เกร็ดเล็กๆ เกี่ยวกับบริจาคโลหิต
วันนี้ไปบริจาคโลหิตที่สภากาชาดค่ะ ไปด้วยเวลาเฉียดฉิว คือตอนบ่ายสามโมง หากใครยังไม่ทราบก็บอกกล่าวกันไว้นะคะว่า ที่สภากาชาดในวันเสาร์อาทิตย์ จะเปิดรับบริจาคตั้งแต่เวลา 8.30น.-15.30น. ค่ะ


ครั้งนี้เป็นครั้งที่ 11 ที่ได้บริจาคโลหิต หลายคนมักจะทำหน้าตาตกใจเวลาที่ไกลนั้นบอกว่าตัวเองบริจาคเกิน 10 ครั้ง และพี่ๆที่บริษัทมักจะมีคำถามว่า


"อายุแค่นี้เอง ทำไมบริจาคเยอะจัง"


จริงๆแล้วการบริจาคโลหิตจะมีการเว้นช่วงไปสามเดือนนับจากบริจาคครั้งล่าสุดนะคะ ดังนั้น ปีนึงคนเราให้เต็มที่จะบริจาคได้แค่ 4 ครั้งเท่านั้น แล้วอายุที่ควรบริจาคนี่ ไกลนั้นจำไม่ได้ค่ะ รู้แต่ว่าตอนที่ไปบริจาคครั้งแรก ตอนนั้นเรียนมหาวิทยาลัยปี 1 แล้ว ตัวเองก็ไม่ได้เป็นคนบริจาคโลหิตบ่อยๆด้วย อารมณ์ประมาณนึกได้ว่าไม่ได้บริจาคนาน ก็จะไปสักทีนึง


วันนี้ไกลนั้นนอนบริจาคโลหิตอยู่ เพิ่งสังเกตเห็นว่า ถุงที่มารับบริจาคโลหิต นอกจากจะมีถุงใส่เลือดแล้ว ยังมีถุงเปล่าๆแนบมาอีกสองถุง เพราะความเป็นคนขี้สงสัย เลยถามนางพยาบาลไปว่า


"พี่คะ ทำไมต้องเอาถุงเปล่าๆมาติดๆถุงเลือดด้วยล่ะคะ"


"เขาต้องมีการแยกเลือดออกตามความเหมาะสมกับการใช้งานค่ะ"


แล้วนางพยาบาลก็อธิบายว่า คนไข้แต่ละรายจะมีความจำเป็นในการใช้เลือดไม่เหมือนกัน เช่นพวกที่เป็นไข้เลือดออก จะต้องการเกล็ดเลือด แต่หากพวกไฟไหม้ น้ำร้อนลวก ก็จะมีการใช้อีกอย่าง (ไม่แน่ใจว่าพลาสม่ารึเปล่า อันนี้ฟังแล้วลืมๆน่ะค่ะ)


ส่วนด้านล่าง ก็จะเป็นที่บริจาคเกล็ดเลือด ซึ่งถามนางพยาบาลไปเหมือนกัน ก็ได้คำตอบว่า การบริจาคเกล็ดเลือดจะกินเวลาค่อนข้างนาน อาจจะต้องทิ่มเข็มถึง 1-2 ชม. มันต้องใช้ความอดทนสูงกว่า


วันนี้สังเกตดูคนรอบข้าง เห็นผู้ชายที่นอนเตียงถัดไปเอากล้องมือถือขึ้นมาถ่ายภาพตัวเองกำลังบริจาคโลหิตแล้วยิ้มเล่นกล้อง ทำให้ไกลนั้นอดยิ้มไม่ได้ เขาจะรู้ไหมน้าว่าเราแอบขำอยู่ และความจริงเขาหล่ออยู่แล้วนะ หล่อตั้งแต่ตอนที่เขาคิดจะเสียสละโลหิตของตัวเองเพื่อช่วยชีวิตคนอื่นน่ะค่ะ


หลังจากบริจาคเลือดเสร็จ ไกลนั้นก็นอนตีพุงบนเตียงต่อสักพัก จนได้เวลาก็เดินไปกินไมโลแสนอร่อย ใครจะคิดยังไงก็ไม่รู้นะ แต่ไกลนั้นว่า ตั้งแต่ตัวเองกินไมโลมา ค้นพบว่า ไมโลที่สภากาชาด กับไมโลในรถที่มาแจกตามโรงเรียนอนุบาลเอกชน มันอร่อยสุดๆเลยล่ะค่ะ ชงเองให้ตายยังไงก็ชงได้ไม่อร่อยเท่าอ่ะ


กำลังกินอาหารบำรุงเพลินๆ ได้ยินเสียงพี่เจ้าหน้าที่บอกกับไกลนั้นว่า


"น้องสนใจจะบริจาคดวงตาไหมคะ"


ไกลนั้นกับเพื่อนก็อึ้งๆไป แต่ก็รับรายละเอียดมาดูค่ะ และได้สอบถามพี่เจ้าหน้าที่คนนั้น ก็เพิ่งรู้ว่า จริงๆแล้วการบริจาคอวัยวะจะแบ่งด้วยกันสามอย่าง ก็คือ บริจาคดวงตา บริจาคร่างกาย และบริจาคอวัยวะภายใน ซึ่งไม่เหมือนกันนะคะ ใครที่คิดว่าตัวเองบริจาคร่างกายไปแล้ว และมอบให้ทั้งร่างนี่ ไม่ได้รวมดวงตาด้วยนะคะ อันนี้ไกลนั้นกับเพื่อนก็เข้าใจผิดมานาน การบริจาคร่างกาย คือการมอบร่างกายให้แก่โรงพยาบาลจุฬาค่ะ แต่ก่อนหน้านั้นหากผู้บริจาคเสียชีวิต หน่วยแรกที่จะไปทำการจัดเก็บคือหน่วยที่รับบริจาคดวงตาค่ะ ซึ่งหลังจากเสียชีวิต ในคู่มือบอกว่าดวงตาเราจะเริ่มเสื่อม กินเวลาประมาณ 6-8ชม.


ไกลนั้นรับใบบริจาคดวงตามา เพราะยังไงก็คงไม่สามารถกรอกวันนี้ได้ เนื่องจากคงต้องถามที่บ้านก่อน และในใบนั้นก็ต้องมีญาติเซ็นรับทราบอย่างน้อยสองคนด้วยค่ะ ก็ง่ายๆ หากเขียนแจ้งความจำนงในใบนั้นพร้อมลายเซ็นครบ ก็หย่อนใส่ตู้ไปรษณีย์เลย แล้วก็นั่งๆนอนๆรอที่บ้านสัก 1 เดือน ก็จะมีบัตรใบนึงส่งมาให้ที่บ้าน เป็นอันเสร็จสิ้นขั้นตอนการบริจาคดวงตาค่ะ แต่ถ้ารออยู่เกิน 2เดือน ก็ยังไม่มีบัตรอะไรส่งมา ก็อยากให้ช่วยโทรไปถามทางศูนย์สักนิดก็ดีนะคะ เพราะอาจจะเป็นไปได้ว่า มีการตกหล่น หรือทางศูนย์ไม่ได้รับข้อมูลของคุณนะ


และถ้ามีเวลาว่างๆ ไกลนั้นอยากแนะนำให้ลองไปเดินหยิบแผ่นพับที่ด้านล่างตรงประชาสัมพันธ์ค่ะ หยิบมาอ่านเป็นความรู้ดีนะคะ นอกจากจะมีเรื่องข้อปฏิบัติของคนจะบริจาคโลหิต ยังมีพวกสเต็มเซลล์ การบริจาคอื่นๆ เผื่อจะสนใจหรือจะไปแนะนำคนอื่นๆต่อไปก็ไม่ว่ากันค่ะ ^_______^


อยากขอเตือนไว้สักนิดนึงนะคะ สำหรับข้อมูลที่จะต้องกรอกก่อนบริจาคโลหิตในแผ่นสีเขียว อยากให้เขียนตามความจริงค่ะ เนื่องจากครั้งก่อนไกลนั้นไม่สบาย ต้องกินยาแก้อักเสบ หลังจากหายแล้วยังไม่ครบ 7 วันหลังกินยาแก้อักเสบเม็ดสุดท้าย ก็ดันไปบริจาคโลหิต ซึ่งเจ้าหน้าที่แจ้งไว้เด็ดขาดว่า สำหรับคนที่ทานยาแก้อักเสบในระหว่าง 7 วันที่ผ่านมา ขอให้งดการบริจาคเด็ดขาด เนื่องจากตัวยาแก้อักเสบอาจจะทำให้คนไข้เกิดอาการแพ้ขึ้นมาได้ แทนที่จะได้ช่วยชีวิตคนอื่น เราอาจจะไปสร้างบาปกรรมโดยที่เราไม่ทันรู้ตัวนะคะ


เคยได้ยินบางคนอยากบริจาคมาก จนถึงกับไม่บอกข้อมูลตามความเป็นจริง ไม่ว่าจะเป็นนน. หรือพวกการกินยา หรือแม้แต่พฤติกรรมเสี่ยง อันนี้อยากให้ลองคิดถึงคนรับก่อนน่ะค่ะ มันจะแย่กว่าหากว่าคนที่ได้รับเลือดของเราไป เขาเกิดเป็นอะไรขึ้นมา


หากใครมีประสบการณ์บริจาคโลหิตอะไร จะมาเล่าสู่กันฟังก็เต็มที่เลยนะคะ ไกลนั้นเองบริจาคทีไร มักจะเป็นลมจนครั้งหลังๆ มีเจ้าหน้าที่ท่านนึงแนะนำไว้ว่า


"น้องลองทานน้ำสักสามสี่แก้ว แล้วกินไมโลสักสองแก้ว ก่อนไปบริจาคนะคะ"


ลองทำตามดูครั้งก่อน ได้ผลแฮะ ถึงจะรู้สึกใจหวิวหน่อยๆ แต่ก็ไม่ถึงกับหน้ามืดเหมือนครั้งที่แล้วๆมา ใครที่บริจาคเลือดแล้วชอบเป็นลม ก็ลองวิธีนี้ดูก็ได้ค่ะ เผื่อจะช่วยได้นะคะ ^^"






Create Date : 06 ตุลาคม 2550
Last Update : 6 ตุลาคม 2550 21:29:37 น.
Counter : 3561 Pageviews.

32 comments
  
อิอิ อยากบริจาคเหมือนกันน่ะ แต่กลัวเข็มอ่ะ เพราะเข็มใหญ่มากๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆ
โดย: orn (orn_is ) วันที่: 6 ตุลาคม 2550 เวลา:21:38:14 น.
  
การบริจาคเลือดนั้น
นอกจากผู้บริจาคจะได้ทำบุญแล้ว
ก็จะได้เป็นการเช็คสุขภาพร่างกายไปในตัว
โรคบางโรค เช่น ไวรัสตับอักเสบ C
เชื่อมั๊ยคะว่า
หากคุณไปตรวจร่างกายตามปกติ
คุณจะไม่สามารถทราบได้เลยว่าคุณเป็น
แต่เพียงคุณไปบริจาคเลือดเพียงครั้งเดียวเท่านั้น
คุณก็จะทราบได้ทันที

การบริจาคเลือดสมัยนี้ สะอาดและรัดกุมมากคะ
เพราะโรคที่ระบาดทางสารคัดหลั่งต่างๆของร่างกาย
เช่น น้ำลาย น้ำมูก เลือด ปัสสาวะ ฯลฯ
มีมากมาย ที่เราอาจได้เข้าไปสัมผัส และ
รับเชื้อไปโดยไม่ได้ตั้งใจ
ดังนั้น การบริจาคเลือดบ่อยเท่าไหร่
นอกจากจะได้กุศลมากแล้ว
ยังเป็นการ Confirm อีกว่า
ร่างกายคุณ เจ๋ง จริงๆคะ

ไปบริจาคเลือดกันเยอะๆนะคะ

โดย: ann (a_mulika ) วันที่: 6 ตุลาคม 2550 เวลา:22:16:43 น.
  
ของผมบริจาคตั้งแต่อายุ16กว่า ย่าง 17 อ่ะคับ แบบว่ามีเต้นท์บริจาคเลือดที่ร.รเลยขอหมอบริจาค หมอก็อนุญาต แล้วก็ได้บริจาคสมใจ ตอนนี้ อายุ20 ได้บริจาคไป 10 ครั้งแล้วคับ

ขอบคุณที่นำความรู้มาแบ่งปันเพื่อนๆนะคับ
โดย: K_chang วันที่: 6 ตุลาคม 2550 เวลา:22:28:43 น.
  
เหอๆ หนูบริจาคครั้งเดียวเอง สยองงงงง แต่ภูมิใจมากเลยเพราะว่าไปบริจาคทั้งๆ ที่กลัวเข็มมาก แถมเป็นคนชวนเพื่อนไปอีกต่างหากแน่ะ ตอนนี้ยังไม่ครบ 3 เดือนเลยค่ะ กะว่าสิ้นปีค่อยไปอีกที (ขอเวลาทำใจนิดนึงน่ะ อิอิ)
โดย: ศศิกัณห์ วันที่: 7 ตุลาคม 2550 เวลา:13:02:02 น.
  
ค่ะ แต่สำหรับที่โรงพยาบาลศิริราชนะคะ ก็บริจาคได้ทุกวันเหมือนที่สภากาชาดค่ะ แต่ทางโรงพยาบาลจะแนะนำว่าใช้ผู้หญิงบริจาคทุก ๆ 6 เดือนจากมาตรฐานของอเมริกา(มาตรฐานอะไรจำไม่ได้นะคะ) เพราะว่าผู้หญิงเราจะเสียเลือดประจำเดือนไปทุกเดือนค่ะ มีโอกาสที่จะมีคุณภาพของเลือดต่ำ(ฮีโมโกลบินต่ำ ประมาณว่าเลือดลอยอะไรแบบเนี้ยอ่ะค่ะ)ได้ง่ายค่ะ เพราะว่าขาดธาตุเหล็กน่ะค่ะ แต่ว่าถ้าเลือดมีคุณภาพดีก็บริจาคได้ค่ะ

ดังนั้นเลยขอเตือนผู้ที่อยากบริจาคเลือดนะคะว่า อย่าบริจาคเลือดเมื่อตนเองอยู่ในข้อห้ามในการบริจาดเลือด เช่น มีประจำเดือน กินยาปฏิชีวนะมาในช่วงนั้น เพราะความใจบุญของเราอาจจะเป็นโทษกับทั้งตัวเราเองและก็ผู้ได้รับเลือดด้วยนะคะ

แหวนก็เองก็เคยบริจาคแค่ 5-6 ครั้งค่ะ แต่พยายามให้ตัวเองพร้อมที่สุดค่ะ แล้วก็บริจาคไม่ได้บ่อยเพราะว่าเป็นพาหะของโรคธาลัสซีเมียอ่ะค่ะ(ไม่ต้องตกใจนะคะ คนทั่วไปประมาณ 40 % ของคนไทยเป็นพาหะโรคนี้ค่ะ) ทำให้เลือดจางง่ายกว่าคนทั่วไป
โดย: ไฟเย็น IP: 202.28.180.201 วันที่: 7 ตุลาคม 2550 เวลา:14:36:43 น.
  
พี่ไก่โดนสกัดดาวรุ่งจากที่ทำงานไม่ให้ไปค่ะ emo
โดย: กุ๊กไก่ IP: 124.121.185.2 วันที่: 7 ตุลาคม 2550 เวลา:18:17:14 น.
  
คุณ orn_is
อยากบอกว่าพยาบาลที่สภากาชาดมือเบากว่านางพยาบาลโรงพยาบาลเอกชนอีกนะคะ ไปเจาะมาไม่เคยมีรอยเขียวเลยค่ะ ไม่ค่อยเจ็บมากด้วย


คุณ ann
ขอบคุณที่แวะมาบอกเกร็ดเล็กๆเกี่ยวกับการบริจาคโลหิตนะคะ


คุณ K_chang
บริจาคเยอะมากๆเลยอ้ะ ไกลนั้นอายุจะ 25 อยู่แล้ว เพิ่งบริจาคไปแค่ 11 ครั้งเอง นับถือเลยจ้า บริจาคเยอะๆน้า


เมย์
จำได้ว่าเมย์บอกเป็นลมคราวก่อน พี่เองคราวนี้ก็ใจหวิวๆเหมือนกันค่ะ แต่ยังไม่เดี้ยงนะ ก็ไว้เราพร้อมเมื่อไหร่ ค่อยไปบริจาคก็ได้จ้า ไม่ต้องรีบหรอกน้า เอาให้สุขภาพเราแข็งแรง และหัวใจพร้อมเมื่อไหร่ ก็โลดเลย


น้องไฟเย็น
ขอบคุณจ้าที่แวะมาบอกข่าวกัน ไว้พี่จะเอาทุกๆความรู้ไปแปะอัพเดทบนส่วน main blog นี้ดีกว่า พี่ว่าแต่ละคนให้ความรู้ดีมากๆเลยอ่ะ นี่ก็เพิ่งรู้นะคะว่า ผู้หญิงขอเป็น 6 เดือน แต่ส่วนมากพี่ก็บริจาคปีนึงไม่เคยถึง 4 รอบเลยอ่ะ เพราะพี่ป่วยบ่อยจ้า


พี่ไก่
ทำไมมาสกัดไม่ให้บริจาคล่ะคะ งงจังเลยอ่ะพี่ไก่
โดย: ไกลนั้น วันที่: 7 ตุลาคม 2550 เวลา:22:17:32 น.
  
โตจนป่านนี้ เพิ่งบริจาคไปครั้งเดียวเองค่ะ เกือบจะไม่ได้บริจาคแน่ะค่ะ เพราะเช็คครั้งแรก ผลออกมาว่าเม็ดเลือดต่ำ เลือดลอยตัว แต่ใช้อีกวิธีตรวจแล้วไม่มีปัญหา เลยได้บริจาคค่ะ

คุณพยาบาลบอกอีกว่า ควรทานผักใบเขียวเยอะๆ เพื่อร่างกายจะได้เอาไปสร้างเม็ดเลือดด้วยอ่ะค่ะ
โดย: Ormmie IP: 75.3.112.11 วันที่: 8 ตุลาคม 2550 เวลา:9:53:18 น.
  
เคยบริจาคครั้งเดียว ตอนนั้นอยู่ประมาณม.ห้า ปรากฏว่า หลังบริจากเหนื่อยเหมือนจะเป็นลมตลอดเวลาเกือบสองวัน เลยโดนคำสั่งท่านแม่ห้ามบริจาคอีก ก็อยากบริจาคอีกเหมือนกัน แต่ผลการตรวจเลือดหลายๆ ครั้งบอกว่าเราเป็นพวกขาดธาตุเหล็ก เป็นพาหะธาลัสซีเมีย อดอีกเลยุ
โดย: เมษ์ IP: 222.155.73.55 วันที่: 8 ตุลาคม 2550 เวลา:12:56:07 น.
  
++ ฮู้ย...พี่โณจ๋า นู๋นะอยากบริจาคมากมายอ่า

++ แต่แบบว่าพอเห็นเข็มก็ไม่ไหวแล้วอ่ะ ใจมันสั่นไปหมดเลย ทำใจให้ไม่กลัวเข็มไม่ได้ซักที

++ ก็เคยคิดเหมือนกันค่ะว่าจะบริจาคร่างกาย อืม...น่าสนแฮะ
โดย: GoOsHa!R (join_Eng ) วันที่: 8 ตุลาคม 2550 เวลา:20:26:38 น.
  
++ สบายดีป่ะค่ะพี่โณ ช่วงนี้เรียนไม่หนักใช่ป่ะ??

++ ตอนนี้ก็ปิดเทอมแล้วอ่าค่ะ แต่อีกอาทิตย์ก็คงต้องไปเข้าค่ายแล้ว ง่า...อยู่บ้านได้สองอาทิตย์เอง

++ คิดถึงพี่โณนะคะ ไม่ค่อยได้เจอพี่โณออนเอ็มเลยอ่ะ
โดย: GoOsHa!R (join_Eng ) วันที่: 8 ตุลาคม 2550 เวลา:20:31:56 น.
  
คุณ Ormmie
ตอนแรกคิดว่าการที่เลือดลอยตัวนี่ มันจะเกี่ยวกับการที่เรานอนไม่พอนะคะ เพิ่งทราบเหมือนกันว่าเป็นเพราะเราทานผักใบเขียวไม่พอ ขอบคุณนะคะที่แวะมาบอกกัน ^^


คุณเมษ์
จริงๆโณก็เป็นลมนะ แต่อาศัยว่าใจรักอ่ะค่ะ ก็เลยพยายามฟิตร่างกายไปบริจาค โณก็โดนที่บ้านสั่งห้ามไม่ให้บริจาคเหมือนกันค่ะ ก็ถ้าหากร่างกายไม่พร้อม โณว่าอย่าบริจาคดีกว่านะคะ เพราะเราต้องรักสุขภาพของเราเหมือนกันอ่ะค่ะ


น้องจอย
หวัดดีจ้า ไม่ได้คุยกันนานเลยน้าเรา ดีจังที่ปิดเทอมแล้ว ช่วงแรกๆของการเรียนก็อย่างนี้แหละ ออกค่ายเป็นว่าเล่น พี่เองหยุดออกค่ายตอนปีสามจะขึ้นปีสี่อ่ะ เพราะต้องฝึกงานค่ะ

ตอนแรกที่พี่เห็นเข็ม พี่ก็เสียวสยองนะ แต่ไม่มองมันก็ไม่มีอะไรอ่ะ คิดว่ามดกัดไปละกัน เผื่อจะได้สบายใจขึ้น 5555

พี่จะสอบโปรเจคอีกสองอาทิตย์อ่ะค่ะ เง้อ น่ากลัวจังเลย พรีเซนต์ภาษาอังกฤษอีกต่างหาก (จริงๆก็พรีเซนต์ภาษาอังกฤษมาตลอด ไม่รู้จะบ่นไปทำไมน้อ 555 )

โดย: ไกลนั้น วันที่: 9 ตุลาคม 2550 เวลา:9:47:14 น.
  
พี่โณฮับ แล้วพี่โณว่างวันไหนนะคะ แหวนจะได้เตียมตัวถูกฮับ

พี่ไก่บอกเตรียมโชว์ไว้แล้วค่ะ อะนะคะ
โดย: ไฟเย็น IP: 202.28.180.201 วันที่: 10 ตุลาคม 2550 เวลา:19:59:30 น.
  
อึม ก็ไม่แน่ใจเหมือนกันค่ะ แต่หากว่างจริงๆ คงต้องหลังวันที่ 26 นะคะ เพราะพี่มีโปรเจคต้องส่งวันที่ 26 เป็นวันสุดท้ายจ้า
โดย: ไกลนั้น วันที่: 10 ตุลาคม 2550 เวลา:22:48:46 น.
  
แหะๆๆ เป็นคนกลัวเข็มครับ เจาะเลือดธรรมดายังเสียวเลย แต่ก็ผ่านมาได้ด้วยดี ช่วงเป็นไข้เลือดออกโดนเจาะทุกวันจนแขนช้ำเลย เห็นเข็มเจาะเลือดอันเท่าหลอดกาแฟแล้วทำใจไม่ได้สักทีครับ
โดย: ธามาดา IP: 203.146.150.130 วันที่: 11 ตุลาคม 2550 เวลา:10:43:27 น.
  
อืม...แหวนสอบต้นเดือนพฤศจิกาค่ะ งั้นก็เลื่อนไปก่อนก็ได้นะคะ อยากให้ทุก ๆ คนสนุกจริง ๆ อะคะ
โดย: ไฟเย็น IP: 202.28.180.201 วันที่: 11 ตุลาคม 2550 เวลา:18:12:42 น.
  
คุณธามาดา
โณก็กลัวเข็มเหมือนกันนะคะ แต่พยายามไม่มองมันซะ คิดว่ามดต่อยเอาจึ๊กนึง 555 อึม แต่เจ้าหน้าที่ที่สภากาชาดมือเบานะคะ ย้ำอีกรอบเผื่อจะเปลี่ยนใจค่ะ


น้องแหวน
พี่เมล์ไปหาแล้วนะคะ ก็ถ้าเราสะดวกตามที่พี่ว่า ก็เอาเวลาตามนั้นเลยจ้า
โดย: ไกลนั้น วันที่: 11 ตุลาคม 2550 เวลา:22:22:20 น.
  
ฮับป๋มemo
โดย: ไฟเย็น IP: 202.28.180.201 วันที่: 12 ตุลาคม 2550 เวลา:11:41:17 น.
  
น้องไฟเย็น
จ้าemo
โดย: ไกลนั้น วันที่: 12 ตุลาคม 2550 เวลา:13:42:20 น.
  
แค่เห็นเข็มก็เกรงจายแล้วคะ ยังทำใจไม่ได้เลย แต่จะพยายามรวบรวมความกล้า ไปบริจาคดูบ้างนะคะ
โดย: คนชอบนิยาย วันที่: 12 ตุลาคม 2550 เวลา:15:07:21 น.
  
พี่กี้มีปัญหาเลือดชั่ว เอ๊ย เป็นโรคเกี่ยวกับเลือด บริจาคไม่ได้ สาธุกับหนูโณด้วยจ้า
โดย: วลีวิไล วันที่: 12 ตุลาคม 2550 เวลา:17:38:22 น.
  
คราวนี้บริจาคเลือดไปฟังเพลงไป มีความสุขจริงๆ จนแทบหลับ และสงสัยฟังเพลงเพลินจนลืมบีบมือแน่ๆ เลยบริจาคเสร็จช้ากว่าโณอีก ออกมาเห็นโณกำลังนั่งหม่ำขนมแล้ว
อีก 3 เดือนไปบริจาคกันอีกป่าว emo
โดย: กิ๊บ IP: 58.8.40.183 วันที่: 12 ตุลาคม 2550 เวลา:22:04:56 น.
  
คุณ คนชอบนิยาย
เอาใจช่วยให้หายกลัวนะคะ บริจาคแล้วจะรู้สึกดีค่ะ ลองดูๆๆ ได้ผลยังไงมาเล่าให้ฟังด้วยนะคะ


พี่วลีวิไล(พี่กี้)
พี่กี้มีปัญหาเกี่ยวกับเลือดเหรอคะ ต้องรักษาสุขภาพด้วยนะคะพี่กี้


กิ๊บ
ได้ๆ อีกสามเดือนหน้าเราไปบริจาคกันอีกนะ ยังไงเราก็ต้องพากิ๊บหรือพี่สาวไปด้วยอยู่แล้วล่ะ จะได้มีคนหามหากเป็นลมอ่ะ 5555
โดย: ไกลนั้น วันที่: 13 ตุลาคม 2550 เวลา:14:14:51 น.
  
พี่โณ กินเจป่าวค้า เทศกาลนี้ ได้ทำบุญเหมือนกันนะคะ ละเว้นการรับประทานเนื้อสัตว์ เป็นทานนะคะ
โดย: ไฟเย็น IP: 202.28.180.201 วันที่: 15 ตุลาคม 2550 เวลา:14:55:45 น.
  
emo ขอบคุณที่แวะไปเยี่ยม Blog คับ
แมวดำฯ บริจาคแล้วน๊า..แต่เป็น ร่างกายสำหรับนศ.แพทย์ และบริจาคดวงตา (ไปที่ศิริราชแหละ พามารดาไปด้วย บริจาคแพ็คคู่เลย อิอิ)
โดย: แมวดำ_โดนสาป วันที่: 15 ตุลาคม 2550 เวลา:18:07:29 น.
  
น้องแหวน
พี่ไม่กินเจค่ะ เพราะที่บ้านไม่กินกันจ้า ^^


คุณแมวดำ_โดนสาป
ขอบคุณที่แวะมาเยี่ยมเช่นกันนะคะ อย่างนี้ก็เหลือแต่บริจาคอวัยวะน่ะสิคะ ดีจังเลย บริจาคสองอย่างแล้ว
โดย: ไกลนั้น วันที่: 15 ตุลาคม 2550 เวลา:18:33:24 น.
  
ดีค่า พี่โณ ไม่กินเจเหมือนกันเลยค่ะ เกรดหนูออกแล้วน้า เฉยๆ ค่ะ ไม่เครียดอะไรมาก พี่โณไปงานหนังสือรึเปล่าคะ อยากรู้ๆ อิอิ

จะว่าไปก็อยากบริจาคร่างกายเหมือนกันนะ แต่ขอเวลาอีกสักพักค่ะ
โดย: may (ศศิกัณห์ ) วันที่: 16 ตุลาคม 2550 เวลา:13:10:16 น.
  
เมย์
พี่คงไปวันที่ 22 ตุลาคม ตอนเย็นอ่ะจ้า ส่วนเสาร์อาทิตย์นี้ไม่ไปอ่ะ ต้องอยู่ทำโปรเจคก่อนT___T จะส่งโปรเจค image processing วันที่ 26 นี้แล้ว ส่วนวันที่ 27 ก็อาจจะไปนะ แต่ไม่แน่ใจเท่าไหร่ เพราะเพื่อนพี่คอมเจ๊งอ่ะ พี่อาจจะต้องตามไปเคลมประกันกับเขาก่อนอ่ะ ไม่รู้จะล่อไปทั้งวันรึเปล่า

แล้วเมย์ล่ะจะมาวันไหน เผื่อหากเป็นช่วง 27-28 ก็น่าจะเจอกันได้นะ
โดย: ไกลนั้น วันที่: 16 ตุลาคม 2550 เวลา:13:46:37 น.
  
หนูขึ้นไป 27-28 แหละค่ะ แต่ไปกับเพื่อน ไม่รู้ว่าเพื่อนจะลากไปไหนบ้างค่ะ
โดย: ศศิกัณห์ วันที่: 17 ตุลาคม 2550 เวลา:5:52:05 น.
  
บริจาคเลือดไม่ได้อ้ะ T-T

แบบว่าน้ำหนักไม่ถึงเกณฑ์นะ ฮิ้ววววววววววววววว :P
โดย: :D keigo :D วันที่: 17 ตุลาคม 2550 เวลา:12:36:09 น.
  
เมย์
โอเค ถ้าไม่ติดอะไรพี่ก็อาจจะไป 27-28 นะคะ ถ้าเราจะไปวันไหนช่วยบอกด้วยน้า เผื่อจะได้เจอกันจ้า


พี่กบ
น้ำหนักไม่ถึงเกณฑ์จริงอ้ะพี่กบ โกซิกช่วงกินเจ บาปน้า อิอิ
โดย: ไกลนั้น วันที่: 18 ตุลาคม 2550 เวลา:13:13:24 น.
  
เก่งนะครับ บริจาคโลหิต
ผมล่ะชิครับกลัวเข็มแล้วก็แพ้เลือดด้วยอ่ะครับ เศร้าใจครับ
โดย: เพกร (เพกร ) วันที่: 14 พฤศจิกายน 2550 เวลา:23:29:16 น.
ชื่อ :
Comment :
 *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 

ไกลนั้น
Location :
กรุงเทพ  Thailand

[ดู Profile ทั้งหมด]
 ฝากข้อความหลังไมค์
 Rss Feed
 Smember
 ผู้ติดตามบล็อก : 16 คน [?]



สวัสดีค่ะ ไกลนั้น คือ นามปากกาที่ใช้ในการเขียนนิยายที่ถนนนักเขียนในเวบพันทิพย์ดอทคอมค่ะ หลายๆคนอาจจะเคยได้อ่านงานเขียนของไกลนั้นมาบ้างแล้ว ในนามปากกาว่า อโณทัย



ไกลนั้นขอฝากผลงานเขียนที่ได้ตีพิมพ์ในปัจจุบัน ตรงด้านล่างด้วยนะคะ ^^ อ่านแล้วคิดเห็นยังไง บอกได้เลยนะคะ


เรื่องสั้น


ต้องหนีเท่านั้น

ความฝันที่หายไป

การกลับมาของอากง

หมอดุ

ความเจ็บปวดครั้งสุดท้าย


รอวันนั้น


สะเตง...อรุณฉายที่ปลายใจ






เรื่องยาว



Believe...สุดปลายฝันนั้นคือเธอ




คือทุกสิ่งเพื่อเธอ เล่ม 1




คือทุกสิ่งเพื่อเธอ เล่ม 2




เพียงความคิดถึง



ทางกลางใจ เล่ม1




ทางกลางใจ เล่ม2
ตุลาคม 2550

 
1
2
3
4
5
7
8
9
10
11
12
13
14
15
16
17
19
21
22
23
24
25
26
27
28
29
30
 
 
All Blog