มันก็แค่ "ลองรึยัง"

หวัดดีค่ะ วันนี้ขอมาอัพเดทเรื่องทั่วๆไปกันบ้างดีกว่า สัปดาห์นี้เป็นสัปดาห์สุดท้ายก่อนจะสิ้นปี วันก่อนนั่งคิดๆ ดูว่าปีนี้ผ่านอะไรมาบ้าง อึม โชกโชนไม่เบาเหมือนกันแฮะ ไม่ว่าจะเรื่องการงาน การเรียน


มาที่เรื่องเรียนปีนี้กันก่อนดีกว่า ^^

ปีนี้เป็นปีที่สุดยอดมากสำหรับเรื่องเรียน โดยเฉพาะเทอมที่ผ่านมาแทบจะเอาเกรดไปแปะบนหัวนอน มันคงเป็นเกรดที่ยอดเยี่ยมที่สุดในชีวิตเท่าที่เคยทำได้แล้วล่ะค่ะ ทั้งๆที่ตัวเองเรียนไปทำงานไป แทบไม่ได้มีวันไปเที่ยวกับเขาเลย แต่พอเห็นผลที่ออกมา ก็ทำให้รู้สึกหายเหนื่อยเหมือนกันแฮะ


เรื่องงานเป็นอีกเรื่องนึงที่ผันผวนมากๆ เมื่อตัวเองนั่งในตำแหน่งโปรแกรมเมอร์อยู่ดีๆ ต้องมีอันกระโจนไปทำเป็นฝ่าย Product ครั้งแรก และถูกวางมือเป็น System Engineer ตอนแรกค่อนข้างกลัวมากๆ แต่พอวันก่อนได้เข้าประชุมกับหัวหน้า ที่ร่วมกันสู้มาตั้งแต่ทีมยังมีแค่เราสองคน หลังจากฟังการประเมินผล(ที่ทำให้แอบกรี๊ดไปหลายรอบ โหพี่มองเราดีขนาดนี้เลยเหรอ) และท้ายสุด หลังจากคุยกันมานาน หัวหน้าถามคำถามนึงว่า

"พี่รู้ว่าการเป็นโปรแกรมเมอร์กับการย้ายมาเป็นฟิวส์ System มันค่อนข้างเปลี่ยนแปลงพอสมควร คิดว่าจะทำตรงนี้ได้ไหมครับ"

"ต้องลองดูก่อนค่ะ เพราะโณก็ไม่ทราบเหมือนกันว่าจะทำได้รึเปล่า ลองแล้วโณชอบหรือไม่ชอบ ตรงนั้นค่อยมาว่ากันอีกที"

สิ่งที่คิดไม่ถึงคือ เราได้ยินเสียงตบเข่าฉาดใหญ่ พร้อมๆ กับอาการหัวเราะแบบชอบอกชอบใจ แนวเชียร์บอลแล้วยิงเข้าประตูยังไงยังงั้น หลังจากนี้คงไม่ต้องบอกแล้วล่ะว่าความคิดต่อไปของหน.จะเป็นในรูปไหน



หลังจากออกจากห้องประชุม ไกลนั้นยังคงมานั่งคิดต่อไป...


บางทีไกลนั้นไม่รู้ว่าคนส่วนใหญ่จะตอบยังไงกับคำถามข้อนี้นะ บางคนอาจจะชิงบอกไปเลยว่าตัวเองไม่เหมาะกับการทำหน้าที่ในตำแหน่งตรงนั้น ซึ่งนั่นมันก็เป็นสิ่งที่เขาสามารถตอบได้ ถ้าเขาไม่ชอบและคิดไปเลยว่าทำไม่ได้จริงๆ


แต่คงไม่ใช่นิสัยของไกลนั้นแน่ๆ และยิ่งการไปตอบว่าชอบ ทั้งๆที่เรามาในฟิวส์โปรแกรมเมอร์ มันจะเป็นยังไงต่อไป ถ้าเราทำไม่ได้ขึ้นมา ก็สร้างความผิดหวังอยู่ดี ถึงจะรู้ว่าเขาก็ไม่ได้คาดหวังอะไรกับเรามากมายก็เหอะ


ถึงมีหลายครั้งที่เจอกับปัญหา และสิ่งที่ทำให้ไกลนั้นอดย้อนคิดไม่ได้ว่า ทำไมเราต้องมาทำอะไรแบบนี้ด้วย ทำไมเราไม่ตัดสินใจอย่างนี้ไปล่ะ รู้อย่างนี้เราน่าจะทำแบบนี้... แต่ทุกครั้งที่คิด มันก็ถูกปิดด้วยนิสัยตรงนี้แหละว่า "ขอลองสักตั้งก่อนเหอะ" ถ้าไม่ใช่ ก็ช่างมัน ถือเป็นบทเรียนไป มันคือค่าตอบแทนของการเรียนรู้บทเรียนชีวิต ที่จะช่วยให้เรามีไอเดียการคิดมากขึ้นต่างหาก และบ่อยครั้ง ที่ไกลนั้นใช้ข้อนี้เป็นตัวปลอบใจ ในกรณีที่เราทำอะไรไม่ได้ขึ้นมา โดยเฉพาะกับเรื่องที่เราลองทำไปแล้ว และผลที่ได้รับมันอยู่เหนือการควบคุมของเรา หรือไม่เป็นไปตามที่เราคิดหวัง


และผลสุดท้าย มันก็เดินตามคติประจำใจของไกลนั้นเลยค่ะ "เมื่อคิดดีแล้ว และคิดจะทำ เราต้องกล้าที่จะเสี่ยง ถึงไม่รู้ว่าผลลัพธ์ปลายทางมันจะเป็นในรูปแบบไหน เพราะมันอาจจะไม่สวยหรูอย่างที่เราฟัง เราคิดก็ได้ แต่ถ้าสิ่งนั้นไม่ผิดกับใคร ก็ตั้งใจก้าวไปข้างหน้าเถอะ บางทีความล้มเหลวข้างหน้า มันอาจจะแฝงด้วยความสำเร็จระหว่างทางก็เป็นไปได้ เพียงแค่ลองกล้าที่จะทำดูสักตั้งเท่านั้น"


สุขสันต์วันคริสต์มาสนะคะ ^^

Create Date : 25 ธันวาคม 2550 Last Update : 25 ธันวาคม 2550 12:32:39 น. Counter : 851 Pageviews.		14 comments
Share Tweet