Bloggang.com : weblog for you and your gang
< KITAMURA : ราชบุตรจากขุมนรก >
Group Blog
Group ตัวอย่าง
<<
พฤศจิกายน 2554
>>
1
2
3
4
5
6
7
8
9
10
11
12
13
14
15
16
17
18
19
20
21
22
23
24
25
26
27
28
29
30
12 พฤศจิกายน 2554
รีวิวสบายๆ : In Time
All Blogs
การรอคอยของหมาป่า
รีวิวสบายๆ : Batman Begins
รีวิวสบายๆ : Batman & Robin
รีวิวสบายๆ : Batman Forever
รีวิวสบายๆ : Batman Returns
รีวิวสบายๆ : Batman
รีวิวสบายๆ : 36 ควบ แต่เพียงผู้เดียว P-047
รีวิวสบายๆ : Merantau
รีวิวสบายๆ : The Long Kiss Goodnight
รีวิวสบายๆ : John Carter
รีวิวสบายๆ : The Amazing Spider-Man
รีวิวสบายๆ : Prometheus (ต่ออีกนิดดด)
รีวิวสบายๆ : Prometheus
รีวิวสบายๆ : Alien: Resurrection
รีวิวสบายๆ : Alien³
รีวิวสบายๆ : Aliens
รีวิวสบายๆ : Alien
รีวิวสบายๆ : The Cabin in the Woods
รีวิวสบายๆ : Special Forces
รีวิวสบายๆ : The Grey
รีวิวสบายๆ : The Artist
รีวิวสบายๆ : Hugo
รีวิวสบายๆ : Fantastic Mr.Fox
รีวิวสบายๆ : The Lady
รีวิวสบายๆ : The Woman in Black
รีวิวสบายๆ : หนังรักประทับใจของข้าพเจ้า
รีวิวสบายๆ : 3:10 to Yuma (2007)
รีวิวสบายๆ : Hisss
รีวิวสบายๆ : The Birds
รีวิวสบายๆ : Wu xia
รีวิวสบายๆ : The Flying Swords of Dragon Gate
รีวิวสบายๆ : Dragon Inn (1992)
รีวิวสบายๆ : Dragon Inn (1967)
รีวิวสบายๆ : ฝนตกขึ้นฟ้า่
รีวิวสบายๆ : Rare Exports A Christmas Tale
รีวิวสบายๆ : วัยรุ่นพันล้าน
รีวิวสบายๆ : The Twilight Saga: Breaking Dawn - Part 1
รีวิวสบายๆ : 30 กำลังแจ๋ว
รีวิวสบายๆ : In Time
รีวิวสบายๆ : Paranormal Activity : Tokyo Night
รีวิวสบายๆ : Paranormal Activity 3
รีวิวสบายๆ : Paranormal Activity 2
รีวิวสบายๆ : Paranormal Activity
รีวิวสบายๆ : Attack the Block
รีวิวสบายๆ : 30+ โสด On Sale
รีวิวสบายๆ : Cars 2
รีวิวสบายๆ : Cars
รีวิวสบายๆ : หมาแก่ อันตราย Friday Killer
รีวิวสบายๆ : รักจัดหนัก
รีวิวสบายๆ : Rise of the Planet of the Apes
รีวิวสบายๆ : พุ่มพวง
รีวิวสบายๆ : Harry Potter and the Deathly Hallows part 2
รีวิวสบายๆ : Paul
รีวิวสบายๆ : Transformers 3 : Dark of The Moon
รีวิวสบายๆ : The Hurt Locker
รีวิวสบายๆ : Sex and Zen (1991)
รีวิวสบายๆ : Kung Fu Panda 2
รีวิวสบายๆ : Gantz: Perfect Answer
รีวิวสบายๆ : Enemies of the People
รีวิวสบายๆ : ลัดดาแลนด์
รีวิวสบายๆ : Fast Five
รีวิวสบายๆ : Mary and Max
รีวิวสบายๆ : Happy-Go-Lucky
รีวิวสบายๆ : Scream 4
รีวิวสบายๆ : SuckSeed ห่วยขั้นเทพ
รีวิวสบายๆ : Source Code
รีวิวสบายๆ : Reign of Assassins เข้าง่าย แต่ออกยาก
รีวิวสบายๆกับ หนังพันนา!
Versus : มันหรือมั่ว?!?! (2000)
< The Midnight Meat Train : บางสิ่งที่แอบซ่อนอยู่ (2008) >
Slumdog Millionaire : โชคชะตา ของนาย โชคดี (2008)
< Main Hoon Na(2004) ควบ Devdas(2002): เมื่อผมได้ดูหนังอินเดีย... >
Letters From Iwo Jima : จดหมายจากเกาะนรก (2006)
Crows Zero : ความท้าทายที่น่าลิ้มลอง... (2007)
< Dreams : ฝันร้ายที่กำลังจะกลายเป็นจริง...(1990) >
< Coraline ควบ Zombieland : ดินแดนอันไม่ปกติ >
คอมเม้นต์หนังสั้นของเอกราช มอญวัฒ จากงานหนังสั้นมาราธอน ครั้งที่14
< Goodbye, Dragon Inn : โรงหนังเก่า >
< Watchmen : No Peace for Human (2009) >
< Paranormal Activity : หนังหยอก หลอกคนดู >
< Haeundae : คลื่นยักษ์ เปลี่ยนชีวิต >
< G.I. Joe: The Rise of Cobra : ทำเอง ตายเอง >
< Avatar : มีหัวใจแต่ไร้ความรู้สึก >
< The Man Without a Past ควบ ลุงบุญมีระลึกชาติ : ทิ้งอดีตลงแม่น้ำ >
< The Princess and the Frog : ขอดาว >
แนะนําหนังสยองขวัญ : The Ruins แดนร้างกระชากวิญญาณ
แนะนําหนังอินเดีย : Om Shan Ti Om โอม ซานติโอม รักอมตะ
< The Spirit : จิตวิญญาณที่ไม่เคยเปลี่ยนแปลง >
< 2012 : เรือยักษ์ เงินตรา และความต่างของมนุษย์ >
Eakarach Monwat Showcase
แนะนําหนังแอ็กชั่นฮ่องกงรีเมคหนังแอ็กชั่นฮอลลีวู้ด: Connected โฟนอินมรณะ
แนะนําหนังการ์ตูน: Batman: Gotham Knight
แนะนําหนังแอ็กชั่นอินเดีย: Don นักฆ่าหน้าหยก
แนะนําหนังตลก: Beerfest เทศกาลเมากลิ้ง ดวลหัวทิ่ม คนเพี้ยน
แนะนําหนังเกาหลี: My Boss My Hero สั่งเจ้าพ่อไปเรียนหนังสือ
แนะนําหนังอีโรติกคลาสสิก-Illicit Desire เกมรักบันลือโลก
แนะนําหนัง-The Hitchhiker's Guide to the Galaxy รวมพลเพี้ยนเขย่าต่อมจักรวาล
แนะนําหนังแอ็กชั่น: Doomsday ห่าล้างโลก!
แนะนําหนังไอ้เข้ รอบ2 Rogue ตำนานโหดโคตรไอ้เคี่ยม
แนะนําหนังไอ้เข้- Black Water เหี้ยมกว่านี้ไม่มีในโลก
แนะนําหนังดราม่าเล็กๆ: Lars and the Real Girl หนุ่มเจี๋ยมเจี้ยมกับสาวเทียมรักแท้
แนะนําหนังกีฬา Miracle ทีมฮึดปาฏิหาริย์
แนะนําหนังฮ่องกง: My Mother Is a Belly Dancer หม้า ม้า..แก๊งค์ซ่าส่ายสะโพก
แนะนําหนังผีญี่ปุ่น Hideshi Hino's Theater of Horror
แนะนําหนังดราม่า: Before the Devil Knows You're Dead ก่อนปีศาจปิดบาปบัญชี
< Funny Games : เกมสนุกๆของฮาเนเก้ (1997) >
แนะนําหนังรักตลก : Perfect Catch สาวรักกลุ้มกับหนุ่มบ้าบอล(2005)
แนะนําหนังหมา : A tale of Mari and three puppies เพื่อนซื่อชื่อมาริ (2007)
แนะนําหนังโหด : Seed of Chucky เชื้อผี แค้นฝังหุ่น (2004)
รีวิว < Barbarella : เธอ...ผู้พิทักษ์จักรวาล (1968) >
รีวิว < Apocalypto : แอ็กชั่นยุคโบราณ (2006) >
รีวิว < 28 Weeks Later : ซอมบี้แบบ 28 (2007) >
สวัสดีครับ คนที่รู้จักมาจากภาพยนตร์วิจักษ์นะครับ
รีวิว < Come Drink With Me : แอ็กชั่นแบบ คิง ฮู ( 1966 ) >
รีวิวสบายๆ : In Time
In Time
แม้ว่าโดยส่วนตัวจะรู้สึกว่าการเล่าเรื่องของหนังมันทะแหม่งๆยังไงไม่รู้ ฉากบางฉากเหมือนมันลอยๆดูใส่เข้ามาแบบกึ่งๆยัดเยียด อาทิ ฉากที่พระเอกพาเศรษฐีหลบหนีมาเฟียในสลัม ก่อนจะพ่นอุดมการณ์ส่วนตัวปลุกใจกัน (อีกทั้งเพื่อนนักดูหนังบางคนยังติติงว่า โลกในหนังดูไม่น่าเชื่อถือเอาเสียเลย) แต่หากพิจารณาจากสาระสำคัญของหนัง ผมพบว่ามันสามารถกลายเป็นชนวนชั้นดีในการคิดต่อยอด ทบทวนอดีต มองโลกในอนาคต และนั่งดูรอยเท้าที่ย่ำลงดินในปัจจุบัน กับภาวะสงครามระหว่างทุนนิยมและสังคมนิยม
หนังเปิดเรื่องในโลกอนาคต โลกที่เวลาของชีวิตมีค่าเท่ากับเงินตรา มนุษย์ถูกตัดต่อปรับเปลี่ยนอายุไขให้สิ้นสุดลงที่ 25 ปี ซึ่งเราสามารถต่ออายุขัยเราได้ ด้วยการซื้อเวลา แน่นอน กับคนรวยแล้ว นี่ไม่ใช่ปัญหา แต่สำหรับคนจนแล้ว มันคือหายนะ อีกทั้งโลกในหนัง เหมือนจะมีแบ่งคนรวยกับคนจนให้ชัดเจนมากขึ้น ด้วยการแบ่งโซนพื้นที่อยู่อาศัย แล้วกั้นกำแพงค่าผ่านทางแพงๆ คนรวยอยู่ในที่หรูๆเลิศๆ มีเวลาชีวิตกันอีกนานแสนนาน ส่วนคนจนก็อยู่ในสลัม ใช้แรงงานแลกเวลา หรือไม่ก็ปล้นฆ่าแย่งเวลากันไม่ว่างเว้น เพื่อต่อเวลาชีวิตกันแบบวันต่อวัน
ทีนี้ หนังกำหนดให้พระเอกซึ่งเป็นคนชนชั้นล่างจากสลัมนั้น มีโอกาสได้เวลาชีวิตอันยาวนานมาครอบครองแบบโดยบังเอิญ จากนั้น เมื่อแม่ของเขาตายลงเพราะต่อเวลาชีวิตไม่ทัน บวกกับค่าครองชีพที่สูงเอาๆจากการกำหนดของคนที่อยู่ชั้นบนสุดของสังคม มันจึงกลายเป็นกลายความคับแค้น และทำให้เขาตัดสินใจมุ่งหน้าสู่โซนคนรวย ด้วยจุดประสงค์อยากจะเอาคืนและทวงถามความยุติธรรมกับเหล่าคนรวย (พระเอกเชื่อว่า คนรวยพวกนี้ถือว่าเป็นขโมยในคราบผู้ดี) ด้วยการลักพาตัวลูกคุณหนู ให้มาลองเสพชีวิตคนชั้นล่างจนเข้าใจกัน และกลายร่างเป็นอาชญากรรมในทางกฎหมายด้วยการปล้นธนาคารเวลา แล้วเอาไปแจกจ่ายคนจนแบบถ้วนหน้า พร้อมกับเอาแนวคิด 'ทุกคนต้องเท่าเทียมกัน' สั่งสอนให้ชนชั้นสูงผู้ชื่นชอบแนวคิด 'ผู้แข็งแกร่งเท่านั้น จึงจะอยู่รอด' ได้พึงสำนึกถึงความเสมอภาคกันของมวลมนุษย์
โดยระหว่างนั้น พระเอกก็ต้องหลบหนีจากหน่วยไทม์คีปเปอร์ ซึ่งเป็นเครื่องอำนวยความสะดวกและดูแลคนชั้นสูง และมีหลักการการทำงานคือคำนึงถึงตัวเลขที่สูญหายของการปล้นเวลามากกว่าจะสนใจความยุติธรรมและความเป็นมนุษย์ นอกจากนี้พระเอกยังต้องต่อกรกับพวกมาเฟียท้องถิ่น ที่อ้างว่าจำเป็นต้องจัดการกับเขา เพื่อควบคุมระเบียบพื้นที่ ไม่ให้ยุ่งวุ่นวาย (พอพระเอกแจกเวลาไปให้กับคนจน ทุกคนก็สามารถลุกขึ้นสู้กับมาเฟียที่ชอบรีดไถเวลาได้)
*****เนื้อหาต่อไปนี้ เปิดเผยเนื้อหาสำคัญของหนัง (แต่ถ้าไม่แคร์ก็อ่านเหอะ)*****
และแล้วสงครามระหว่างทุนนิยมและสังคมนิยมในหนัง ก็เลือกมาจบลงที่พระเอกเอาเวลาหนึ่งล้านปีที่ขโมยมาจากคนรวย ไปแบ่งปันคนจนได้เวลาชีวิตมากมายกันถ้วนหน้า จนทุกคนพร้อมใจกันทิ้งชีวิตในสลัม แล้วเดินอย่างเริงร่าเข้าไปใช้ชีวิตในเมืองคนรวย , ไทม์คีปเปอร์เลิกควบคุมโซน , มาเฟียท้องถิ่นถูกโค่นอำนาจลง ส่วนผู้นำในการต่อสู้กับทุนนิยมอย่างพระเอกก็ยังมีชีวิตพร้อมจะปล้นคนรวยต่อไป
ทุกอย่างฟังดูโอเค แต่ว่าจริงๆแล้ว ฉากที่เหล่าคนชั้นล่าง เฮโลพากันไปใช้ชีวิตในเมืองคนรวย มันทำให้ผมรู้สึกประหลาดๆและชวนให้ตั้งคำถามต่ออยู่เหมือนกันนะ สุดท้ายแล้ว คนพวกนี้ก็จะกลายเป็นเหมือนคนที่พวกเขาเกลียด? , มันคือการประนีประนอมกันระหว่างทุนนิยมกับสังคมนิยม? , เราสามารถอยู่กันแบบเท่าเทียมกันและไร้ชนชั้น? (เพื่อนนักดูหนังบางคนถึงกับโจมตีว่า นี่เป็นความคิดแบบคอมิวนิสต์ที่ล้าหลังมากๆ เพราะที่ผ่านมาก็พิสูจน์มาพอสมควรแล้วว่า เรายังไม่สามารถอยู่กันแบบเท่าเทียมได้ และชนชั้นก็ยังปรากฎตัวอยู่ทุกที่)
ยิ่งเมื่อพิจารณาจากข่าวในปัจจุบันที่เกิดขึ้นจริงในโลกของเรา เมื่อกลุ่ม Occupy Wall Street (ที่ได้แรงบันดาลใจจากขบวนการอาหรับสปริง อันเป็นจุดเริ่มต้นของการปฏิวัติอียิปต์ในปี 2011) ซึ่งเป็นการรวมตัวกันของคนชนชั้นล่างที่ไม่พอใจกับแผนการรับมือเศรษฐกิจของรัฐบาลชาติต่างๆ ที่ดูจะโอบอุ้มแต่คนรวย และเป็นการซ้ำเติมคนจน โดยมีเป้าหมายหวังโค่นระบบวอลล์สตรีท สัญลักษณ์ของคนรวยให้สิ้นซาก ก็จะพบว่า คนชั้นล่างในหนังกับคนชั้นล่างของกลุ่ม Occupy Wall Street มีเป้าหมายแตกต่างกันอย่างมาก ฝ่ายนึง อยากอยู่กันแบบเท่าเทียม ถ้ารวยก็รวยเหมือนกัน แต่อีกฝ่ายหวังจะลบล้างระบอบทุนนิยมให้หมดสิ้นไป เหมือนหนังคนละม้วนกันเลยทีเดียว
แม้บทสรุปของหนังจะฟังดูน่าเคลือบแคลง แต่หนังก็มอบแนวคิดบางอย่างที่น่าสนใจและชวนถกเถียงต่อ นั่นคือ สิ่งที่คนรวยได้พูดตอบโต้กับคนจน (ที่มีกับอุดมการณ์ว่า ทุกคนต้องเท่าเทียมกัน ฝังแน่นอยู่ในหัว) ประมาณว่า ถึงจะเอาเวลา (หรือในอีกแง่คือเงิน) ไปแจกจ่ายกับทุกคนมากมายเพียงใด ยังไงสันดานความต้องการที่ไม่มีวันจบสิ้นของมนุษย์ ก็จะเป็นตัวขัดขวางไม่ได้ทำให้ทุกอย่างดีขึ้น เราต้องยอมรับความจริงที่ว่า ไม่มีทางที่ทุกคนจะเป็นอมตะ (รวย) ถ้าจะมีก็แค่บางส่วนเท่านั้น
ฟังดูแล้ว อาจจะเป็นความคิดที่เห็นแก่ตัว แต่การตอบโต้นี้ ก็ทำให้ผมและพระเอกสะอึกไปเหมือนกัน และทำให้ผมคิดต่อยอดไปอีกว่า แท้จริงแล้ว ปมปัญหาจริงๆมันอาจไม่ได้อยู่ที่ตัวระบบเวลาชีวิตอะไรนั่นหรอก แต่มันอยู่ที่ สันดาน ของคนต่างหาก
kitamura
Create Date : 12 พฤศจิกายน 2554
Last Update : 12 พฤศจิกายน 2554 5:49:34 น.
4 comments
Counter : 2074 Pageviews.
Share
Tweet
OOOOOKKKKK.............
S
$
E~
!
*
@
#
&
%
$
โดย: Kitchen (
granddemo54
) วันที่: 12 พฤศจิกายน 2554 เวลา:9:59:08 น.
หุหุ เข้ามาแอบเเง้มๆ อ่านค่ะ
ว่าจะไปดูวันนี้ แต่ว่า โซนล่างๆ ยังไม่อ่านดีกว่า แฮ่ๆ
โดย:
Nepster
วันที่: 12 พฤศจิกายน 2554 เวลา:10:05:24 น.
แวะมาเยี่ยมยามเย็น...สวัสดีครับ
โดย:
**mp5**
วันที่: 12 พฤศจิกายน 2554 เวลา:17:38:37 น.
สวัสดีเพื่อนๆทุกคนนะครับ :)
โดย:
Kitamura
วันที่: 14 พฤศจิกายน 2554 เวลา:11:14:20 น.
ชื่อ :
Comment :
*ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
Kitamura
Location :
[ดู Profile ทั้งหมด]
ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 1 คน [
?
]
New Comments
Friends' blogs
Webmaster - BlogGang
[Add Kitamura's blog to your web]
Links
BlogGang.com
Pantip.com
|
PantipMarket.com
|
Pantown.com
| © 2004
BlogGang.com
allrights reserved.
OOOOOKKKKK.............S $ E~ ! * @ # & % $