|
หนึ่งฝันหมื่นวันทิวาวาร" บทที่ 40
... บทที่ 40 ... ... ความรักแบบงง ๆ ของนายตี๋ ...
เกือบสิบปีต่อมาผมคิดถึงความหลัง ผู้คนและบ้านเรือนที่แม่กลอง จึงขับรถไปเยี่ยม ถนนหนทางสะดวกสบายทันสมัยขึ้นมาก นาเกลือยังมีอยู่ กลิ่นเค็มยังโชยมาเมื่อเข้าเขตจังหวัดสมุทรสงคราม
เส้นทางใหม่พาไปถึงถนนหน้าบ้านพ่อไสวที่ทรุดโทรมลงมาก บ้านแทบไม่เหลือเป็นบ้าน เลี้ยวซ้ายไปบ้านย่าหง่า แปลกใจที่บ้านยังอยู่ผมจอดรถหน้าบ้านพ่อแล้วเดินไปที่บ้านย่าน้ำตาเอ่อสองเบ้าตาเมื่อความหลังต่าง ๆ ทยอยผุดขึ้นในใจ ผมเหลือบตาขึ้นมองบนบ้าน..จะมีใครอยู่หรือเปล่า..
คลองที่ผมเคยเล่นน้ำ ที่ใช้ล้างปลา ที่อาเยาว์ตกปูทะเลริมคลอง ท่าน้ำที่ใช้นึ่งปลาทู..ทุกอย่างหายไปหมด ตื้นเขินกลายเป็นคูเล็ก ๆ ระบายน้ำเสียผมนั่งลงที่ตีนบันไดยกมือปิดหน้า..น้ำตาไหลออกมา
“มาหาใครหรือคะ?” เสียงหนึ่งถามขึ้น
“โอ๊ะ !” ผมตกใจ มองหญิงสาวที่เดินลงบันไดมา
“มาหาใครหรือคะ?” หญิงสาวถามซ้ำ
“ผม..” ผมลุกขี้นยืน “ที่นี่ยังคือบ้านของย่าหง่าใช่ไหมครับ” ผมตอบคำถามด้วยคำถาม
“อ้าว !” ชายหนุ่มคนหนึ่งวิ่งลงบันไดมาอีกคน “คุณ..พี่ตี๋..ใช่พี่ตี๋หรือเปล่าครับ?”
“ครับ..” ผมตอบอย่างงง ๆ มองหน้าชายหนุ่มคนนั้น “คุณคือนายวันใช่หรือเปล่า?”
“ครับ..ผมคือไอ้วันของพี่ตี๋เองครับ” วันจับมือผมเขย่าด้วยความดีใจ
“สวัสดีค่ะพี่ตี๋..” หญิงสาวกระพุ่มมือไหว้ “หนูชื่อจิ๋มเป็นลูกสาวคนโตของแม่หงวน อาสงวนลูกคนโตของย่าหง่าค่ะ”
ผมรับไหว้จิ๋มแล้วหันไปมองวัน..ชายหนุ่มอีกสองคนลงบันไดมาสมทบ
“สองคนนี้คือน้องชายของพี่จิ๋มครับ” วันโอบไหล่หนุ่มคนหนึ่ง
“แล้วอา ๆ ไม่อยู่หรือ?” ผมมองขึ้นบนบ้านอีกครั้ง
“อาโตไปอยู่บ้านเมีย อาแอ๊ดแต่งงานไปเป็นพ่อครัวอาหารไทยอยู่ที่เยอรมัน อาเยาว์เสียแล้ว อาแจ๊ดมีสามีทำสวนมะขามหวานที่เพชรบูรณ์ อาเล็กขายทอดมันอยู่ที่ตลาดคะ” จิ๋มสาธยาย
“แล้วทำไมจิ๋มกับน้อง ๆ มาอยู่ที่นี่ พ่อล่ะ?” ผมอยากถามถึงลูกของอาแอ๋วแต่ไม่กล้าถาม
“พ่อ..” จิ๋มหน้าเศร้า “พี่ตี๋รู้ข่าวที่แม่หงวนหายตัวไปจากบ้านแล้วใช่ไหม..พ่อออกตามหาแม่ทุกวัน กินเหล้าทุกวัน กลุ้มใจเรื่องแม่หายไป พวกเราก็อยู่กันตามมีตามเกิดได้เงินจากอา ๆ บ้าง ช่วยกันหาบ้าง จนวันหนึ่งเห็นข่าวชายนิรนามนั่งตายอยู่ที่สวนสาธารณะจากหนังสือพิมพ์..พ่อของจิ๋มเอง”
“โธ่..” ผมพูดอะไรไม่ออก “เมื่อพ่อแม่ตายแล้วหนูจึงชวนน้องย้ายมาอยู่ที่แม่กลองกับอา ๆ ทำมาหากินตามประสานี่แหละค่ะ”
“นั่งกันก่อนครับ” วันดันตัวผมไปนั่งบนม้ายาวข้างบันได
“แล้ววันมายุ่งอะไรกับเขาด้วยล่ะ..เป็นแฟนของจิ๋มหรือ?” ผมแกล้งถาม
“เอ่อ..” วันหลบตาผมอย่างมีพิรุธ
“ไม่ใช่แฟนของจิ๋มหรอกค่ะ..ฮะ ๆ” จิ๋มยกมือปิดปากหัวเราะ “วันเป็นแฟนของนายเก่งน้องชายของจิ๋มค่ะ”
“แฟนน้องชาย?” ผมมองวันและเก่งที่ยินติดกัน
“ที่แม่กลองก็ทันสมัยไม่แพ้กรุงเทพฯ ค่ะ” จิ๋มยิ้ม
“เอ..” ผมนึกอยากหยอกล้อวัน “เด็กชายวันของผมยังอยู่ไหมน้า..”
“ยังอยู่ครับ..” วันมองหน้าผม “ไอ้วันยังอยู่..ไอ้วันที่เคยแอบชอบพี่ตี๋คนนี้ยังอยู่ครับ”
“ทำไมถึงเพิ่งมาบอก !” ผมพูดในใจ
“คิดถึงผมหรือเปล่า?..” วันถามเหมือนรู้ความคิดในใจผม “คิดว่าทำไมผมไม่บอกชอบพี่เมื่อครั้งก่อน”..มีเสียงตุ้บดังขึ้น
“ผมคิดถึงความหลังครั้งเก่า ๆ นะ..” ผมยิ้มให้ทุกคน “ความหลังเมื่อครั้งอยู่ที่นี่”
“คิดถึงผมแน่ ๆ” วันไม่ยอมเลิก “ผมว่าตอนนั้นพี่ตี๋ก็ชอบผมเหมือนกัน ใช่ไหม?”
“วัน !” ไม่ใช่เสียงผม
“ตุ้บ..ตุ้บตั้บ..”
“โอ๊ย !!” เสียงของนายวัน
“วันช่วยดูแลเก่งและพี่น้องด้วยนะ..” ผมสรุป “อย่าทิ้งเก่งไปไหนล่ะ”
“พี่ตี๋อย่าอยู่แม่กลองนานนักก็แล้วกัน” วันพูดทีเล่นทีจริง
“ไอ้..วัน !” เก่งเหลืออด
“พี่ชอบเพิ่มศักดิ์ต่างหาก” ผมแกล้งพูดด้วยสีหน้าจริงจัง
“เพิ่มศักดิ์มีเมียแล้ว..” วันยิ้ม “พี่ตี๋จะเป็นชู้หรือ?”
“อือ..” ผมตอบส่ง ๆ
หลายเดือนต่อมา..
“ติ้งหน่อง ๆ” เสียงกระดิ่งดังขึ้น
“หือ..ใคร?” ผมถามตัวเอง..คนในบ้านผลักประตูรั้วเข้ามาได้อยู่แล้วเพราะไม่ได้ล็อค
“มีใครอยู่บ้างครับ?” เสียงพยายามไม่เหน่อดังขึ้น
“เดี๋ยวนะครับ” ผมวางกรรไกรตัดหญ้าลงบนสนาม ผมเป็นทั้งคนเฝ้าบ้าน คนสวน พ่อครัวประจำบ้าน และอีกตำแหน่งคือเฟรชชีสด ๆ ร้อน ๆ ของมหาวิทยาลัยรามคำแหง
“บ้านนี้คือบ้านของคุณตี๋ โสฬส แสงเดือน คนแม่กลองใช่ไหมครับ” ไอ้หนุ่มนอกรั้วร้องถาม
“นาย !” ผมจำได้ทันทีพร้อมกับนึกสงสัยว่ามาได้อย่างไรกัน ผมไม่ได้พูดอะไรต่อแต่เปิดประตูให้..ไม่ใช่นายวันคนเดียว จิ๋ม เก่งก็มาด้วย
“พี่ตี๋อยู่ไหมครับ?” นายวันตาเซ่อถาม
“เฮ้อ !” ผมถอดหมวกออก “อยู่”
“อ้าว ! สวัสดีครับ” ทั้งสามคนยกมือไหว้ผม
“ไหน..ใครกันยะ..” ย่าปุ่นโผล่มาจากหลังบ้าน “ได้ยินว่าคนแม่กลอง ๆ”
“หลาน ๆ จากแม่กลองน่ะย่า” ผมหันไปบอก
“คุณย่า ?” จิ๋มยกมือไหว้
“คุณย่าปุ่น ท่านเป็นคุณแม่ของคุณพ่อไสว เป็นพี่สาวของย่าหง่า” ผมแนะนำ
“หนูเป็นลูกของแม่หงวนลูกย่าหง่าจ้ะ”
“อ๋อ..ลูกนังหงวน..นังหงวนและผัวมันสบายดีหรือ?” ย่ายิงคำถาม
“สบายดีครับย่า..” ผมตอบแทน..ขยิบตาให้จิ่ม “ย่าไปนอนถอดไพ่ต่อเถอะ”
“ไปอย่างไรมาอย่างไรกัน?” ผมถามเมื่อเสิร์ฟน้ำเรียบร้อยแล้ว
“ถามทางไปบ้านประตูน้ำภาษีเจริญจากอาเล็กแล้วถามคนข้างบ้านที่ภาษีเจริญว่าพี่ตี๋ย้ายไปอยู่ที่ไหนแล้วตามมานี่แหละ” วันกระพือสาบเสื้อ
“ดีนะที่นั่งรถสาย 66 ทอดเดียวถึงหน้าหมู่บ้านไม่งั้นหนูคงมาไม่ถูกแน่” จิ๋มเสริม
“แต่จากปากซอยมาถึงนี่ก็ร้อนเอาเรื่องเหมือนกัน” เก่งค้อนวันและจิ๋ม
“บ้านพี่ตี๋น่าอยู่นะคะ ถ้าได้มาอยู่คงมีความสุขมาก”
“พี่จิ๋ม !” ทั้งวันและเก่งร้องออกมาพร้อมกัน
“แหะ ๆ หนูพูดแทนใจใครบางคนค่ะ” จิ๋มยิ้มให้ผมแล้วหันไปมองวัน
“ถ้าอย่างนั้นจะถามละนะ..” ผมเป็นผู้ใหญ่กว่าทุกคนจึงไม่น่าเกลียดที่จะถาม “มากรุงเทพฯ กันทำไม?”
“คิดถึงพี่ตี๋น่ะซี..” วันยิ้ม
“นายวันเขาอยากมีอนาคต อยากเรียนต่อขั้นมหาวิทยาลัย !” เก่งเสียงแดกดัน
“จิ๋มเลยออกความเห็นว่าควรมาขอความช่วยเหลือจากพี่ตี๋”
“ที่แท้เป็นอย่างนี้” ผมไม่ได้รู้สึกอะไรกับที่พูดออกมา
“วันอยากมาอยู่กรุงเทพฯ มาอยู่กับพี่ตี๋ มาเรียนโรงเรียนศึกษาผู้ใหญ่” พูดจบเก่งเดินไปนั่งในสวน
“โรงเรียนศึกษาผู้ใหญ่มีทุกจังหวัดทุกอำเภอด้วยทำไมถึงไม่เรียนที่แม่กลองล่ะสะดวกกว่าเยอะ” ผมพูดตามที่รู้
“เขาอยากเห็นแสงสีกรุงเทพฯ ครับ” เก่งตะโกนบอกเล่นเอาวันนั่งไม่ติดต้องเดินไปหา
ในที่สุดผมพาวัยวุ่นวายทั้งสามไปดูหนังเรื่องแมรี่ป๊อปปิ้นส์ที่โรงหนังฮอลลีวูด เก๋งจำใจยอมให้วันนั่งติดกับผม..นี่แหละนะรักเขาก็ต้องตามใจเขาแม้จะเจ็บปวด
หลังจากเลี้ยงก๋วยเตี๋ยวและไอศกรีมอร่อย ๆ แล้ว ผมพาทั้งสามคนไปส่งที่สถานีรถไฟตลาดพลู
คำร่ำลาของนายวันที่หน้าต่างรถไฟ..
“ผมจะไปคัดลอกสำมะโนครัวย้ายออกจากแม่กลองแล้วมาเข้าสำมะโนครัวบ้านพี่ตี๋นะครับ”
บ้านนายตี๋มีที่ไหน ที่อยู่นั้นคือบ้านเช่า สำมะโนครัวยังอยู่ที่บ้านภาษีเจริญ ถ้านายวันมาคงต้องเข้าที่สำมะโนครัวนั้นและเรียนที่โรงเรียนศึกษาผู้ใหญ่เขตภาษีเจริญ..มันไม่ง่ายอย่างที่หนุ่มหล่อแม่กลองคิดหรอกนะ..นายวัน
นายวันไม่ได้มากรุงเทพฯ อย่างที่พูดและไม่ได้ติดต่อมาอีก ถึงแม้ผมจะมีใจให้เขาแต่ยากที่จะเป็นไปได้ด้วยหลายเหตุผล
ที่ยังคงอยู่ในใจคือเด็กชายน่ารักที่บนใบหน้ามีแต่รอยยิ้มและเสียงเรียกพี่ตี๋เหน่อ ๆ ของเขา
อีกหนึ่งความรักแบบงง ๆ ของผม
นานมาแล้ว
ตอนที่เพิ่มศักดิ์แต่งงานผมมาร่วมแสดงความยินดีพร้อมกับอาแอ๋ว
“พี่ตี๋สบายดีหรือครับ?” เพิ่มศักดิ์และเจ้าสาวเดินสวัสดี ขอบคุณแขกตามโต๊ะจีนหลายสิบโต๊ะ
เวลาต่อมา
“หายโกรธผมแล้วใช่ไหม” เมื่อทักทายแขกทั่วแล้วเพิ่มศักดิ์กลับมาอีกครั้ง
“ผมไม่ได้โกรธ..” ความจริงเราไม่ได้โกรธกัน แต่เพราะอะไรไม่รู้ “เพิ่มศักดิ์เฉยกับผมเอง”
ขณะแขกกำลังเตรียมตัวกลับเพิ่มศักดิ์เดินมาหาผมคนเดียวเจ้าสาวไม่ได้มาด้วย
“พี่ตี๋ครับ..” เพิ่มศักดิ์เข้ามากระซิบ กลิ่นแอลกอฮอล์โชยเข้าจมูก “ผมชอบพี่ตี๋” จมูกเพิ่มศักดิ์ชนแก้มผม
“ตี๋กลับเถอะ” อาแอ๋วรู้ท่าจึงเข้ามาแยกผมออกจากเพิ่มศักดิ์
ความรักทั้งสองของนายตี๋ยังคงอยู่อย่างงง ๆ จนทุกวันนี้
Create Date : 23 สิงหาคม 2567 |
Last Update : 23 สิงหาคม 2567 12:23:55 น. |
|
1 comments
|
Counter : 245 Pageviews. |
|
|
|
|
| |
|
BlogGang Popular Award#20
|
สมาชิกหมายเลข 2607062 |
|
|
|
|
เกือบจบแล้วครับ