< KITAMURA : ราชบุตรจากขุมนรก >
Group Blog
 
<<
กรกฏาคม 2553
 123
45678910
11121314151617
18192021222324
25262728293031
 
5 กรกฏาคม 2553
 
All Blogs
 
< Avatar : มีหัวใจแต่ไร้ความรู้สึก >

< Avatar : มีหัวใจแต่ไร้ความรู้สึก >






สำหรับผลรางวัลออสการ์ครั้งที่ 82 ที่เพิ่งผ่านพ้นไปนั้น คงมีหลายคนที่มีอาการเยาะเย้ย แกมสมน้ำหน้าพอสมควร ที่ท้ายสุดแล้ว หนังอย่าง “Avatar” ก็ชวดรางวัลหนังเยี่ยมไป แต่ถึงกระนั้น การที่หนัง Avatar ไม่ได้รางวัลออสการ์หนังยอดเยี่ยมอย่างที่คาด มันก็ไม่ได้แปลว่า หนังเรื่องนี้จะด้อยคุณค่าลงไปแต่อย่างใด

หลังจากที่หนังเรื่อง “Titanic”(1997) ออกอาละวาด สร้างตำนานและสถิติเป็นว่าเล่น จู่ๆ “เจมส์ คาเมรอน” ก็หายตัวไป พร้อมๆกับกระแสข่าวเกี่ยวกับโครงการหนังเรื่องใหม่ ที่แฟนๆทุกคนกำลังรอลุ้นว่าจะเป็นหนังเรื่องใด? ไม่ต้องเดาให้ยุ่งยาก หนังเรื่องนั้นก็คือ Avatar ที่มาพร้อมกับดำรงอยู่ในสถานะหนังสามมิติ และเทคโนโลยีเทคนิคพิเศษแบบใหม่ บวกกับการประกาศกร้าวว่า จะดึงเหล่าคนดู เข้าโรงหนังด้วยหนังเรื่องนี้





Avatar เปิดเรื่องด้วยการเล่าผ่านมุมมองของ “เจค”(แซม เวิร์ธธิงตัน) นาวิกโยธินขาเสีย ที่เดินทางมายังดาวแพนโดร่า เพื่อรับภารกิจบางอย่าง ซึ่งบนดาวแพนโดร่านี้ มีบริษัททำเหมืองแร่ของมนุษย์ กำลังคิดจะขับไล่ที่ชาวพื้นเมืองของดาวอย่างชาวนาวีออกไป เนื่องจากที่อยู่อาศัยของชาวนาวี ลึกลงไปข้างใต้พื้นพิภพนี้ เป็นแหล่งแร่ชนิดพิเศษ ที่สามารถทำเงินมหาศาลให้กับเจ้าของบริษัทเหมืองแร่ และเป็นการเพิ่มพลังงานที่กำลังขาดแคลนอย่างหนัก ณ ดาวเคราะห์สีฟ้าที่ชื่อว่าโลก

นอกจากนี้ ทางบริษัทดังกล่าวได้ใช้วิธีการทางวิทยาศาสตร์เข้าช่วย ด้วยการสร้างร่างโคลนของชาวนาวี จากดีเอ็นเอของนาวีกับมนุษย์ โดยให้มนุษย์เป็นคนขับสั่งการร่างนั้น ด้วยการนอนอยู่ในตู้แล็ป ซึ่งเจค ก็เป็นหนึ่งในพลขับร่างอวตารเหล่านั้น เป้าหมายของโปรแกรมอวตารนี้คือ เพื่อสร้างความใกล้ชิดและเจรจาเป็นสื่อกลางให้ชาวนาวี ย้ายออกจากพื้นที่ไปอย่างสันติ





แต่แล้ว เมื่อเจค ถลำลึกเข้าไปในโลกของชาวนาวี จนได้หลงรัก “เนย์ทีรี”(โซอี้ ซัลดาน่า) ประกอบกับชาวนาวี ก็ไม่มีท่าทีที่จะเคลื่อนย้ายออกแต่อย่างใด นั่นจึงทำให้ทางบริษัท ตัดสินใจจะใช้กระบวนการทางทหาร ไล่ที่ชาวนาวี

เมื่อพิจารณาตัวเชื่อมร่างอวตารอย่าง เจค แล้ว การที่เขาเป็นคนเสียขาและเป็นอัมพาตครึ่งตัว การได้ขับร่างอวตารนี้ ทำให้เขาสามารถกลับมาเดิน กลับมาวิ่ง ได้เหมือนเดิม ยิ่งเมื่อเขาได้รับการยอมรับจากชาวนาวี ก็ยิ่งทำให้เขารู้สึกเหมือน “เกิดใหม่” อีกครั้ง ความจริงแล้ว เจค อาจเป็นเหมือนตัวแทนของมนุษย์ ที่เกิดอาการบาดเจ็บมาจากโลกใบเก่า จนกลายเป็นคนพิการ ดูไร้คุณค่า ซึ่งการได้มาเกิดเป็นชาวนาวี และได้รับการยอมรับว่ามีคุณค่า จึงไม่แปลก ที่เจคจะรู้สึกหลงใหลโลกของนาวี และอยากอยู่กับมันไปตลอด ทั้งๆที่มันก็เหมือนแค่นอนหลับฝันอยู่ในตู้ใบหนึ่ง( “The Hurt Locker” อิอิ) ราวกับมนุษย์ ที่บอบช้ำจากโลกแห่งความเป็นจริง และหลบหลีกความเจ็บปวดนั่น เข้าไปโลดแล่นอยู่ในโลกแห่งความฝัน





ซึ่งความพิเศษอีกอย่าง ของการได้เป็นนาวี คือ การมีความสามารถเจ๋งๆ ด้วยการสามารถเชื่อมต่อกับสิ่งต่างๆรอบตัวได้หมด เช่น สัตว์ต่างๆ ต้นไม้ ไปจนถึงทุกสิ่งทุกอย่างบนดาวแพนโดร่า ส่วนมนุษย์ในหนังนั้น น่าจะมีพัฒนาการเทคโนโลยีที่สูงเอาการ ทั้งการประดิษฐ์สิ่งต่างๆ ที่มีลักษณะการใช้งานแบบเชื่อมต่อกับสิ่งต่างๆ อาทิ หุ่นยนต์รบ,จอมอนิเตอร์,ร่างอวตาร รวมไปถึงลักษณะการทำงานแบบสั่งการ ทั้งแบบเจ้านายสั่งลูกน้อง,ผู้พันควบคุมกองทัพ ทุกสิ่งทุกอย่างเชื่อมโยงกันอย่างเป็นระบบ

แม้ว่าจะมีการ “เชื่อม” คล้ายๆกัน ทั้งชาวมนุษย์กับชาวนาวี แต่สิ่งที่ดูจะแตกต่างกันคือ วัตถุประสงค์ของการเชื่อมต่อ ในขณะที่มนุษย์ กระทำการเชื่อมต่อกัน เพื่อสร้างอำนาจ และผลประโยชน์ของตัวเอง ไม่สนใจผู้อื่น แต่ในขณะที่ชาวนาวี เชื่อมต่อกับสิ่งต่างๆ เพื่อปกป้องและเป็นหนึ่งเดียวกับธรรมชาติ





ตัวอย่างที่ชัดเจน คือ ฉากรบพุ่งในตอนท้ายเรื่อง ที่มนุษย์สั่งการ เชื่อมต่อกับทุกอย่าง เพื่อทำลาย(ยาน,หุ่นรบ,กำลังทหาร) ในขณะที่ชาวนาวี ใช้การเชื่อมต่อ เพื่อป้องกัน(สัตว์,กำลังพลคนบนดาวแพนโดร่า)

ราวกับชาวนาวี ใช้ทั้งตัวและหัวใจในการเชื่อมต่อ แต่มนุษย์นั้น มีการเชื่อมต่อเพียงร่างกาย และหัวใจที่ไร้ความรู้สึก


kitamura




ปล. และเหล่าผู้ชมคนดูตาตำๆก็ใช้แว่นสามมิติ เป็นตัวเชื่อมต่อกับโลกในหนัง Avatar ของเจมส์ คาเมรอน อีกที จบข่าว










Create Date : 05 กรกฎาคม 2553
Last Update : 5 กรกฎาคม 2553 17:07:51 น. 0 comments
Counter : 1229 Pageviews.

ชื่อ :
Comment :
  *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 

Kitamura
Location :


[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 1 คน [?]




New Comments
Friends' blogs
[Add Kitamura's blog to your web]
Links
 

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.