- ฝึกหายใจ เรื่องสำคัญก่อนคลอด
ถือเป็นลมหายใจที่แบ่งปันจากแม่สู่ลูก เพราะการหายใจทุกครั้งของแม่คือการส่งความรัก ความห่วงใย อาหารและอากาศไปให้ลูก พ่อแม่ต้องตั้งสติร่วมกัน ช่วยทำให้การสื่อสารนี้เป็นไปด้วยดี อย่าปล่อยให้ความกลัว ความวิตก และความขาดสติมาบดบังคลอบงำ ด้วยการฝึกฝนเพื่อดึงเอาเทคนิคดีๆ ที่เราทุกคนทำได้ กลับไปปฏิบัติอย่างสม่ำเสมอทั้งก่อนคลอดและหลัง คลอด ทำความ เข้าใจก่อนฝึก ก่อนจะไปถึงขั้นตอนการฝึกหายใจ ขอทำความเข้าใจกับว่าที่คุณแม่ที่อ่านทุกคนก่อนว่า
+ อาการตกใจและความกลัวความเจ็บปวดเป็นเรื่องปกติ แต่เราต้องทบทวนกันว่า ควรจะตอบสนองความตกใจ ความวิตก หรือความเจ็บปวดนั้นอย่างไร เพื่อที่จะไม่ทำให้สถานการณ์แย่ลงไป และเพื่อให้เรารู้สึกดีขึ้น รู้สึกปลอดภัย และช่วยให้การคลอดดำเนินไปอย่างปกติ + การเจ็บท้องคลอดเป็นอาการปกติที่จะบอกให้เรารู้ว่าลูกพร้อมแล้วที่จะออกมาพบ คุณพ่อคุณแม่ และการเจ็บคลอดจะเริ่มต้นทีละน้อย แล้วค่อยๆ มีมากขึ้นเมื่อใกล้คลอด ตามจังหวะการหดตัวของกล้ามเนื้อมดลูก เพื่อเปิดปากมดลูก โดยมีระยะพักเป็นช่วงๆ จนกระทั่งคุณแม่คลอดเสร็จ อาการเจ็บคลอดก็จะหายไปทันที
กระบวนการนี้มีคู่กับสิ่งมีชีวิตนับตั้งแต่พระ เจ้าสร้างโลกและตั้งแต่มีสิ่งมีชีวิตขึ้นมา ที่สำคัญที่สุดก็คือว่า อาการเจ็บนี้ช่วยให้เกิดการเตรียมตัวอย่างเหมาะสม ทั้งยังให้เวลาในการปรับตัว เพราะการหดตัวจะเริ่มทีละน้อย และมีระยะพักนานในช่วงแรก เพื่อให้ว่าที่คุณแม่ได้ตั้งสติให้รับรู้ว่าการหดตัวของมดลูกจะเริ่มพัฒนาไป จนกระทั่งลูกคลอดนะคะ + การหายใจในระหว่างการคลอด เป็นการรับออกซิเจนเพื่อสุขภาพของแม่และลูก และการหายใจตามปกติดีเพียงพอสำหรับการรับออกซิเจนอย่างเต็มที่ระหว่างการ คลอด เทคนิคการหายใจแบบอื่นคิดค้นขึ้นมาเพื่อแก้ปัญหาเวลาสติแตก เกิดการกลั้นหายใจ ร้องโวยวายเลยหายใจไม่ออกหรือหายใจสั้นๆ ซึ่งการหายใจที่กล่าวมาจะทำให้การระบายคาร์บอนไดออกไซด์ไม่ดีพอ จนอาจเป็นผลเสียกับทั้งแม่และลูก
ดังนั้นเมื่อเจ็บคลอดหรือตกใจ พยายามควบคุมตนเองเพื่อให้หายใจตามปกติ อันนี้แหละยาก ระลึกไว้เสมอว่า “สติมาปัญญาเกิด สติไม่มาปัญญาเตลิด” ฝึกหายใจ เตรียมพร้อมก่อนคลอด จะคลอดแล้วต้องทำอย่างไร ต้องเบ่งแบบไหน หายใจอย่างไรกันนะ ว่าที่คุณแม่หลายคนก่อนคลอดหายใจไม่เป็น ไม่รู้ว่าควรหายใจอย่างไรจึงจะถูกต้อง ขณะที่ว่าที่คุณแม่บางคนรู้วิธี แต่ไม่ค่อยใส่ใจ ทั้งที่จริงแล้วการหายใจระหว่างคลอดเป็นเรื่องสำคัญไม่น้อย มาเริ่มต้นฝึกกันตั้งแต่วันนี้ดีกว่าค่ะ
ท่าที่ 1 ฝึกหายใจโดยใช้กล้ามเนื้อหน้าท้อง สำหรับคนที่ยังไม่ท้องหรือท้องอ่อนๆ ให้นอนหงาย ไม่ต้องหนุนหมอน วางแขนข้างลำตัว หายใจเข้าให้ท้องป่อง หายใจออกให้ท้องแฟบ ทำช้าๆ อย่ารีบร้อน ท่านี้ทำสักพักมักหลับสบาย แต่ถ้านอนหงายแล้วอึดอัดก็ขยับเป็นนอนตะแคงได้ค่ะ ท่าที่ 2 นั่งพิงเบาะสบายๆ ปล่อยแขนและมือไว้ข้างตัว หรือประสานมือไว้ที่หน้าตัก หายใจเข้าแล้วผ่อนลมหายใจออกอย่างอ่อนโยน ไม่เร่งรีบ ปล่อยไหล่และกล้ามเนื้อต้นคอผ่อนคลายในทุกจังหวะของการหายใจออก หลังจากหายใจไป 2-3 ครั้งค่อยๆ หลับตาและหายใจเข้า-ออกต่อไปอีกสักครู่จนรู้สึกสบาย
Note : ท่าที่ 1 และ 2 นี้ ใช้ได้เวลาที่เริ่มเจ็บคลอด ระหว่างมดลูกหดตัว หรือเวลาที่รู้สึกวิตกกังวล ท่าที่ 3 คุณแม่ ลองใช้วิธีการลูบหน้าท้องเบาๆ พร้อมกับการหายใจเข้าทางจมูก และผ่อนลมหายใจออกหรือเป่าลมออกทางปากช้าๆ ทำซ้ำหลายๆ ครั้งจะพบว่าสบายตัวขึ้น ทนได้ดีขึ้น คนที่ไม่ได้ท้องก็เอามือประสานหรือวางไว้ข้างตัวก็ได้ค่ะ ท่าที่ 4 การฝึก การหายใจให้ยาวขึ้น คือการหายใจเข้าแล้วเป่าลมหายใจออกทางปากช้าๆ โดยเป่าลมใส่ปลายนิ้วมือที่ยกขึ้นมาให้ห่างจากปากสัก 1 ฝ่ามือ โดยให้รู้สึกถึงลมที่เป่าอย่างสม่ำเสมอเวลาหายใจออก ก็ช่วยบรรเทาความเจ็บปวดได้ ท่าที่ 5 ถ้ากำลังคิดว่าการร้องออกเสียงอาจช่วยลดการปวด และช่วยให้เรามีพลังมากขึ้นอาจไม่ถูกต้องนัก เพราะการร้องช่วยระบายความรู้สึก แต่ทำให้เราออกแรงแบบไม่ได้ประโยชน์นัก ถ้าเรากลับมามองการปิดปากและออกเสียง “โอม...” จะพบว่าศีรษะของคุณแม่จะก้มลง และความรู้สึกควบคุมตัวเองได้กลับดีกว่า มีพลังกว่าร้องแบบไร้ทิศทาง
ลองมาหายใจช้าๆ แล้วทำเสียง “โอม...” ในจังหวะหายใจออกช้าๆ คุณแม่จะพบพลังที่ซ่อนในอยู่ในตัว ซึ่งเทคนิคนี้คุณแม่สามารถเอามาใช้เวลาที่จะเบ่งคลอด คือหายใจเข้าช้าๆ ให้เต็มที่ ทำเสียงโอม (เบาๆ) ในจังหวะเบ่งเมื่อมดลูกหดตัวค่ะ การฝึกสมาธิ การหายใจ การผ่อนคลายยังสามารถทำได้อีกหลายวิธี คุณแม่ไม่จำเป็นต้องฝึกหายใจอย่างเดียว แต่อาจฝึกไปพร้อมกับทำกิจกรรมต่างๆ เพื่อให้เราจดจ่อกับสิ่งที่ทำ เพราะการคลอดต้องการให้คุณแม่จดจ่อกับการทำงานของร่างกาย จะทำให้การคลอดราบรื่น
... เชื่อว่าคุณแม่ทำได้ค่ะ
Free TextEditor
Create Date : 14 พฤษภาคม 2553 | | |
Last Update : 14 พฤษภาคม 2553 21:51:40 น. |
Counter : 323 Pageviews. |
| |
|
|
|