การดูแลลูก
เคยรู้สึก'ผิด'กับบทบาทคุณแม่ ของตัวเองมั้ยคะ ดิฉันเคยเป็นบ่อยๆ โดยเฉพาะตอนที่ลูกทั้ง 3 ยังเล็กมาก เช่น รู้สึกผิดว่าน่าจะดูแลลูกได้ดีกว่านี้ตอนเขาป่วยและชักครั้งแรก น่าจะควบคุมตัวเองได้ดีกว่านี้เมื่อโกรธและระเบิดอารมณ์กับลูก น่าจะสร้างวินัยให้ลูกมากกว่านี้ น่าจะ...ฯลฯ หรือบางครั้งดิฉันก็หวั่นไหวว่าเราให้สิ่งที่ดีที่สุดกับลูกแล้วหรือยัง แม่ยุคนี้ ”รู้” มากขึ้น โดยเฉพาะเรื่องพัฒนาการของสมอง สติปัญญาและอารมณ์การรู้มาก บางครั้งก็นำมาซึ่งปัญหา เพราะบางทีเราไม่รู้ว่าจุดพอดีอยู่ตรงไหน เนื่องจากคำว่า ”พอดี” ฟังดูง่ายในเชิงทฤษฎี แต่ในชีวิตจริงเชื่อว่าต้องหวั่นไหวกันบ้างล่ะว่า “ลูกเราจะดูแลตัวเองได้มั้ย?” “ลูกคนอื่นทำไมรู้เยอะจัง!” “ทำไมเราไม่สามารถหาสิ่งที่ดีกว่านี้ให้ลูกได้”
เชื่อไหมคะว่าไม่ ใช่ดิฉันหรือเพื่อนๆ คุณแม่เท่านั้นที่ตั้งคำถามเหล่านี้กับตัวเอง (มากบ้างน้อยบ้าง) แต่ความรู้สึกเช่นนี้เกิดขึ้นกับแม่ทั่วโลก ความรู้สึก “ผิด” ของแม่?
ดิฉันอ่านเจองานสำรวจชิ้นหนึ่งเกี่ยวกับคุณแม่ในประเทศสหรัฐอเมริกา จัดทำโดยบริษัทวิจัยชั้นนำของโลกชื่อ TNS พบว่าคุณแม่จำนวนมากรู้สึก”ผิด” ที่ไม่ได้เป็นแม่ที่ดีกว่านี้ ทั้งแม่ที่เป็นหญิงทำงานและแม่บ้าน คุณแม่ที่ทำงานนอกบ้านมักรู้สึกผิดว่ามีเวลาให้ลูกน้อย ส่วนแม่บ้านมักมีปัญหาว่าไม่สามารถสร้างระเบียบวินัยให้ลูกได้ ส่วนเรื่องที่รู้สึกผิดร่วมกันคือไม่แน่ใจว่าได้ให้การศึกษาที่ดีที่สุดแก่ ลูกแล้วยัง นำลูกไปถูกทางแล้วยัง บางคนรู้สึกว่าตัวเองเข้มงวดเกินไป บางคนรู้สึกผิดเมื่อเห็นลูกอยู่ในอาการเบื่อแล้วช่วยลูกไม่ได้ก็รู้สึกผิด อ่านงานวิจัยชิ้นนี้แล้วทำให้รู้สึกว่ามีเพื่อนร่วมชะตากรรมไม่น้อยเลยล่ะ ค่ะ งานวิจัยนี้ยังพบว่าความสัมพันธ์แม่ลูกนั้นถ่ายทอดจากรุ่นสู่รุ่น 91 % ของแม่ที่มีความสัมพันธ์แนบแน่นกับแม่ของตัวเองจะเป็นแม่ที่ใกล้ชิดกับ ลูก 72 % คิดว่าการเลี้ยงลูกสมัยนี้ยากกว่าตอนตัวเองเป็นเด็ก จำนวนของลูกก็ส่งผลต่อความรู้สึกของแม่ ยิ่งมีลูกมากยิ่งรู้สึกผิดมาก เขาพบว่า 41 % ของคุณแม่ที่มีลูกคนเดียวรู้สึก ”ผิด” เป็นบางครั้ง ในขณะที่ 52 % ของคุณแม่ลูกสองจะรู้สึกผิดในระดับเดียวกัน และ 63 % สำหรับแม่ที่มีลูก 3 คน
ความ เครียดของแม่
Dr. Suniya Luthar นักวิชาการด้านจิตวิทยาของมหาวิทยาลัยโคลัมเบียที่สหรัฐได้ศึกษาเรื่องความ เครียดของแม่ เธอทำการเซอร์เวย์แบบออนไลน์กับคุณแม่อเมริกันทั้งที่เรียนสูงๆ และเรียนจบระดับมัธยมปลาย ทั้งรายได้น้อยถึงรายได้สูง พบว่าแม่สมัยนี้กำลังทำร้ายตัวเอง และแม้จะบอกใครๆ ว่าตัวเองมีความสุข หรือดูเป็น super mom แต่ลึกๆ แล้วจำนวนมากมี “ความโกรธ ความอยากและความโดดเดี่ยวซ่อนอยู่ในใจ เหมือนระเบิดเวลาที่กดปุ่มเมื่อไร มันจะทำงานเมื่อนั้น” จากการสำรวจพบว่าแม่ที่การศึกษาน้อยกว่าจะไม่ ค่อยรู้สึกพอใจในชีวิตโดยรวม แต่พอใจในความเป็นแม่ ในขณะที่แม่ที่เรียนสูงๆ มักมีความพึงพอใจในชีวิตแต่มักมีความกังวลสูง เธอบอกว่าเราควรใส่ใจแม่กลุ่มนี้ให้ดีเพราะลูกๆ ของพวกเธอกำลังจะเติบโตขึ้นเป็นผู้นำรุ่นต่อไป (คงเพราะมีโอกาสมากกว่า) นอกจากนี้เธอยังพบว่าตัวการความเครียดของเด็กสมัยนี้มาจาก ”คุณแม่” เพราะแม่กำลังยัดเยียดให้ลูกๆ ทำกิจกรรมต่างๆ มากเกินไป “เรากำลังวิ่งไปทั่วเหมือนไก่ตื่น แล้วคุณหล่ะคิดอย่างไร?”
ส่วน นี้แหละค่ะที่ดิฉันถามตัวเองอยู่บ่อยๆว่า “แค่ไหนคือพอดี?” ก็เด็กสมัยนี้เก่งๆ กันทั้งนั้นทั้งดนตรี กีฬา ศิลปะนี่ขนาดยังไม่รวมวิชาการนะ???
เวลาคุณภาพ?
ดิฉันไม่ค่อยรู้สึกตื่นเต้นกับบทความของ Dr.Luthar เท่ากับความเห็นจากผู้อ่านโดยเฉพาะรายที่บอกว่าเธอมีดีกรีเป็น Ph.D “แม่ที่ร่ำรวย เงินดี งานดี มีอำนาจมักภูมิใจกับตัวงานน้อย เมื่อเทียบกับรายได้มหาศาล และไม่สามารลงจากหลังเสือได้ ลูกๆ ของพวกเธอก็มักเป็นเช่นนั้น… คุณแม่ทำงานมักมีปัญหาเรื่องให้เวลากับลูก และพวกเธอ (ซึ่งเป็นคุณแม่ที่รู้สึก ”ผิด” กับการไม่มีเวลาให้ลูก) นี่แหละที่น่าจะเป็นคนบัญญัติคำว่า quality time หรือเวลาคุณภาพ...ที่จริงแล้วไม่มีคำว่าเวลาคุณภาพ เพราะธรรมชาติสร้างให้ผู้ใหญ่ (พ่อแม่) ต้องอยู่กับเด็ก (เล็ก) การจะมีเวลาเพียง 5 นาที 10 นาทีหรือ 1 ชั่วโมงจึงเป็นไปไม่ได้ที่จะมีคุณภาพ อย่างไรก็ตามเธอทิ้งท้ายว่าในที่สุดแล้วสังคมต้องลงมารับผิดชอบเรื่องการ เลี้ยงดูเด็ก และไม่ถูกต้องที่จะคิดว่างานอาชีพหนึ่งๆ จะให้ใครทำก็ได้ เพราะงานบางอย่างไม่เหมาะกับแม่ลูกอ่อน
* * * * * * * ********
Free TextEditor
Create Date : 14 พฤษภาคม 2553 |
Last Update : 14 พฤษภาคม 2553 21:53:26 น. |
|
0 comments
|
Counter : 545 Pageviews. |
|
|