อากาศดีๆที่มีในเวลาเช้า.. เพลงเบาๆกับเบเกอรีสักเล่ม
เช้านี้.. เป็นเช้าในหลายเดือน หรืออาจจะเป็นเช้าในหลายปีที่ผ่านมา ที่ตื่นมาแต่เช้าแล้วได้นั่งอ่านหนังสือดีๆที่ไม่หนักหัวจนเกินไปสักเล่ม อ่านไปพร้อมกับเสียงคลอเบาๆของเพลงที่ชื่นชอบ ที่ผ่านมา แม้จะตื่นแต่เช้ามาอ่านหนังสือ แต่ก็เป็นหนังสือเนื้อหาหนักๆ เพื่อนำไปเขียนแนะนำในคอลัมน์ รหัสหนังสือ ที่พิมพ์ในหน้าการเมือง หนังสือพิมพ์มติชน ทุกวันอาทิตย์
"ตื่นมาทำไมแต่เช้าว่ะก้อง" "มึงลาออกจากงานแล้วไม่ใช่เหรอ วันหยุดตื่นเช้าเชียวนะ" เสียงเพื่อน ซึ่งนอนอยู่หน้าโทรทัศน์ด้านล่างของบ้าน เอ่ยถาม เสียงอู้อี้อยู่ภายใต้ผ้าห่ม น้ำเสียงไม่จริงจังที่จะต้องการคำตอบนัก แค่คงต้องการหยอกเพื่อนเล่นๆเท่านั้น ผมยังไม่ตอบมัน เอื้อมมือไปเสียบปลั้กกระติกน้ำร้อน "ก็เมื่อคืนนอนหลับสนิทนี่ พอตื่นลืมตามันก็อยากลุกจากเตียงแล้ว" กาแฟดำร้อนๆพร้อมแล้ว ผมเดินถือมาพร้อมกับคนให้เข้ากันและไล่ความร้อนออกไปบ้าง "มึงนั่นแหละ ตื่นได้แล้ว ไหนบอกจะออกจากบ้านตอน ๖ โมงครึ่ง นี่มันจะ ๗ โมงแล้วนี่" "อีกเดี๋ยวล่ะกัน ไปรังสิต ออกทางวงแหวน แปปเดียว" ผมไม่ได้สนใจเพื่อนแล้ว นั่งลงที่โต๊ะทำงาน มองหาหนังสือที่อ่านค้างไว้ตั้งแต่เมื่อวาน แต่เป็นหนังสือที่ได้มานานแล้ว ผมได้หนังสือเล่มนี้มาตั้งแต่ประมาณเดือนสิงหาคม ปีที่แล้ว ไม่ได้ซื้อ แต่ พี่ไก่ ซึ่งเป็นหัวหน้า ยกให้ วันนั้น ผมมีนัดกับหัวหน้า ต้องไปสัมภาษณ์พิเศษ หลังการทำงานเสร็จสิ้น ตอนขึ้นรถจะกลับ พี่ไก่ยื่นหนังสือมาให้ บอกให้ไปอ่าน หนังสือชื่อ BAKERY & I เบเกอรี แอนด์ ไอ ชีวิต ดนตรี และเบเกอรี ผ่านสายตาของสุกี้ "หนังสือดีนะ" พี่ไก่บอก เราก็เชื่อโดยไร้ข้อกังขา เพราะพี่ไก่เป็นนักอ่านหนังสือตัวยงคนหนึ่ง โดยเฉพาะหนังสือจำพวกประวัติชีวิตคน พี่ไก่จะชื่นชอบมาก "ต้องคืนไหมพี่" ผมแกล้งหยอก เผื่อได้ "ไม่ต้อง ยกให้" เออ..ได้ผลแหะ ^_^ แต่แล้ว เวลาผ่านไปนาน ผมก็ยังไม่ได้อ่านสักที ได้แต่เอาไปบอกต่อชาวบ้านชาวช่องว่า เล่มนี้ดีจริง แต่ยังไม่ได้อ่าน "อ้าว แล้วเอ็งรู้ได้อย่างไร" "เออ..จริงด้วย แต่ดีจริง หัวหน้าผมอ่านแล้ว" นอกจากจะเที่ยวไปบอกคนอื่นให้อ่านแล้ว ยังให้น้องคนหนึ่งไปอ่านด้วย "ดีจริงๆพี่ ยิ่งตอนที่.." "หยุดเลย อย่าเพิ่งเล่า ผมยังไม่ได้อ่าน" กระทั่ง ถึงปีใหม่ วันที่ผมไปเลี้ยงปีใหม่กันเองของสมาชิกโต๊ะการเมือง ซึ่งเข้าเวรตอนช่วงปีใหม่ หนึ่งในนั้นคือพี่ไก่ด้วย "ก้อง คุณอ่านหนังสือของสุกี้ยัง" ก่อนที่ใครต่อใครจะเมากัน พี่ไก่ก็ถามผมขึ้นมา "ยังพี่" "เฮ้ย !! ทำไมไม่อ่านว่ะ หนังสือดีนะ คุณต้องอ่านนะ" "โธ่..พี่ ผมก็อยากอ่าน แต่ไม่ว่างสักที"
ตอนนี้ ว่างแล้วครับ และผมก็อ่านจบแล้วด้วย ดีจริงๆครับ โดยเฉพาะแฟนเพลงค่ายเบเกอรี่อย่างผม อ่านไปแล้วก็คิดว่า เออ..ช่วงนั้น ตอนที่เพลงนี้ออกมา เราอยู่ไหน ทำอะไรนะ อย่างช่วงโมเดิร์นด็อกออกชุดแรก ตอนนั้นอยู่ที่เชียงใหม่ ใช่ๆ ตอนคอนเสิร์ตบอยเมื่อปี 2540 เราอยู่กรุงเทพฯแล้ว ได้ไปดูด้วย ชอบมาก เหมือนได้รำลึกความหลัง อ่านแล้วก็ได้รู้หลายเรื่องเกี่ยวกับค่ายเพลงนี้ นอกไปจากการได้รู้จัก สุกี้ มากขึ้น รวมทั้งยังได้รู้จัก บอย โกสิยพงษ์ ได้รู้เรื่องราวของหลายคนในค่ายนี้มากขึ้น หากคุณๆได้อ่านแล้วอาจจะต้องอุทานคล้ายกับสุกี้ เมื่อได้รู้ว่าใครมาแร็ปให้สมเกียรติ ในโครงการ Z-Myx สมเกียรติ ซี-มิกซ์ ที่ออกในนามค่ายมูเซอร์ เรคคอร์ด "ไอ้เหี้ยนี่เหรอจะแร็ป" สุกี้ถามสมเกียรติอย่างนี้จริงๆ (หากใครได้อ่านแล้ว หรือทราบแล้ว ก็อย่าเพิ่งเฉลยนะครับ ต้องการให้คนซึ่งยังไม่ทราบไปอ่านกันเอง จะได้อารมณ์แล้วอมยิ้มมากกว่า ^_^ ) หรือใครอาจจะไม่เชื่อ เมื่อรู้ที่มาของเพลง ก่อน ที่แทบจะกลายเป็นสัญลักษณ์ในด้านหวานของโมเดิร์นด็อก (เรื่องนี้ก็เช่นกัน อย่าเพิ่งบอกก่อนนะ) อ่านเล่มนี้แล้ว ทำให้คิดถึงตัวเองด้วย คิดถึงตอนที่สุกี้เล่าให้ฟังถึงตอนที่ต้องมาบริหารงานเต็มตัวแล้วเกิดปัญหาให้ต้องแก้ โดยเฉพาะเรื่องของศิลปินในค่าย แม้ว่าสถานการณ์อาจจะต่างกันกับของเราก็ตาม สุกี้บอกว่าหลายปีมานี้ เขาสับสนระหว่างคำว่า ความรับผิดชอบ และ ภาระหน้าที่ เขาเอาบริษัทมาก่อนครอบครัว สุกี้บอกว่ามีฝรั่งผู้ใหญ่บอกว่า คุณต้องเอา ภาระหน้าที่ ไปให้ครอบครัว ต่อสังคม ต่อเพื่อนสนิท แต่ก็ต้องมี ความรับผิดชอบ ต่อหน้าที่การงาน อย่าไปสับสนกับมัน อ่านแล้วให้คิด เออ..บางที ผมก็สับสนกับมันเหมือนกัน อีกเรื่องก็ตอนที่สุกี้ บอย และสมเกียรติ ลาออกจากเบเกอรี แล้วหารือกันว่าจะทำค่ายเพลงใหม่อีกครั้งหรือไม่ แต่ท้ายสุดก็ไม่ได้ทำร่วมกันเหมือนเมื่อครั้งอยู่เบเกอรี สุกี้บอกอย่างเข้าใจเพื่อนของเขาว่า "ผมเข้าใจว่าทุกอย่างมันได้เปลี่ยนแปลงไปแล้ว" "เข้าใจถึงข้อเท็จจริงที่ว่า คุณจะอยู่ด้วยกันก็ได้ ก็ต่อเมื่อจุดหมายกับสิ่งสำคัญในชีวิตของคุณเหมือนกัน ไม่ว่าจะเป็นเพื่อน หรือจะเป็นสามีภรรยาก็ตาม แต่เมื่อไหร่สิ่งสำคัญในชีวิตกับจุดหมายของคุณมันเดินไปกันคนละทิศทาง เมื่อไหร่ก็ตามที่ความสัมพันธ์ไปถึงจุดนั้น มันก็ไม่สามารถที่จะอยู่ด้วยกันได้ ซึ่งไม่มีใครผิดสำหรับกรณีนี้" "รวมถึง เบเกอรี มิวสิค ที่เป็นเหมือนดั่งดวงดาวหลากหลายดวง ที่โคจรมาเรียงตัวจนกลายเป็นเส้นตรงในเวลาเดียวกัน และพอเวลาดำเนินไปถึงเวลาหนึ่ง ดาวแต่ละดวงก็จะต้องแยกย้ายโคจรไปตามวงจรของตัวเอง" สุกี้บอกในหนังสือเล่มนี้ว่า มันเป็นเพียงวัฏจักรของชีวิต ในขณะที่ผมบอกกับ บก.และหัวหน้า เมื่อครั้งไปบอกเหตุผลของการลาออกเพื่อไปทำอย่างอื่นว่า มันเป็นเรื่องของชีวิต บก.ยิ้ม ส่วนพี่ไก่บอกกับผมหลังจากนั้นว่า "พี่เข้าใจ" อ่านหนังสือเสร็จแล้วมาอัพบล็อก ก่อนจะเอกเขนกดูซีรีย์ยามบ่าย และกะว่าจะดูหนังที่เช่ามาอีกสักเรื่องสองเรื่อง คืนนี้หลับให้เต็มตาอีกหน แล้วอาจจะได้ตื่นเช้าอีกครั้ง หยิบหนังสืออีกสักเล่มมานั่งอ่านเคล้าเสียงเพลงเบาๆ อีกสักหนึ่งวัน อาจจะเป็นอย่างนี้อีกสักหลายวัน ก็ทำไมจะทำไม่ได้ล่ะ ก็ผมตกงาน(ชั่วคราว)แล้วนี่.. ^_^ ---------------------
Create Date : 08 มกราคม 2551 |
|
3 comments |
Last Update : 8 มกราคม 2551 17:36:55 น. |
Counter : 470 Pageviews. |
|
|
|