ตุลาคม 2548

 
 
 
 
 
 
1
2
3
4
5
6
7
8
9
10
11
12
13
14
15
16
17
18
19
20
21
22
23
24
25
31
 
 
28 ตุลาคม 2548
All Blog
ยิว
โดย หม่อมราชวงศ์ คึกฤทธิ์ ปราโมช, 2510 พิมพ์ครั้งที่ 7, 2545 ดอกหญ้า

สืบเนื่องมาจากการดูหนัง 2 เรื่อง คือ Schinler’s list กับ The Pianist และอ่านหนังสือ 2 เล่มคือ The Reader’s และ Anne Frank : The Diary of the young girl เลยทำให้เกิดความสนอกสนใจและอยากรู้อยากเห็นถึงเรื่องราวและความเป็นมาเป็นไปของ “ยิว”

ในที่สุดก็หาหนังสือชื่อ “ยิว” มาอ่านจนได้ พร้อมด้วยความกระจ่างในเรื่องของยิว ซึ่งถึงแม้จะเป็นมุมมองในทางบวกของผู้เขียน แต่อย่างน้อยที่สุดก็ทำให้ได้เห็นถึงการเอาตัวรอดของยิว การนับถือศาสนา
ยูดาย ด้วยจิตใจอย่างแท้จริง... และแน่นอน รู้ถึงสาเหตุของการเกลียดชังถึงต้องล้างผลาญยิวของฮิตเลอร์แล้วล่ะ

ยิวเป็นคนเก่ง และเป็นผู้ที่มีชื่อเสียงหลายคน

- ผู้เริ่มลัทธิใหญ่อีกลัทธิหนึ่งในโลก คือ ลัทธิคอมมิวนิสต์ ชื่อว่า คาร์ล มาร์กส์ ก็เป็นยิว
- นักคณิตศาสตร์ผู้ยิ่งใหญ่ของโลก ชื่อ อัลเบิร์ต ไอน์สไตน์ ซึ่งเป็นผู้เปิดทางให้มนุษย์เข้าสู่ยุคปรมาณูและเป็นผู้ชี้ทางให้มนุษย์เดินทางไปถึงพระจันทร์ในอนาคตด้วยทฤษฎีฟิสิกส์ของเขา ก็เป็นยิว
- ซิกมันด์ ฟรอยด์ ผู้ซึ่งได้เปิดเผยจิตของมนุษย์ออกไปให้คนได้ศึกษา ก็เป็นยิว
- และเมื่อ 300 ปีก่อนนั้น นักปรัชญาอีกคนหนึ่งชื่อ สปิโนซ่า ผู้ซึ่งได้ยกเอาวิชาปรัชญาออกมาจากวิทยาคมเอามาศึกษาเป็นวิทยาศาสตร์นั่นก็เป็นยิว เช่นเดียวกัน

ประวัติของยิว จากหนังสือเล่มนี้มีอยู่ว่า เมื่อสี่พันปีก่อนมีชายชื่อเตราห์ได้นำบุตรชายของเขาคือ อะบราฮาม พร้อมด้วยภรรยาของบุตรชายชื่อซาราห์ และหลานชายชื่อโลต ออกเดินทางไปในป่าและได้เดินทางข้ามแม่น้ำยูเฟรติสไปยังอีกฟากหนึ่งแล้วเดินทางต่อไปทางทิศเหนือ การที่ได้ข้ามแม่น้ำมานี้ทำให้เตราห์และคนในครอบครัวได้ชื่อว่า อิวรึม แปลว่า ผู้ที่ข้ามไปแล้ว หรือผู้ที่มาจากฝั่งข้างโน้น คำว่า อิวรึม ต่อมาได้เพี้ยนเป็น คำว่า “ฮีบรูว์ : Hebrew” ในภาษาอังกฤษ

เตราห์และครอบครัวเดินทางขึ้นเหนือไปจนถึงดินแดนที่เป็นประเทศตุรกีในปัจจุบัน เขาได้ถึงแก่ความตายและอะบราฮามจึงเป็นหัวหน้าครอบครัวต่อไป และบนภูเขาแห่งหนึ่งอะบราฮามก็ได้พบกับพระผู้เป็นเจ้านามว่า “พระยะโฮวา” พระผู้เป็นเจ้าได้ทำสัญญากับอะบราฮามว่าจะทรงรับอะบราฮามและลูกหลานของเขาไว้ในอุปการะ และให้ผู้ชายทุกคนที่อยู่ในอุปการะของพระองค์นั้นต้องทำสุหนัต คือ ตัดหนังหุ้มปลายองคชาตเมื่ออายุได้แปดวันหรือมิฉะนั้นก็ต้องตัดเมื่อเขารีตนับถือศาสนาเดียวกับชนในอุปการะของพระองค์ ซึ่งสัญญาที่พระองค์ให้ไว้เป็นเครื่องตอบแทนนั้นคือ ดินแดนคะนาอัน ซึ่งคือประเทศอิสราเอล ในปัจจุบัน

พระผู้เป็นเจ้าซึ่งอะบราฮามได้พบบนภูเขานั้นเป็นพระผู้เป็นเจ้าองค์เดียวซึ่งพวกยิวเชื่อถือว่าได้ทรงสร้างโลกมนุษย์ตลอดจนสุรยจักรวาลนี้ขึ้น และพระนามที่เรียกว่า “พระยะโฮวา” นั้นเป็นของผู้อื่นเรียก พวกยิวแท้ไม่เคยออกนามพระเจ้าเลย แต่เรียกด้วยตัวอักษรซึ่งออกอีกเสียงไม่ได้สี่ตัวคือ “ยฮวฮ” ตามปกติแล้วยิวจะเรียกพระผู้เป็นเจ้า 3 ทางคือ “เอโลฮิม” แปลตรงๆ ว่า พระผู้เป็นเจ้าหรือเทวะ, ทางที่สองคือ “ยฮวฮ” และทางที่ 3 คือการเอาทั้งสองทางมารวมกันคือ “ยฮวฮ เอโลฮิม” นั่นคือประวัติศาสตร์

และขอเล่าอย่างคร่าวๆ ว่ายิวเป็นชนชาติที่ไม่อยู่นิ่ง คือมักจะเดินทางท่องเที่ยวไปตามภูมิภาคต่างๆ แยกย้ายกระจัดกระจายกันไปในหลายๆ ประเทศ ยิวเคยมีดินแดนปาเลสไตน์เป็นที่อยู่อาศัยแต่ก็ถูกตีเอาไปด้วยพวกอาหรับ พวกยิวจึงต้องอพยพเร่ร่อนไปอยู่ในหลายประเทศ แต่ยิวก็อยู่ไหนได้ไม่นานก็มักจะมีเรื่องมีราวให้ต้องระเห็จออกจากถิ่นที่อยู่เดิมอยู่เรื่อยไป ไม่ใช่เพราะยิวเป็นพวกหาเรื่อง หรือนักเลงแต่อย่างใด แต่เป็นเรื่องของศาสนาล้วนๆ

การเผยแพร่ศาสนาของคริสต์ และการตั้งข้อรังเกียจของอิสลามทำให้ยิวอยู่ที่ไหนก็ไม่เป็นสุข เพราะคริสต์ก็กล่าวหาว่ายิวเป็นพวกทำให้ศาสนาเสื่อมและเป็นพวกนอกศาสนา แต่ยิวเป็นคนเก่ง ฉลาดและมีหัวทางการค้า เมื่อประเทศใดที่ระบบเศรษฐกิจไม่ดีก็ให้ยิวเข้าประเทศไปช่วยฟื้นฟูและพัฒนาประเทศ ยิวส่วนใหญ่ทำงานด้านการธนาคาร การคลัง และทำการค้า ออกเงินกู้ เมื่อประเทศเจริญขึ้นก็พยายามหาทางขับไล่ยิวออกนอกประเทศเนื่องจากสาเหตุทางการนับถือศาสนา และความเป็นเชื้อชาติยิวซึ่งมีความแตกต่างจากเจ้าของประเทศ หลายๆ ประเทศกีดกันแบ่งแยกยิวด้วยการสร้างเก็ตโตให้อยู่ซึ่งเป็นชุมชนของยิวโดยเฉพาะ

ยิวในหลายร้อยปีก่อนจึงมักจะตกเป็นคนอีกจำพวกหนึ่งซึ่งถูกตั้งข้อรังเกียจอยู่เสมอ แต่ยิวก็เอาตัวรอดได้เสมอมาเช่นกัน และยิวก็เป็นอย่างนี้ตลอดมาจนกระทั่งถึงสงครามโลก เมื่อครั้งที่ฮิตเลอร์สั่งฆ่าล้างเผ่าพันธุ์ยิว เนื่องจากความเกลียดชังอย่างรุนแรง

“..... สำหรับคนที่แอนตี้เซมิติคแล้ว เหตุสำคัญที่ทำให้เกลียดยิวก็เพราะว่ายิวนั้นเป็นยิว ข้อนี้เป็นความผิดอย่างหนักของยิวเหนือความผิดหรือความชั่วอื่นๆ และความผิดนี้ไม่มีทางที่จะให้อภัยได้ ถึงยิวจะเปลี่ยนศาสนาหรือทำคุณงามความดีอย่างใดๆ ก็ตามที ยิวก็จะยังเป็นยิวอยู่นั่นเอง และเป็นวัตถุแห่งความเกลียดชัง ต้องคิดทำลายล้างผลาญตลอดไป สภาพจิตใจที่เรียกว่าแอนตี้เซมิติคจึงมิใช่ความเกลียดชังอย่างธรรมดาซึ่งเกิดจากเหตุสามัญและเป็นความเกลียดชังที่ใครๆ ก็มี แต่ความว่าความรู้สึกแอนตี้เซมิติคนั้นเป็นปัญหาทางจิตวิทยาอย่างหนึ่ง ซึ่งใครเป็นแล้วออกจะรักษายาก ถ้าจะหาสาเหตุแห่งโรคทางใจนี้ให้ได้ ก็พอจะกล่าวได้ว่าสาเหตุนั้นคือความกลัวนั่นเองคนที่เกลียดยิวแบบอินตี้เซมิติคนั้น ที่แท้ก็กลัวยิวเพราะยอมรับว่ายิวนั้นมีคุณสมบัติต่างๆ ที่เหนือกว่าตนจนไม่สามารถที่จะแข่งขันเอาชนะได้ เมื่อเกิดความรู้สึกที่ไม่รู้ตัวว่าจะแข่งขันในทางที่ชอบที่ควรไม่ได้แล้ว ทางออกก็มีเหลืออยู่ทางเดียวคือทำลายล้างผลาญยิวให้หมดไป......” ( หน้า247)

นั่นเป็นเหตุให้ยิวหลายล้านต้องตาย (เหมือนใน Schinler’s list กับ The Pianist และใน The Reader’s และใน Anne Frank : The Diary of the young girl นั่นแหละ.....

ความเกลียด ที่มีสาเหตุมากจากความกลัวของฮิตเลอร์ ได้ทำลายเผ่าพันธุ์ยิวลงไปมาก แต่นั่นก็ทำให้ยิวทั้งหลายได้เปลี่ยนแปลงชีวิตใหม่ คือการได้ประเทศอิสราเอลกลับมาเป็นของยิวในปัจจุบัน

ยิวไม่ใช่นักสู้ ไม่ใช่นักรบ แต่ยิวเป็นนักบริหาร รู้จักเอาตัวรอดด้วยปัญญามากกว่ากำลัง และแม้ในทุกวันนี้คนยิวก็ดูจะมีทั่วไปในทุกพื้นที่ในโลก....../



ปล.  ฮิตเลอร์เขียนหนังสืออยู่เล่มหนึ่ง.... หนังสือเล่มนั้นว่าด้วยเรื่องการเกลียดยิวของเขานั่นเอง




Create Date : 28 ตุลาคม 2548
Last Update : 5 สิงหาคม 2555 23:41:14 น.
Counter : 1619 Pageviews.

5 comments
  
เราก็ชอบอ่านเรื่องแบบนี้นะ อ่านแล้วรู้สึกว่าฉลาดขึ้นอ่ะ
โดย: magic_ink (magic_ink ) วันที่: 4 ธันวาคม 2548 เวลา:23:03:41 น.
  
เคยอ่าน หนังสือเล่มนี้ เมื่อ สามสี่ปีก่อน เดี๋ยวกลับไปอ่านอีกรอบก่อนนะคะ
มีอีกเล่มหนึ่ง ชื่อ เพาเวอร์ยิว ค่ะ อันนั้นก็อ่านสนุกนะ
โดย: ภัทรรานี IP: 203.118.73.122 วันที่: 20 พฤศจิกายน 2549 เวลา:11:19:42 น.
  
อยากได้หนังสือ เพาเวอร์ยิว.
โดย: kanit IP: 203.113.32.11 วันที่: 7 เมษายน 2550 เวลา:18:53:32 น.
  
จากประโยคนี้
"- ศาสนาที่ยิ่งใหญ่ที่สุดในโลกศาสนาหนึ่งคือ ศาสนาคริสต์ มีศาสดา คือพระเยซู เป็นยิว
- ศาสนาอิสลาม ซึ่งเป็นศาสนาที่ใหญ่ที่สุดอีกศาสนาหนึ่งก็เรียกได้ว่าเป็นศาสนาที่ต่อเนื่องมาจากศาสนาของพวกยิว"

ผมไม่เห็นด้วย และขอให้ผู้ที่ทำบทความนี้จงศึกษาให้ดีๆ อย่าสร้างองค์ความรู้ที่ผิดๆและชี้นำผู้ที่ใผ่รู้ มาเข้าใจผิดนะครับ

ด้วยความนับถือ
โดย: ศึกษายิวให้ดี IP: 125.165.165.98 วันที่: 3 สิงหาคม 2555 เวลา:4:12:30 น.
  
ขอบคุณมาก สำหรับ ความคิดเห็นข้างบนนี้ค่ะ, จะนำไปพิจารณา และ แก้ไขส่วนที่อาจทำให้ความเข้าใจคลาดเคลื่อน ออกไป, ขอบคุณที่เข้ามาเยี่ยมชมค่ะ
โดย: ดาริกามณี วันที่: 5 สิงหาคม 2555 เวลา:23:40:02 น.
ชื่อ :
Comment :
 *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 

ดาริกามณี
Location :
  

[ดู Profile ทั้งหมด]
 ฝากข้อความหลังไมค์
 Rss Feed
 Smember
 ผู้ติดตามบล็อก : 25 คน [?]



Just Do it :


* มีอีกชื่อว่า หญ้าเจ้าชู้

* เป็นเจ้าของลิขสิทธิ์บทประพันธ์
รักข้ามรั้ว (หญ้าเจ้าชู้)
ลุ้นสุดฤทธิ์ พิชิตรัก (หญ้าเจ้าชู้)
ภารกิจรักพิทักษ์เธอ (หญ้าเจ้าชู้)
ปีกแห่งฝัน (ดาริกามณี)

* เป็นสาวก 'รงค์ วงษ์สวรรค์
* เป็นแฟน คาราบาว
* เป็นกิ๊ก เฉลียง
* ฝืนอะไรที่เป็นอื่น ฝืนอัตตา
สูงเทียมฟ้าก็มิเท่า เป็นเราเอง

* การปรากฎตัวของคนคนหนึ่ง
อาจเปลี่ยนใครอีกคนไปทั้งชีวิต

* หากต้องการอ่านนิยายที่ใส่รหัส,
รบกวน "ฝากข้อความหลังไมค์" จ่ะ