ผู้ชายที่อยาก...หนีให้ห่าง
ผู้ชาย...ที่อยากหนีให้ห่าง นอกเหนือจากชายขี้บุหรี่ ขี้เหล้า ขี้เอา และขี้เหนียวแล้ว เรื่องต่อไปนี้....เป็นผู้ชายอีกประเภทที่เราขอถอยห่าง...ม่ายอาววววดีกว่า ต่อให้อารมณ์ขันเหลือเฟือขนาดใหน...ชีวิตก็คงเหนื่อยเกินไปที่จะอยู่ด้วย นั่นคือ ผู้ชายที่ "ไม่รู้จักวางแผน"...การวางแผนนั้นสะท้อนถึงการใช้ชีวิตด้วยนะ..เราว่า ที่สำคัญเรามันคนไม่วางแผน เลยเหนื่อยแล้ว อยากได้คนมาวางแผนครอบครัวให้... กร๊ากส์ส์ส์ น้องชายเคยสอนว่า...อ๊ะ..ใช่แล้วค่ะ น้องชายเราชอบสอน...พี่สาว( ทึ่มๆอย่างเรา ) เค้าบอกว่าผู้ชายที่ทำประกันชีวิตไว้แสดงว่ามีวิสัยทัศน์ รู้จักวางแผนและมองถึง อนาคต...สรุปว่า...น่าคบไว้ --------------------------------------------- กิลเบิร์ต (ต่อไปนี้ขอเรียกว่ากิล)...เป็นเพื่อนคนหนึ่งที่เรารู้จักตอนอยู่เมกามีอารมณ์ขันเหลือเฟือ อยู่ด้วยแล้วเป็นท้องคัดท้องแข็ง....เรียกว่า "มีเสน่ห์"...ว่างั้น แต่การคบใครสักคนเพื่อลงหลักปักฐาน แค่อารมณ์ขัน...มันไม่พอนะเราว่า กิลอายุประมาณ ๔๒ เป็นหนุ่มลูกครึ่งจีนและฟิลิปปิน โดดวีซ่าอยู่เมกาได้สิบเจ็ดปีแล้ว แต่งงานและมีลูกสอง แต่แยกทางกันแล้ว ปัจจุบันใช้ชีวิตโสดอยู่ตัวคนเดียว มาตามหาความฝันโดยทำงานเป็นนักแสดงตัวประกอบในฮอลลีวูด กิลมาจีบเพื่อนเรา เจอกันตอนเพื่อนเราเสิร์ฟอาหารและปิ๊งเพื่อนเราตั้งแต่แรกเห็น ... เพื่อนเราก็ปิ๊งในอารมณ์ขันของเค้า...นับตั้งแต่บทสนทนาแรก ที่เพื่อนเราจะเข้าไปเก็บจานหลังจากที่เค้ากินเสร็จแล้ว เพื่อน " Are you done?" กิล "No, I'm Gilbert" เน่...เล่นมุกซะ แล้วหนึ่งในเหตุการณ์ที่เราต้องสนับสนุนให้เพื่อนเราเลิกคบกิลก็คือ ขอยืนยันว่านี่คือหนึ่งในหลายเหตุการณ์ จริงๆค่ะ เพื่อนเรามาถามว่า "หลังเลิกงาน คืนนี้สี่ทุ่มช่วยอะไรหน่อยได้มั้ย"...เอิ่ม..คำถามแบบนี้ฟังเมื่อไหร่ ก็หนาวเมื่อนั้นนะ...เราว่า เพื่อนบอกว่า กิลอยากให้เราช่วยเอารถเราไปดันรถเค้าค่ะ O_o ....เอารถเราไปดันรถเค้า!!! (ความคิดแรก คือ...ขนเยอะป่าว..ถ้าขนเยอะนี่ดันยากนะ... อิอิ อย่าคิดลึก)
สืบเนื่องจากรถกิลจอดเสียอยู่ข้างถนนแถวบ้านเค้ามาหนึ่งคืน จะว่าจ้างรถยกก็ไม่มีตังค์ กฎหมายที่แอลเอนี่ห้ามลากรถค่ะ คือห้ามใช้เชือกผูกโยงลากรถกัน กฎหมายเค้าว่าห้ามลาก อีนี่คงเป็นศรีธนญชัยกลับชาติ...เค้าห้ามลาก งั้นกุขอดัน (อันที่จริงดันรถก็ผิดกฎหมายเช่นกันค่ะ)
สรุปคือ มันจะ (เสี่ยง) เอาให้ได้ (สังเกตสรรพนามที่เรียกเริ่มเปลี่ยนแล้วค่ะ) คือใช้ผ้าห่มมาหุ้มตรงกันชนรถ ไม่ให้ถลอก จากนั้นจะใช้รถเราชนๆๆๆๆๆจนคันที่เสียกระเด้งกระดื๊บๆๆๆไปเรื่อยๆๆ ...แล้วมันจะนั่งควบคุมพวงมาลัยคันที่ถูกชนไว้จนถึงบ้าน เพื่อเอาไปซ่อมเองทีหลัง ...แม่เจ้าโว้ย...ใช้ส่วนไหนคิดฟระ (T_T) เพื่อนเราก็มาคะยั้นคะยออยู่ได้จนเลิกงาน "นะๆๆๆ ช่วยหน่อยนะหรือแค่ไปเป็นเพื่อนก็ได้" .......................... .............. ...... สุดท้ายเราก็มาอยู่ร่วมในเหตุการณ์บ้าๆบอๆนี้จนได้ ณ วินาทีที่ไปถึงจุดเกิดเหตุ ใบหน้าคุณอาทั้งสองที่เราอาศัยอยู่ด้วยลอยเด่นมาตรงหน้า ถ้าอารู้ว่ามาทำไรเสี่ยงๆกลางถนนดึกดื่น รอตำรวจมาจับแบบนี้ คงได้หาที่อยู่ใหม่แน่... น่ากลัวกว่าตำรวจอีก "เอิ่ม...ชั้นนั่งเป็นเพื่อนแล้วกันนะ ขอร้องล่ะ ช่วยไม่ไหวจริงๆ อีกอย่างรถเราก็สูงกว่ารถที่จะถูกชนด้วย...ไม่โดนกันชนแน่ รถมันจะบุบแทน" โชคดีชะมัดที่รถเราสูงกว่า
สรุปกิลเลยใช้รถตัวเองอีกคัน (คือกิลมีรถสองคัน...งงมั้ยคะ ท่านผู้ชม ว่ามันมีรถสองคัน แล้วมันจะมายืมรถกุทำไม...เดี๊ยนก็ยังสงสัยอยู่จนบัดนี้) ดันรถคันที่เสีย โดยมีเพื่อนเรานั่งบังคับพวงมาลัย และเรา(ผู้ไม่ได้ช่วยอาไร)นั่งไปเป็นเพื่อนของเพื่อนเราอีกที แล้ววินาทีแห่งความสนุกสุดเสียวก็เริ่มขึ้นค่ะ ท่านผู้โชม ตามเดี๊ยนมาเลยค่ะ ...หน้าคะมำ...คะมำๆๆๆๆไปเรื่อยๆๆๆ ....ด้วยแรงกระแทกของรถกิลที่มาชน สนุกมากๆๆ ขำกระจายวินาทีแรกๆ เหมือนเล่นรถบั๊มซิ่งในสวนสนุกอ่ะ แต่มันส์กว่าเพราะนี่คือ ถนนใหญ่ ๓ เลน ส่วนความเสียวนั้นตามมาทีหลังค่ะ เสียวเพราะกลัวโดนตำรวจเรียก ระยะทางที่โดนชนๆๆๆก็ประมาณ ๒ กิโลเมตร แต่ยาวนานโคตรเกือบชั่วโมง เพราะความไม่รู้จักวางแผนนั่นเอง....
เรา "นี่เธอ...เอ้อ...แล้ว...บ้าน..กิล...มัน...อยู่...ไหน...อ่ะ เธอๆ รู้...จัก..ป่ะ" เพื่อน "รู้ดิ ...แต่..ไปไง...จำไม่ได้..แล้ว ...ก็ โอ้ย..นี่...มันมืด...นี่..นา...จำไม่ได้!" เรา (-_-') "งั้นก็...โทร...ถาม...ดิ" เพื่อน "กิล...ลืม..โทรศัพท์...ไว้ที่บ้าน..." เรา (O__O) "เฮ้ย..งั้น...จะ รู้เรื่อง...กัน..ได้ไงอ่ะ" (กุเครียดนะ) ไม่ทันขาดคำ มีเสียงตะโกนโหวกเหวกมาจากหลังรถ กิล "ยู้ฮู ....เปลี่ยนเลนๆๆๆๆ.... ไปทางซ้ายๆ...ซ้ายๆ....." "ซ้ายอีกๆๆๆ ....ยูเทิร์นหน้า..ยู้ฮู" เรา "หา!!! แม่เจ้า" (>_<) ยูเทิร์น??!!
เรียกได้ว่าครบรสเลยค่ะ หลังจากยูเทิร์นแล้ว ก็ยังมีเปลี่ยนเลน...ชิดขวา...เตรียมเข้าซอย ....เข้าซอย...เฮ้ยๆๆๆ อย่าเลยๆๆๆ แล้วไหนจะเลี้ยวเข้าบ้านอีกอ่ะ โอ้ย....ลำไส้เกือบพุ่งออกปาก... สุดท้ายทายซิคะ เกิดอะไรขึ้น ... เรา "เธอ..จำได้มั้ยอ่ะ..บ้านหลัง..ไหน" คิดอีกที..ไม่น่าถามเลยเรา เพื่อน "จำไม่ได้!" เรานึก...เออ กุพลาดเอง(อย่างแรง) ไม่น่ามาด้วยเล้ย เลี้ยวเข้าซอยแล้วก็ยังมีแยกซ้าย ขวา...และขณะที่กำลังจะโดนแรงกระแทกสุดท้ายส่งเข้าอย่าง....ถูกบ้าน...นั้นเอง เแสงไฟจากรถคันหน้าพุ่งวาบสวนเข้ามาจนเราแสบตา....รถตำรวจค่ะ!
Free TextEditor
Create Date : 13 มิถุนายน 2552 |
|
22 comments |
Last Update : 26 สิงหาคม 2552 12:06:47 น. |
Counter : 605 Pageviews. |
|
|
|
โอ๊ย...คุณกิลนี่เค้าเอาอะไรคิดเนี่ย เค้าให้สาวไปช่วยแบบนั้นได้ยังง๊ายยย... แล้วอเมกาเนี่ย ตำรวจหูตาไวยิ่งกว่าอะไรทั้งปวง แล้วมีการยูเทิร์นด้วยอะค่ะ อันนี้เหลือเชื่อ แต่ก้ออุตส่าห์ทำได้
สุดท้ายก้อกลายเป็นความพยายามที่สูญป่าวสิคะเนี่ย ตำรวจจัดการยังงัยเอ่ย...
ปล. ชอบพี่โอบรรยายว่า " ท่านผู้โชม ตามเดี๊ยนมาเลยค่ะ
" ฮามาก... เหมือนพี่โอกำลังนั่งเล่าอยู่ตรงหน้า