มองภาพแห่งความสำเร็จที่ชัดเจน เดินแต่ละก้าวอย่างมีสติ ด้วยใจที่สงบ
<<
กรกฏาคม 2553
 123
45678910
11121314151617
18192021222324
25262728293031
23 กรกฏาคม 2553

สูตรลงทุน สไตล์อาจารย์ทรงเดช

เพราะอาจารย์ทรงเดชให้ความสำคัญกับผลตอบแทนจากการลงทุน ดังนั้น อาจารย์จะจัดสรรเงินออมเอาไว้ในพันธบัตร หรือตราสารหนี้ แทนการฝากเงินในธนาคารพาณิชย์ และกันเงินอีกส่วนหนึ่งลงทุนในหุ้น จะเน้นไปที่หุ้นที่จ่ายปันผลดี หรือมีพื้นฐานที่น่าสนใจ ซึ่งจากการติดตามข้อมูล และตรวจสอบปัจจัยพื้นฐานของบริษัท อาจารย์ทรงเดช แบ่งหุ้นลงทุนเป็น 2 กลุ่ม กลุ่มแรกเป็นกลุ่มเป้าหมาย (Target List) เลือกจังหวะลงทุน ส่วนกลุ่มที่สอง รอจังหวะเวลาลงทุน (Watch List)

โดยหุ้นในกลุ่ม Target List จะมีอยู่ 15 ตัว ประกอบด้วย บมจ.เซ็นทรัลพัฒนา (CPN) บมจ.ทางด่วนกรุงเทพ (BECL) บมจ.ผลิตไฟฟ้า (EGCOMP) บมจ.อะโรเมติกส์ ประเทศไทย (ATC) บมจ.ธนาคารกรุงเทพ (BBL) บมจ.บางกอก เชน ฮอลปิทอล (KH) บมจ.โรงกลั่นน้ำมันระยอง (RRC) บมจ.ไทยออยล์ (TOP) บมจ.การบินไทย (THAI) บมจ.แอ็ดวานซ์ อินโฟร์ เซอร์วิส (ADVANC) กองทุนอสังหาริมทรัพย์เซ็นทรัลรีเทลโกรท (CPNRF) กองทุนอสังหาริมทรัพย์สนามบินสมุย (SPF) ที่เหลือเป็นยักษ์ใหญ่ในธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ และก่อสร้าง ซึ่งอาจารย์ไม่ยอมเปิดโผรายชื่อให้ทราบ เพราะปัจจุบันถืออยู่

สำหรับกลยุทธ์ในการลงทุน อาจารย์ทรงเดช จะพิจารณาจากราคาหุ้น ภาวะอุตสาหกรรมเหล่านี้ ทั้งในและต่างประเทศ ตลอดจนข่าวคราวของบริษัทเหล่านั้น จากนั้นเลือกลงทุนเป็นรายตัวไป และปรับพอร์ตภายในหุ้น 15 ตัวนี้ หากสถานการณ์เปลี่ยนแปลง หรือได้กำไรอย่างที่พอใจ แต่หากไม่มีข่าวร้าย อาจารย์ก็พร้อมลงทุนระยะยาว 1 ปีขึ้นไป ซึ่งกลยุทธ์อันนี้ก็เหมือนกับการลงทุนของผู้จัดการกองทุนหุ้นทั่วๆ ไป

ส่วนหุ้นในกลุ่ม Watch List อาจารย์ให้ความสนใจ แต่จะลงทุนก็ต่อเมื่อข่าวร้ายที่เข้ามากระทบกับหุ้นเริ่มคลี่คลายในทางที่ดี ขึ้น ซึ่งหุ้นในกลุ่มนี้ จะประกอบไปด้วย บมจ.ปตท.(PTT) ซึ่งยังมีประเด็นคาใจเกี่ยวกับการวิจิฉัยของศาลว่า ต้องเพิกถอนออกจากตลาดหลักทรัพย์หรือเปล่า บมจ.ไอทีวี (ITV) กับ บมจ.ชิน แซทเทิ่ลไลท์ (SATTEL) ซึ่งยังมีปัญหากี่ยวกับเรื่องสัมปทาน บมจ.อสมท.(MCOT) ซึ่งมีข่าวร้ายเรื่องการปรับผังรายการใหม่ ทดแทนการย้ายวิกของผู้ดำเนินรายการข่าวหมายเลข 1 เวลานี้ บมจ.เจริญโภคภัณฑ์อาหาร (CPF) ซึ่งมีผลกระทบจากการแข็งค่าของเงินบาท บมจ.ท่าอากาศยานไทย (AOT) ที่มีข่าวคาวเรื่องทุจริตในสนามบินสุวรรณภูมิ จนทำให้ต้องหวนกลับไปใช้สนามบินดอนเมืองเป็นสนามบินนานาชาติแห่งที่สอง

แต่การลงทุนในหุ้นกลุ่ม Watch List นี้ อาจารย์ยอมรับว่า ต้องการความตื่นเต้นในการลงทุนมากกว่าผลตอบแทนจากการลงทุน ดังนั้น การลงทุนจะต้องถือยาวมากๆ กว่าจะออกตัวได้ แต่เมื่อออกตัวได้ ก็จะได้กำไรจากหุ้นกลุ่มนี้สูงมาก

นอกจากนั้น อาจารย์ทรงเดช ยังกระจายความเสี่ยงในการลงทุนไปใน SET50 Index Futures ในตลาดอนุพันธ์ด้วย เพราะสามารถทำกำไรได้ง่าย และเป็นกอบเป็นกำ หากคาดการณ์แนวโน้มการปรับตัวของดัชนีตลาดหลักทรัพย์ และดัชนี SET50 ได้ถูก และบังเอิญที่อาจารย์คาดการณ์ถูกมากกว่าผิด เพราะจากสถิติ อาจารย์ลงทุน 20 ครั้ง คาดการณ์ถูกถึง 15 ครั้ง

ซึ่งการลงทุนในตลาดอนุพันธ์นี้ อาจารย์ทรงเดช แนะนำกลยุทธ์ในการลงทุนไว้ว่า จะต้องหมั่นติดตามภาวะการลงทุนในตลาดหุ้นโลก และคำกล่าวของ 3 ผู้กำหนดนโยบายเศรษฐกิจรัฐบาลชุดนี้ ควบคู่ไปกับการอ่านข่าว และตรวจสอบข้อมูลอย่างละเอียด

จากคุณ : ดร.เพียว




Create Date : 23 กรกฎาคม 2553
Last Update : 23 กรกฎาคม 2553 9:20:44 น. 0 comments
Counter : 807 Pageviews.  

ชื่อ :
Comment :
  *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิกช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 

นายแว่นธรรมดา
Location :
กรุงเทพฯ Thailand

[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 110 คน [?]




ยินดีต้อนรับสู่บล็อกนายแว่นธรรมดา บล็อกที่รวมเอาความคิด ความฝัน ความรู้สึกของนายแว่นธรรมดา เพื่อปะติดปะต่อภาพแห่งความรู้สึกในใจของเราให้เสร็จสมบูรณ์ (ขอสงวนการนำข้อมูลในบล็อกไปใช้ครับ)
Free counters!
New Comments
[Add นายแว่นธรรมดา's blog to your web]