกเลี้ยงแบบทิ้งๆ ขว้างๆ แต่ก็ทำอะไรไม่ได้ ชีวิตของรื่นตกต่ำลงทุกที จนคิดฆ่าตัวตายหลายครั้ง
ความรู้สึกหลังอ่าน
หยิบเรื่องนี้มาอ่านเพราะอยากอ่านอะไรที่ให้บรรยากาศเก่าๆ ค่ะ เรื่องนี้เขียนปี 2492 ถ้าเล่มนี้พิมพ์เป็นครั้งแรก สมใจมากๆ เพราะให้ความรู้สึกถึงบรรยากาศสมัยที่ยังไม่เกิดจริงๆ ทั้งสภาพบ้านเมือง ชีวิตความเป็นอยู่ของคนในระดับล่างของสังคม ความรู้สึกนึกคิด ค่านิยมของคนสมัยนั้น
ชีวิตของรื่นเป็นชีวิตที่รันทดตามสไตล์ของ ก. สุรางคนางค์ จำได้ว่าอ่านเรื่องแรกของนักเขียนท่านนี้ก็เรื่อง ลูกรักลูกชัง นั่นก็รันทดอีกเหมือนกัน ถ้ามองจากสายตาของคนสมัยนี้ก็ให้รู้สึกว่ารื่นน่าจะมีทางออกทางอื่น ไม่จำเป็นต้องเป็นว่าเมื่อเริ่มด้วยการขายตัวแล้วจะไปทำงานอื่นอีกไม่ได้ ไม่รู้ว่าจริงๆ แล้วสมัยนั้นต้องเป็นอย่างนั้นหรือเปล่า คือถ้าเป็นโสเภณีแล้วจะไปหางานที่ไหนอีกไม่ได้ ถ้ากลัวว่าจะเจอเข้ากับคนรู้จักหรือคนที่เคยเป็นลูกค้า ก็ย้ายไปเสียให้ไกลๆ มีหนังสือของ ก. สุรางคนางค์ อยู่หลายเล่มค่ะ บางเล่มเวลาอ่านก็พยายามมองจากสายตาคนสมัยนั้น เพราะถ้ามองจากสายตาคนสมัยนี้อาจรู้สึกว่ามันน่าจะเป็นอย่างนั้นอย่างนี้ได้ อย่างเรื่อง เขมรินทร์-อินทิรา บางครั้งอ่านๆ ก็ขัดใจ แต่ในแง่กลับกันทำให้เข้าใจความรู้สึกนึกคิดของคนสมัยก่อนได้ดีมากๆ เลย
พูดถึงสำนวน ไม่ล้าสมัยเลย สำนวน ก. สุราคนางค์ ไม่เน้นที่ความสวยงามประเภทต้องตะกายบันไดอ่าน แต่สละสลวยและสื่อความหมายได้ดีจัง ว่าแล้วก็ไปรื้อเอา คุณหญิงพวงแข มาอ่านต่อ
Create Date : 22 กุมภาพันธ์ 2555 |
|
8 comments |
Last Update : 22 กุมภาพันธ์ 2555 10:25:52 น. |
Counter : 7780 Pageviews. |
|
|
|
|
| |
โดย: สามปอยหลวง IP: 122.154.3.131 22 กุมภาพันธ์ 2555 11:00:05 น. |
|
|
|
| |
โดย: แม่ไก่ IP: 110.49.227.30 22 กุมภาพันธ์ 2555 11:51:22 น. |
|
|
|
| |
โดย: กุลธิดา (kdunagin ) 22 กุมภาพันธ์ 2555 22:15:38 น. |
|
|
|
| |
โดย: ชามินต์ IP: 125.24.194.97 25 กุมภาพันธ์ 2555 2:05:36 น. |
|
|
|
| |
โดย: กุลธิดา IP: 74.248.224.224 26 กุมภาพันธ์ 2555 1:13:33 น. |
|
|
|
|
|
|
| บาเคอร์ | กุลธิดา | www.mebmarket.com | ราณียิ้มขมขื่น คำนั้นมีความหมายอย่างที่สุด บาเคอร์
วันพรุ่งนี้
ตามการออกเสียงของคนอิรัก เป็นสิ่งที่เธออยากเก็บไว้กับตัวแต่เพียงผู้เดียวตลอดไป
หรือจนกว่าจะได้พบเขาอีก เพราะนั่นคือคำสุดท้ายที่เขาบอกก่อนจะจากกันในเช้าวันนั้น ที่บ้านย่าของเขา และเธอกำลังร้องไห้แทบขาดใจ มีวันพรุ่งนี้เสมอนะราณี และเธอก็ยึดถือคำพูดนั้นของเขาเป็นสรณะนับแต่นั้นมา เป็นความหวังเดียวที่มี ว่าวันหนึ่งเธอและเขาจะได้พบกันอีก แม้อาจไม่ใช่ในโลกนี้ก็ตาม | |
|
|
|
|
|
|
|
|