เมื่อวานแวะไปร่วมงานศพคุณแม่พี่อิงมาครับ

..........เพลียเหลือหลาย เมื่อเช้าตั้งใจว่าจะตื่นตั้งแต่ 9 โมงเช้า แต่ลุกไม่ไหว ก็เลยนอนต่ออีกหน่อยนึง สุดท้ายก็ไป ตื่นที่ 9 โมงกว่า ๆก็เลยต้องตาลีตาเหลือก อาบน้ำแต่งตัว ออกเดินทางจากที่พักย่านคลองตัน ออกทางเส้นพระราม9 ใกล้ๆโรงบาลเพชรเวช ก็ขึ้นทางด่วน เสียค่าทางด่วนไปสามทอด เบ็ดเสร็จก็ 75 บาท ( แพงจังวุ้ย ) รถติดพอสมควร ไปลงแจ้งวัฒนะ แล้วก็ตรงไปวัดพระศรี ตรงหลักสี่ เพื่อไปร่วมงานศพคุณแม่ ป้าอิง พี่ที่รู้จักกันตั้งแต่เวปแก้วแล้วก็เป็นเพื่อนบ้านแพนทาวน์ด้วย จริงๆตั้งใจว่าจะไปร่วมงานศพหลายวันแล้ว แต่ว่าช่วงนี้เวลาส่วนตัวแทบไม่มีเลย เลยไม่สามารถปลีกตัวไปได้ วันเสาร์ที่ป้าจิ๊กเค้าไปร่วมงานผมก็ไปนั่งรถไฟเที่ยวน้ำตกไทรโยคน้อย กลับมาไม่ทัน นึกว่าจะไม่ได้ไปแล้วเชียว พอดีมะคืนดูกระทู้ป้าอิง ป้าอิงมาโพสท์ตอบว่า วันนี้มีสวดวันสุดท้ายตอนรอบเช้า แล้วก็มีเลี้ยงพระเพล บังเอิญว่า ผมหยุดวันนี้พอดี ก็เลยสามารถไปได้ คำนวณเวลาแล้ว จริงๆทีแรกตั้งใจว่า จะดู history of violence ที่ลิโด้ ซึ่งมีเหลือรอบเดียวตอนเที่ยง ซึ่งคงเป็นสัปดาห์สุดท้ายแล้ว แต่สุดท้ายก็ตัดใจเลือกไปงานศพคุณแม่ป้าอิงแทน

..........ใช้เวลาเดินทางราวๆ 45นาทีมั้ง ก็ไปถึงวัดพระศรี โดยสวัสดิภาพ ดูเวลาแล้ว 10.45น. เห็นจะได้ ไปถึงไม่ทันพระสวดแล้ว ไปถึงพระท่านก็กำลังฉันเพลอย่างเมามันส์ เดินหาป้าอิง ป้าอิงอยู่ใหนหว่า และแล้วก็เจอป้าอิงในงาน ก็เลยตรงไปสวัสดี ป้าอิงก็เลยจัดที่ให้นั่ง บอกเด๋วรอๆพระสวดให้พรละกัน ก็ไปนั่งรวมกลุ่มกับญาติๆป้าอิง มีแต่ผู้อาวุโสทั้งนั้นเลยงานนี้ มีแต่เครือญาติป้าอิง ป้าอิงก็น่ารักครับ พยายามชวนคุยกลัวผมจะเบื่อ แกบอกว่า สังเกตุหรือเปล่าว่า มีภาพงานศพอยู่สองภาพ แกบอกว่า แม่ป้าอิงน่ะอยู่ฝั่งซ้ายมือ ผมถึงมองดีๆ จริงๆด้วย งานนี้แปลกมาก เนื่องจากมีรูปประดับงานศพสองภาพ และมีโลงศพวางอยู่ในศาลาเดียวกัน ถึง สองโลง โดยเรียงซ้อนไล่ระดับกัน จึงไม่สังเกตุเห็นทีแรก

..........แกบอกว่า คุณแม่ป้าอิงเค้าเสียตอนเช้า และในวันเดียวกัน แม่สามีของพี่สาวป้าอิง ก็เสียพอดี ก็เลยจัดงานรวบยอดทีเดียวเลย วางโลงสองโลงไล่ระดับ แล้วก็ฝั่งขวามือเป็นรูปแม่สามีพี่สาว ส่วนฝั่งซ้ายมือเป็นภาพคุณแม่ป้าอิง ก็เก๋ไปอีกแบบดีครับ ทีแรกผมว่าจะหยิบกล้องถ่ายรูปออกมาให้เพื่อนๆชาวบล็อคดูเป็นของแปลก แต่คิดไปคิดมา เกรงว่าจะไม่เหมาะสม เนื่องจากเกรงใจป้าอิง เลยไม่ถ่ายดีกว่า ดังนั้นจึงอดมีรูปมาฝากด้วยประการฉะนี้

......... สักแป๊ปนึง ก็ฟังพระให้พรหลังฉันเพลเรียบร้อย จากนั้นผมก็ว่าจะกลับก่อน แบบว่าเกรงใจ เห็นมีแต่ญาติๆป้าอิงเค้าก็จะทานข้าวกัน ป้าอิงบอก โอ๊ย อย่าเพิ่งกลับ ทานข้าวด้วยกันก่อน อาหารเพียบ ก็เลย เอ้อ กินก็กินครับ เค้ามีจัดโต๊ะแค่สองโต๊ะ ก็มีแต่แขกๆอาวุโสนั่ง ที่เหลือก็ทานกันแบบบุฟเฟ่ท์ด้านหลังกันครับ ก็ยืนกินครับ ตั้งวงกินเป็นจุดๆ อาหารอร่อยๆทั้งนั้นเลยครับ มีมัสมั่นไก่ ( โอ้ ไม่ได้ทานซะนาน เลยโซ้ยไปซะสามอก ชิ้นเบ้อเริ่มเลยครับ ล่อไปพุงกางเลย ) มีแกงส้มปลาดุกทะเล ห่อหมก แกงจืดกระดูกหมู แล้วไรอีกหว่า ของหวาน ฯลฯ อิ่มมั่กๆๆๆ แถมป้าอิงอุตส่าห์ยัดเยียดให้กลับทานบ้านอีก ก็เลยเอามัสมั่นมาอีก สองสามชิ้น มากินต่อที่บ้าน แบ่งเนื้อไก่ กระดูกไก่เหลือๆให้หมาวัดแถวนั้นด้วย มีอยู่ตัวนึง ขาด้วนน่าสงสาร คงสู้ชีวิตน่าดู งานนี้อิ่มบุญกลับบ้าน อิอิ

..........ออกจากวัดก็เที่ยงครึ่งได้ ตรงมาจุฬา ถึงที่หมาย บ่ายโมงนิดๆ เร็วกว่าที่คิดก็เลยแวะทานน้ำลำใย 3บาท จากนั้นก็ไปอ่านหนังสือทบทวนอีกนิดหน่อยบนคณะอักษร แล้วก็ขึ้นลิฟท์ไปชั้น9 ปรากฏมีเพื่อนๆร่วมคลาสหลายคนมาเตรียมตัวก่อนแล้ว สักแป๊ปก็ใกล้ๆบ่ายโมง จารย์มิเคเล่ ก็ออกมาบอกว่าเด๋วทยอยเข้ามาได้เลย ก็เลยแซงคิวเข้าไปเป็นคนแรก สอบสนทนาง่ายๆน่ะครับ ก็แค่แนะนำตัว แล้วก็ให้ตั้งประโยคง่ายๆตามภาพจากท้ายบทเรียนที่จารย์เค้าให้เตรียมตัวไว้แล้ว ก็ใช้เวลาไม่มากแค่สักห้านาทีก็เสร็จแล้วก็เดินทางกลับหอพัก

..........ช่วงเย็นก็ออกไปเดินสายเยี่ยมญาติแล้วก็แวะไปดูหนังที่เมเจอร์ราม ทีแรกว่าจะดู inside man แต่ไม่มีรอบสะดวกก็เลยต้องดู โหน่งเท่งแทน หนังก็ไม่ค่อยดีเท่าไหร่ ตามความคาดหมาย ทั้งเรื่องนี่ไม่มีฉากใหนให้ผมขำได้สักฉาก มีบ้างที่ยิ้มหรือหัวเราะหึๆแบบแกนๆ โดยรวมถือเป็นหนังไทยที่น่าผิดหวังอีกเรื่อง เสียดายที่มีองค์ประกอบที่พัฒนาให้เป็นหนังดีได้ แต่กลับมัวแต่ใส่ใจกับฉากตลก จนหนังเละเทะ แวะส่งหลานสุดที่รัก แล้วก็กลับถึงที่พักประมาณสักห้าทุ่มเห็นจะได้ สองยามเข้านอน จบข่าว

Create Date : 05 เมษายน 2549		4 comments
Last Update : 5 เมษายน 2549 22:40:23 น.
Counter : 485 Pageviews.
Share Tweet