สอบสนทนากับอาจารย์ คาโร่

.............เวลาผ่านไปไวเหมือนโกหก คอร์สอิตาลีพื้นฐาน 2 ใกล้จะจบแล้วเหรอเนี่ย ไม่อยากจะเชื่อเลย รู้สึกว่าเรียนมาก็เยอะ ทำไมมันไม่ค่อยเข้าหัวเลยหว่า ไม่เหมือนกับตอนเรียนเล่มแรก พอใกล้สอบนี่มีเวลาเตรียมตัวจนมั่นใจสุดๆ แต่พอเล่มสอง เหมือนมันไม่ค่อยมีเวลาเตรียมตัวเท่าไหร่ จริงๆก็อ่านไปพอสมควรแล้วล่ะ แต่เหมือนไม่ได้มีเวลาท่องแบบละเอียด คงเพราะช่วงหลังๆตั้งแต่ที่ทำงานเค้าย้าย ก็มัววุ่นๆ เวลาพักผ่อน เวลาอ่านหนังสือก็น้อยลง เวลาทำงานก็มากขึ้น รู้สึกทำงานไม่ได้รีแลกซ์เหมือนเก่า อย่างแต่ก่อน เวลางานก็หยิบหนังสือมาอ่าน ช่วงหลังๆนี่แทบจะไม่มีโอกาสทำแบบนั้นเลย เฮ่อ แล้วอีกอย่าง คอร์ส2นี่มันก็ยากกว่าคอร์ส 1 ประมาณ กี่เท่ากันหว่า แล้วไม่อยากจะนึกเลยว่าถ้าต่อคอร์ส 3 นี่มันจะยากกว่าคอร์สสองขนาดใหนเนี่ย ?

.............วันนี้ฝนตก รถติดมากๆๆๆ จากคลองตันไปถึงจุฬาใช้เวลาประมาณ ชั่วโมงครึ่ง ทั้งๆที่มีระยะทางแค่ราวๆ7กิโล น่าเบื่อหน่าย แต่ก็ได้ฟังซีดีประกอบการเรียนทบทวนไปประมาณ สองรอบระหว่างการเดินทาง ไปถึงโน่นก็เจอเพื่อนๆที่สอบแล้ว กับที่กำลังจะสอบ คุยๆกันว่าจารย์ถามอะไรบ้าง เตรียมตัวอย่างไร สักแป๊ปนึงก็ขึ้นไป ก็ไม่มีอะไรมากครับ ไม่มีคิวรออยู่ จารย์คาโร่ ก็ถามตามบทเรียนนิดหน่อย ที่เหลือก็สัพเพเหระ ถามรอบๆตัว ความเป็นอยู่ งาน แล้วก็เหตุผลที่มาเรียน บลาๆๆ ตอบได้บ้างไม่ได้บ้าง อาจารย์เขาก็ใบ้ๆน่ะแหละ ก็หงุดหงิดตัวเองเหมือนกันนะ คือว่าอาจารย์เค้าก็พูดช้าและชัดมากๆ ก็ฟังเข้าใจหมดแหละ แต่บางทีคำง่ายๆเวลาจะพูดมันกลับนึกคำไม่ค่อยออกน่ะ นึกออกเป็นคำๆ แต่นึกเป็นประโยคไม่ได้อ่ะ พอเข้าใจใหมครับ คิดว่าจารย์ก็เข้าใจแหละว่าเราจะตอบอะไร แต่คำพูดมันไม่สละสลวยน่ะ แบบว่าแทบไม่มีโอกาสได้ฝึกน่ะ เด๋วนี้คนใกล้ๆตัวก็แทบไม่เห็นพูดอิตาลีกับผมเลย ไม่เหมือนตอนสมัยตะก่อนโน้นนน ... ไม่รู้ว่า 30คะแนนของสอบพูดเนี่ย จะได้สักกี่คะแนนหว่า แต่คิดว่าอาจารย์คงปราณีให้สักครึ่งล่ะมั๊ง แต่เมื่อมาคิดว่าได้แค่ครึ่งเดียว ก็พลอยรู้สึกทุเรศตัวเองยังไงชอบกลก็ไม่รู้

.............70คะแนนที่เหลือ สอบข้อเขียนวันศุกร์ตอนเย็นครับ ไม่รู้จะได้สักแค่ใหน แต่ก็จะพยายามให้ดีที่สุด ข้อสอบเก่าๆที่ลองทำดู ก็ได้ราวๆ 40-50 แต้มน่ะ เด๋วคืนนี้ กะพรุ่งนี้คงจะพยายามท่องให้มากก่อนนอน ไม่ค่อยมั่นใจหลายๆเรื่อง ทั้งพวก preposition แล้วก็ pronomi กับ aggettivi possessivi เนี่ย คงเสียหายไปอีกหลายคะแนนแน่ๆ ก่อนกลับ แวะคุยกับเพื่อนๆร่วมคอร์สเรื่องเกี่ยวกับการเรียนต่อคอร์สหน้า ไม่รู้จะอยู่กันครบหรือเปล่า อย่างคอร์สแรกเนี่ย คนเรียน 44 คอร์สสอง เหลือ22 ถ้าคอร์สหน้าเหลือเกินสิบคนก็ได้เรียน ถ้าไม่ถึง 10 คอร์สก็เปิดไม่ได้ ได้ยินว่าคอร์ส 3 เนี่ยเขาไม่ได้เปิดมาหลายเทอมแล้วด้วย เสียวๆอยู่เหมือนกันว่าจะไม่ได้เรียนต่อ เพื่อนกลุ่มที่สนิทกันคนนึงก็ไม่ได้เรียนต่อเพราะแฟนเค้าจะมาเที่ยวเมืองไทย เฮ่อ ไม่รู้จะเหลือหน้าคุ้นๆอยู่กี่หน่อหว๊า อย่างไรก็ดี ตอนนี้คงต้องเอาเรื่องเฉพาะหน้าให้รอดไปก่อนแล้วค่อยคิดถึงช๊อตต่อไป

.............ขากลับรถติดเช่นเคย ว่าจะแวะไปดูหนังที่ เฮ๊าส์ อยากดู Clean แต่ก็เปลี่ยนใจ กลับห้องดีกว่า เอาไว้ถ้าชะตาฟ้าลิขิตให้ดูค่อยดู ตอนนี้ผมกำลังมองข้ามช็อตไปแล้ว ถึงเดือนหน้า เพราะว่า เอสเอฟจะทำตั๋วเดือนดูหนังมาขายอีกแล้ว ก็โทรไปถามรายละเอียดกับเอสเอฟมา โห ปีนี้ค่าตั๋วเดือนเพิ่มขึ้นถึงสองเท่า จากที่เคยขาย 390 ปีก่อน ปีนี้ขาย 790บาท ( แต่ถ้าจ่ายด้วย สมาร์ทเพิส บัตรเงินสดของเซเว่น คิด 690บาท ) ส่วนตั๋วสัปดาห์ ขายอยู่ที่300บาท ( บัตรเซเว่น 250บาท ) ถ้าพูดถึงความคุ้มมันก็คุ้มอยู่หรอกครับ แต่มันแพงไปหน่อย คิดว่าค่าเฉลี่ยของคนที่ซื้อตั๋วหนังรายเดือน ก็คงดูอยู่ที่ราวๆ 12เรื่อง โดยเฉลี่ย ทางค่ายเอสเอฟเค้าคงคำนวณออกมาแล้ว ยิ่งช่วงเดือนกันยาไม่ค่อยมีหนังน่าสนใจด้วย คิดว่าหลายๆคนที่เคยซื้อตั๋วเดือนปีก่อน คงจะซื้อน้อยลงในปีนี้ อาจจะไม่ต้องไปแย่งกันเหมือนกับปีที่แล้ว ก็ดีไปอีกแบบ ส่วนคนที่ซื้อก็คงเป็นพวกแฟนเดนตายดูหนังกระฉูด ถึงจะยอมควักเงินตั้งร่วม700บาทซื้อตั๋วเดือน เค้าจะขายตั๋ววันแรกวันที่25 ผมยังไม่แน่ใจว่าจะไปซื้อวันแรกได้หรือเปล่า แต่คิดว่าอย่างช้าจะไปซื้อวันจันทร์28ที่ผมหยุด คิดว่าตั๋วยังคงไม่หมดล่ะมั๊ง ถ้าหมดก็อาจจะไม่คิดมากอะไร อาจจะซื้อตั๋วสัปดาห์แทน เพราะจริงๆถ้าราคาขนาดนี้ ก็ถือว่าไม่ได้กำไรมากมายอะไร แล้วอีกอย่างผมยังไม่ได้ห้องอยู่ ถ้าไปดูหนังทุกวันหยุดก็คงไม่ต้องเอาเวลาไปทำอย่างอื่นเลย ตอนนี้ก็กำลังลังเลอยู่ ซื้อน่ะคงจะซื้อ แต่ไม่รู้ว่าจะดูคุ้มเหมือนกับปีที่แล้วที่ดูไป 21เรื่องหรือเปล่า ??

Create Date : 23 สิงหาคม 2549		2 comments
Last Update : 23 สิงหาคม 2549 18:27:40 น.
Counter : 512 Pageviews.
Share Tweet