ดูหนังแล้วอ่านบล็อค อ่านบล็อคสะใจแล้วย้อนมาดูหนัง
...............................ผมเชื่อว่าคุณๆที่ชอบดูหนังหลายๆท่าน ย่อมชอบจะอ่านบทวิจารณ์ หรืองานเขียน รวมทั้งบล็อคต่างๆที่เขียนถึงหนังที่คุณไปดูมา อาจจะเป็นหนังที่คุณชอบ หรือหนังที่คุณเห็นว่าดี หรือแม้แต่หนังบางเรื่องที่คุณอยากด่า คุณก็มักจะคลิกเข้าไปดู จิงใหมครับ ? จริงๆแล้วผมเป็นคนที่ไม่ค่อยได้อ่าน Blog เพื่อนๆ หรือท่านอื่นๆเท่าไหร่หรอกครับ เพราะเวลาส่วนใหญ่ปันส่วนไปกับการอ่านกระทู้ตามเวปบอร์ดมากกว่า แต่ก็มีบางครั้งที่เลือกคลิกเข้าไปอ่านบล็อคเกี่ยวกับภาพยนตร์เหมือนกัน จริงๆผมเห็นว่า บอร์ดเฉลิมไทยควรจะเอาลิงค์บล็อคเกี่ยวกับหนังมาวางไว้หน้าแรกเหมือนแต่ก่อนนะครับ เพราะทำให้เลือกอ่านบล๊อกหนังได้สะดวกดี ไม่รู้เหมือนกันว่าทำไมเฉลิมไทยทำชักเข้าชักออก กรณีวางลิงค์บล็อคหนังหน้าแรกเนี่ย
...............................ตั้งแต่อ่าน Blog มา ผมไม่มี Blog ขาประจำบล็อคใหนที่ผมรู้สึกติดเท่าไหร่ ส่วนใหญ่ก็เข้าไปอ่านครั้งเดียว และก็ไปเม้นท์บล็อคของคนที่เขามาเม้นท์บล็อคเราก็แค่นั้น จะมีก็ Blog ของ ป้า Wiwanda นี่แหละทำเอาผมติดงอมแงมเลยครับ เรื่องมันเริ่มมาจากว่า ผมดูหนัง The Queen ของ สตีเฟน เฟียร์ส มา หนังเรื่องนี้ทำให้ผมรู้สึกเข้าถึงชีวิตของคนที่เป็นถึงระดับ ราชินี ที่สำคัญคือ ผมคิดว่าผู้กำกับเค้าทำหนังแบบ มนุษย์นิยมดีอ่ะครับ ซึ่งผมว่าถ้าคุณ สตีเฟน เฟียร์ส มาเกิดเป็นผู้กำกับบางประเทศ อาจจะต้องทำเรื่องนี้ในอีกรูปแบบนึง เป็นโปรปากันด้า ไปตามเรื่อง ไม่สิ ผมว่าเผลอๆคงไม่ได้ทำหนังเรื่องนี้ด้วย และด้วยความที่เขาเล่าเรื่องของพระราชินีออกมาเป็นปุถุชน ที่ประชาชน และคนธรรมดาอย่างเราเข้าถึงได้ มันทำให้เรารู้สึกชื่นชมราชินีเอลิซาเบ็ท ที่2 ขึ้นมาโดยไม่รู้ตัว ..
................................อ่านกระทู้วิจารณ์ The Queen ไปหลายกระทู้ก็ยังไม่เตะตาของท่านใหนเป็นพิเศษ จนเวลาล่วงเลยมานานพอสมควร ก็เหลือบไปเจอกระทู้ ลอดรั้วลายวินเซอร์ ( หรือไงเนี่ย ) ซึ่งมีมาถึงหกตอนแล้ว จริงๆแล้ว กระทู้ยาวๆแบบเหมือนอ่านนิยาย ผมไม่ค่อยชอบเท่าไหร่ เพราะผมชอบอะไรแบบที่สั้นๆ จบในตอน ไม่ยืดเยื้อ ผมก็เลยมองผ่านกระทู้นี้ไปแบบไม่ใส่ใจ แถมหัวกระทู้ที่เขียนว่า " ลอดรั้วลายวินเซอร์ " อะไรเนี่ย มันก็เป็นหัวกระทู้ที่ไม่เชิญชวนให้คนคลิกอ่านสักเท่าไหร่เลย เป็นผมจะไม่ตั้งหัวกระทู้ทื่อๆแบบนี้เป็นอันขาด เพราะผมถือว่า การโพสท์กระทู้เนี่ย หัวกระทู้ถือเป็นส่วนสำคัญที่สุด ที่จะทำให้คนอ่านผ่านไปผ่านมา คลิกเข้ามาอ่านของเราหรือไม่ ? ( ส่วนเนื้อหานั้นเป็นความสำคัญระดับรอง ) หัวกระทู้จะต้องตั้งให้แรง และ โดน และให้ดึงดูดใจในการตอบกระทู้ที่สุดเท่าที่จะทำได้ ....
................................ไม่รู้ว่าอะไรดลใจผมให้วันหนึ่ง ผมลองคลิกเข้าไปอ่านกระทู้ ลอดรั้วลายวินเซอร์ ตอนแรก และจากนั้นมาทุกอย่างก็คือประวัติศาสตร์ครับ ( เกี่ยวกันใหม๊ ) แน่นอนว่าผมติดหนึบเลยครับ ส่วนตัวแล้วผมเป็นคนชอบเรื่องประวัติศาสตร์ และ อัตตชีวประวัติของคนที่น่าสนใจอยู่แล้ว แต่หายากมากครับ ที่จะเจอผู้เชี่ยวชาญที่เขียนหนังสือด้วยภาษาที่อ่านง่าย อ่านสนุกเหมือนอย่างป้า Wiwanda ผมก็ใช้เวลาอ่านจนครบ 6 ตอน แล้วก็ตามไปอ่านต่อในบล็อคป้า วิ ( ซึ่งก็มีลิงค์ไปอ่านบางตอนในคลังกระทู้เก่า ซึ่งแฟนพันธ์แท้ของป้าวิ เค้ารวมไว้ ) รวมถึงเริ่มอ่านเรื่องราวของฮิตเล่อร์ และ ขุนพลของอาณาจักรไร๊ท์ที่ 3 ซึ่งมีอยู่ 25 ตอน และแต่ละตอน ยาวยังกะอะไรดี แต่ขอบอกว่า มันส์มากครับ อ่านจบไป 22 ตอนแล้วครับ มองเห็นภาพสงครามสมัยนั้นขึ้นมาเลย สังเกตุใหมครับ เรามักมองประวัติศาสตร์จากคนชนะ มุมมองของคนแพ้ก็เลยกลายเป็นมิติเดียว มีแต่ความชั่วร้ายแบบไม่มีเหตุผล ดูหนังต่างๆก็มักจะสร้างมาจากฝ่ายสัมพันธมิตร มีประวัติหนังทหารผู้กล้า นายพลคนดัง ผู้นำคนเก่ง แต่แทบไม่มีหนังจากค่ายอักษะ หรือค่ายโซเวียตบ้างเลย ทั้งๆที่เรื่องราวของพวกเค้าหลายคนนั้นน่าสนใจ น่าเอามาทำเป็นหนังมาก โดยเฉพาะคนอย่าง ซูคอฟ รอมเมล และที่น่าดูที่สุดก็คือ " ฮิตเล่อร์ " ซึ่งเคยมีหนังของเขาก็น้อยมาก แถมไม่ได้เล่าตั้งแต่ไต่เต้า จนตกต่ำสุดๆด้วย สองปีก่อนมีหนังเยอรมันเกี่ยวกับฮิตเล่อร์ คือเรื่อง Downfall ได้ชิงออสการ์หนังต่างประเทศด้วย ก็เล่าแค่ชีวิตช่วงท้ายของฮิตเล่อร์ ( เสียดายว่าผมดูก่อนอ่านเรื่องราวฮิตเล่อร์ในบล็อคป้าวิ ไม่งั้นคงได้อรรถรสกว่า เพราะเข้าใจตัวละครมากขึ้น )
...................................เช่าหนัง Flyboys มาดูสนองตัณหาความอยากดูภาพสงครามเวหาสมัยสงครามโลกครั้งที่สอง แต่พบว่า ที่ป้าวิ บรรยายในบล็อค ( กระทู้ ) นั้นมันส์กว่าหนังทั้งเรื่องอีกครับ แถมหนังยังขาดความน่าเชื่อถืออีกหลายจุด โดยเฉพาะการให้ตัวเอกเป็นทหารอเมริกาไปรบในกองทัพอากาศของฝรั่งเศสนั่นแหละ ทั้งๆที่ขณะนั้น อเมริกายังไม่ได้ประกาศสงครามเลยด้วยซ้ำ แถมฉากรบต่างๆก็น้อยมาก เรื่องรักขณะรบ ก็ทำให้หนังดูละม้าย In love and war เข้าไปซะอีก ไคลแมกซ์ท้ายๆก็ไม่ถึงกับน่าตื่นเต้นมาก ซึ่งผมก็คาดว่าคงจะต้องหาเช่าหนังสงครามมาดูเพิ่มเติมในโอกาสต่อไป แต่ที่แน่ๆตอนนี้ต้องอ่านฮิตเล่อร์ให้จบครบ 25 ตอนก่อน แล้วค่อยนั่งคิดว่า จะอ่านเรื่องใหนของป้าวิต่อดี ยังเติร์ก หรือ ไวน์ เห็น ร้อยกว่าตอน ผมคงต้องชั่งใจดีๆก่อน เกิดติดขึ้นมา เรื่องยาวยิ่งกว่าหนังชีวิตแน่ๆ .... แล้วคุณๆล่ะครับ ติดอ่าน Blog ของใครเป็นพิเศษกันบ้างหรือเปล่าเอ่ย ?
ป.ล. โอ๊ะ ฮิตเล่อร์ ตอน 23 มันส์ดี เล่าถึงวีรบุรุษรัสเซียหลายคน หนึ่งในนั้นก็คือ วาสิลี ซาสเยฟ คนที่มาเป็นพระเอกหนัง Enymy of the gates ที่เล่นโดย จู๊ด ลอว์ รูปหล่อ เพิ่งรู้ว่าเป็นเรื่องจริงด้วยวุ้ย แต่ของจริงดูจะต่างจากในหนังเล็กน้อย ในเกร็ดยิบย่อย แต่หลักๆแล้ว เหตุการณ์คือเรื่องจริงเลย มีดวลปืนกับมือฉมังของนาซีด้วย แล้วก็ ซาสเยฟนี่เด็ดหัวนายทหารนาซีสูงสุดเป็นอันดับ1 สามร้อยกว่าศพ นายแน่จริงๆ ( แต่ตัวจิงไม่หล่อวุ้ย )
Blog ป้า วิวานดา //www.bloggang.com/viewblog.php?id=wiwanda&group=1
Create Date : 05 มิถุนายน 2550 |
Last Update : 5 มิถุนายน 2550 20:53:58 น. |
|
4 comments
|
Counter : 838 Pageviews. |
|
|
|
สวัสดีคุณจ๊อบ
สบายดีหรือคะ
น้องมูวี่เป็นอย่างไรบ้าง
ขอให้สุขภาพดีทั้งแม่และลูกนะคะ