เช้าวันอาทิตย์ กับการทำบุญที่วัด


อ้างอิงรูปภาพจาก //www.geocities.com/watplub/

เมื่อมีเรื่องดีๆ เกิดขึ้นในชีวิต คนในครอบครัวจึงบอกให้ไกลนั้นไปทำบุญค่ะ จะว่าไป ไกลนั้นก็ไม่แน่ใจนะว่า คนอายุประมาณไกลนั้น เขาจะชอบเข้าวัดทำบุญมากแค่ไหน แต่เท่าที่เคยเจอ นอกจากวัยสี่สิบอัพ ที่จูงเด็กๆ มาทำบุญ ไกลนั้นก็ไม่ค่อยเห็นคนรุ่นเดียวกันไปทำบุญที่วัดสักเท่าไหร่ (หาเอาแถวห้างน่าจะง่ายกว่านะ)


สมัยก่อน วัดคือศูนย์กลางของการพบปะสังสรรค์ แต่สมัยนี้ บางวัดอาจจะมีวัตถุประสงค์ที่เปลี่ยนไป ไม่ว่าจะเป็นเสียงโทรโข่งดังแสบแก้วหู ประเภท "กฐินทางขวา มุงหลังคาโบสถ์ทางซ้าย เร่เข้ามาครับพี่น้อง" มองมากๆ มันทำให้รู้สึกว่า เรากำลังเข้ามาในเขตธุรกิจพันล้านรึเปล่าเนี่ย

วันนี้ไกลนั้นก็ไปทำบุญที่วัดค่ะ วัดนี้เป็นวัดที่ไกลนั้นกับพี่สาวมาทำกันเป็นประจำ ตามแต่กำลังทรัพย์และกำลังศรัทธา หลวงพ่อท่านอายุประมาณเจ็ดสิบกว่า เดินเหินไม่ค่อยแข็งแรงเท่าไหร่ แต่ก็ยังมีแก่ใจถามไถ่ทุกข์สุขญาติโยมทุกครั้ง

ไกลนั้นจัดอาหารคาวหวานตามปกติ ก่อนไปนั่งพับเพียบแต้รอหลวงพ่อ หากแต่ผู้หญิงอีกคนที่มารอหลวงพ่อเช่นกัน ถามไกลนั้นว่า

"หนูมาให้หลวงพ่อดูดวงเหรอ"

"อะไรนะคะ" งง รับมุขไม่ทันจริงๆ ค่ะ

"หลวงพ่อท่านดูดวงแม่น"

แป่ว ซะงั้นนะ เราสองพี่น้องได้แต่ยิ้มๆ จะว่าไปท่านก็ดูให้แม่นจริงๆ แหละ เนื่องจากถวายเพลท่านมาหลายปี บางทีท่านก็มักจะถามวันเดือนปีเกิด แล้วก็ให้ระวังๆ บ้าง

แต่เชื่อหรือไม่ว่า การดูดวงมันก็แค่นั้น ตราบใดที่เรายังไม่ได้ลงมือทำ มันคงไม่มีวันสำเร็จ ไกลนั้นไม่เคยเชื่อคำว่าฟลุ๊คค่ะ ชาตินี้ไม่เคยซื้อล็อตตารี่สักใบ การพนันไม่เคยแตะ และตั้งแต่เกิดมาจนถึงเดี๋ยวนี้ ไกลนั้นเคยเสียเงินไปดูดวงแค่ครั้งเดียว แต่ครั้งเดียวก็เกินพอแล้วค่ะ เพราะสิ่งที่เขาพูดมา มันก็มีอยู่ในหนังสือธรรมะทั้งหลาย หากเราไม่ตั้งตนด้วยความประมาท ความสำเร็จก็คงอยู่ไม่ไกล ไม่จำเป็นต้องดูดวงให้เสียตังค์เพิ่ม หรือให้เครียดไปเปล่าๆ (หากว่าซวยเจอว่าดวงตอนนี้กำลังตก)

ดังนั้น แม้ตัวเองจะทำบุญกับหลวงพ่อมานมนาน แต่ก็ไม่เคยขอร้องให้ท่านช่วยดูดวงให้สักครั้ง หากบางทีท่านเมตตาทักๆ มา เราก็รับฟังไว้และระมัดระวังตนยิ่งขึ้น

และไกลนั้นถือว่า เอาเรื่องทางโลกไประบายกับท่าน มันบาปๆ แฮะ ท่านเป็นพระ เหตุที่ออกบวชก็เนื่องจากต้องการตัดกิเลส บวชเพื่อนำหลักธรรมที่ศึกษามาสั่งสอนพวกเราให้ใฝ่ดี แต่นี่กลายเป็นเอาเรื่องทางโลกมาบ่นให้ท่านฟัง มันทำให้บาปนะคะ และเนื่องจากผู้ที่มาดูดวงกับหลวงพ่อ นับวันจะมีมากขึ้นทุกที บางครั้งรู้สึกแปลกใจ ทำไมคนเราถึงไม่ขอให้ท่านเทศน์บ้าง ทั้งที่ท่านเทศน์ดีออก กลับแต่จะขอดูดวงเสียนี่ ท่านก็ชราภาพมากแล้ว แต่อาจจะขัดลูกศิษย์ไม่ได้

บางคนมาวัด ฮามาก ถามหลวงพ่อท่านหน้าตาเฉยว่า "เมื่อไหร่หนูจะรวยคะหลวงลุง"

หนนั้นแอบมองหน้าคนถามนิดนึง หลวงพ่อท่านก็หัวเราะ แล้วบอกให้ขยันทำมาหากิน เดี๋ยวก็รวยเอง"

ยังดีแฮะ ไม่เคยมีใครไปถามเลขเด็ดจากท่าน อาจจะเป็นเพราะท่านไม่บอกรึเปล่าก็ไม่รู้

บางคนหนักกว่านั้นอีก คาดว่าทุกข์หนักจนไม่รู้จะหาทางออกด้วยอะไร ไกลนั้นเคยนั่งฟัง ปัญหาประมาณว่า ทำธุรกิจก็ล้มเหลว เมียก็ทะเลาะกัน จะแยกบ้านกันอยู่ ลูกก็กำลังเรียนมหาวิทยาลัย ต้องใช้เงิน ตัวเองก็เป็นหนี้เป็นสิน เคยคิดจะฆ่าตัวตายแต่ญาติๆ ห้ามไว้ และพามาหาหลวงพ่อ เผื่อว่าทำบุญแล้วอะไรจะดีขึ้น

ไกลนั้นฟังแล้วโอ้ว อึ้งไปเลย คนเล่าเป็นผู้ชายนั่งร้องห่มร้องไห้ หลวงพ่อท่านเงียบไปนิดนึง พอเห็นคุณโยมหยุดฟูมฟาย ก็เอ่ย

"ไปสวดมนต์นะโยม สวดอิติปิโส แล้วก็สวดบูชาคุณพระรัตนตรัย"

หนนั้นแอบทึ่งหลวงพ่อแฮะ การสวดมนต์สำหรับคนอื่นก็ไม่รู้นะว่าจะคิดยังไง แต่สำหรับไกลนั้น มันคือการเรียกสติสัมปะชัญญะให้อยู่กับตัวเรา ยิ่งถ้าสวดด้วยเสียงใสกังวาน จะยิ่งเพิ่มความน่าฟังเข้าไปอีก ไกลนั้นคิดว่า ท่านคงมองเหตุการณ์ออก จึงเสนอวิธีนี้ออกไป ในขณะที่คนพูดก็วนเวียนย้ำแต่เรื่องทุกข์ใจ เรื่องล้มเหลวอยู่เนืองๆ หนนั้นเห็นท่าไม่ดี ไกลนั้นเลยรีบถวายเพลและรีบกลับดีกว่า กลัวจะรบกวนพระค่ะ

แต่ถึงจะมีหลากหลายร้อยพันเรื่องราว ไกลนั้นก็ยังอดคิดไม่ได้ว่า ท้ายที่สุดแล้ว วัดก็ยังคงเป็นที่พึ่งทางใจกับคนไทยอยู่ หลายคนอาจจะชอบเดินห้าง ท่องเที่ยวป่าเขา นั่นอาจจะเป็นความสุขทางกายเท่านั้น ก็เห็นเวลาคนเราทุกข์หนักหนาสาหัส ใจก็มักจะอยากทำบุญที่วัดก่อน จะสะเดาะเคราะห์ อาบน้ำมนต์ล้างซวยก็ว่าไป ยังไม่เคยเห็นใครกลุ้มใจอยากฆ่าตัวตาย แล้วจะหาทางออกด้วยการไปเดินห้างสรรพสินค้าสักคน


มีแต่อยากไปวัดกันทั้งนั้น ฮา



Create Date : 27 กันยายน 2552
Last Update : 27 กันยายน 2552 23:01:53 น.
Counter : 940 Pageviews.

8 comments
  
"มีแต่คนอยากไปวัด" อิอิ ได้อ่านที่พี่โณเล่าแล้วละอายใจตัวเองจังT T วิวเคยไปถามพระด้วยว่าวิวจะสอบติดเภสัชหรือเปล่า ฮึกๆ แต่วิวว่าวัดเป็นสถานที่ๆทำให้จิตวิวสงบ บางทีก็ไปนั่งเล่น เอื่อยๆอยู่นั้นแหละ แต่ต้องเป็นกลางวันนะคะ กลางคืนไม่ไหว บรึ้ย

พี่โณวิวอ่านวานวานครบหมดทุกเล่มแล้วนะคะ ห้าๆ ขำกลิ้งทุกเล่ม วิวเอาไปให้เพื่อนอ่าน เขาไม่เห็นขำกันเลย ยังมาบอกวิวอีกแค่นี้นะขำ วิวว่ามันขำนา แต่ถ้าเป็นรายการตลกเนี่ยวิวไม่เคยดูแล้วขำสักตอน ไม่ว่าตลกคนไหนเล่น ยังไม่มีเสียงหัวเราะออกมาเลย วิวขาดอารมณ์ขันขนาดนั้นเลยเหรอ วิวชอบเรื่องโดดงานอะ ฮากลิ้งมากๆ ขำเกือบทุกตอน วานวานต้องเป็นคนนิสัยน่ารักแน่ๆเลย อยากเจอจังเห็นว่าวันที่22ที่งานหนังสือวานวานจะมาด้วยค่ะ ออกเล่มใหม่ด้วย คิดถึงทุกวันได้ไหมเนี่ย เล่มต่อๆไปจะมี...อีกไหมเนี่ย ฮา
โดย: วิว IP: 124.157.146.55 วันที่: 29 กันยายน 2552 เวลา:0:11:21 น.
  
วานๆ จะออกเล่มใหม่เหรอคะ พี่ไม่เห็นได้ยินข่าวเลย คิดถึงทุกวันได้ไหมเนี่ย จริงเหรอน้องวิว ทำไมพี่ไปดูที่บล็อกคุณเบียร์ก็ยังไม่เห็นเลยล่ะ

ส่วนเรื่องไปวัด พี่ว่าถามแบบน้องวิวมันไม่เท่าไหร่หรอกค่ะ แต่บางคนเอาเรื่องทางโลกไปพูดเยอะมาก มากจนพี่อึ้งๆ ก็เข้าใจนะว่าเขาคงทุกข์ใจหนัก แต่การทำแบบนี้ บางทีมันก็มองได้สองมุม จะว่าไปก็ไม่มีใครผิดใครถูกหรอกจ้ะ


วันนี้กิสนาเข้าไทย ตอนนี้อากาศมัวๆ มากเลยค่ะ สงสัยคืนนี้กรุงเทพคงตกหนักแน่ๆ
โดย: ไกลนั้น วันที่: 30 กันยายน 2552 เวลา:16:02:42 น.
  
ก็จริงนะน้องโณ คนเรามีเรื่องทุกข์ใจถึงอยากหันหน้าเข้าหาวัดล่ะ เวลามีความสุขไม่ค่อยมีใครเข้าวัดกันเลย - -"

เคยเหมือนกัน ช่วงนึงของชีวิตค่อนข้างตกต่ำอ่ะ ก็เข้าวัดไปให้พระดูดวงให้ (เหอๆ) แล้วระหว่างรอคิวเนี่ย ก็จะได้ยินเรื่องจากคนที่มาดูดวงเหมือนกันอ่ะ เชื่อป่าว มีแต่คนมีเรื่องสามีมีภรรยาน้อย แท้งลูก ทั้งนั้นเลยอะ ฟังแล้วเครียดจัง สังคมไทยเป็นไรกันเนี่ย - -"

เหอๆ วันนี้แอบมีสาระ

ปล.ชวนไปดูพี่แปลเพลงบ้างจ้ะ อิอิ
โดย: :D keigo :D วันที่: 1 ตุลาคม 2552 เวลา:11:32:44 น.
  
ช่วงนึงของชีวิต โณก็มีเรื่องทุกข์ใจมากค่ะพี่กบ ช่วงนั้นจะชอบอ่านหนังสือเรื่องเข็มทิศชีวิต เขามีเล่าถึงนิทานเรื่องนึง ที่นางกีสาโคตรมีเป็นบ้าเพราะลูกตาย เลยพยายามวิ่งไปขอให้คนอื่นๆ ช่วยให้ลูกฟื้นขึ้นมา เธอไปเจอพระพุทธเจ้าและได้อ้อนวอนท่าน พระองค์จึงตรัสให้นางไปหาเมล็ดผักที่ปลูกในบ้านที่ไม่มีใครตาย หากหาได้ ท่านจะชุบชีวิตลูกของนางให้ฟื้น

ก็คงรู้คำตอบว่าหายังไงก็หาไม่เจอ

แต่นิทานเรื่องนี้สอนโณด้วยอ่ะค่ะ หากคิดว่าตอนนี้ทุกข์ที่สุด ก็คงไม่เท่ากับนางกีสาโคตรมี ที่เสียลูกสุดที่รักไป และไม่ว่าใครก็คงต้องมีความทุกข์ทั้งนั้น ขึ้นกับเราจะยอมรับและสู้ต่อไปได้รึเปล่า

และปัญหาที่โณเจอ จะว่าเป็นอุปสรรคก็เรียกว่าเป็น แต่จะว่าเป็นการได้รับความก้าวหน้าขึ้น ก็เรียกได้เหมือนกันค่ะ เพราะจากจุดนั้นทำให้ชีวิตโณหักเหและได้อะไรดีๆ กลับมาอีกเพียบ โณไม่ค่อยเชื่อเรื่องดูดวง เพราะเคยให้อาจารย์ดูดวงแล้วเจอว่าดวงไม่ได้เรื่องสักอย่าง ซึ่งอนาคตของโณตรงข้ามกับสิ่งที่อาจารย์ดูไว้หมดเลยค่ะพี่กบ คือโณไม่ยอมเชื่อในสิ่งที่เขาพูด โณก็พยายามทำให้มันเป็นสิ่งเดียวกับที่โณเชื่อและอยากได้ คนเราลงว่าอยากได้ซะอย่าง ยังไงมันก็ต้องทำได้อ่ะ

เคยพูดกับพี่บาโว่ไว้ ชีวิตโณไม่ค่อยมีอะไรได้มาด้วยคำว่าฟลุ๊ค พี่เขาก็บอกว่า ชีวิตพี่เองก็ไม่มีคำนั้นเหมือนกัน ฟลุ๊คเนี่ย ไม่มี๊ มีแต่ทำด้วยลำแข้งยังไม่ค่อยได้เลย ต้องทำด้วยลำแข้งกับมือ


ส่วนเรื่องที่สามีมีเมียน้อย หรืออะไรพวกนี้ ฟังแล้วก็น่าเบื่อเนอะพี่กบ เข้าใจจิตใจคนพวกนี้เลยค่ะ เขาคงทุกข์มาก อย่างว่า เสียทองเท่าหัว ไม่ยอมเสียผัวให้ใคร เพื่อนโณที่อกหักอ่ะพี่ ตอนนี้มันยังไม่หายบ้าเลยค่ะ เห็นมันแล้วก็รู้สึกดีใจที่ตัวโณยังไม่เคยเป็นแบบนั้น มันอาจจะเป็นความโชคดีของคนยังไม่มีใครก็ได้นะคะ ฮา
โดย: ไกลนั้น วันที่: 2 ตุลาคม 2552 เวลา:9:46:08 น.
  
แหะๆ ขี้เกียจล็อกอินอีกเช่นเคย - -"

อืม จ้ะ ... เค้าถึงว่างัย ฟ้าหลังฝนย่อมสดใสเสมอ พอหลังจากปัญหาต่าง ๆ นานามากมายที่เข้ามาเนี่ย ถ้าเราฝ่าฟันมันไปได้ แล้วจะได้บทเรียนอีกเพียบเลยเชียว เหอ ๆ แต่ถ้าเลือกได้ ก็คงไม่มีใครอยากเจออุปสรรคหรือปัญหาอะไรหรอกเนอะ

เรื่องเพื่อนอกหัก ทำอะไรไม่ได้ นอกจากให้เวลาเค้าอย่างเดียวเลยอ่ะพี่ว่า อยู่ข้าง ๆ เป็นเพื่อน คอยฟังเพื่อนระบาย (แม้ว่าจะซ้ำไปซ้ำมาก็ตาม เหอๆ) ... พอเพื่อนน้องโณทำใจได้เมื่อไหร่ เค้าก็จะรู้สึกโอเคขึ้นเลยแหละ ^^" ... แต่ช่วงนี้คือช่วงที่สาหัสที่สุดอ่ะนะ เหอๆ เอาใจช่วยให้เพื่อนน้องโณก้าวข้ามช่วงเวลาที่แย่ ๆ ไปได้เร็ว ๆ จ้ะ
โดย: พี่กบเอง IP: 10.156.0.188, 203.151.17.97 วันที่: 2 ตุลาคม 2552 เวลา:16:46:34 น.
  
พี่กบ
นั่นสิคะ โณก็ไม่ค่อยเข้าใจคนอกหักเท่าไหร่ เวลาผ่านไปนานสามชาติเศษยังไม่ลืมอีกหรือเนี่ย

โณเองก็เลือกที่จะไม่เจอเหมือนกันค่ะพี่กบ หากเจอไม่ดี สู้อยู่อย่างงี้ดีกว่า สบายใจดีค่ะ พวกแวบๆ เข้ามาเนี่ย หากไม่ตั้งใจก็คงได้แค่นั้น เพราะเราคงไม่คิดอะไร ตั้งใจทำงานดีกว่า ฮี่ๆๆ


พี่กบไม่ได้ไปเที่ยวที่ไหนเหรอคะช่วงนี้
โดย: ไกลนั้น วันที่: 4 ตุลาคม 2552 เวลา:22:23:42 น.
  
เวลาผ่านไปนานสามชาติเศษยังไม่ลืมอีกหรือเนี่ย << ประโยคนี้ต้องยกเอาคำพูดในหนังเรื่อง Il mare (มั้ง ถ้าจำไม่ผิดล่ะก็นะ) มาพูดเลยจ้ะ ... ที่รักเจ็บปวด ไม่ใช่เพราะรักจากไปหรอก เป็นเพราะรักยังอยู่ต่างหาก

เรื่องพวกนี้ พี่มะค่อยอยากพูดไรมากอ่ะจ้ะ เดี๋ยวยาว 555

ช่วงนี้ไม่ได้ไปเที่ยวไหนเลย เก็บตังค์รอไปเที่ยวเชียงใหม่ปลายเดือนนี้อ่ะ (หวังว่าคงไม่มีปัญหาจนต้องยกเลิกหรอกน๊าาาา - -")
โดย: :D keigo :D วันที่: 8 ตุลาคม 2552 เวลา:21:21:04 น.
  
พี่กบ
อ่ะฮ้า เดี๋ยวนี้พี่กบเป็นกูรูเรื่องความรักไปแย้ว แต่จะว่าไปนะคะ การอยู่แบบไม่มีความรัก ยังดีกว่าการที่เจอรักห่วยๆ แม้บางคนจะเถียงว่าไม่จริง แต่โณก็คิดว่า เสียสมองไปนั่งคิดเรื่องแบบนี้อ่ะค่ะ

ช่วงนี้โณก็ไม่ได้ไปไหนเหมือนกันค่ะพี่กบ
โดย: ไกลนั้น วันที่: 12 ตุลาคม 2552 เวลา:11:18:16 น.
ชื่อ :
Comment :
 *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 

ไกลนั้น
Location :
กรุงเทพ  Thailand

[ดู Profile ทั้งหมด]
 ฝากข้อความหลังไมค์
 Rss Feed
 Smember
 ผู้ติดตามบล็อก : 16 คน [?]



สวัสดีค่ะ ไกลนั้น คือ นามปากกาที่ใช้ในการเขียนนิยายที่ถนนนักเขียนในเวบพันทิพย์ดอทคอมค่ะ หลายๆคนอาจจะเคยได้อ่านงานเขียนของไกลนั้นมาบ้างแล้ว ในนามปากกาว่า อโณทัย



ไกลนั้นขอฝากผลงานเขียนที่ได้ตีพิมพ์ในปัจจุบัน ตรงด้านล่างด้วยนะคะ ^^ อ่านแล้วคิดเห็นยังไง บอกได้เลยนะคะ


เรื่องสั้น


ต้องหนีเท่านั้น

ความฝันที่หายไป

การกลับมาของอากง

หมอดุ

ความเจ็บปวดครั้งสุดท้าย


รอวันนั้น


สะเตง...อรุณฉายที่ปลายใจ






เรื่องยาว



Believe...สุดปลายฝันนั้นคือเธอ




คือทุกสิ่งเพื่อเธอ เล่ม 1




คือทุกสิ่งเพื่อเธอ เล่ม 2




เพียงความคิดถึง



ทางกลางใจ เล่ม1




ทางกลางใจ เล่ม2
กันยายน 2552

 
 
1
2
3
4
5
6
7
8
9
10
11
12
13
14
15
16
17
18
19
20
21
22
23
25
26
28
29
30
 
 
All Blog