ขั้นตอนที่ 1 การทำน้ำสกัดปั่นเปลือกมะกรูด
1. ล้างขัดผิวมะกรูดให้สะอาดเกลี้ยงเกลา (มะกรูดที่นำมาใช้ต้องแน่ใจว่าไร้สารพิษเท่านั้น! ไม่เช่นนั้นสารพิษจะมาอยู่ติดผิวเรา เข้าหน้าเข้าตา น่ากลัวที่สุด 😖😖) กรุณาขัดซอกเปลือกมะกรูดด้วยแปรงนุ่มๆ ด้วยนะค๊า ของดีต้องพยายามกันนิดนึง 55
2. ปอกเอาแต่ผิวมะกรูดไม่เอาเนื้อข้างในเด็ดขาด สาเหตุที่ไม่เอาเนื้อข้างในเพราะข้างใน คือ กรดซิตริก (citric acid) เป็นกรดเดียวกับกรดในลูกมะนาว เรียกว่า กรดมะนาว (กรดซิตริก)
กรดซิตริกปริมาณน้อยมากมีคุณสมบัติทำให้ผมเงางาม ช่วยทำความสะอาด ฆ่าเชื้อ รักษาแผล ผลัดผิวทำให้ขาวใสขึ้น ปริมาณมากจะระคายเคือง กัดผิวแสบคัน ทำให้หนังศรีษะแห้ง เส้นผมแห้งแตกปลาย
สูตรที่คนอื่นๆ ทำมักมีกรดตัวนี้อยู่เยอะมากกก ทำให้ใช้แรกๆ รู้สึกดี๊ดี สะอ๊าด สะอาด ผมนุ่มนิ๊ม นิ่ม อย่างที่ไม่เคยรู้สึกมาก่อน ใช้ไปใช้มาไม่กี่วัน ไม่กี่สัปดาห์ หนังศรีษะแห้ง ผิวหนังแสบระคายเคือง ผมเริ่มกลับมากระด้าง เป็นรังแคเนื่องจากเสียสมดุล คิดสภาพเอาน้ำมะนาวราดผม หนังศรีษะและอาบน้ำบ่อยๆ มันจะดีไหมเพราะฉะนั้นไม่เอานะคะ อจน.ขอร้อง แค่ปอกเอาแต่ผิวกรดมะนาวจะติดมานิดหน่อยอยู่แล้ว ไม่ต้องกลัวว่าจะไม่ได้คุณสมบัติจากกรดซิตริก ^ ^
**มันคือเคล็ดลับจ้า 😁😁
**ถามกันเข้ามามาก แล้วเหลือเนื้อข้างในเป็นกอง ให้เอาไปทำอะไรคะอจน. 😅😅
ให้เอามาหมักไว้ทำน้ำยาอเนกประสงค์ทำความสะอาดสารพัดสิ่งได้จ้า***
3. เอาเปลือกมะกรูดที่ได้ใส่ภาชนะเก็บความร้อนเก็บไอระเหย คือ ค่อนข้างเป็นระบบปิดได้ชั่วคราว ต้มน้ำสะอาดพอร้อนๆ (อย่าให้เดือดจ้ะ) เทใส่ในภาชนะดังกล่าวจนท่วมผิวเปลือกมะกรูด รีบปิดฝาภาชนะ (น้ำอย่าเยอะ จะทำให้ไม่เข้มข้น และทำให้เสียได้ง่าย อย่าลืมของเราไม่มีสารกันบูดกันเสียนะจ๊ะ ผิวและผมสวยอมตะนิรันดร์กาล ไม่พึงพาสารเคมีใดๆ จ้า อีกอย่างความเป็นกรดเราจะน้อยมากๆ ถ้าไม่ผิดสูตรทุกคนจะได้ความเป็นกรดด่าง pH มากกว่า 5 นะจ๊ะ อันนี้อจน.ทดสอบได้ตลอด เป็นค่าที่เหมาะกับผิวและหนังศรีษะที่มี pH ประมาณ 5.5 เพราะของเราอ่อนโยน จึงอาจเสียง่ายกว่าที่เค้าขายกันทั่วไปที่เป็นกร๊ด กรด 555)
**ในขั้นตอนนี้ อจน.เรียกมันว่า การสกัดน้ำมันหอมระเหยแบบอุ่น (บางคนเรียก สกัดเย็น เพราะมันไม่เดือด ดังที่เรียก น้ำมันมะพร้าวสกัดเย็น แต่พออจน.เรียกสกัดเย็น ชาวบ้านที่ไปสอนมักงงเป็นไก่ตาแตก มันไม่เย็นนะคะอาจารย์ โอเค "สกัดอุ่น" ค่ะ นักวิชาการผู้ทำการถ่ายทอดองค์ความรู้ที่ดีต้องพูดจาภาษาเดียวกับชาวบ้านเป็น คุยกับทุกคนรู้เรื่อง 555)
***ขั้นตอนนี้เป็นขั้นตอนที่สำคัญที่สุด จำไว้ว่า สารออกฤทธิ์แก้ผมร่วง ช่วยเรื่องผมหงอก ทำให้ผิวใส เลือดไหลเวียนดี คือ สิ่งที่เราเรียกมันว่า "น้ำมันหอมระเหยเปลือกมะกรูด" ชื่อขึ้นว่า "ระเหย" หมายถึง กลายเป็นไอได้ง่ายที่อุณหภูมิห้อง หมายความว่า ถ้าใช้ความร้อนสูงความร้อนนาน มันก็จะหายไป ลอยไปกับอากาศเยอะแล้ว เข้าใจยังคะเพราะฉะนั้นโดยทั่วไปที่เราเห็นคนทำ คือ เอาไปต้ม เอาไปเคี่ยว กวนไปกวนมาที่เวลาร้อนสูงนั้น เป็นการทำลายสารออกฤทธิ์แท้ๆ เลยจ้า หมดกัน!!! จบข่าว ไปขั้นตอนต่อไปได้ 555
4. ปิดฝาภาชนะทิ้งไว้ประมาณ 12-24 ชั่วโมง (ภาชนะที่ดีในส่วนนี้น้ำจะยังอุ่นๆ อยู่ค่ะ) สิ่งที่ได้คือออกมาคือ น้ำใสๆ สีเหลืองใส (ถ้าเป็นสีอื่น เช่น สีน้ำตาล สีดำ สีตุ่นๆ น่าจะมีสารพิษจ้ะ เล็งที่ผิวเปลือกดีๆ ถ้าสีผิดปกติเช่นมีสีชมพู สีน้ำตาล หรือสีน้ำตาลแดงหรือบางครั้งมีแก๊สที่มีกลิ่นคล้ายคลอรีนหรือแอมโมเนีย แสดงว่าใช่แน่นอนเลยสารพิษที่ไม่มีในธรรมชาติแน่นอน แถมปริมาณมากด้วย ห้ามนำมาถูกตัวเราเด็ดขาด ให้ทิ้งไป ใส่หน้ากาก ใส่ถุงมือแล้วกำจัด)
น้ำใสๆ สีเหลืองสดใสนี่เรียกว่า "น้ำสกัดเปลือกมะกรูดเข้มข้น"
**น้ำมันหอมระเหยจากผิวมะกรูดไทย (Kaffir Lime, Citrus hystrix DC)
มีลักษณะใสมีสีเหลืองอ่อนๆ กลิ่นหอมสดชื่น สรรพคุณช่วยให้จิตใจสงบ ผ่อนคลาย แก้วิงเวียน คัดจมูก ลดอาการซึมเศร้า ช่วยให้อากาศสะอาดสดชื่น ป้องกันการติดเชื้อทางเดินหายใจ รักษาอาการคันผิวและหนังศีรษะและป้องกันรังแค โดยออกฤทธิ์ยับยั้งเชื้อจุลินทรีย์ เช่น เชื้อรารักษาอาการระคายเคืองและอาการหนังศรีษะอักเสบ
***อธิบายเพิ่มเติมคนชอบถามอาจารย์เอาน้ำมาสกัดน้ำมันได้อย่างไร มันจะใช่เหรอ?? ความรู้เยอะแต่ตกม้าตาย 😂😂 ในขั้นตอนนี้เป็นการใช้ความร้อนขยายช่องเก็บน้ำมันหอมระเหยที่ผิวมะกรูดที่มีปริมาณมหาศาล ขยายช่องได้สิ่งที่อยู่ในนั้นก็ออกมาสบายๆ ไม่จำเป็นต้องใช้สารเคมีเข้าไปชะ อิอิ อีกอย่างน้ำมันหอมระเหยปกติจะผ่านเข้าสู่ร่างกายทางการสูดดม การที่สามารถได้กลิ่นได้ แสดงว่าต้องผ่านเยื่อบุจมุกที่มีความชื้นสูงได้ แสดงว่าโครงสร้างของโมเลกุลนั้นมีส่วนที่ลไปกับน้ำได้ (นอกจากละลายกับน้ำมันได้ดี) แสดงว่า เราควรจะสกัดออกมาด้วยน้ำได้ อันนี้อจน.คิดเอง และทำสำเร็จแล้วจริงโดยที่ไม่ต้องใช้สารเคมี จึงได้ออกมาเป็นผลิตภัณฑ์ธรรมชาติที่ทุกคนวางใจนี่แหละค่า 😊😊***
ปล. ในขั้นตอนนี้ใครแอบถากเอาเนื้อมะกรูดไปเยอะ น้ำจะขุ่นนะจ๊ะ
(อย่ามาหลอก อจน.รู้ 555 ย้ำอย่าขี้เกียจนะ เอาแต่เปลือกเห๊อะ เดี๋ยวผิว ผมและหนังศรีษะแห้งจ้า)
5. เอาสิ่งที่ได้ทั้งหมดมาปั่นๆ ด้วยเครื่องปั่นพลังงานมหาศาล (ที่ต้องใช้เครื่องปั่นพลังมหาศาลเพราะ ของเราไม่มีการต้ม การเคี่ยว เปลือกจะไม่นิ่มเละมาก สภาพยังเก็บน้ำมันหอมระเหยได้อยู่เยอะ อยากดูโครงสร้างผิวเปลือกมะกรูดที่มีลักษณะเป็นถุงๆ ไว้เก็บน้ำมันหอมระเหยอันมหัศจรรย์พันลึกก็ดูในรูปนะคะ เป็นรูปที่ถ่ายภายใต้กล้องจุลทรรศน์ 555 มาถึงตอนนี้มีใครสนใจอยากมาเรียนเคมีธรรมชาติ (เชิงลึก) กับอจน.บ้าง 555
***ข้อควรระวัง อย่าพยายามฝืนกับเครื่องปั่นมาก เพราะมันเจ๊งง่ายมากค่ะ ของที่บ้านตายไปแล้ว 1 ยี่ห้อดังซะด้วย ขาดทุนตลอดๆ 😫😫
สามารถเอาน้ำต้มสะอาด (ที่เย็นแล้ว) เติมเพิ่มลงไปได้ เพื่อถนอมเครื่องปั่น 555 (เครื่องปั่นราคาแพงกว่าแชมพูมาก)
6. ปั่นเสร็จแล้วในขั้นตอนนี้สิ่งที่ได้คือ **น้ำสกัดปั่นเปลือกมะกรูด** สามารถใช้สระผมหมักผมได้ ไม่มีฟอง ไม่ต้องใช้แชมพูสระก่อนและครีมนวดผมตาม ผมจะนิ่มและหอมมาก รังแคหาบรังควาน 555 และใช้ขัดผิวในตอนกลางคืนเพิ่มความขาวใสของผิวได้ทันที สูตรอจน.นักเคมีสีเขียวค่า **การเก็บรักษา ถ้าอยากเก็บไว้ได้นานให้เก็บในตู้เย็นจ้า (ได้สักครึ่งปีอยู่น้า ก่อนใช้ไม่อยากเย็นหนังศรีษะก็เอามาตั้งข้างนอกให้หายเย็นก่อนนะคะ 55 ทิ้งไว้ที่อุณหภูมิห้องก็สักเดือนได้อยู่ ขึ้นอยู่กับความเข้มข้นที่ทำค่า**

แต่วันนี้เราจะมาทำเจลอาบน้ำสระผมต่อ เพราะฉะนั้นถ้าอยากได้แบบมีตัวสครับเนื้อเปลือกให้ใช้ทั้งแบบนี้ ถ้าไม่ชอบให้ใช้ผ้าขาวบางกรองค่ะ ปริมาณที่ต้องการตามสูตรคือ สูตรใส่สครับจะต้องการตัวน้ำรวมเปลือกปั่น 800 มิลลิลิตร ส่วนน้ำสกัดกรองเอาเปลือกออก 700 มิลลิลิตร ถ้าไม่อยากได้สครับให้ใช้น้ำสกัดปั่นกรองรวม 1.5 ลิตร จะทำเจลอาบน้ำสระผมสูตรมะกรูดขมิ้นชันเข้มข้นได้ 3.5 ลิตร

ขั้นตอนที่ 2 การน้ำคั้นขมิ้นชัน
1. นำขมิ้นชั้นสดมาล้างปอกเปลือกและหั่นเป็นชิ้น (เพื่อให้ง่ายต่อการปั่น) ใช้ประมาณสัก 2-4 เหง้า
2. ปั่น (เติมน้ำเพิ่มประมาณ 1 ลิตร) และกรองเอาแต่ส่วนน้ำ
(ถ้าไม่มีขมิ้นสดให้ใช้ขมิ้นชันผงได้ แต่สดจะออกฤทธิ์ดีกว่า ผสมขมิ้นชันผง 2 ช้อนชาให้เข้ากับน้ำ 1 ลิตร ใช้ตะกร้อมือคนให้ทั่วแตกตัวดี อาจใช้เครื่องปั่นช่วยผสมก็สะดวกดีค่ะ

ขั้นตอนที่ 3 ทำเจลอาบน้ำสระผม
ส่วนผสม
1. AD25 (ตัวนี้เป็นสารกลุ่มแอมโมเนียมลอริลซัลเฟต/ammonium lauryl sulfate สมบัติเป็นสารสร้างฟอง สมบัติชะล้าง นิยมเรียกว่า "หัวเชื้อ" สบู่เหลว/เจลอาบน้ำ เป็น **หัวเชื้อทำน้ำยามีหลายตัวมากๆๆๆ สมบัติต่างกันไป สามารถหาซื้อได้ตามร้านเคมีภัณฑ์) ปริมาณ 1 กิโลกรัม
2. เกลือ (นิยมใช้เกลือแกงที่ทำให้บริสุทธิ์/โซเดียมคลอไรด์/sodium chloride ทำหน้าที่ปรับความข้นหนืดของสารลดแรงตึงผิว ทั่วไปจึงเรียกว่า "ผงข้น') ปริมาณ 1-1.2 ขีด (100-120 กรัม, 100 กรัมสำหรับสูตรไม่ใส่สครับ 120 กรัมสำหรับสูตรสครับ)
3. น้ำสกัดปั่นเปลือกมะกรูดพระเอกของเรา รวมปริมาตร 1.5 ลิตร
3. น้ำคั้นขมิ้นชัน 1 ลิตร

วิธีทำ
1. เทน้ำสกัดเปลือกมะกรูด น้ำคั้นขมิ้นชัน และเกลือกวนจนเป็นเนื้อเดียวกัน
2. เติม AD25 คนไปทางเดียวกันจนกลายเป็นเนื้อเจล
3. รอให้ฟองยุบตัวแล้วบรรจุขวด หรือนำไปใช้ได้ทันที (ใช้เองไม่ต้องกังวลต่อปริมาณบรรจุ)
**สูตรก็เท่านี้เอง 555 ^ ^

หมายเหตุ สูตรนี้ไม่ใส่กันเสียอยู่ได้ประมาณ 2-3 เดือนที่อุณหภูมิห้อง ถ้าแช่ตู้เย็นก็อยู่ได้เกินครึ่งปีอยู่ค่ะ

อย่าลืมช่วยกดไลค์ กดเลิฟกดแชร์
สาระดีๆ จากเพจ #นักเคมีหัวใจสีเขียว
เพจดีๆ แบ่งปันความรู้สู่การพึ่งพาตนเองตามแนวทางหลักปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียง
**คุณหรือใครก็เป็นนักเคมีหัวใจสีเขียวได้
มาสร้างสังคมแห่งการพึ่งพาตนเองและการแบ่งปันกันด้วยนะคะ 💚💚

#นักเคมีหัวใจสีเขียว บริการวิชาการสู่สังคม เผยแพร่องค์ความรู้การทำผลิตภัณฑ์เคมีธรรมชาติให้ประชาชน
รักษาภูมิปัญญาบรรพบุรุษ เพิ่มประสิทธิภาพการนำไปใช้ด้วยองค์ความรู้ทางวิทยาศาสตร์จ้า

ใครอยากเผยแพร่ต่อก็ได้เลยนะคะ แต่ทำความรู้จักคนคิดนิดนึง อจน.เอง ผศ. ดร.ชมพูนุท วรากุลวิทย์ ภาควิชาเคมี คณะวิทยาศาสตร์ ม.เกษตรศาสตร์

ทีมา   เพจ Facebook  นักเคมีหัวใจสีเขียว