PTL !!!
PTL แนวรับอยู่ไหนคะ ?????
หรือไม่รับกันแล้วววว ??????
ตอนนี้ก็จะซื้อเฉลี่ยทุนทีละ 200-300 หุ้น (ไม่กล้ารับเยอะ) กลัวววววววววววววววววมากๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆ
แต่ถ้ามันถึงแนวรับจริง ก็สามารถเอาเงินออกมาจาก kest ได้ ตอนนี้ฝากเงินไว้ที่ kest ค่ะ ถ้ามีหุ้นที่อยากได้ ก็จะขายมาซื้อ (เอาส่วนต่างกำไร) แต่ถ้าไม่มีก็รอเอาปันผลเลย
แต่ไม่อยากเอาเงินส่วนใหญ่มาซื้อหุ้นที่เป็นขาลงงงงงงง กลัววววววววววค่ะ
จากคุณ : pig666
...................................................................................
แสดงว่ายังรู้ไม่จริงเรื่องความเหมาะสมของราคาหุ้น ซื้อตามๆคนอื่น
ต้องดู P/E ดูงบ ดูกระแสเงินสด อ่านกำลังการผลิต ดูอนาคตธุรกิจ
แล้วก็มาดูภาวะตลาด ดูราคามันเริ่มมาจากตรงไหน ช่วงไหนชาวบ้านทั่วไปก็รู้จัก โบรกเชียร์กันซะเยอะ
ถามผมหุ้นที่มี P/E 6-7 เท่านี่ โอเคซื้อได้ เพียงแต่ว่ากำไรควรจะอยู่เท่าเดิมหรือมากขึ้นไปอย่างน้อยสามปี
ที่ THAI P/E ต่ำแต่ราคาหุ้นไม่ไปไหนเพราะไม่ตอบโจทย์บรรทัดบนของผม
ส่วน PTL ผมซื้อแล้ว 25 บาทกว่านี่ไม่แพง รอรับปันผลเน้นๆ
อย่าตกเป็นเครื่องมือตลาด Panic sell ง่ายๆ ซื้อหุ้นต้องเก๋า แน่กว่านายตลาด
จากคุณ : Bobby_GN
.......................................................................................
ผมสงสัยครับ ว่า PTL สินทรัพย์หักหนี้สิน มีค่าแค่ 6,000 กว่าล้านบาท ทำไมนักลงทุนถึงยอมซื้อหุ้นบริษัทนี้ในราคามากกว่า 20,000 ล้านบาท มันไม่แพงไปหน่อยหรือ
จากคุณ : Stockholder
........................................................................................
PTL ลงทุนเพิ่ม 2.3 พันล้านเพิ่มกำลังการผลิต หลังสิ้นธ.ค. กำไรสุทธิโตกว่า 450 เปอร์ เซนต์
บมจ. โพลีเพล็กซ์ (ประเทศไทย) ผู้ผลิตบรรจุภัณฑ์รายใหญ่ของประเทศ โชว์ผลงาน กำไรโตกว่า 450 เปอร์เซนต์ลงทุน 2,300 ล้านบาทแตกไลน์ผลิตแผ่นฟิล์ม พร้อมมั่นใจราคา แผ่นฟิล์มจะยังคงสูงต่อเนื่องไปอีกระยะหนึ่ง เหตุจากความต้องการในภาคอุตสาหกรรมต่าง ๆ พร้อมยืนยันอินเดียอบนแผ่นฟิล์มในบรรจุภัณฑ์อาหารไม่มีผลกระทบกับธุรกิจบริษัท ฯ
นาย โรฮิท กุมาร์ วาฮิททรา กรรมการผู้จัดการ PTL เปิดเผยว่า คณะกรรมการได้มีมติ อนุมัติการลงทุนมูลค่าประมาณ 2,300 ล้านบาท ในโครงการผลิตแผ่นฟิล์ม PET ชนิดหนา เพื่อ ตอบสนองความต้องการผลิตภัณฑ์เพื่อนำไปใช้ในอุตสาหกรรมต่าง ๆ การลงทุนในครั้งนี้จะเป็นการสร้างผลิตภัณฑ์ใหม่ ซึ่งมีความต้องการอย่างสูงใน อุตสาหกรรมต่าง ๆ เช่น อุปกรณ์ไฟฟ้า, อิเลคทรอนิกส์, แผงพลังงานแสงอาทิตย์ในอุตสาหกรรม ต่าง ๆ การลงทุนในครั้งนี้จะเป็นผลิตภัณฑ์ใหม่ที่มีการเจริญเติบโตอย่างรวดเร็ว มีการแข่ง ขันที่จำกัด เมื่อเทียบกับบรรจุภัณฑ์แบบดั้งเดิม อีกทั้งแผ่นฟิล์มชนิดหนาสามารถสร้างส่วนต่าง กำไรได้สูงกว่าและเป็นธุรกิจที่มีความมั่นคงมากกว่า ซึ่งจะช่วยสร้างกำไรให้บริษัท ฯ ได้ในระยะ ยาว นาย วาฮิททรา กล่าว PTL เติบโตอย่างแข็งแกร่งตามการเติบโตของอุตสาหกรรมและราคาที่เพิ่มสูงขึ้นของ ผลิตภัณฑ์ เมื่อต้นสัปดาห์ที่ผ่านมา บริษัทได้รายงานผลประกอบการไตรมาส 3 (สิ้นสุด 31 ธันวาคม 2553) ซึ่งมีกำไรสุทธิสูงกว่า 452.9% มาอยู่ที่ 1,436.5 ล้านบาท ซึ่งเป็นการเติบโต อย่างมีนัยสำคัญจาก 259.81 ล้านบาท ในช่วงเวลาเดียวกันของปีก่อน รายได้จากการขายเพิ่มขึ้นจาก 1,803.5 ล้านบาท มาอยู่ที่ 3,186.4 ล้านบาท นับเป็น การเพิ่มขึ้น 76.7 เปอร์เซนต์ หรือ 1,382.9 ล้านบาท โดยมีสาเหตุหลักมาจากการเพิ่มขึ้นของ ราคาขาย ตามสถานการณืในตลาด และปริมาณการขายที่เพิ่มขึ้น PTL มีกำไรสุทธิจากใน 3 ไตรมาสแรก (สิ้นสุด 31 ธันวาคม 2553) เท่ากับ 2,611 ล้านบาท หรือคิดเป็น กำไรต่อหุ้น (EPS) อยู่ที่ 3.26 บาท เพิ่มขึ้น จาก 691.31 ล้านบาท หรือ 0.86 บาท ต่อหุ้น ในช่วงเวลาเดียวกันของปีก่อน เรายังคงมั่นใจว่า อุปทานในตลาดสำหรับแผ่นฟิล์ม PET ชนิดบางจะยังมีความตึงตัว อยู่มาก และจะเป็นส่วนสำคัญที่ทำให้ราคาสินค้ายังคงอยู่ในระดับที่น่าพอใจต่อไปอีก 2-3 ไตร มาส นายวาฮิททรา กล่าว นอกจากนี้แล้วเขายังกล่าวเพิ่มเติมอีกว่า ราคาวัตถุดิบเป็นอีกปัจจัย หนึ่งที่ท้าทาย ในไตรมาสปัจจุบันราคาวัตถุดิบค่อนข้างสูงและผันผวน ภายใต้ความคาดหวังที่จะมี กำลังการผลิตใหม่ๆ ที่เพิ่มมากขึ้นในปี 2554 จากทวีปเอเชีย นายวาฮิททรา เปิดเผยต่อไปอีกว่า การสร้างความหลากหลายให้กับผลิตภัณฑ์ ทั้งแผ่น ฟิล์ม PET ชนิดบาง และชนิดหนา จะช่วยให้ PTL สามารถตอบสนองความต้องการ สำหรับโรง งานผลิตอุปกรณ์ไฟฟ้าและอีเล็กทรอนิกส์ที่เติบโตสูงขึ้นเรื่อย โดยโครงการนี้มีกำหนดแล้วเสร็จ ใน 2 ปี การตัดสินใจในลงทุนในอุตสากรรม แผ่นฟิล์ม PET ชนิดหนา เป็นส่วนหนึ่งของ กลยุทธ์จัดเป็นกลยุทธ์วางตำแหน่งทางการตลาดใหม่ในระยะยาว ที่จะเพิ่มความหลากหลายให้กับ ผลิตภัณฑ์ เพื่อกระจายความเสี่ยงโดยเปลี่ยนจากการเน้นเซ็กเมนต์บรรจุภัณฑ์ที่มีการแข่งขันสูง เป็นหลักไปสู่เซ็กเมนต์อุตสาหกรรม และเป็นการเสริมให้โพลีเพล็กซ์เป็นที่รู้จักมากขึ้นในกลุ่ม ประเทศเอเซียตะวันออกเฉียงเหนือ เช่น ญี่ปุ่น เกาหลี และไต้หวัน ซึ่งเป็นตลาดใหญ่สำหรับแผ่น ฟิล์มชนิดหนาแบบดั้งเดิม เขากล่าว นายวาฮิททรา ยังกล่าวเพิ่มเติมอีกว่า 2-3 ปีทีผ่านมา บริษัท ฯ ได้ทำการลงทุนใน ผลิตภัณฑ์ใหม่ ๆ เช่น ฟิล์มอัดขึ้นรูป Extrusion Film, ฟิล์ม CPP และยังวางแผนที่จะเพิ่ม สายการผลิตใหม่สำหรับ ฟิล์มซิลิกอน ในปลายปีนี้ด้วย ทำให้สัดส่วนของสินค้าที่มีการเพิ่มมูลค่า จะมีจำนวนเพิ่มสูงขึ้นต่อไป นายวาฮิททรา กล่าวว่าเงินลงทุน 2,300 ล้านบาท ซึ่งส่วนหนึ่งจะมาจากกระแสเงินสด ของบริษัท ฯ และบางส่วนจะมาจากเงินกู้ แสดงให้เห็นก้วย่างที่มั่นคงของธุรกิจ ด้วยมาร์จิ้นที่สูง ขึ้น บริษัท ฯ คาดหวังที่จะเจาะตลาดในประเทศ ญี่ปุ่น, เกาหลีใต้ และ ไต้หวัน ที่มีการใช้ แผ่นฟิล์มชนิดบางในการผลิต จอ LCD/LED TV และทัชสกรีน สำหรับกรณีที่รัฐบาลอินเดียออกกฎห้ามใช้แผ่นพลาสติกฟิล์มในอุตสาหกรรมบรรจุ ภัณฑ์อาหาร นายวาฮิททรา ให้ความเห็นว่า ประกาศดังกล่าว ไม่ใช่เป็นการจำกัดการใช้สำหรับ บรรจุภัฑ์ในอาหารทุกชนิด แต่เป็นการบังคับใช้กับใบยาสูบแห้งแต่งกลิ่นรสสำหรับเคี้ยว (chewing tobacco) และผลิตภัณฑ์ที่เกี่ยวข้องซึ่งเป็นอันตรายต่อร่างกาย เขายืนยันว่า บริษัท ฯ ไม่ได้รับผลกระทบจากฐานการผลิตทั้งในประเทศไทย และตุรกี โดยเห็นว่าการเติบโตอย่างต่อเนื่องและประโยชน์ที่หลากหลายของ PET ที่จะยังคงมีพัฒนาการ ต่อไปอีก จะช่วยทดแทนการลดลงของความต้องการในผลิตภัณฑ์ชนิดนี้จากการดำเนินการดัง กล่าว
เรียบเรียง โดย พรทิพย์ พลสิทธิ์ อนุมัติ โดย พิมพ์รภัส ศิริไพรวัน อีเมล์แสดงความคิดเห็น commentnews@efinancethai.com
Create Date : 16 กุมภาพันธ์ 2554 |
Last Update : 16 กุมภาพันธ์ 2554 16:27:35 น. |
|
0 comments
|
Counter : 847 Pageviews. |
|
|
|
|
| |