Bloggang.com : weblog for you and your gang
< KITAMURA : ราชบุตรจากขุมนรก >
Group Blog
Group ตัวอย่าง
<<
ตุลาคม 2553
>>
1
2
3
4
5
6
7
8
9
10
11
12
13
14
15
16
17
18
19
20
21
22
23
24
25
26
27
28
29
30
31
10 ตุลาคม 2553
Versus : มันหรือมั่ว?!?! (2000)
< The Midnight Meat Train : บางสิ่งที่แอบซ่อนอยู่ (2008) >
Slumdog Millionaire : โชคชะตา ของนาย โชคดี (2008)
< Main Hoon Na(2004) ควบ Devdas(2002): เมื่อผมได้ดูหนังอินเดีย... >
Letters From Iwo Jima : จดหมายจากเกาะนรก (2006)
Crows Zero : ความท้าทายที่น่าลิ้มลอง... (2007)
All Blogs
การรอคอยของหมาป่า
รีวิวสบายๆ : Batman Begins
รีวิวสบายๆ : Batman & Robin
รีวิวสบายๆ : Batman Forever
รีวิวสบายๆ : Batman Returns
รีวิวสบายๆ : Batman
รีวิวสบายๆ : 36 ควบ แต่เพียงผู้เดียว P-047
รีวิวสบายๆ : Merantau
รีวิวสบายๆ : The Long Kiss Goodnight
รีวิวสบายๆ : John Carter
รีวิวสบายๆ : The Amazing Spider-Man
รีวิวสบายๆ : Prometheus (ต่ออีกนิดดด)
รีวิวสบายๆ : Prometheus
รีวิวสบายๆ : Alien: Resurrection
รีวิวสบายๆ : Alien³
รีวิวสบายๆ : Aliens
รีวิวสบายๆ : Alien
รีวิวสบายๆ : The Cabin in the Woods
รีวิวสบายๆ : Special Forces
รีวิวสบายๆ : The Grey
รีวิวสบายๆ : The Artist
รีวิวสบายๆ : Hugo
รีวิวสบายๆ : Fantastic Mr.Fox
รีวิวสบายๆ : The Lady
รีวิวสบายๆ : The Woman in Black
รีวิวสบายๆ : หนังรักประทับใจของข้าพเจ้า
รีวิวสบายๆ : 3:10 to Yuma (2007)
รีวิวสบายๆ : Hisss
รีวิวสบายๆ : The Birds
รีวิวสบายๆ : Wu xia
รีวิวสบายๆ : The Flying Swords of Dragon Gate
รีวิวสบายๆ : Dragon Inn (1992)
รีวิวสบายๆ : Dragon Inn (1967)
รีวิวสบายๆ : ฝนตกขึ้นฟ้า่
รีวิวสบายๆ : Rare Exports A Christmas Tale
รีวิวสบายๆ : วัยรุ่นพันล้าน
รีวิวสบายๆ : The Twilight Saga: Breaking Dawn - Part 1
รีวิวสบายๆ : 30 กำลังแจ๋ว
รีวิวสบายๆ : In Time
รีวิวสบายๆ : Paranormal Activity : Tokyo Night
รีวิวสบายๆ : Paranormal Activity 3
รีวิวสบายๆ : Paranormal Activity 2
รีวิวสบายๆ : Paranormal Activity
รีวิวสบายๆ : Attack the Block
รีวิวสบายๆ : 30+ โสด On Sale
รีวิวสบายๆ : Cars 2
รีวิวสบายๆ : Cars
รีวิวสบายๆ : หมาแก่ อันตราย Friday Killer
รีวิวสบายๆ : รักจัดหนัก
รีวิวสบายๆ : Rise of the Planet of the Apes
รีวิวสบายๆ : พุ่มพวง
รีวิวสบายๆ : Harry Potter and the Deathly Hallows part 2
รีวิวสบายๆ : Paul
รีวิวสบายๆ : Transformers 3 : Dark of The Moon
รีวิวสบายๆ : The Hurt Locker
รีวิวสบายๆ : Sex and Zen (1991)
รีวิวสบายๆ : Kung Fu Panda 2
รีวิวสบายๆ : Gantz: Perfect Answer
รีวิวสบายๆ : Enemies of the People
รีวิวสบายๆ : ลัดดาแลนด์
รีวิวสบายๆ : Fast Five
รีวิวสบายๆ : Mary and Max
รีวิวสบายๆ : Happy-Go-Lucky
รีวิวสบายๆ : Scream 4
รีวิวสบายๆ : SuckSeed ห่วยขั้นเทพ
รีวิวสบายๆ : Source Code
รีวิวสบายๆ : Reign of Assassins เข้าง่าย แต่ออกยาก
รีวิวสบายๆกับ หนังพันนา!
Versus : มันหรือมั่ว?!?! (2000)
< The Midnight Meat Train : บางสิ่งที่แอบซ่อนอยู่ (2008) >
Slumdog Millionaire : โชคชะตา ของนาย โชคดี (2008)
< Main Hoon Na(2004) ควบ Devdas(2002): เมื่อผมได้ดูหนังอินเดีย... >
Letters From Iwo Jima : จดหมายจากเกาะนรก (2006)
Crows Zero : ความท้าทายที่น่าลิ้มลอง... (2007)
< Dreams : ฝันร้ายที่กำลังจะกลายเป็นจริง...(1990) >
< Coraline ควบ Zombieland : ดินแดนอันไม่ปกติ >
คอมเม้นต์หนังสั้นของเอกราช มอญวัฒ จากงานหนังสั้นมาราธอน ครั้งที่14
< Goodbye, Dragon Inn : โรงหนังเก่า >
< Watchmen : No Peace for Human (2009) >
< Paranormal Activity : หนังหยอก หลอกคนดู >
< Haeundae : คลื่นยักษ์ เปลี่ยนชีวิต >
< G.I. Joe: The Rise of Cobra : ทำเอง ตายเอง >
< Avatar : มีหัวใจแต่ไร้ความรู้สึก >
< The Man Without a Past ควบ ลุงบุญมีระลึกชาติ : ทิ้งอดีตลงแม่น้ำ >
< The Princess and the Frog : ขอดาว >
แนะนําหนังสยองขวัญ : The Ruins แดนร้างกระชากวิญญาณ
แนะนําหนังอินเดีย : Om Shan Ti Om โอม ซานติโอม รักอมตะ
< The Spirit : จิตวิญญาณที่ไม่เคยเปลี่ยนแปลง >
< 2012 : เรือยักษ์ เงินตรา และความต่างของมนุษย์ >
Eakarach Monwat Showcase
แนะนําหนังแอ็กชั่นฮ่องกงรีเมคหนังแอ็กชั่นฮอลลีวู้ด: Connected โฟนอินมรณะ
แนะนําหนังการ์ตูน: Batman: Gotham Knight
แนะนําหนังแอ็กชั่นอินเดีย: Don นักฆ่าหน้าหยก
แนะนําหนังตลก: Beerfest เทศกาลเมากลิ้ง ดวลหัวทิ่ม คนเพี้ยน
แนะนําหนังเกาหลี: My Boss My Hero สั่งเจ้าพ่อไปเรียนหนังสือ
แนะนําหนังอีโรติกคลาสสิก-Illicit Desire เกมรักบันลือโลก
แนะนําหนัง-The Hitchhiker's Guide to the Galaxy รวมพลเพี้ยนเขย่าต่อมจักรวาล
แนะนําหนังแอ็กชั่น: Doomsday ห่าล้างโลก!
แนะนําหนังไอ้เข้ รอบ2 Rogue ตำนานโหดโคตรไอ้เคี่ยม
แนะนําหนังไอ้เข้- Black Water เหี้ยมกว่านี้ไม่มีในโลก
แนะนําหนังดราม่าเล็กๆ: Lars and the Real Girl หนุ่มเจี๋ยมเจี้ยมกับสาวเทียมรักแท้
แนะนําหนังกีฬา Miracle ทีมฮึดปาฏิหาริย์
แนะนําหนังฮ่องกง: My Mother Is a Belly Dancer หม้า ม้า..แก๊งค์ซ่าส่ายสะโพก
แนะนําหนังผีญี่ปุ่น Hideshi Hino's Theater of Horror
แนะนําหนังดราม่า: Before the Devil Knows You're Dead ก่อนปีศาจปิดบาปบัญชี
< Funny Games : เกมสนุกๆของฮาเนเก้ (1997) >
แนะนําหนังรักตลก : Perfect Catch สาวรักกลุ้มกับหนุ่มบ้าบอล(2005)
แนะนําหนังหมา : A tale of Mari and three puppies เพื่อนซื่อชื่อมาริ (2007)
แนะนําหนังโหด : Seed of Chucky เชื้อผี แค้นฝังหุ่น (2004)
รีวิว < Barbarella : เธอ...ผู้พิทักษ์จักรวาล (1968) >
รีวิว < Apocalypto : แอ็กชั่นยุคโบราณ (2006) >
รีวิว < 28 Weeks Later : ซอมบี้แบบ 28 (2007) >
สวัสดีครับ คนที่รู้จักมาจากภาพยนตร์วิจักษ์นะครับ
รีวิว < Come Drink With Me : แอ็กชั่นแบบ คิง ฮู ( 1966 ) >
Slumdog Millionaire : โชคชะตา ของนาย โชคดี (2008)
(บทความนี้มีการเปิดเผยเนื้อหาสำคัญของหนัง)
เมื่อพูดถึงรายการเกมโชว์ดังๆในสมัยก่อน อย่างรายการ เกมเศรษฐี ที่มีคุณ ไตรภพ ลิมปพัทธ์ เป็นพิธีกรดำเนินรายการ ผมนึกถึงวลีเด็ดๆของรายการนี้อย่าง ขอใช้ตัวช่วย และ เป็นคำตอบสุดท้าย(ประโยคหลังนี่ดังมาก จนมีคนนำไปแต่งเป็นเพลงลูกทุ่งด้วย)จำได้นะครับ ว่าตอนที่รายการนี้ดังมากๆนั้น ผมเพิ่งจะอยู่เพียงป.3 เท่านั้นเอง และผมกับเพื่อนๆยังชื่นชอบรายการนี้จนต้องไปหาซื้อหนังสือจำพวก คำถามความรู้รอบตัว มาทายเล่นกับเพื่อนๆ
ความสนุกของเกมเศรษฐีนั้น จะอยู่ตรงที่เราจะตอบคำถามเหล่านั้นได้หรือไม่? และการลุ้นว่าผู้เข้าแข่งขันนั้น จะตอบคำถามพิชิตเงินรางวัลสูงสุดได้หรือเปล่า? สิ่งเหล่านี้เอง ที่เมื่อผมมาเห็นในหนังเรื่อง slumdog millionaire ก็ทำให้ผมคิดถึงรายการเกมเศรษฐีฉบับบ้านเราขึ้นมาทันที
และสิ่งที่หนัง slumdog millionaire ทำให้ผมคิดถึงขึ้นมาอีกอย่างคือ เทคนิคการเขียนบทภาพยนตร์แบบเล่าเรื่องของ พวกรองบ่อน ที่ผมเคยอ่านในหนังสือสอนเขียนบทหลายเล่ม การเล่าเรื่องของคนรองบ่อนนี้(คนตัวเล็กๆที่ทำอะไรที่ดูเกินตัว) เป็นหนึ่งในสูตรการดำเนินเรื่องของหนัง ที่ถ้าจับจังหวะหนังได้ดี หนังเรื่องนั้นอาจจะประสบความสำเร็จได้ง่าย เนื่องจากคนดูส่วนใหญ่แล้ว นิยมชมชอบหนังแนวนี้(จนถูกบรรจุเป็นสูตรในการเขียนบทหนัง)และหนังเรื่อง slumdog millionaire ก็เป็นบทพิสูจน์ความสำเร็จของหนังที่ใช้สูตรนี้อีกครั้งหนึ่ง(และไปไกลถึงขั้นคว้ารางวัลหนังเยี่ยมออสการ์อีกด้วย)
คนรองบ่อนในหนังเรื่องนี้คือ จามาล(เดฟ พาเทล) เด็กหนุ่มที่กำลังเล่นรายการเกมเศรษฐีของอินเดีย เขาได้สร้างความตกตะลึงให้กับคนดูและพิธีกรรายการ(อานิล คาปูร์) เมื่อจามาลสามารถตอบคำถามได้มาจนถึงข้อสุดท้าย จนเขาถูกสงสัยว่าโกงการแข่งขัน เขาจึงถูกส่งตัวให้ตำรวจเพื่อสอบปากคำว่า จามาลมีวิธีโกงตอบคำถามเกมนี้หรือไม่? ซึ่งจามาลก็ตอบไปว่าเขาไม่ได้โกง จากนั้น จามาล ก็เล่าถึงที่มาของ ความรู้รอบตัว ที่นำมาตอบในรายการให้ตำรวจฟัง
จามาล นั้นเคยเป็นเด็กในสลัมแห่งเมืองมุมไบ เขามีพี่ชาย ซาลิม(แมเดอร์ มิททัล) ที่อาศัยอยู่ในสลัมนี้ด้วยกัน ทั้งคู่ต้องสูญเสียแม่ไปจากเหตุการณ์ความขัดแย้งเรื่องศาสนา จากนั้น สองพี่น้องก็ได้มารู้จักกับสาวน้อย ลาติกา(ฟรีดา พินโต) ที่จามาลชวนให้เธอมาอยู่ร่วมวงด้วยกัน
จากนั้นพวกเขาทั้ง 3 ก็ถูกคนกลุ่มหนึ่งบังคับให้ไปเป็นเด็กขอทาน แต่จามาลกับซาลิมสามารถหลบหนีออกมาจากที่นั่นได้ ยกเว้นลาติกา หลังจากนั้น ชีวิตของทั้งสามก็ระหกระเหินและเปลี่ยนแปลงไปอย่างคาดไม่ถึง...
ถึงแม้ว่า หนังจะใช้สูตรหนังคนรองบ่อนมาใช้ แต่ด้วยทักษะการเล่าเรื่องที่แม่นยำของ แดนนี่ บอยล์ ผู้กำกับของหนัง เลยทำให้หนังออกมาดูสนุก ไม่น่าเบื่อเหมือนกับหนังหลายๆเรื่องที่ใช้สูตรนี้เช่นกัน แต่กลับจับจังหวะหนังไม่ถูก
อีกสิ่งหนึ่งที่บอยล์ ถนัด เป็นพิเศษคือ การถ่ายทอด สันดานความเป็นมนุษย์ ที่ใน slumdog millionaire นี้ มีตัวละคร(เช่นจามาล,ซาลิม,ลาติกา,คนคุมเด็กขอทาน)หรือเหตุการณ์ต่างๆ(เช่น เหตุการณ์การปะทะกันระหว่างคนต่างศาสนา)ที่เอื้ออำนวยต่อการนำเสนอสันดานของคนได้เป็นอย่างดี(แม้กระทั่ง คนที่ฉากหน้าดูดีอย่าง พิธีกรรายการเกมเศรษฐี แต่ลับหลังกลับขัดขวางจามาลทุกวิถีทางเพื่อไม่ให้จามาลคว้าเงินรางวัลสูงสุดไป)
นอกจากบอยล์จะถ่ายทอดความเป็นมนุษย์ได้ดีแล้ว เขายังถ่ายทอดภาพของโลกของ สลัม และชีวิตความเป็นอยู่ของคนในชุมชนแออัดได้น่าสมจริงและน่าตื่นเต้น ในตอนต้นเรื่อง หนังได้พาคนดูไปสำรวจโลกของสลัมผ่านการวิ่งหนียามสนามบินที่วิ่งไล่กวดของจามาลกับซาลิม(ในวัยเด็ก)หลังจากที่พวกจามาลและเพื่อนแอบไปเล่นเบสบอลในสนามบิน ซึ่งในฉากนี้ก็มีดนตรีประกอบที่เร้าใจ บวกกับมุมกล้องและการตัดต่อที่ฉับไว จึงทำให้โลกของสลัมดูมีชีวิตวาและน่าตื่นเต้นดีแท้
และต่อจากนั้นหนังก็ติดตามเล่าชีวิตที่ผกผันของจามาล,ซาลิม และลาติกา ผ่านการเล่าเรื่องของจามาล ที่กำลังให้การกับตำรวจเพื่อแก้ต่าง การถูกกล่าวหาว่าโกงรายการเกมเศรษฐี
จุดร่วมสำคัญของทั้ง 3 ชีวิต(จามาล,ซาลิม และลาติกา) หลังจากที่ต้องสูญเสียครอบครัวไป คือการพยายามดิ้นรนที่อยากจะมีชีวิตที่ดีขึ้น และทั้งสามก็ต้องมาเจอเหตุการณ์ที่เป็นจุดเปลี่ยนอีกครั้ง เมื่อพวกเขาเริ่มโตขึ้น ซาลิม ที่ดูจะเป็นคนที่ใช้ชีวิตอย่างบ้างระห่ำมากที่สุดในบรรดา3คน ทั้งการกล้าใช้ปืนสังหารคน(จากการที่จามาลและซาลิมไปชิงตัวลาติกาจากคนคุมเด็กขอทาน หลังจากที่จามาลได้ตามหา ลาติกา มาตลอด) จนซาลิมได้เข้าร่วมแก๊งค์เจ้าพ่อชื่อดังแก๊งค์หนึ่ง และซาลิมยังเลยเถิดถึงขั้น เอาผู้หญิงที่จามาลรักมากที่สุดอย่าง ลาติกา ไปทำเมีย! อย่างที่จามาลไม่เต็มใจ(แต่ก็ต้องยอมเพราะถูกพี่ชายตัวเองข่มขู่ด้วยปืน)จากนั้นซาลิมก็ส่งลาติกาไปให้กับเจ้าพ่อแก๊งค์ที่ซาลิมสังกัดอยู่ ส่วนจามาล ก็กลายมาเป็นเด็กเสิร์ฟชาที่ศูนย์ Call Center โทรศัพท์แห่งหนึ่ง
หลังจากเหตุการณ์ที่เลวร้ายนั่น จามาล ก็ยังคงออกตามหาลาติกา และยังหวังว่าจะได้ใช้ชีวิตร่วมกับเธอ หลังจากที่พลัดพรากกันมาหลายครั้ง และฉากที่แสดงถึงความรักของเขาที่มีต่อเธอได้เป็นอย่างดีคือ ฉากที่จามาลแอบติดตามซาลิม จนได้มาเจอกับลาติกาอีกครั้งในบ้านของเจ้าพ่อ เขาชวนให้เธอหนีไปกับเขา หนีไปกับฉันเถอะ ลาติกาถาม หนีแล้วจะไปอยู่กับอะไร? จามาลตอบ อยู่กับความรัก...
และในอีกฉากหนึ่งที่หนังแสดงให้เห็นถึงความคิดถึงของจามาลที่มีต่อลาติกาได้อย่างน่ารักคือ ในตอนที่จามาลกำลังตอบคำถามข้อแจ็คพ็อต เขาเลือกใช้ตัวช่วยโทรหาใครก็ได้หนึ่งครั้ง จามาลเลือกที่จะโทรหาพี่ชาย แต่หารู้ไม่ว่า ก่อนหน้านี้ ซาลิมได้ ไถ่บาป สิ่งที่ทำไว้อย่างเลวร้ายกับน้องของตัวเอง หลังจากที่ซาลิมได้เห็นน้องเล่นเกมเศรษฐีข้อสุดท้ายนั่น เขาก็ได้ช่วยเหลือ ลาติกา ให้ได้หนีออกไปจากบ้านของเจ้าพ่อ และยังมอบโทรศัพท์ของเขาให้กับเธอ จากนั้นลาติกาก็รีบรุดหน้าไปหาจามาล และระหว่างไปก็ได้รับสาย จามาล จากโทรศัพท์ของซาลิมนั่น และเพียงแค่ได้ยินเสียงของเธอ จามาลก็แทบจะไม่สนใจอย่างอื่นเลย(ลืมแม้กระทั่งอ่านคำถามให้เธอฟัง)
และในที่สุด จามาล ก็ตอบคำถามข้อสุดท้ายนั้นได้สำเร็จและได้อยู่กับลาติกาสมใจ...จามาลตอบคำถามข้อสุดท้ายนั่นได้อย่างไร? แม้ในขณะที่พิธีกรกำลังถามคำถามข้อสุดท้าย จามาลเองก็ยังเปรยๆว่า เขาไม่รู้คำตอบของข้อนี้จริงๆ(แม้แต่ลาติกาที่ โฟนอิน เข้ามา ก็ยังช่วยตอบไม่ได้) แต่ในที่สุดเขาก็ตอบถูก...คิดแบบไม่ต้องซับซ้อนเลย การตอบคำถามแบบเดาสุ่มแล้วดันถูก ก็เหมือนเป็น ความโชคดี ของเขา อีกทั้งเรื่องราวต่างๆในชีวิตที่จามาลพบเจอ ต่างก็เป็นเหมือน โชคชะตาลิขิต ไว้ให้เป็นเช่นนั้น
ซึ่งจริงๆแล้ว ในตลอดทั้งเรื่องของหนัง ก็คอยตอกย้ำถึงเรื่อง โชคชะตาลิขิต ไว้หลายครั้ง ทั้งตอนที่จามาล มาเจอเด็กตาบอดที่เคยอยู่เป็นขอทานด้วยกัน เมื่อจามาลให้เงินกับเด็กขอทานตาบอดคนนี้ เด็กตาบอดก็บอกกับจามาลประมาณว่า นายน่ะโชคดีนะ ทุกอย่างถูกกำหนดไว้หมดแล้ว และพิธีกรรายการเกมเศรษฐีก็พูดบ่อยครั้งในตอนที่รายการออกอากาศประมาณว่า นี่เหมือนเป็นดั่งความฝัน เหมือนโชคชะตากำหนดไว้ หรือแม้กระทั่งตัวจามาลเอง ก็ยังเคยพูดกับลาติกาไว้ว่า มันเป็นพรหมลิขิต ที่ทำให้เรามาเจอกัน
สรุปได้ว่า ทุกสิ่งทุกอย่างที่เกิดขึ้นกับจามาลในหนังเรื่องนี้คือ โชคชะตาที่ได้ถูกกำหนดไว้หมดแล้ว ที่แม้กระทั่งตำรวจที่สอบสวนจามาล ยังอดทึ่งไม่ได้กับเรื่องราวชีวิตของเขา จนแทบไม่อยากจะเชื่อ(แต่ในที่สุดก็เชื่อ) และถ้าตำรวจเกิดอยากจะพยายามจับจามาลในข้อหาโกงรายการเกมเศรษฐีจริงๆ ก็คงต้องเขียนไว้ในคำให้การแล้วว่า ทั้งหมดนี้เป็นเพราะการมี โชคชะตาที่โชคดีเกินไปของเด็กหนุ่มที่ชื่อ จามาล...
kitamura
Create Date : 10 ตุลาคม 2553
Last Update : 10 ตุลาคม 2553 6:16:47 น.
0 comments
Counter : 3885 Pageviews.
Share
Tweet
ชื่อ :
Comment :
*ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
Kitamura
Location :
[ดู Profile ทั้งหมด]
ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 1 คน [
?
]
New Comments
Friends' blogs
Webmaster - BlogGang
[Add Kitamura's blog to your web]
Links
BlogGang.com
Pantip.com
|
PantipMarket.com
|
Pantown.com
| © 2004
BlogGang.com
allrights reserved.