วันก่อนวาเลนไทน์
คืนก่อนวาเลนไทน์ ถนนด้านข้างโรงเรียนสตรียะลา(ใครอยู่ยะลาอาจจะคิดได้ ใครไม่ได้อยู่ยะลาก็คิดถึงถนนใหญ่ละกัน) เต็มไปด้วยดอกไม้เพราะวันพรุ่งนี้เป็นวันแห่งความรัก เยอะจนหนูแดงคิดว่า ม.ราชภัฎจะรับปริญญาหรอเนี่ยะ เทศกาลตะวันตกที่คนไทยรับได้เต็มๆ จริงๆรับได้หมดล่ะ
ช่วงบ่ายนั่งทำงานอยู่.....แว่บนึงเหมือนในหัวมันจี๊ดขึ้นกลางกระหม่อมเหมือนอาการอมน้ำแข็งปนเจ็บลึกๆกลางกระหม่อม แล้วมือก็เริ่มสั่น ตาพร่า จับปากกาเขียนไม่ได้ กด Intercom บอกหน้าห้องทันทีเพราะรู้ว่าอาจจะทำอะไรไม่ได้ในอีกไม่กี่นาทีข้างหน้า แล้วก็จริงๆ มือไม่ค่อยมีแรง น้ำตาไหลเหมือนคนร้องไห้ ตั้งแต่เริ่มปีนี้มา ฉันมีอาการแบบนี้มา 2 ครั้งแล้ว และยังไม่ได้ไปหาหมอ ครั้งแรกไม่หนักเท่าครั้งนี้ คิดในใจว่า "กูน่าจะตายไปให้พ้นๆซะนะ กูทำเวรทำกรรมอะไรไว้นักหนา(วะ)"
รพ.ที่หน้าห้องพาส่ง หมอบอกว่า "ไมเกรน" ฟังดูแล้วอึ้งนะ แค่ไม่เกรนหรอ ฉันไม่เคยสัมผัสกับโรคนี้มาก่อนเลย ได้ยามาแบบงงๆ 3 ตัว ยาแก้ปวดหัว ยาป้องกันการเกิดไมเกรน(ยาคลายเครียดชนิดหนึ่ง) ยาไมเกรน แล้วกลับบ้าน มือยังสั่นอยู่ ไม่สามารถทรงตัวได้ด้วยตัวเองมากนัก แต่หมอบอกว่าหลังทานยาจะดีขึ้น ไม่ต้องแอดมิท
ไม่ใช่ไม่เชื่อหมอที่ไปพบมา แต่มันสะกิดใจเพราะสองชม.อาการยังไม่ดีขึ้น ฉันกดไลน์ไปหาหมอที่รู้จักคุ้นเคยกันเพราะยังเป็นเวลาราชการ หมออาจจะติดงาน ทิ้งข้อความไว้ ตัวหนังสือผิดๆถูกๆ พิมพ์ยากและทรมานมาก ถ่ายรูปไม่ชัดเจนแต่ก็พยายาม รูปยา อาการที่เป็น คำถามเดียวคือ "มียาอะไรที่ดีกว่านี้อีกมั้ย"
สิบนาทีผ่านไปหมอรีบตอบกลับมาว่า ยาที่ได้เป็นยาบรรเทา โรคนี้เกี่ยวกับสมองและประสาทส่วนกลาง เป็นโรคที่จะต้องมีตัวกระตุ้นให้เป็น "แล้วอะไรล่ะที่มากระตุ้นฉัน????" หมอบอกว่าทานยาแล้วพยายามนอน หลับซะ !!!!!!
จากเวลานั้นประมาณเกือบ 16 นาฬิกาที่ฉันนอนเจ็บหัวเจ็บหู ทรมานจริงๆ ยาทานทุกๆชม.จนถึงเย็น หมอโทรมาถามถึงอาการ ฉันบอกแค่ "อยากร้องไห้" หมอบอกว่าใจเย็นๆ เดี๋ยวก็หาย
เกือบทุ่มนึง ยังไม่หาย แต่ดีขึ้น พอทรงตัวได้ ฉันอาบน้ำสระผม แต่งตัว หยิบกุญแจรถโดยไม่คิดหรอกว่าจะขับได้หรือไม่ได้ ออกไปร้านน้ำชา ไปนั่งบ้าเล่นอยู่คนเดียว มองไกลๆ อากาศก็ไม่ได้ดีจนน่านั่งทอดอารมณ์ "โรคเวรกรรมสินะ" คิดได้เท่านั้นอ่ะ
หมอโทรมาบอกว่าจะไปขอนแก่น "อื่ม ไปเหอะ........" หมอบอกว่า จะโทรมาเช็คอาการบ่อยๆ เมื่อดีขึ้นพอทนได้ ให้หยุดยาเลย จะรีบกลับ ...........
กลับบ้านมากอดแม่ หนูเจ็บหัว แม่บอกว่า "เรียนเยอะไปนะ หยุดเรียนดีมั้ย" ชี้มือไปที่วิจัยเต็มโต๊ะที่วางๆอยู่ ฉันบอกแม่ขำขำว่า "หนูซื้อยาแก้ดื้อมาฝาก แม่ทานด้วยนะ" หยิบถุงยาที่ให้หมอประจำตัวจัดให้แม่พิเศษ ไม่ใช่ยาแก้ดื้อหรอก เป็นยาแก้ไอ แม่ไม่สบายก่อนหน้านี้ และยังมีอาการไออยู่ ยาที่แม่กินเป็นแค่ยาบรรเทาอาการ(ยาตราเสือเกือบโหลนั่นล่ะ) ฉันชวนไปหาหมอ แต่แม่ก็ดื้อเหลือเกิน(เหมือนใคร?) สุดท้ายเลยต้องสั่งหมอจัดยาเอง "เอาให้หาย ต้องหาย" สั่งยังกับตัวเองเป็นเทวดา แต่หมอก็จัดให้ ขอบคุณค่ะ...........
Create Date : 14 กุมภาพันธ์ 2557 |
|
18 comments |
Last Update : 14 กุมภาพันธ์ 2557 14:24:34 น. |
Counter : 921 Pageviews. |
|
 |
|
ฮึดได้ก็เพราะคุณสองคน -- เป็นพลังให้ทำงานได้ทุกวัน
หนูแดงพักผ่อนเยอะๆ นะ
อาจเพราะต้องใช้ความคิดเยอะหรือเปล่า
เรียนเยอะมากขนาดแม่ยังต้องสะกิดนะ
อิอิ..ขำกับยาแก้ดื้อ จัดมาให้พ่อของป้าแก่สักถุงตะ
พ่อป้าแก่ทั้งดื้อ ทั้งงอแง .. เหนื่อยดูแลไปตามๆ กันเลย
เดือนหน้าถ้าไม่ติดอะไรก็ว่าจะกลับบ้านอีกแล้ว
คิดถึงบ้าน คิดถึงรสมือพี่สาว คิดถึงดอกไม้ของแม่
คนไกลบ้าน ก็คิดถึงบ้านเนอะ
แฮปปี้วาเลนไทน์จ๊ะ
แปะหัวใจให้โตๆ ด้วย