ทุกวันนี้คนอีสานไปอยู่ในหลายประเทศมากขึ้น โอกาสที่จะทำปลาร้าส่งขายต่างประเทศจึงเปิดกว้าง จึงไม่แปลกที่ปลาร้าบองแม่ตุ้ยท่าตูม ผลิตภัณฑ์วิสาหกิจชุมชนกลุ่มแม่บ้านเกษตรกร จ.อุดรธานี จะถูกส่งไปขายญี่ปุ่น ไต้หวัน และ สหรัฐอเมริกา
นายขวัญชัย วงศ์นิติกร อธิบดีกรมการพัฒนาชุมชน กระทรวงมหาดไทย พูดถึงปลาร้าบองของฝากอุดรธานี (ท่าตูม) ผลิตโดยวิสาหกิจชุมชนกลุ่มแม่บ้านเกษตรกรบ้านท่าตูม ต.หมูม่น อ.เมือง จ.อุดรธานี หนึ่งในสินค้าโอทอประดับ 3-5 ดาว ที่ถูกคัดสรรให้มาจำหน่ายในงาน OTOP เพื่อสุขภาพ ที่ชาเลนเจอร์ 1-2 อิมแพค เมืองทองธานี...จนคนที่มาชมงานยืนกันเต็มหน้าร้าน พาให้ร้านอื่นอิจฉาไปตามๆกัน
ส่วนที่มาของปลาร้าโกอินเตอร์ นางวนิดา โคตรศาลา (แม่ตุ้ย) เล่าว่า สืบเนื่องจากปี 2544 กรมการพัฒนาชุมชนได้เข้ามาอบรมสอนทำขนม ทอเสื่อ ทอผ้า เพื่อเอาไปขายในโครงการสินค้า 1 ตำบล 1 ผลิตภัณฑ์...แต่ทำได้ไม่นานตลาดเริ่มตัน เพราะมีแม่บ้านหลายกลุ่มทำผลิตภัณฑ์ซ้ำๆกัน
เราจึงเลิกขาย หันมาทำปลาร้าแทน เพราะวัตถุดิบ ปลา ข่า ตะไคร้ ใบมะกรูด หาได้ง่าย ในหมู่บ้านมีครบทุกอย่าง ถึงหลายคนจะมองว่าตลาดคงไปไม่รอด เพราะคนอีสานจะหมักปลาร้าไว้กินกันเกือบทุกบ้าน จะไปขายให้ใคร แต่เราตั้งเป้าไว้ว่า จะต้องทำปลาร้าให้เป็นที่ยอมรับ นำไปวางขายในห้างสรรพสินค้าให้ได้ และต้องให้ถึงขั้นส่งออกไปต่างประเทศได้ด้วย เพราะปลาร้าจะดีไม่ดีต้องหมักข้ามปี เนื้อปลาร้าจะแดงหอม รสชาติอร่อย
หลังจากหมักได้ที่ถึงจะเอามาทำปลาร้าบองได้หลากหลายรูปแบบ...น้ำปลาร้าสุกปรุงรส, น้ำปลาร้าเข้มข้น, น้ำพริกตาแดง, น้ำพริกปลาย่าง, ปลาร้าบองแมงดา, ปลาร้าบองสมุนไพร แต่เครื่องปรุงทุกอย่างที่นำมาเป็นส่วนผสมต้องอบให้สุกเพื่อให้เก็บได้นาน ถูกสุขอนามัย เพราะคนกินสมัยนี้จะเน้นเรื่องความสะอาดที่มาก่อนความอร่อย
และถ้าจะส่งไปต่างประเทศ ต้องทำเป็นปลาร้าผงหรือบองผง เพื่อสะดวกต่อการส่งออกและการบริโภคในต่างประเทศ...แค่ใส่น้ำต้มสุกคนให้ข้น เพียงเท่านี้จิ้มผักกินได้แซบอีหลีทันที
ฉะนั้นไม่น่าแปลกใจทำไมปลาร้าบองท่าตูมถึงได้ไปนอก เพราะแค่เอามาจิ้มเนื้อแกะ จิ้มผักสลัด...บอกได้คำเดียว สเต็กเนื้อเซอร์ลอยจิ้มแจ่ว เอากลับไปเลย.