YOU are not afraid. You think YOU are afraid. ~Shantimayi~
วันที่ 13 ฤาษีเกศ กว่าจะได้ก้าวเข้าข้างใน





เผลอแปบเดียว ก็ใกล้จะถึงเวลา

ที่ต้องกลับเข้าสู่โลกความเป็นจริงแล้วสินะ

ไม่รู้ว่าที่ฤาษีเกศนี่มันไม่จริง

หรือมันจริงเกินไป

ที่รู้แน่ๆ คือ มันไม่เหมือนโลกข้างนอกแน่ๆ


เช้านี้เราเกิดอยากจะอยู่ในอารมณ์เงียบๆ

ไม่ได้อยากจะไปน้ำตก หรือไปทำอะไร

ความตื่นเต้นที่ได้มาฤาษีเกศจางลงแล้ว

ได้เวลาเดินทางเข้าสู่ด้านในสินะ

เลยออกจาก Hostel แต่เช้าตรู่

นักท่องเที่ยวยังไม่ตื่น

ม้า วัว หมา ลิงยังครองเมือง

มุ่งหน้าไปยังริมแม่น้ำคงคา

ข้างๆ สะพานลักษมันจุฬา










ปีนไปนั่งบนหินก้อนใหญ่ริมน้ำ

เพื่อฝึกปรานายามะและนั่งสมาธิ

ลมเย็นมาก เสื้อที่ใส่มาบางไปนิด

ทำให้ไม่ค่อยมีสมาธิเท่าไหร่

หันไปหันมาเจออินเดียร่างใหญ่ฝึกชี่กงอยู่

แปลกดี ไม่เคยเห็นคนอินเดียฝึกชี่กง


เรานั่งต้านลมอยู่อย่างนั้น

หนาวแบบพอทนได้

ดีใจมากเมื่อพระอาทิตย์ขึ้น

แสงอุ่นอาบไปทั่วบริเวณ 

ตายังไม่ลืมหรอก

แต่รู้สึกชัดถึงไออุ่น

เลียทั่วใบหน้า ทั่วร่างกาย

ดีใจจนน้ำตาแทบไหล

ไม่ได้เว่อร์ รู้สึกแบบนั้นจริงๆ

มีเสียงสวดมนต์จากใครบางคน

ดังมาจากไกลๆ ริมน้ำอีกฝั่ง

เหมือนใจมันนุ่มจนเสียงนั้นทะลุถึง

จากเมื่อกี้ที่เต็มอยู่ข้างใน

เสียงสวดนั้นทำเอาน้ำตาล้นออกมา

ยังไม่ยอมลืมตา คงอาบแดด 

อาบเสียงสวดมนต์อยู่อย่างนั้น


รอจนควาวมรู้สึกนั้นจากไป

จึงลุกเดิน เอ้ย ปีนกลับออกมา

เมื่อผ่านคนที่ฝึกชี่กงอยู่เมื่อกี้

ตอนนี้ผึกโยคะอยู่บน mat

ลังเลว่าควรถามเขาไหม

เพราะใจอยากฝึกชี่กงมานาน

ตั้งแต่ไปทำงานที่สิงคโปร์นั่นเลย

แต่ยังไม่เจอครูเสียที

ยังไม่ตัดสินใจ เขาก็ทักเราขึ้นมาก่อน

“นมัสเต What is your good name?”

เป็นการถามชื่อแบบอินเดียนสไตล์

“มีมี่ย์” เราไม่ได้ถามเขากลับว่าเขาชื่ออะไร

เขามองหน้าเราแล้วพยักหน้า

ตัดสินใจ ณ บัดนั้น

“เมื่อกี้คุณฝึกชี่กงใช่ไหม”

“ใช่”

“คุณสอนไหม ฉันหาครูอยู่”

“คุณหาครูอยู่?”

“ใช่”

“ผมชื่อ บัลรัม

พรุ่งนี้มาเจอผมที่นี่ 8 โมงเช้า

ผมจะมาฝึกที่นี่”

“คุณคิดค่าสอนเท่าไหร่”

ปกติไม่ค่อยกล้าถามหรอก

แต่ประสบการณ์สอนว่า

เรื่องค่าใช้จ่ายต้องเอาให้เคลียร์

“400 รูปี”

“เข้าใจแล้วค่ะ พรุ่งนี้เจอกันค่ะ

ขอบคุณนะคะ”

“นมัสเต”


ผละมาหาข้าวเช้ากิน 

สายตาไปเห็น poster ประชาสัมพันธ์คลาสชี่กง

หน้าของครูบัลรัมอยู่บนนั้น

แปลกที่ .. เห็นมาหลายรอบแล้ว poster นี้

แต่ไม่เคยคิดจะติดต่อไป

ฤาษีเกศเป็นเมืองเล็ก 

ครูเลยเดินมาหาเอง

เป็นเพราะแม่คงคาจัดให้อีกรึเปล่าคราวนี้

เป็นเพราะวันนี้นึกอยากมานั่งมองแม่น้ำ

แล้วเลยได้เจอครู แต่ดีไม่ดียังไม่รู้

ยังไม่รู้แผนการของแม่น้ำคงคา


วันนี้จะลองไป Satsang อีกที่หนึ่ง

กับ Shantimayi สันติมายี

มีคนมาบอกว่าผู้หญิงคนนี้น่าสนใจมาก

ขนาดอเล็กซ์ซึ่งเป็นแฟนตัวจริงของ Mooji

ยังบอกว่าคนนี้น่าสนใจกว่า

เราเลย โอเค ไปด้วย


ห้อง Satsang ของสันติมายีเล็กกว่ามาก

ดูแล้วเป็นกันเองกว่าของ Mooji

ผู้ดูแลหน้าตาเหมือนรูปพระเยซูก็ดูใจดี

ต่างจากของ Mooji มาก

เพลงที่เล่นฟังแล้วเพราะขาดใจ

อาจเพราะโดนกระตุกมาตั้งแต่ริมน้ำ

ไม่นานสันติมายีเดินเข้ามา 

นางเป็นหญิงวัยกลางคน

ค่อนไปทางสูงวัยหน่อยๆ

ใส่แว่นตากรอบดำ ดูใจดี


“ผมเต็มไปด้วยความโกรธ”

หนุ่มอิสราเอลพูดขึ้น

“โกรธอะไร คุณต้องรู้ก่อนว่า

ความโกรธนั้นมุ่งไปที่ใด”

“ผมโกรธโลก”

สันติมายีบอกว่า

“เราหวังจะเห็นโลก

อย่างที่เราอยากเห็นใช่หรือไม่”

หนุ่มอิสราเอลพยักหน้า

“ปล่อยมันสิ ทำได้ไหม

ถ้าไม่ได้ ฉันมีมันตราจะให้

จะเอาไหม”

หนุ่มอิสราเอลไม่ตอบ

เขาเงียบ สันติมายีเลยบอกว่า

“ถ้าเธอยังไม่เอา ฉันก็ยังไม่ให้”


คำถามคำตอบเคลื่อนไปที่คนต่อไป

และต่อไป

ก่อนจะจบลงที่เพลงที่เพราะขาดใจอีกรอบ

ไม่รู้จัก แต่ร้องได้เฉยเลย

จบ Satsang แล้ว 

เรายังวนอยู่กับคำถามเรื่องความโกรธ

ของหนุ่มอิสราเอลคนนั้นอยู่

พรุ่งนี้ต้องกลับมาใหม่

ไม่ช่เพราะฟังสันติมายีรู้เรื่อง

แต่เพราะในกลุ่มนี้ 

มีคนที่มีคำถามเดียวกับเรา

เราน่าจะอยู่ถูกที่แล้ว

ความแปลกแยกบางอย่างหายไป



ไม่มีหนังสืออะไรจะซื้อ เปิดดูแล้ววาง ก็แปลกดี ปกติซื้อเอาๆ



วัวที่มองวันนี้


อารมณ์เงียบๆ ยังครองอารมณ์ต่อไป

เราใช้เวลาช่วงบ่ายเดินเล่น 

แล้วไปนั่งมองแม่น้ำเงียบๆ

ที่ Ganga Beach Cafe

มีกระดาษวาดเขียนวางอยู่บนโต๊ะ

เราหยิบมาวาด

การวาดรูปเหมือนการทำสมาธิ

วาดโดยไม่กำหนดทิศทาง

แต่มองทิศทางที่มันไป แล้วตามดูมัน

เสียงเพลงเพราะ น่าขยับตัว

เราขยับตัวตาม ไม่รู้จักใคร

ไม่มีใครรู้จักเรา

สุข ณ จุดนั้นอยู่เต็มเปี่ยม

ไม่ต้องกังวลว่าสิ่งที่ทำนั้น

Productive หรือไม่ มีประโยชน์ยังไง

พลังงานบางอย่างไหลทั่วร่าง

เลยไม่ได้คิด เพราะไม่มีช่องว่างให้คิด



ตั้งใจมาวาดรูป แต่มีชาแถมมาด้วย แล้วต่อมามีแกงเพิ่มมาอีกหนึ่งถ้วย ^^"


กว่าจะวาดเสร็จ 

ปาเข้าไปสองชั่วโมง ฟ้าใกล้มืด 

ได้รับข้อความแนะนำเส้นทางจากพี่เล็ก

ตั้งใจไว้ว่าจะเดินกลับไปที่แม่น้ำคงคา

ไปนั่งเงียบๆ อีกรอบ





“มีมี่ย์” เสียงเรียกดังมาจากบันไดริมน้ำ

เราหันไป เจอครูบัลรัมอีกครั้ง

นั่งคุยกันอยู่พักหนึ่ง 

ครูเห็นรูปที่เราเพิ่งวาด

ครูบอก ครูเห็นพลังงานในนั้น

เหมือนชี่ ที่เราจะคุยกันพรุ่งนี้

ครูชวนคุยอีกหลายเรื่อง

ฟ้ามืดลงทุกที เราขอตัวกลับที่พัก 

หันหลังให้ความตั้งใจเดิม

และหันหลังให้ก้อนหินก้อนนั้น

พี่เล็กบอกว่า

ความมุ่งมั่นมักถูกทดสอบเสมอ






Create Date : 19 มีนาคม 2559
Last Update : 8 กันยายน 2559 21:58:23 น. 1 comments
Counter : 791 Pageviews.

 
ขอบคุณครับ ๆ ดีใจที่ได้กลับมาอ่านอีกครั้ง ^___^


โดย: ลมหายใจที่เหลืออยู่ IP: 27.145.226.65 วันที่: 1 เมษายน 2559 เวลา:13:42:45 น.  

ชื่อ :
Comment :
  *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 

gluhp
Location :
กรุงเทพ Thailand

[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 16 คน [?]




Here...
I'm on the rooftop

Between...
pavement and stars.

Here's...
hardly no day
nor hardly no night

There're things...
half in shadow
and half way in light

It's where...
I gather my thoughts
and grow my dreams

which...
are scattered
all around

In my words,
my songs,
my dance.

คน นั่งจ้องชีวิต
Group Blog
 
 
มีนาคม 2559
 
 12345
6789101112
13141516171819
20212223242526
2728293031 
 
19 มีนาคม 2559
 
All Blogs
 
Friends' blogs
[Add gluhp's blog to your web]
Links
 

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.