๑-๔ นำดอกลิอาทริส และใบเฟิร์นหนังมาปักรวบไว้ในกำมือ ตามด้วยใบเฟิร์นข้าหลวงโอซาก้า ดอกคัลล่าลิลลี่ และดอกไอริส ให้แต่ละก้านของดอกไม้แยกจากกัน จากนั้นเพิ่มด้วยดอกกุหลาบ ดอกไฮ เดรเยีย ดอกลิลลี่ แล้วแซมด้วยดอกแว็กซ์ให้ทั่วพันด้วยเทปใสให้แน่น เพื่อนำไปหล่อน้ำ
๕-๘ ตัดแผ่นพลาสติคใสและผ้าโปร่งเป็นรูปสี่เหลี่ยมผืนผ้าให้แผ่นพลาสติคซ้อนด้านล่าง หันปลายแหลมขึ้นด้านบนคล้ายรูปข้าวหลามตัด แล้วใช้มือรวบพับจับจีบทางด้านล่างให้แน่น ยึดไว้ด้วยเทป หลังจากนั้นสวมทับด้วยกระดาษสาที่เย็บจีบเตรียมไว้
แล้วตัดแผ่นพลาสติคและกระดาษสา จัดวางเช่นเดิม แต่ให้พับด้านที่เป็นปลายแหลมลง ติดเทปใสยึดไว้แล้วนำช่อดอกไม้มาวางให้ค่อนไปทางซ้ายมือ พับตลบมุมกระดาษของชายด้านดังกล่าวมาปิดช่อดอกไม้ไว้ ส่วนชายด้านขวาให้ยกพับตลบกลับไปกลับมาเพื่อเป็นจีบอยู่ด้านหน้าของช่อดอกไม้ ก่อนม้วนปลายซ่อนไว้เมื่อสุดกระดาษ ติดด้วยเทปใสให้แน่น แล้วผูกโบว์ประดับให้สวยงาม กระดาษห่อดอกไม้และก้านช่อ เมื่อทำให้ดูฟูหนาและห่อต่อก้านถือให้ดูยาวขึ้น จะช่วยให้ดอกไม้ดูมีราคาเพิ่มขึ้นอีก
ขอฝากข้อพระธรรม ในพระธรรมปัญญาจารย์ บทที่ 4 ข้อที่ 9-12 ความว่า "สองคนดีกว่าคนเดียว เพราะว่าเขาทั้งสองได้รับผลของงานดี ด้วยว่าถ้าคนหนึ่งล้มลง อีกคนหนึ่งจะได้พะยุงเพื่อนของตนให้ลุกขึ้น แต่วิบัติแก่คนนั้นที่อยู่คนเดียวเมื่อเขาล้มลงและไม่มีผู้อื่นพะยุงเขาให้ลุกขึ้น"
ขอบคุณข้อมูลและภาพจากคุณพรณรงค์ สหนนท์ชัยกุล นิตยสารวัญเรือน
สำหรับวันนี้ ขอพระเจ้าอวยพระพรค่ะ สวัสดีค่ะ