ทำอย่างไรเมื่อลูกติดขวดนม





   
เด็กๆ ควรเลิกดูดนมจาก ขวดตั้งแต่อายุ 1 ขวบ แต่ถ้ายังทำไม่ได้
ก็ผ่อนผันให้ได้จนถึงอายุ 1 ขวบครึ่ง การดูดนมจากขวดเกินกว่าอายุ 1
ขวบครึ่งหรือ 2 ขวบ มักจะทำให้เด็กๆ ติดใจการดูด
อยากดูดนมมากกว่าจะรู้สึกหิวจริงๆ ตื่นขึ้นมากลางดึก ก็มักจะร้องหาขวดนม
และบ่อยครั้งที่นอนหลับคาขวดนม


          หากเด็กๆ
เลิกดูดนมจากขวดช้าเกินไป ผลเสียที่จะตามมามีมากมาย ประการ
แรก
เมื่อกินแต่นม ก็จะทำให้อิ่ม และไม่ยอมกินข้าวหรืออาหารอื่นๆ
ทำให้ขาดวิตามินและแร่ธาตุบางอย่างที่อาจมีไม่พอในนม เช่น วิตามินซี
ประการที่ 2
หากกินแต่นม และกินมากเกินไป ก็จะทำให้กลายเป็นเด็กอ้วนได้
ประการที่ 3 เมื่อกินแต่นม ซึ่งมีกากอาหารน้อย
ก็จะทำให้ท้องผูกได้
ประการที่ 4 หาก
กินแต่นม ความหวานจากนม ประกอบกับการดูดนมจนหลับคาขวด โดยไม่ได้ดื่มน้ำตาม
จะทำให้มีคราบนมติดอยู่ที่ฟัน ทำให้ฟันผุได้

         
หากเด็กติดขวดนมไปจนถึงอายุ 3 ขวบ นอกจากฟันจะผุแล้ว ยังอาจทำให้ฟันยื่น
แถมยิ่งโต เด็กก็ยิ่งดื้อ จนไม่ยอมเลิกง่ายๆ

         
จากสถิติพบว่า เด็กอายุ 2-3 ขวบ ที่ยังคงดูดนมจากขวด มีถึงร้อยละ 80
...อายุ 4 ปี ก็ยังมีให้เห็นถึงร้อยละ 45 ...เด็กอายุ 8 ปีที่ยังดูดนม
ก็ยังพบได้ แปรงฟันก่อนนอนแล้ว ก็ยังคว้าขวดนมมาดูด และหลับคาขวดนม
พบอีกร้อยละ 44

เด็กอายุ
2-3 ปี มีน้ำหนักเกินจนเข้าขั้นอ้วน อีกร้อยละ 36 และเด็กอายุ 3 ปี
มีปัญหาฟันผุเพราะติดขวดนม พบได้ถึงร้อยละ 65 พ่อแม่หลายคนเจอปัญหานี้
แต่ไม่รู้ว่าจะทำอย่างไร วิธีที่จะช่วยให้ลูกเลิกดูดนมจากขวด ก็คือ


         
- ต้องตั้งใจจริง และต้องใจแข็ง
          - ฝึกให้ลูกดื่มนมจากแก้ว
อาจใช้วิธีพาไปข้างนอกตอนกลางวัน โดยไม่เอาขวดนมไปด้วย
แล้วให้ดื่มนมจากแก้วหรือกล่องแทน
          -
นอกจากฝึกนิสัยช่วงกลางวันแล้ว ยังต้องเปลี่ยนนิสัยช่วงกลางคืนด้วย
เปลี่ยนจากดูดนมก่อนนอน เป็นดื่มนมก่อนนอนแทน
          -
ฝึกให้ลูกเลิกดูดนมมื้อดึก โดยค่อยๆ ลดปริมาณนมมื้อดึก จนเลิกได้ในที่สุด
         
- ฝึกให้ลูกแปรงฟันก่อนนอน แล้วพาเข้านอนโดยเล่านิทาน ร้องเพลง
หรือทำกิจกรรมอื่นๆ ก่อนเข้านอน และอย่าปล่อยให้ลูกหลับคาขวดนม





          หากทำทุกวิธีแล้วยังไม่ได้ผล
ก็ต้องใช้วิธี “หักดิบ” นั่นก็คือ
เก็บอุปกรณ์ทุกอย่างเกี่ยวกับขวดนมออกจากบ้าน เมื่อถึงขั้นนี้
อาจต้องให้คุณพ่อช่วย เพราะพอคุณแม่เห็นลูกน้ำตาร่วง ก็อาจจะใจอ่อนได้ง่ายๆ
ในขณะที่คุณพ่อมักจะใจแข็งกว่า

ส่วนวิธีการป้องกันไม่ให้ลูกติดขวดนม ซึ่งทำได้ก่อนแต่เนิ่นๆ
ก็มีหลายวิธีด้วยกัน



          -
ฝึกให้ลูกเข้านอนเป็นเวลาตั้งแต่เล็กๆ
          -
ฝึกให้ลูกหลับได้ด้วยตัวเอง โดยให้นอนเมื่อเริ่มง่วง
เพราะถ้ากกกอดหรือให้ลูกดูดนมจนหลับ ก็จะชินกับการปฏิบัติดังกล่าว
เมื่อตื่นกลางดึก ไม่มีใครกล่อมให้หลับ ก็มักจะร้อง และลงท้ายด้วยการดูดนม
ทั้งๆ ที่อาจจะไม่หิว
          -
ฝึกกินนมมื้อกลางวันให้อิ่มในแต่ละมื้อ ส่วนนมมื้อดึก ให้กินแค่พอหายหิว
ไม่บังคับหรือพยายามให้กินมากๆ
          - เริ่มฝึกลดและเลิกนมมื้อดึก
ตั้งแต่อายุ 3-4 เดือน และพยายามเลิกให้ได้เมื่ออายุ 5-6 เดือน
หากลูกขยับตัวนิดหน่อย รอสักพักว่าหิวจริงหรือไม่ ถ้าสัมผัสเบาๆ เช่น ตบก้น
แล้วหลับได้ ก็ปล่อยให้หลับไปเอง
          -
ฝึกกินนมให้อิ่มในมื้อก่อนนอน หลังทำความสะอาดฟันแล้ว ไม่ควรให้ดูดนมอีก
ก่อนนอนอาจเล่านิทานหรือให้ฟังเพลง และอย่าปล่อยให้หลับคาขวดนม
         
- หาตุ๊กตาหรือของเล่นที่ลูกชอบพาเข้านอนด้วย เมื่อลูกอายุ 4-5 เดือน
ลูกจะได้ไม่ติดขวดนม และควรให้มีผลัดเปลี่ยน
ลูกจะได้ไม่พลอยติดตุ๊กตาไปด้วย
          -
สร้างบรรยากาศตอนกลางคืนให้น่านอน ไม่เปิดไฟสว่าง หรืออุ้มเล่นกลางดึก
         
- ฝึกลูกใช้ขวดนมเมื่อเวลาหิว ไม่ใช้เป็นของเล่นเดินถือไปมา
          -
ฝึกจิบน้ำหรือนมจากแก้ว เมื่ออายุ 4-5 เดือน เพื่อให้เริ่มคุ้นเคย
         
- เมื่อลูกอายุได้ 6-8 เดือน จะพัฒนาความสามารถในการนั่งทรงตัวได้ดี
รวมทั้งมีความสามารถในการใช้มือ โดยเฉพาะนิ้วหัวแม่มือและนิ้วชี้
หยิบจับสิ่งของได้ดีขึ้นกว่าเมื่อตอนอายุน้อยกว่านี้
ซึ่งเด็กจะหยิบสิ่งของโดยกำไว้ทั้งฝ่ามือ


          ในช่วงเวลานี้
พ่อแม่ควรเริ่มหัดให้ลูกหยิบอาหารกินเองบ้าง เช่น อาหารที่อ่อนนุ่ม
หั่นเป็นชิ้นเล็กๆ หัดให้ลูกดื่มน้ำจากถ้วยพลาสติกที่มีหูจับ
เมื่อลูกสามารถดื่มน้ำได้ดีแล้ว หัดให้ดื่มน้ำผลไม้หรือน้ำนมจากถ้วย
และค่อยให้เลิกดูดนมในมื้อกลางวันก่อน จนเลิกดูดนมในมื้อก่อนนอนได้

         
การหัดให้ลูกช่วยตัวเองในการดื่มน้ำ ดื่มนม และกินอาหาร
จะช่วยส่งเสริมความสามารถในการดูแลตัวเองในภารกิจประจำวันของลูก
และยังเป็นการหัดให้เด็กรู้จักรักษาความสะอาดและสุขอนามัยส่วนบุคคล เช่น
พาไปล้างมือก่อนให้หยิบอาหาร และพาไปล้างมือล้างปาก
เช็ดมือเช็ดปากหลังอาหาร
รวมทั้งยังเป็นการฝึกวิธีการและมารยาทในการรับประทานอาหาร ซึ่งเด็กจะค่อยๆ
พัฒนาความสามารถไปเรื่อยๆ ตั้งแต่อายุ 6-8 เดือน
ไปจนกระทั่งสามารถรับประทานอาหารเองได้เรียบร้อยเมื่ออายุประมาณ 2-3 ปี


การสร้างบรรยากาศให้ลูกรับประทานอาหารเองอย่างมีความสุขก็มีความสำคัญ
ซึ่งจะช่วยป้องกันกรณีลูกไม่ยอมกินข้าวเมื่อถึงเวลาเลิกใช้ขวดนม






Free TextEditor







































































































Create Date : 14 พฤษภาคม 2553
Last Update : 14 พฤษภาคม 2553 21:07:29 น. 0 comments
Counter : 1095 Pageviews.

ชื่อ :
Comment :
  *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 

tongsehow
Location :


[Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed

ผู้ติดตามบล็อก : 1 คน [?]




Group Blog
 
All Blogs
 
Friends' blogs
[Add tongsehow's blog to your web]
Links
 

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.