YOU are not afraid. You think YOU are afraid. ~Shantimayi~

วันที่ 5 มองอีกด้านของฤาษีเกศ : ขึ้นไปหาอีกสายของแม่





Mooji is the opportunity to meet true love

สาธุ (นักบวช) คนอื่นๆ ที่เห็นตามทางเนี่ย ของปลอมทั้งนั้นแหละ


คือคำที่คุณป้าชาวเยอรมันพูดขึ้นระหว่างมื้ออาหารวันนี้ ณ Zostel ฤาษีเกศ

จริงๆ ป้าพูดตอนกินข้าวเย็น แต่สิ่งที่ป้าพูดมันสัมพันธ์กับสิ่งที่อเล็กซ์เล่าให้เราฟังตั้งแต่เช้า

Mooji คือครูทางจิตวิญญาณในยุคนี้ ใครสนใจอยากสืบค้นเข้าไปในตัวตน ลองหาใน youtube นะคะ

หรือใครจะมาฤาษีเกศตอนนี้ จะได้ฟังสดๆ พบกับ Mooji ตัวจริงเลยล่ะ


คือ หลังจากที่อเล็กซ์ไปผูกมิตรกับสาธุคนหนึ่งที่พบข้างทาง และชวนกันเดินเท้าเข้าป่ากันเมื่อวานนี้

วันนี้เขามาบอกว่าหลังจากที่เขาตามสาธุคนนี้ไปจนถึงที่ คือเดินกันไป 4 ชั่วโมงแล้ว

สาธุคนนี้ก็หันมาเก็บตังค์ 500 รูปี *_* อเล็กซ์ก็อึ้งสิคะ แล้วจ่ายไป 300 รูปี 

เสียความรู้สึกเล็กน้อยแล้วปล่อยไป 

อย่างที่บอก .. อยู่ที่นี่มันเหนื่อยตรงที่มันยากที่จะบอกว่าอันไหนของจริง หรือของปลอม

จนกว่า .. จะโดนหลอก


แต่เราว่านะ มันคือความรู้สึกว่าโดนหลอกที่เจ็บใจกว่าตังค์ที่ต้องออกจากกระเป๋า

มันคือเหนื่อยที่มีความรู้สึกดีให้ แล้วต้องเสียมันไป คือเสียเส้น

แต่ถ้ามองว่า เขาคือเทวดามาสร้างโอกาสให้เราได้มีโอกาส

ทดสอบความสามารถในการสละของตนเอง ความเจ็บใจก็ค่อยๆ หายไป 

คิดได้นะ แต่ทำไม่ได้ตลอดหรอก


วันนี้เราเริ่มสั่งอาหารที่ Hostel เป็น คือ กาแฟดำต้องบอกว่าไม่ใส่น้ำตาล

สั่งนมร้อนก็ต้องบอกว่าไม่ใส่น้ำตาลนะ มีกล้วยซื้อข้างทาง สั่งมะละกอมาเพิ่มหน่อยนึง

แล้วก็มูสลี่ Organic ชั้นดีจากร้านในตลาด ร้านนี้ฉลาดนะ รู้ว่าคนต่างชาติต้องการอะไร

คือมีแปะราคาบอกทุกอย่าง เป็น fixed price ไม่ต้องต่อ ไม่ต้องโก่งราคากัน

แล้วทำ package ให้ดูสะอาดสะอ้าน แต่คงความเป็นธรรมชาติอันเป็นเอกลักษณ์ของอินเดียไว้

ร้านประจำเราเลยแหละ แล้วมูสลี่ก็อร่อยมากจริงๆ

อาหารเช้าวันนี้อร่อยมากๆ 


เช้านี้ที่ Hostel คุยกัน ว่าจะชวนกันออกไปเที่ยว The Beatles Ashram 

แต่งานนี้เราต้องขอบาย ไม่ใช่ไม่อยากไป แต่มีนัดเรียน Table จริงๆ จะเลื่อนครูก็ได้

แต่เมื่อจัดลำดับความสำคัญคร่าวๆ ในใจแล้ว Tabla สำคัญกว่า อิอิ

เราออกจาก Hostel ค่อนข้างเร็ววันนี้ เพราะต้องไปรับ Katia ผู้จะมาเป็นนักเรียนใหม่ของครูเรา

Katia พักที่อาศรมชื่อ Kriya Yoga Ashram ซึ่งไม่ไกลจากที่พักเรานัก

เราไปถึงก่อนเวลานัดจึงเข้าไปดูบริเวณข้างใน ที่นี่ค่าพักคืนละ 500 รูปี พักห้องละ 1-2 คน

ที่น่าสนใจคือ ที่นี่ต้องรักษาความเงียบ และความสุภาพของกายและใจแบบเดียวกับการไปอยู่วัด

ข้างในเงียบและสะอาดมาก ถือว่ามากๆ ด้วย ถ้าเทียบกับความวุ่นวายและสกปรกภายนอก

ที่นี่เน้นนั่งสมาธิ มีห้องให้นั่งสมาธิที่เงียบมาก เข้าไปดู มืด สงัด 

ตอนเย็นๆ มีชั่วโมงนั่งสมาธิ คนนอกเข้าไปนั่งด้วยก็ได้ เดี๋ยวพรุ่งนี้จะจัดไป

เย็นวันนี้ไม่ได้แล้ว เพราะมีนัดกับผึ้งและหนุ่มอเล็กซ์ไปน้ำตกกัน


ทางเข้า Kriya Yoga Ashram



ร้านนี้ที่บอกไชไม่อร่อย กาแฟไม่ได้เรื่อง แต่ก็ยังมานะ มันก็ใช้ได้แหละ Divine Cafe



ร้านนี้บอกว่าตัวเองเป็นร Best Lassi (โยเกิร์ตแบบอินเดียๆ) เลยจัด Mango Lassi มาซะหน่อย อร่อยมากค่ะ แต่มากที่สุดรึเปล่าก็คงแล้วแต่คนล่ะ


สามโมงหลังจากรวมพลกันได้สำเร็จที่ร้าน Namaste Cafe ใกล้ๆ สะพานลักษณมันจุฬาแล้ว

เราสามคนก็พร้อมออกเดินทางสู่น้ำตก ที่จนป่านนี้ยังไม่รู้ชื่อ รู้เมื่อไหร่จะรีบมาบอกเลย

ตอนนี้รู้แต่ลำน้ำเล็กๆ นี้ จะไหลงมารวมกับแม่น้ำคงคาด้วย

ต้นทางมีร้านเบเกอรี่ที่อร่อยมาก ไม่ใช่แค่รสชาติอร่อย แต่คือคุณภาพเต็มเปี่ยมมากๆ 

พรุ่งนี้คงได้ไปกินอีก :P


ร้านเบเกอรี่ที่ฤาษีเกศนี้ แข่งกันออร์แกนิก แข่งกันเน้นคุณภาพ ผู้ได้ประโยชน์คือผู้บริโภคนี่แหละค่ะ เค้กชิ้นหนึ่งก็ราคาไม่เจ็บปวด อยู่ที่ 80-90 รูปี ตกราวๆ 50 กว่าบาท เทียบกับคุณภาพแล้ว สำหรับเราถือว่าคุ้มค่ะ

เราเดินย้อนขึ้นทางต้นน้ำ รถน้อยลงเรื่อยๆ เสียงแตรห่างไปเรื่อยๆ แต่ก็ไม่หมดไปเสียทีเดียว

แม่น้ำคงคาสวยทีเดียว ยิ่งเงียบ ยิ่งสวย ทางเส้นนี้มีลิงมากกว่ารถ

แต่รถแต่ละคันก็วิ่งเร็วกันสุดยอด ต้องเดินอย่างระมัดระวัง เพราะเผลอเมื่อไหร่

ชมนก .. เอี้ยด! แป๊นนนนนน ชมไม้ .. เผละ! (เสียงเหยียบขี้ควาย)

ต้องเดินแบบเจริญสติตลอดเวลาเลยทีเดียว





ทางที่เดินไป


กว่าชั่วโมงที่เดินหันหลังให้สะพานรามจุฬาและสะพานลักษณมันจุฬา ราวๆ 4 กิโลเมตร

เราก็มาถึงอีกสะพานที่ไม่รู้ว่ามันชื่อว่าอะไร รู้แต่แม่น้ำคงคาตรงนี้สวยมาก และมีพลังมาก

เราเดินขึ้นเขาหาน้ำตก อีกครั้งที่นึกขอบคุณ Docmartens ของเรา 

ทางขึ้นน้ำตกไม่ยากมากนัก และไม่ใช่ทางที่นักท่องเที่ยวทั่วๆ ไปจะรู้จักกันสักเท่าไหร่

เลยเงียบเชียบพอสมควร มีแค่ 3-4 กลุ่มเล็กๆ เท่านั้นที่เราเจอ

เป็นเส้นทาง Trekking แบบง่ายๆ ที่ต้องขอบคุณอเล็กซ์ที่พามา





ชอบ texture ต้นไม้ต้นนี้มาก อยากรู้ว่าผ่านอะไรมาถึงมีลำต้นที่บิดเป็นเกลียวอย่างนี้


แค่ไม่ถึงสิบนาทีเราก็มาถึงที่หมาย คือน้ำตกชั้นต้นๆ ที่ปลอดภัยพอที่เราจะเข้าไป

ชั้นสูงๆ นั้น ยังไม่กล้าไปกัน อาจจะต้องเตรียมตัวกันมามากกว่านี้ แต่กระนั้น ณ จุดนี้ก็สวยเพียงพอแล้ว 

มีนักบวช (ไม่รู้จริงรึเปล่า) นั่งอยู่ กับนักท่องเที่ยวอีก 2-3 คน

เราตั้งจิตขออนุญาตแล้วจุ่มมือลงในน้ำ น้ำเย็นเยียบอย่างที่คาด 

สักพักก็ถอดรองเท้าแล้วลงไปยืน น้ำสูงราวเข่า เราเดินเข้าหาบริเวณที่น้ำตกลงมา

รู้สึกถึงน้ำหนักของน้ำ ชุ่มเย็น ชุ่มชื่น แล้วถอยออกไปนั่งโขดหิน

คุยกับอเล็กซ์มากมายหลายเรื่อง ในขณะที่ผึ้งถอยไปนั่งเงียบๆ ที่โขดหิน

เรากับหนุ่มอเมริกันอายุ 28 คนนี้ มีเรื่องคิดตรงกันหลายเรื่อง เป็นช่วงเวลาที่ดีทีเดียว




ชอบดูลายใบไม้ 


















มุมนี้เหมือนรูปถ่ายเลย เอ๊ะ ก็รูปถ่ายนี่


ดูเวลาอีกที 5 โมงกว่าแล้ว เราพากันเดินออก กลับมาข้ามสะพานที่ไม่รู้จักชื่อ

แม่น้ำคงคาที่เรามองจากกลางสะพานนี้ คือลำน้ำเดียวกับแม่น้ำคงคาในเมือง

แต่ ณ จุดนี้ แม่น้ำคงคาดูยิ่งใหญ่ และมีพลังมากกว่าหลายเท่าตัว 

น้ำไหลเชี่ยว โขดหินใหญ่ริมน้ำ ใหญ่โตแม้มองจากระยะไกล ถ้าเดินเข้าไปใกล้ๆ เราคงตัวเล็กนิดเดียว

บริเวณนี้ไม่ถึงกับร้างไร้ผู้คน แต่พลังงานของสังคมมนุษย์ไม่อาจกลบพลังงานแห่งแม่น้ำได้

ถ้าไม่ติดว่าฟ้าเริ่มมืด เราคงอยากใช้เวลาอยู่ตรงนั้นอีกพักใหญ่ แต่พระอาทิตย์เริ่มลับขอบฟ้าแล้ว 

พวกเราจ้ำอ้าวกลับที่พัก 4 กิโลเมตร แต่กระนั้นก็ยังไม่ทันฟ้ามืดสนิทอยู่ดี 

การเดินบนถนนในอินเดียนี้เสียวสันหลังอยู่ตลอดเวลา 

อเล็กซ์ก็เป็นอะไรเนี่ย ชอบไปเดินกลางถนน ต้องลากเข้ามาแบบ เดินชิดในหน่อยเพ่





นี่ไงชื่อสะพาน อ่านว่าไงล่ะ








ลิงช่างไฟ





เมื่อเห็นป้าย Zostel อยู่ด้านหน้า ความรู้สึกในใจเราตอนนั้นคือความโล่งใจ ถึงบ้านเสียที 

แต่ภาพแม่น้ำคงคาที่ห่างจากตัวเมืองออกไปนั้นยังคงไหลช้าๆ อยู่ในใจ ดีใจที่ได้ไปเห็น

ขอบคุณอะไรสักอย่าง :)




ป.ล.วันนี้อาหารอร่อยอีกแล้ว

กินมังสวิรัติล้วนมาเดือนครึ่งแล้ว และคงกินต่อไปได้อีกสักพักเลยแหละ

ฤาษีเกศเป็นเมืองมังสวิรัติ 100% เบาใจ สบายตัว :)



กลางสะพาน 

ที่ผู้คนแทบไม่มี 

พลังของแม่คงคา 

ปะทะขึ้นมาถึงคนที่ยืนบนสะพาน





 

Create Date : 09 มีนาคม 2559
3 comments
Last Update : 5 กันยายน 2559 23:41:44 น.
Counter : 813 Pageviews.

 

น้ำตก ชื่อ Neer Garh น่ะ
เคยแว้นไปหนนึง :)

 

โดย: กาบริเอล 9 มีนาคม 2559 23:07:01 น.  

 

เจอแล้วตัวจริง ขอบคุณคุณกาบริเอลค่ะ

 

โดย: gluhp 10 มีนาคม 2559 10:44:53 น.  

 

ฤาษีเกศเป็นเมืองมังสวิรัติ 100%


^_____^ อ่านสนุกเบยยย ขอบคุณคับ

 

โดย: ลมหายใจที่เหลืออยู่ IP: 27.145.226.65 1 เมษายน 2559 19:48:23 น.  

ชื่อ :
Comment :
  *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 


gluhp
Location :
กรุงเทพ Thailand

[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 16 คน [?]




Here...
I'm on the rooftop

Between...
pavement and stars.

Here's...
hardly no day
nor hardly no night

There're things...
half in shadow
and half way in light

It's where...
I gather my thoughts
and grow my dreams

which...
are scattered
all around

In my words,
my songs,
my dance.

คน นั่งจ้องชีวิต
Group Blog
 
 
มีนาคม 2559
 
 12345
6789101112
13141516171819
20212223242526
2728293031 
 
9 มีนาคม 2559
 
All Blogs
 
Friends' blogs
[Add gluhp's blog to your web]
Links
 

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.