Bloggang.com : Kitamura : < Haeundae : คลื่นยักษ์ เปลี่ยนชีวิต >

< Haeundae : คลื่นยักษ์ เปลี่ยนชีวิต >

< Haeundae : คลื่นยักษ์ เปลี่ยนชีวิต >

ผู้เขียนนั้นเคยปรามาสหนังเรื่อง “My Boss, My Hero”(2001) ของผู้กำกับ “ยุน เจ-ยุน” ว่าจะต้องเป็นหนังตลกแบบปัญญาอ่อน หาสาระอันใดมิได้เป็นแน่ แต่แล้วผู้เขียนก็พบว่า ตัวเองคิดผิดถนัด เพราะโดยเนื้อแท้ My Boss, My Hero ก็เป็นหนังดราม่าชีวิตรันทดดีๆนี่เอง(เลยเถิดไปจนถึง “น้ำเน่า” เสียด้วยซ้ำ)

แม้กระทั่งหนังผลงานกำกับลำดับที่สองของยุน เจ-ยุนอย่าง “Sex Is Zero”(2002) ที่รูปโฉมของมันจะดูเป็นหนังทะลึ่งตึงตัง เนื้อหาไม่เอาอ่าว(แล้วหนังก็เป็นอย่างงั้นจริงๆ) แต่พอเมื่อหนังดำเนินเรื่องเข้าสู่ช่วงครึ่งหลัง หนังก็เปลี่ยนอารมณ์จากไม่เป็นโล้เป็นพาย กลายเป็นหนังแบบเมโลดราม่ากันสุดๆ

อารมณ์ “รู้หน้า ไม่รู้ใจ” ในหนังของยุน เจ-ยุน นี้ ยังคงสิงสถิตอยู่กับผลงานเมกกะฮิตเรื่องล่าสุดของเกาหลีเมื่อปีที่แล้ว นั่นคือ “Haeundae”

Haeundae เป็นเรื่องราวเกี่ยวกับผู้คนหลากหลายชีวิต ที่อาศัยดิ้นรนปากกัดตีนถีบหากิน ณ เมืองชายหาด “แฮอุนแด” ในเกาหลี เหตุการณ์ยุ่งยากขึ้น เมื่อเหล่าชาวบ้านกำลังจะถูกไล่ที่ สร้างเป็นห้างสรรพสินค้า พร้อมๆกับการค้นพบข้อเท็จจริงอันน่าวิตกของนักวิทยาศาสตร์ ว่ากำลังจะเกิดมหาสึนามิที่เมืองแฮอุนแดแห่งนี้

จากภาพโปรโมตของหนัง ที่ดูเหมือนจะดำรงสถานะเป็นหนังภัยพิบัติ คลื่นยักษ์ถล่มเมือง โชว์เอฟเฟกต์กันสนั่นจอ แต่เอาเข้าจริงๆแล้ว จุดเด่นของหนังเรื่องนี้ หาใช่ภาพคลื่นสูงอะไรนั่น ทว่ากลับเป็นเรื่องราวชีวิตของเหล่าตัวละครในเรื่อง ที่วนเวียนส่งผลต่อกันและกัน ณ เมืองชายหาดแฮอุนแด

หนังใช้เวลาช่วงครึ่งชั่วโมงแรกของหนัง ในการเล่าปูพื้นปมชีวิตของเหล่าตัวละคร ที่มีจำนวนมากหน้าหลายตา ก่อนที่คลื่นมหาสึนามิจะถาโถมกันจริงๆ ก็ปาเข้าไปชั่วโมงสุดท้ายของหนังแล้ว

อีกทั้งตัวหนังเอง ก็ไม่ได้ตั้งใจจะ “โชว์” เทคนิคพิเศษมากอย่างที่คิด แต่หนังกลับเล่าเรื่องราวของตัวละครจนถึงบทสรุปอย่างครบถ้วน โดยไม่ปล่อยให้ภาพของคลื่นยักษ์ กลืนกินเรื่องราวของตัวละคร(พูดง่ายๆคือ ตั้งหน้าตั้งตาใส่ภาพหายนะ จนไม่ใส่ใจพัฒนาการของตัวละคร)อย่างที่หนังแนวๆนี้มักเป็นกัน

คล้ายกับว่าหนังกำหนดให้คลื่นสึนามิ เป็นเพียง “ตัวแปร” อีกตัวแปรนึง ในความสัมพันธ์ระหว่างตัวละคร ทว่าความสลักสำคัญของตัวแปรที่ว่านี้ ก็เป็นเหมือนตัว “กระทุ้ง” แรงๆ ส่งผลให้ชีวิตตัวละคร ต้องแปรเปลี่ยนไปอย่างหน้ามือเป็นหลังมือ

น่าแปลก ที่การเปลี่ยนแปลงนั้น ดูจะเป็นไปในทางที่ดีซะด้วย ถึงแม้ว่าจะมีหลายสิ่งที่ต้องสูญเสียไป แต่หลายปัญหาของตัวละคร ก็ถูกคลี่คลาย เข้าอกเข้าใจกัน จนเหมือนหนังจะบอกอย่างกลายๆว่า ยามใดที่มนุษย์มีปัญหาไม่เข้าใจต่อกัน หนทางแก้ที่ดูจะดีที่สุดคือ ต้องปล่อยให้มีอะไรมากระทุ้งแรงๆ มนุษย์เหล่านั้น ถึงจะพึงสําเหนียกได้ว่าอะไรเป็นอะไร

kitamura

Create Date : 05 กรกฎาคม 2553

Last Update : 5 กรกฎาคม 2553 19:27:42 น.

0 comments

Counter : 1326 Pageviews.