อาหารพื้นบ้านของชาวตากาล็อกที่คล้ายๆกับอาหารบ้านเรา และอยากแนะนำให้ทำรับประทานกันก็คือ ADOBO (อโดโบ)  เมนูนี้ถ้าเติมรสหวานอีกสักหน่อย ก็จะคล้ายพะโล้บ้านเราไม่มีผิด จึงมักเรียกเมนูนี้กันว่า พะโล้ฟิลิปปินส์!!

คุณเจ-จิระ ศิริสัมพันธ์ ลูกชายคนเล็กของคุณเนเน็ต ศิริสัมพันธ์ ผู้ก่อตั้งร้านอาหารและเบเกอรี่ชื่อดัง “ลิตเติ้ล โฮม” ซึ่งเป็นเบเกอรี่ยอดนิยมของคนเมืองกรุงมาจนทุกวันนี้ เนื่องจากคุณแม่เป็นชาวตากาล็อก (ฟิลิปปิโน) คุณเจจึงได้รับการถ่ายทอดอาหารตากาล็อกมาด้วย โดยเล่าว่า “คุณแม่จะเป็นคนชอบทําอาหาร ผมโตมาก็จะขลุกอยู่กับคุณแม่ ตอนนั้นก็ไม่ได้สนใจทำอาหารเท่าไร จนกระทั่งไปเรียนต่างประเทศ จำเป็นต้องทำอาหารทานเอง ก็เลยได้ใช้วิชาที่เรียนมาตั้งแต่เด็กๆมาประยุกต์ให้เป็นสไตล์ของตัวเอง ก็เลยกลายเป็นคนชอบทำอาหารไปเลย”

สำหรับอาหารไทย คุณเจ ออกตัวว่า ทำไม่เก่ง เพราะเรื่องเยอะ เครื่องปรุงเยอะไปหมด จะชอบแต่อาหารฝรั่งและอาหารพื้นเมืองของชาวตากาล็อกที่ทำง่ายๆ ประกอบกับตัวเองเป็นคนช่างกินด้วย ก็เลยช่วยได้เยอะ และได้พรสวรรค์มาจากคุณแม่ด้วย ไปกินอาหารที่ไหนแล้วชอบกลับมาทำสัก 2-3 ครั้งก็จะเหมือนกับต้นฉบับแล้ว   เหมือนรู้เองว่าใส่อะไรบ้าง และจะได้ชื่อว่า เป็นคนที่ทำอาหารทานเองจริงๆ โดยจะทำด้วยตัวเองทุกขั้นตอน ตั้งแต่ซื้อของ เตรียมเครื่องปรุง และลงมือปรุงเอง โดยไม่ชอบให้ใครมายุ่งเลย เพราะไม่ไว้ใจว่าเขาจะทำสะอาดหรือเปล่า

คุณเจเล่าถึงพื้นฐานอาหารฟิลิปปินส์ให้ฟังว่า สังเกตได้จากเมนูไหนถ้าหนักกระเทียมจะไฮโซมาก  เพราะบ้านเขากระเทียมจะแพงมาก แต่รสชาติอาหารของเขาส่วนใหญ่จะชืดๆ รสเผ็ดจะมีก็ในบางภาค และเขาจะไม่ใช้น้ำส้มสายชูแบบบ้านเรา จะใช้น้ำส้มมะพร้าว น้ำส้มลูกตาล ซึ่งจะมีกลิ่นหอมกว่า สำหรับ อโดโบ ใช้ทั้งไก่และหมูผสมกัน และรสชาติในแต่ละบ้านก็จะต่างกันด้วย บางแห่งจะเปรี้ยวนำ ส่วนของคุณเจ จะรสเค็มนำ และถ้าอยากทานแบบทอด ก็นำเฉพาะเนื้อหมูและเนื้อไก่ไป Deep Fried รสชาติจะคล้ายไก่หรือหมูเค็มทอดไม่มีผิด

เครื่องปรุง : หมูสามชั้นและเนื้อหมูส่วนสะโพก/ไก่ หรือปีกบนไก่ รวมกันทั้งหมูและไก่ 1/2 กก./กระเทียม/พริกไทยดำแบบเม็ดๆ/ใบกระ-วาน (Bay Leaf)/ซีอิ๊วคิกโคแมน/น้ำส้มมะพร้าว หรือน้ำส้มสายชู.......

วิธีทำ

1) หั่นเนื้อหมู หมูสามชั้น และเนื้อไก่ ขนาดชิ้นพอคำ ส่วนปีกบนจะชิ้นพอคำแล้วไม่ต้องสับ

2) นำทั้งหมูและไก่มาหมักกับซีอิ๊วคิกโคแมน 1/2 ถ้วยตวง น้ำส้มประมาณ 2 ชต. กระเทียมบุบใส่ได้เยอะๆ และใบกระวาน ถ้าชอบกลิ่นหอมของพริกไทย สามารถใส่พริกไทยบดลงไปได้อีก โดยหมักทิ้งไว้หนึ่งคืนและแช่ตู้เย็น

3) นำหมูและไก่ที่หมักไว้มาทอดด้วยไฟแรง ให้ได้สีน้ำตาลอ่อนในเวลาแป๊บเดียว เพราะแค่ต้องการให้หนังไก่และเนื้อส่วนนอกหดตัวเพื่อเก็บน้ำเอาไว้ เมื่อนำไปตุ๋นเนื้อไก่และหมูจะได้ไม่ยุ่ย

4) นำน้ำที่หมักหมูและไก่ใส่หม้อ และผสมน้ำเปล่าด้วย ให้ปริมาณน้ำอยู่ในระดับเนื้อหมูและไก่ที่ทอด ตั้งไฟแรง พอเดือดหรี่ไฟ และตุ๋นต่ออีกจนเปื่อย

5) ก่อนจะดับไฟสักครึ่งชั่วโมง ให้เปิดฝาหม้อตุ๋น เพื่อให้น้ำระเหยเหลือแค่ขลุกขลิก เสิร์ฟพร้อมกับข้าวสวยหรือสลัดผัก ทานแล้วจะให้อารมณ์ที่แตกต่างกันแล้วแต่จะชอบ.