นี่มันฤดูอะไรกันแน่เนี่ย ??
................พักทานมื้อกลางวัน ก็ออกเดินเท้า จากเวิลเทรด สู่จุดมุ่งหมาย ศูนย์หนังสือจุฬา เพื่อแวะหาซื้อดิกชันนารี อิตาลี - ไทย ... ท้องฟ้าก็ช่างครึ้มเหลือเกิน ฝนก็ตั้งท่าจะตก หลังจากตกมาแล้วสองสามวัน ผ้าที่ตากไว้ก็ไม่แห้งสักที สงสัยต้องเอามาซักใหม่ ...
...............ไม่รู้ว่าที่ท้องฟ้าเป็นแบบนี้ ..หรือจะเป็นเพราะฟ้าคงสงสารที่คนอย่างฉันถูกหลอกเรื่อยไป ถูกเค้าลวงเค้าล้วงหัวใจ เอาไปต้มยำทำแกง ... เหน็ดเหนื่อยเมื่อยล้า เลือกหาดิก แต่ก็หาไม่ได้ เหลือเชื่อ ว่าดิก อิตาลี - ไทยเนี่ย หามาแล้วไม่รู้กี่ร้าน เมืองไทยหาซื้อไม่ได้เลย สงสัยต้องถามอาจารย์อีกทีว่าเค้ามีขายหรือเปล่า แต่อาจารย์แนะนำดิก ของ ยี่ห้อ คอลลินส์ มาเล่มขนาดกลางๆ เป็น ดิก อิตาลี - อังกฤษ ปรากฏว่าหมด เหลือแต่ ดิกคอลลินส์ เล่มเล็ก กะเล่มใหญ่บะเอ๊ก ขนาด ราชบัณฑิตสถาน เล่มละสองพันกว่า เลยไม่กล้าซื้อ หยิบเล่มเล็กมาแทน เอากะว่าพอใช้งานได้ เล่มละ 250กว่าบาท
.................ลืมเล่าไป ระหว่างเดินมาสยาม ก็โทรไปคุยกะเฌอแตม เพื่อนเน็ทเก่าแก่คนนึง เขาเพิ่งเดินทางกลับจากอังกฤษมาสู่ ไทยแลนด์ แดนสยาม ไม่เคยคุยโทรกันมาก่อน ไม่เคยเจอตัวกันสักที คยกันสนิทสนมมาก็สามสี่ปีแล้ว เสียงเจ้าตัวดูเซ๊กซี่ดี ประมาณสงสัยเพิ่งตื่น ออกแนวสาวไฮโซอินเตอร์ อย่างที่เคยได้ยินกิตติศัพท์มาซะด้วยสิ อิอิ เห็นว่าอาทิตย์หน้าคงจะเริ่มว่างแล้ว คงได้นัดทานข้าวด้วยกันกลุ่มใหญ่ๆ
..................ออกจากศูนย์หนังสือจุฬามา ฝนก็ค่อยๆลงเม็ด มา ฝ่าฝนบางๆ มุ่งหน้าสู่ สยามพาราก้อน ห้างสุดหรูหราแห่งใหม่ของไทย ซึ่งผมยังไม่เคยไปเหยียบย่างมาก่อน ไม่ได้ไปช็อปครับ แวะไปดูเทศกาลหนัง bangkok international film fest ปีที่ 4 ซึ่งปีนี้จัดอย่างหรูหรา ที่พาราก้อน เห็นว่ารัฐบาลเอาเงินไปละเลงเล่น ร่วม 300ล้าน เพื่อเอาหน้า เพื่อโปรโมทการท่องเที่ยว แต่ผมว่าเหมือนตำน้ำพริกละลายแม่น้ำมากกว่า เสียเงินเปล่าๆปลี้ ๆไม่ได้ห่า อะไรขึ้นมาหรอก เสียดายเงินภาษีฉิบหาย แถม ปีนี้ยังเก็บค่าตั๋วมหาโหด 140 / 160 /200บาท สำหรับหนังเทศกาล ซึ่งไม่ได้มีคำบรรยายไทย ( ซับอังกฤษ หรือไม่มี ) งานนี้ก็ประมาณให้ฝรั่งดูน่ะครับ กับพวกเพรส พวกมีบัตรเบ่ง พวกวีไอพีทั้งหลาย เพราะคนดูหนังชาวไทย ปกติแล้ว ไม่ค่อยมีใครจะไปควักตังแพงๆ เพื่อไปรอดูหนังหาดูยากประเภทนี้หรอก ผมเองชอบดูหนัง แต่ถ้าต้องเสียตังแพงๆ ไปดูหนังที่ดูยาก แล้วก็ไม่มีซับ ผมขอบอกผ่านดีกว่า เมื่อก่อนผมดูหนังเทศกาลนี่ฟรีนะครับ หรือถ้าเสีย ก็เสียไม่แพง อย่างน้อยก็ควรจะถูกกว่าหนังในโรงหนังธรรมดา หรือเท่ากันยังพอทน แพงกว่า ผมเลือกดูหนังทั่วไปดีกว่า ช่วงนี้ก็มีหนังน่าดูเพียบ ทั้งหนังชิงรางวัล หนังนอกกระแส tranamerica ก็ลงโรงพร้อมๆกันพอดีด้วย ยังไม่นับ welcome to dongmugal หรืออื่นๆอีกมากมาย
..................อ้อ เจอคุณนายครีม แถวสยามด้วย เห็นว่ามาเรียนภาษาญี่ปุ่น คุยกันหน่อยเดียว คุณนายครีมยังสวยปิ๊งเหมือนเดิม เห็นบอกว่านัดเมื่อไหร่ ก็บอกกันด้วย สยามพาราก้อนดูหรูหราดีครับ กว่าจะเดินถึงโรงหนังก็ลิ้นห้อย มีสาวๆหน้าตาสวยๆออกมายืนต้อนรับ มีซุ้มโปรโมท นเรศวร มีงานจัดโชว์ใบปิดหนัง เท่าที่ผมดู ก็ค่อนข้างเงียบเหงา แล้วก็ไม่น่าสนใจเท่าที่ควร เงินตั้งเป็นร้อยล้าน ทำได้แค่นี้เองเหรอ เก็บข้อมูล กับโปรแกรมหนังมาพอควร เห็นมีแต่ฝรั่งต่อคิวดู งานนี้ตกลง เอาเงินคนไทยมาลงเป็นร้อยล้าน เพื่อเอาใจฝรั่งเหรอเนี่ย อ้อ อีกอย่าง เท่าที่ผมดู เทศกาลหนังแถวบ้านเราที่ดังกว่าหลายๆงาน ผมว่าก็ไม่ได้มีส่วนในการโปรโมทการท่องเที่ยวประเทศนั้นเท่าไหร่หรอก มันแค่การแลกเปลี่ยนวัฒนธรรม กับเป็นการค้าเท่านั้นเอง ไม่รู้คนในรัฐบาลเราคิดอย่างไร ผมว่าคนทีจัดคงไม่ค่อยมีความรู้เกี่ยวกับคำว่า เทศกาลหนังสักเท่าไหร่หรอก
...................นั่งรถกลับมาทำงานต่ออย่างเซ็งๆ ฝนก็ตก ดีที่ไม่เปียกปอนเท่าไหร่ มะไหร่จะหมดฝนสักทีนะ ต่อไปก็จะเข้าหน้าร้อนแล้วสินะ เพื่อนๆชาวบล็อคล่ะครับ ชอบฝนกันบ้างหรือเปล่า
ป.ล. สุดท้ายแล้วมื้อเที่ยง ก็ต้องกลับมาหากินที่ฟู๊ดเซนเตอร์ เวิลเทรด เป็นครั้งแรกอีกเหมือนกันที่กินฟู๊ดใหม่นี้ เค้าเปิดอยู่ชั้นใต้ดิน เล็กๆ อาหารก็แพงกว่าข้างนอกประมาณสองเท่า และแพงกว่า ฟู๊ดเซนเตอร์ ของบิ๊กซี ฝั่งตรงข้าม ประมาณ 30 เปอร์เซ็นต์ รสชาติก็พอรับประทานได้ ขำขำเหมือนกัน กินข้าวราดแกงแท้ๆ กะน้ำแก้วนึง หมดไป 50 บาท เฮ่อ ( ถ้าสั่งร้านหลังบิ๊กซี กินได้สองจาน แค่ 40 บาท )
Create Date : 21 กุมภาพันธ์ 2549 |
Last Update : 21 กุมภาพันธ์ 2549 17:13:44 น. |
|
16 comments
|
Counter : 838 Pageviews. |
|
|
|
บ่นเหมือนหัวข้อบล็อกวันนี้นี่แหละ เฮ้อ