เรื่องขำขัน 2
ไม่รู้ทำไม ใครๆ ว่าเราเป็นคนมีเรื่องขำๆ ในชีวิตเยอะมาก เวลาคุยโทรศัพท์หรือไปบอกเล่าเพื่อน ก็จะมีคนหัวเราะตลอด เลยคิดว่า เอ...อาจจะเป็นพรหมลิขิตที่เราได้เจอเรื่องราวแปลกประหลาดกว่าคนอื่น และสามารถถ่ายทอดได้ดีกว่า โม้ได้สนุกกว่า ก็ลองอ่านดูนะคะ นี่เป็นแค่บางเรื่องเท่านั้น

-------------------------------------------

1. ผิดศาลา
วันหนึ่ง ไกลนั้นได้รับโทรศัพท์จากรุ่นน้องค่ะ คุณพ่อเขาเสียชีวิต ไกลนั้นเลยนัดน้องๆ คนอื่นว่าจะไปร่วมงานในเย็นวันที่... ซึ่งน้องคนอื่นๆ ก็เลยคิดว่าจะไปร่วมด้วยในวันเดียวกัน

แต่เจ้ากรรม วันนั้นฝนตกหนักมากค่ะ กว่าจะถ่อไปถึงวัดก็ทุ่มกว่า อารามสะเพร่า ลืมถามน้องเขาไปว่า คุณพ่อเขาอยู่ศาลาไหน เพราะคิดว่าหากไปถึงวัด ค่อยโทรถามก็ไม่สาย แต่เอาเข้าจริง ยังไม่ทันถามไถ่ที่ตั้งศพเลย คนขับแท็กซี่ก็เริ่มหงุดหงิดเพราะวัดนั้นน้ำท่วม

ขณะที่กำลังลน กลัวคนขับถีบลงจากรถ ไกลนั้นเห็นหลังของผู้หญิงคนนึงค่ะ คล้ายๆ รุ่นน้องมาก เลยคิดว่า สงสัยศาลานี้แหละ ก็เลยเรียกรถจอดค่ะ แล้วตัวเองก็ลงไป ฝ่าสายฝนวิ่งไปในศาลาสวดพระอภิธรรมนั้น

ทันทีที่เข้าไป มีหนุ่มคนนึงหน้าตาดีมากๆ ขอย้ำว่า ดีมากจริงๆ ยิ้มรับแล้วถือร่มคันใหญ่มาถามว่า "มาจากฝ่ายไหนครับ"

ไกลนั้นก็แจ้งเขาไป "อ๋อ เป็นรุ่นพี่ของน้องที่มหาวิทยาลัยค่ะ" แอบนึกในใจ ทำไมพี่ชายน้องรหัสตูหน้าตาดีขนาดนี้ฟร่ะเนี่ย ยิ้มที หัวใจเกือบละลาย

เขาทำหน้างงๆ ก่อนเรียกเพื่อนๆ อีกสามสี่คน ซึ่งเป็นกลุ่มที่หน้าตาดีหมด ขอย้ำว่าหน้าตาดีกันทุกคนจริงๆ และให้พวกเขาพาไกลนั้นไปบนศาลา เพื่อจุดธูปไหว้ศพตามธรรมเนียม

หากขณะกำลังเดินขึ้นไป ไกลนั้นดันเหลือบไปเห็นศาลาข้างๆ อ้าว น้องเราทำไมไปเดินอยู่ตรงศาลาโน้นล่ะ ไวเท่าความคิด เลยมองไปทางรูปศพที่ตั้ง อ้าวเฟ้ย ไม่ใช่คุณพ่อของน้องเขานี่นา คือหน้าตาแบบว่าจีนแท้ๆ เลยค่ะ แต่น้องรหัสเป็นคนไทยแท้ๆ ไม่มีเชื้อจีนเลย

"อ๊ากก ผิดศาลา"

เท่านั้นแหละ หน้าแหกก็มาเยือน วินาทีนั้นรู้อย่างเดียว อยากจะหายไปจากศาลานี้ให้เร็วที่สุด อายจริงๆ ที่เดินดุ่ยๆ แบบผิดศาลา แต่ที่แย่กว่านั้นคือ ผู้ชายที่อุตส่าห์ไปกางร่มรับ ก็อมยิ้มขำๆ ก่อนจะพากางร่มพาไปส่งศาลาข้างๆ ให้ด้วย เฮ้อ ไปปล่อยไก่ศาลาอื่นซะงั้น

ฝ่ายน้องถามคำเดียว "พี่ยังไม่ได้ให้ซองเขาไปใช่ป่ะ"

เอ่ม ไอ่นี่ พี่มันจะไปหน้าแตกที่ไหนก็ไม่เป็นไร แต่ขอซองหนูก่อนละกัน เฮ้อ


-------------------------------------------
2. กลิ่นนรก

ช่วงที่กำลังจนๆ เพราะผ่อนบ้าน ทำให้ไกลนั้นต้องคิดคำนวนค่าใช้จ่ายในการกลับบ้านค่ะ หากตัดค่าเดินทางได้ครึ่งนึง ก็เท่ากับว่าเราจะมีตังค์เหลืออีกหลายร้อยในเดือนนั้น คิดไปคิดมา ทางที่ดีที่สุดคือ นั่งรถประจำทางค่ะ เพราะคิดดูแล้ว ถูกกว่ากันเกินครึ่ง แถมยังช่วยลดการใช้พลังงานด้วย

วันแรกที่ไปยืนรอ โอ้โห นี่มันปลากระป๋องรึเปล่าเนี่ย รถยูโรแต่ละคันที่วิ่งผ่านไป คนเต็มจนยืนถึงบันไดขั้นที่สอง และยังมีคนอีกร่วมร้อยที่ยืนมองตาละห้อย เสียดายสุดๆอยู่ตรงถนนข้างล่าง เห็นแล้วก็หนาว แต่เอาฟร่ะ เป็นยังไงเป็นกัน ไกลนั้นก็กระชับกระเป๋ามั่น หมายใจว่าหากคันต่อไปมา เราต้องเป็นคนนึงที่ได้ยืน(หวังแค่ได้ยืนค่ะ ไม่หวังได้นั่งเลย)

ในที่สุด รถเมล์ก็มาถึง โชคดีที่มันดันจอดตรงหน้าพอดี ไกลนั้นรีบใช้ตีนผีกระโดดหมับขึ้นไปบนรถ ใจก็ยิ้ม เย้ร์ๆ กลับบ้านได้แล้ว ในที่สุดมันก็มีเนื้อที่ให้เรายืนกลับบ้าน

ทว่า ดีใจได้ไม่นาน ทั้งรถที่เบียดเสียดอัดแน่นแทบจะเป็นผัวเมียกัน ดันมีกลิ่นตุๆ อย่างนึงลอยมาค่ะ แรกๆ ไกลนั้นก็พยายามไม่สนใจ แต่ทีนี้ มันเกินจะทนแฮะ กลิ่นตัวใครหนอสุดแสนจะทานทน แล้วเมื่อไหร่รถมันจะไปถึงที่หมายซะที ตอนนี้จะลงก็ไม่ได้ เพราะอยู่บนทางด่วนค่ะ โอย เบียดกันก็แย่แล้วนะ นี่ยังเจอกลิ่นสกั้งค์เข้าไปอีก แทบอยากจะเป็นลมจริงๆ

ยังคะ ยังไม่หยุดความซวย บนทางด่วนปกติใช้เวลาประมาณสิบห้านาที แต่นี่ มีรถเวรคันไหนมาชนกันบนนั้นอีก จากที่ใช้เวลาสิบห้านาที ตอนนี้สี่สิบนาทียังไม่ขยับเลย T___T

โอ้...อากาศ อากาศหายใจอยู่ตรงไหน ไกลนั้นพยายามยื่นหน้าไปทิศทางที่ดีที่สุด ควานหาอากาศบริสุทธิ์ประทังชีวิตน้อยๆ แล้วฉับพลัน ก็มีเสียงวีดร้องของผู้โดยสารค่ะ หันไปดู ผู้หญิงคนนึงเป็นลมไปเรียบร้อยแล้ว ภายในกลิ่นรัญจวนใจ เพราะเธอยืนใต้วงแขนต้นกำเนิดเน้นๆ แบบไม่มีอะไรเซนเซอร์

อพิโถ คนที่ยืนข้างๆ แบบไกลนั้นยังแย่ ประสาอะไรกับใต้วงแขนเล่า น่าสงสารเธอจริงๆ ในขณะเดียวกันก็นึกอิจฉาที่เธอมีโอกาสคุดคู้ยองๆ และควักยาดมวาเป๊กซ์ขึ้นมาอัดจมูกเพื่อให้ชีวิตรอดต่อไป

วันนั้น เลยเพิ่งรู้สึกถึงชีวิตชาวบ้านที่รอรถเมล์ฟรีค่ะ ขนาดเราเป็นรถยูโรยังแย่ปานนี้ แล้วรถเมล์ฟรีที่คนกรุงชอบขึ้น มันอัดแน่นยิ่งกว่า นี่จะขนาดไหนหนอ กรรมของคนกรุงจริงๆ






Create Date : 22 พฤศจิกายน 2552
Last Update : 22 พฤศจิกายน 2552 13:26:59 น.
Counter : 808 Pageviews.

1 comments
  
อ่านแล้วฮาจริง ๆ ค่ะ
โดยเฉพาะเรื่องกลิ่นนรก
มีประสบการณ์เรื่องนี้อยู่เหมือนกันค่ะ
เคยขึ้นรถยูโร
แล้วมีที่นั่ง
โดดลงนั่งทันที
ยังงงว่า ที่นั่งตรงนี้ทำไมไม่มีคนนั่ง
แต่พอนั่งปุ๊บ
โหย...กลิ่นรัญจวนมาก
เป็นชาวต่างชาติอ้ะ
จะลุกขึ้นยืน ก็เกรงใจแก
เพราะแกต้องรู้แน่เลยว่า
เราลุกขึ้นเพราะอะไร
(แน้...ดันมีมารยาทอีก)

กว่าจะถึงป้ายที่จะลง
แทบขาดใจ อิอิ
โดย: โสดในซอย วันที่: 22 พฤศจิกายน 2552 เวลา:19:17:36 น.
ชื่อ :
Comment :
 *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 

ไกลนั้น
Location :
กรุงเทพ  Thailand

[ดู Profile ทั้งหมด]
 ฝากข้อความหลังไมค์
 Rss Feed
 Smember
 ผู้ติดตามบล็อก : 16 คน [?]



สวัสดีค่ะ ไกลนั้น คือ นามปากกาที่ใช้ในการเขียนนิยายที่ถนนนักเขียนในเวบพันทิพย์ดอทคอมค่ะ หลายๆคนอาจจะเคยได้อ่านงานเขียนของไกลนั้นมาบ้างแล้ว ในนามปากกาว่า อโณทัย



ไกลนั้นขอฝากผลงานเขียนที่ได้ตีพิมพ์ในปัจจุบัน ตรงด้านล่างด้วยนะคะ ^^ อ่านแล้วคิดเห็นยังไง บอกได้เลยนะคะ


เรื่องสั้น


ต้องหนีเท่านั้น

ความฝันที่หายไป

การกลับมาของอากง

หมอดุ

ความเจ็บปวดครั้งสุดท้าย


รอวันนั้น


สะเตง...อรุณฉายที่ปลายใจ






เรื่องยาว



Believe...สุดปลายฝันนั้นคือเธอ




คือทุกสิ่งเพื่อเธอ เล่ม 1




คือทุกสิ่งเพื่อเธอ เล่ม 2




เพียงความคิดถึง



ทางกลางใจ เล่ม1




ทางกลางใจ เล่ม2
พฤศจิกายน 2552

1
2
3
4
5
6
7
8
9
10
11
12
13
14
15
16
17
18
19
20
21
23
24
25
26
27
28
30
 
 
22 พฤศจิกายน 2552
All Blog