"เข็มขัดคนท้อง"ตรวจลูกดิ้น





































ผู้ที่กำลังตั้งครรภ์จะทราบความเป็นไปของลูกใน
ท้องอยู่ตลอดเวลา เช่น
เวลาลูกดิ้น

แต่เคยคิดไหมว่าผู้ที่เป็นพ่อก็ต้อง
การทราบความเป็นไปของลูกเช่นกัน
นายคอรี่ เมนเชอร์ นักศึกษาปริญญาเอก
จากมหาวิทยาลัยนิวยอร์ก สหรัฐอเมริกา
จึง
ประดิษฐ์เข็มขัดคนท้องขึ้น ซึ่งเข็มขัดนี้จะมีเซ็นเซอร์
เมื่อเวลาลูกดิ้น
เซ็นเซอร์ก็จะแจ้งไปที่ "เฟซบุ๊ก"
เช่น "เวลา
11.38
น. ฉันเตะเข้าที่ท้องของแม่"
นอกจากผู้เป็นพ่อจะทราบความเคลื่อนไหวของลูกแล้ว
ญาติพี่น้องเพื่อนฝูงก็จะทราบข่าวนี้ผ่านทาง
"เฟซบุ๊ก" ด้วย


เข็มขัดคนท้องนอกจากแจ้งข่าว
การเคลื่อนไหวของทารกให้ทราบ
ยังทำให้ผู้เป็นพ่อแม่สังเกต
ได้ว่าลูกยังปกติอยู่หรือเปล่า เช่น
ถ้าลูกไม่เคลื่อนไหวเลยก็
แสดงว่าอาจมีความผิดปกติของครรภ์
และมีโอกาสเข้าพบ
แพทย์เพื่อดูว่าลูกเป็นอะไรได้อย่างทันท่วงที




ขอขอบคุณเนื้อหาข่าว คุณภาพดี โดย: หนังสือพิมพ์
ข่าวสด






Free TextEditor







































































































 

Create Date : 15 พฤษภาคม 2553    
Last Update : 15 พฤษภาคม 2553 21:00:35 น.
Counter : 277 Pageviews.  

เตือนภัย "ของเล่น" ปนเปื้อนตะกั่ว





































เมื่อวันที่ 6 ม.ค.
ที่แพทยสภา
ราชวิทยาลัยกุมารแพทย์แห่งประเทศไทยและสมาคมกุมารแพทย์แห่งประเทศไทย
แถลงข่าวเรื่อง "
อันตรายจากของเล่นเด็กและอุบัติเหตุใน กทม."


โดย
นพ.อดิศักดิ์ ผลิตผลการพิมพ์ ผู้แทนราชวิทยาลัยกุมารแพทย์ฯ
ในฐานะหัวหน้าศูนย์วิจัยเพื่อสร้างเสริมความปลอดภัยและป้องกันการบาดเจ็บใน
เด็ก รพ.รามาธิบดี กล่าวว่า ปี
2551
ราชวิทยาลัยกุมารแพทย์ฯร่วมกับภาคี
ดำเนินการเก็บตัวอย่างของเล่นที่เล่นแล้วจากศูนย์พัฒนาเด็กสังกัดกรุงเทพมหา
นคร จำนวน
23 ศูนย์ มาตรวจหาสารตะกั่ว

พบว่าของเล่น
จาก
4 ศูนย์ หรือคิดเป็นร้อยละ 17
มีสารตะกั่วสูงกว่าค่ามาตรฐานกำหนดที่
600
มิลลิกรัมต่อกิโลกรัม
อีกทั้งยังได้เก็บตัวอย่างของเล่นที่มีการวางขายหน้าโรงเรียนใน กทม.
26
แห่ง พบว่ามีของเล่นจากหน้าโรงเรียน
4 แห่ง คิดเป็นร้อยละ 15 มีสารตะกั่วสูงกว่าค่ามาตรฐานกำหนด นอกจากนี้
ช่วงปลายปี
2551 ราชวิทยาลัยกุมารแพทย์ฯ
ได้ซื้อของเล่นที่ราคาไม่สูง ครอบครัวสามารถซื้อให้เด็กได้ง่าย

ใน
พื้นที่ กทม. พิจิตร บุรีรัมย์ สระแก้ว และชลบุรี จำนวน
126
ชิ้น ส่งตรวจคุณสมบัติทางกายภาพจำนวน
50 ชิ้น พบว่าไม่เป็นไปตามมาตรฐานกำหนด 9
ชิ้น หรือร้อยละ
18
โดยมีเสียงดังเกิน 75-85
เดซิเบลเป็นอันตรายต่อเซลประสาทการได้ยิน
4 ชิ้น
เส้นสายยาวเกินกว่า
30
เซนติเมตรมีความเสี่ยงต่อการพันรัดคอเด็ก
3 ชิ้น
มีช่องรูระหว่าง
5-12 มิลลิเมตร
เสี่ยงต่อนิ้วเด็กติดค้างในช่องรู
2 ชิ้น และมีขอบแหลมคม 1
ชิ้น รวมถึงส่งตรวจคุณสมบัติทางเคมีโดยตรวจหาสารตะกั่วจำนวน
80
ชิ้น พบว่ามีสารตะกั่วสูงกว่าค่ามาตรฐานกำหนด
6 ชิ้น


นพ.อดิศักดิ์กล่าวต่อว่า
ของเล่นที่มีค่าสารตะกั่วเกินกว่าที่มาตรฐานกำหนดจะเป็นอันตรายอย่างยิ่ง
สำหรับเด็ก ซึ่งส่วนใหญ่จะอมของเล่นเข้าทางปาก
จะทำให้สารตะกั่วเข้าไปสะสมอยู่ในกระดูก
และจะติดอยู่กับตัวเด็กไปจนโตแล้วจะละลายเข้าเนื้อเยื่อ
จะทำให้มีผลต่อเซลสมอง
หากได้รับซ้ำๆกันเป็นเวลนานจะก่อให้เกิดพัฒนาการที่ล่าช้าและระดับไอคิวต่ำ




ขอขอบคุณเนื้อหาข่าว คุณภาพดี โดย: หนังสือพิมพ์ไทย
รัฐ






Free TextEditor

























 

Create Date : 15 พฤษภาคม 2553    
Last Update : 15 พฤษภาคม 2553 20:59:11 น.
Counter : 320 Pageviews.  

แม่สูบบุหรี่ "ลูกไอคิวต่ำ"





































คณะวิจัยมหาวิทยาลัยโคเปนเฮเกน ประเทศเดนมาร์ก
และมหาวิทยาลัยอินเดียน่า สหรัฐอเมริกา
ได้สำรวจข้อมูลไอคิวหรือระดับการเรียนรู้ที่บันทึกไว้ในประวัติเกณฑ์ทหารของ
ชายหนุ่มอายุ 18-19 ปี จำนวน 3,044 คน
โดยสืบประวัติไปถึงตอนที่เกิดในโรงพยาบาลพบว่า

ผลการวัดไอคิวบุตรของมารดาที่สูบบุหรี่ในระยะตั้งครรภ์ 6-9
เดือน และสูบบุหรี่ตั้งแต่ 20 มวนขึ้นไป
มีไอคิวต่ำกว่าชายหนุ่มที่มารดาไม่สูบบุหรี่ถึง 6.2 แต้ม

รศ. น.พ.สังคม จงพิพัฒน์วณิชย์ ภาควิชากุมารเวชศาสตร์
คณะแพทยศาสตร์ จุฬาฯ ให้ความเห็นว่า การสูบบุหรี่ขณะ
ตั้งครรภ์นอกจากจะมีผลร้ายต่อร่างกายของแม่แล้ว
ยังส่งผลร้ายถึงทารกในครรภ์และส่งผลต่อสุขภาพของเด็กในอนาคตด้ว

เช่น โรคติดเชื้อระบบทางเดินหายใจ หอบหืด โรคหูส่วนกลางอักเสบ
งานวิจัยนี้สอดคล้องกับงานวิจัยหลายชิ้นในปัจจุบันที่แสดงให้เห็นว่าการสูบ
บุหรี่ระหว่างตั้งครรภ์นอกจากจะมีผลกระทบต่อด้านร่างกายเด็กแล้ว
ยังมีผลต่อสติปัญญาและการเรียนรู้ของเด็ก จนกระทั่งเด็กคนนั้นโตเป็นผู้ใหญ่






















ควันบุหรี่มีผลกระทบต่อสติปัญญาของเด็ก
เพราะบุหรี่มีสารเคมีหลายชนิดที่เป็นอันตราย

ผ่านรก
และสายสะดือไปยังตัวเด็ก จึงมีผลกระทบกับ
สมองเด็กโดยตรง

การที่แม่สูบบุหรี่จะมีผลกระทบต่อระบบเลือดไหลเวียนของรกทำให้ลูกในครรภ์ได้
รับออกซิเจนหรือสารอาหารที่ผ่านทางรกน้อยลง
ลูกคลอดออกมาจึงตัวเล็กผิดปกติและสมองของเด็กจะมีขนาดเล็กตาม
ดังนั้นเมื่อสมองเล็กเซลล์สมองน้อย
การทำงานของสมองจึงด้อยประสิทธิภาพกว่าผู้อื่น
จึงมีผลกระทบต่อการเรียนรู้หรือไอคิวของเด็ก

การวิจัยยังพบว่าเด็กที่เกิดจากแม่ที่สูบบุหรี่ระหว่างตั้ง
ครรภ์ เมื่อโตขึ้นเป็นผู้ใหญ่

จะมีพฤติกรรมต่อต้านสังคม ติดบุหรี่หรือยาเสพติด
ก่ออาชญากรรม ติดคุก

มากกว่าเด็กที่เกิดจากแม่ที่ไม่สูบบุหรี่ขณะตั้งครรภ์
เนื่องจากสารเคมีในบุหรี่ไปทำอันตรายสมอง
ทำให้เด็กมีสติปัญญาการเรียนรู้ต่ำและยังมีพฤติกรรมผิดปกติได้ด้วย
จึงขอให้คุณแม่ทั้งหลายตระหนักว่าการสูบบุหรี่ระหว่างตั้งครรภ์ให้ผลเสียต่อ
ตัวลูกไม่เฉพาะขณะที่คุณแม่กำลังสูบบุหรี่อยู่เท่านั้น
แต่ยังมีผลเสียต่อลูกเมื่อเติบโตเป็นผู้ใหญ่ในอนาคตได้อีกด้วย

แม้การเลิกสูบบุหรี่จะทำได้ยาก
ทางออกที่ดีคือไม่ควรสูบบุหรี่ตั้งแต่ต้นหรือพยายามเลิกให้ได้ก่อนตั้งครรภ์
...



ขอขอบคุณเนื้อหาข่าว คุณภาพดี โดย:"ข่าวเข้ม ฉับไว
เป็นกลาง"






Free TextEditor







































































































 

Create Date : 15 พฤษภาคม 2553    
Last Update : 15 พฤษภาคม 2553 17:33:52 น.
Counter : 485 Pageviews.  

ตรวจ เบาหวาน ขณะตั้งครรภ์


































ภาพประกอบทางอินเตอร์เน็ต
ภาพประกอบทางอินเตอร์เน็ต










ตรวจ เบาหวาน ขณะตั้งครรภ์ กันแท้ง เด็กพิการ ตัวใหญ่
เสียชีวิต

เมื่อเร็ว ๆ นี้มีคุณแม่มือใหม่
เกิดข้อสงสัยสอบถามเข้ามาเรื่องการตรวจเบาหวานขณะตั้งครรภ์
เพราะเจ้าตัวตรวจพบว่ามีระดับน้ำตาลในเลือดสูง เกรงว่าจะเป็นอันตรายต่อลูก
ดังนั้นเพื่อให้ผู้อ่านได้รับทราบข้อมูลในเรื่องนี้ไปพร้อม ๆ กัน "X-RAY สุขภาพ" จึงมาพูดคุยกับ
ศ.นพ.อภิชาติ จิตต์เจริญ ภาควิชาสูติศาสตร์-นรีเวชวิทยา คณะแพทยศาสตร์
โรงพยาบาลรามาธิบดี มหา วิทยาลัยมหิดล ศ.นพ.อภิชาติ อธิบายว่า
ผู้หญิงตั้งครรภ์ทุกคนมีความเสี่ยงจะเกิดเบาหวานมากกว่าคนทั่วไป
เนื่องจากระดับฮอร์โมนในร่างกายสูง จึงจำเป็นต้องตรวจหาเบาหวาน
โดยเฉพาะในคนที่มีปัจจัยเสี่ยง คือ ผู้หญิงอ้วนมีค่าดัชนีมวลกายมากกว่า 30
มีคนในครอบครัว หรือญาติสายตรงเป็นเบาหวาน เช่น พ่อ แม่ พี่ น้อง
เคยคลอดบุตรแล้วเด็กตัวใหญ่น้ำหนักเกิน 4,000 กรัม
เคยมีบุตรแล้วบุตรเสียชีวิตตั้งแต่อยู่ในครรภ์โดยไม่ทราบสาเหตุ
คนที่ตรวจพบระดับน้ำตาลสูงในปัสสาวะ
หรือคนที่เคยมีบุตรพิการแต่กำเนิดในครรภ์ที่แล้ว

เหตุผลที่ต้องตรวจเบาหวาน
เพราะเบาหวานอาจทำให้เกิดภาวะแทรกซ้อนครรภ์เป็นพิษ
เป็นอันตรายต่อแม่และเด็ก เบาหวานอาจทำให้ทารกเสียชีวิตตั้งแต่อยู่ในครรภ์


เกิดภาวะแท้ง เด็กตัวใหญ่เกินไป ทารกพิการแต่กำเนิด
โดยเฉพาะหัวใจพิการ เนื่องจากเด็กที่อยู่ในครรภ์ระดับน้ำตาลสูง ๆ
เมื่อคลอดออกมาภายนอกระดับน้ำตาลในเลือดต่ำ
เมื่อแรกเกิดอาจทำให้ทารกมีปัญหาการหายใจผิดปกติ มีภาวะขาดออกซิเจน
และการที่ทารกตัวใหญ่ น้ำหนักตัวมากเกินไป ทำให้คลอดไม่ได้
จนต้องผ่าตัดคลอด หรืออาจมีปัญหาไหล่ติด ทำให้แขนบาดเจ็บขยับไม่ได้
ดังนั้นยิ่งตรวจพบเร็วตั้งแต่อายุครรภ์ยังน้อยจะสามารถป้องกันภาวะแทรกซ้อน
ที่อาจเกิดขึ้นได้ ปกติเวลามาฝากครรภ์
จะมีการตรวจปัสสาวะทุกครั้ง ถ้าพบว่ามีน้ำตาลในปัสสาวะมากกว่า หรือเท่ากับ 2
บวกขึ้นไป ต้องตรวจเลือดยืนยันว่าเป็นเบาหวานหรือไม่
แต่ถ้ามีปัจจัยเสี่ยงจะตรวจเลือดดูเบาหวานทันที ถ้าตรวจไม่พบ พออายุครรภ์
24-28 สัปดาห์ จะมีการตรวจซ้ำอีกครั้ง


การตรวจเบาหวานขณะตั้งครรภ์แตกต่างจากสตรีที่ไม่ตั้งครรภ์
เนื่องจากเป็นผลจากระดับฮอร์โมนในร่างกาย
ทำให้ระดับน้ำตาลในเลือดแตกต่างไปจากสตรีทั่ว ๆ ไป จึงมีวิธีการตรวจคัดกรอง


เริ่มแรกด้วยการดื่มน้ำตาลผง 50 กรัมละลายน้ำ โดยไม่ต้องอดอาหาร
หลังจากนั้น 1 ชั่วโมง ก็เจาะเลือดไปตรวจ
ถ้าค่าน้ำตาลในเลือดไม่สูงเกินกว่า 140 มิลลิกรัม ถือว่าปกติ
แต่ถ้าสูงเกินกว่านี้ถือว่าเสี่ยงเป็นเบาหวาน
ต้องไปตรวจวินิจฉัยเฉพาะลงไปอีก โดยก่อนตรวจจะต้องอดอาหาร 6-8 ชั่วโมง
จากนั้นให้ดื่มน้ำตาล 100 กรัม เสร็จแล้วเจาะเลือดดูค่าน้ำตาลในเลือดทันที
จากนั้นให้ดื่มน้ำตาล 100 กรัมผสมกับน้ำ และเจาะเลือดชั่วโมงที่ 1
ชั่วโมงที่ 2 และชั่วโมงที่ 3 นำผลที่ได้ทั้ง 4 ครั้งมาเปรียบเทียบดู
ก่อนดื่มค่าไม่ควรเกิน 95 มิลลิกรัม ชั่วโมงแรกไม่ควรเกิน 180 มิลลิกรัม
ชั่วโมงที่ 2 ไม่ควรเกิน 155 มิลลิกรัม และชั่วโมงที่ 3 ไม่ควรเกิน 140
มิลลิกรัม ถ้าค่าที่ออกมาผิดปกติ ตั้งแต่ 2 ค่าใน 4 ค่า
จะวินิจฉัยว่าเป็นเบาหวานขณะตั้งครรภ์
ต้องรับตัวไว้รักษาในโรงพยาบาลเพื่อควบคุมระดับน้ำตาลให้อยู่ในเกณฑ์ปกติ
ด้วยการควบคุมอาหาร หลีกเลี่ยงอาหารจำพวกแป้ง น้ำตาล ขนมหวาน ผลไม้รสหวาน
ถ้าควบคุมระดับน้ำตาลได้ไม่ดีพอ แพทย์อาจจะต้องฉีดอินซูลิน
เพื่อไม่ให้ระดับน้ำตาลสูงเกินไป

โดย
ทั่วไปคนที่สามารถควบคุมน้ำตาลได้ดี


คือ
ตื่นมาเจาะเลือดทันทีโดยที่ ยังไม่รับประทานอะไร ไม่ควรเกิน 90-95
มิลลิกรัม หลังจากรับประทานอาหารแล้ว 1-2 ชั่วโมง ทั้งมื้อเช้า กลางวัน
และเย็น ไม่ควรเกิน 120 มิลลิกรัม เมื่อควบคุมน้ำตาลอยู่ในระดับที่พอใจแล้ว
แพทย์จะอนุญาตให้กลับบ้าน
และให้เครื่องมือไปเจาะเลือดเพื่อตรวจดูระดับน้ำตาลด้วยตัวเอง
ขณะเดียวกันหญิงตั้งครรภ์ที่เป็นเบาหวานจะต้องปฏิบัติตามคำแนะนำของแพทย์
อย่างเคร่งครัด โดยเฉพาะการควบคุมเรื่องอาหารไปจนกว่าจะคลอดบุตร
ศ.นพ.อภิชาติ กล่าวว่า ในกรณีที่แม่มีน้ำตาลสูง
ทารกที่คลอดออกมาแพทย์อาจจะต้องเจาะดูระดับน้ำตาลในเลือดทารก
ถ้าน้ำตาลในเลือดต่ำต้องให้สารน้ำเกลือแก่เด็กทารกแรกเกิดทันที
เพราะเด็กเคยชินกับสภาพน้ำตาลสูง เมื่อคลอดออกมาน้ำตาลต่ำลง
จะทำให้ระดับน้ำตาลในเลือดต่ำ
ทำให้เด็กมีภาวะขาดน้ำตาลในกระแสเลือดจนเป็นอันตรายได้

ท้ายนี้ขอแนะนำว่า
ขณะตั้งครรภ์คุณแม่ทั้งหลายจะต้องพยายามหลีกเลี่ยงไม่ให้น้ำหนักตัวมากจน
เกินไป ควรหลีกเลี่ยงอาหารรสหวาน ผลไม้รสหวานจัด
และต้องปรับเปลี่ยนแนวความคิดเดิมที่ว่า
เมื่อตั้งครรภ์จะต้องบำรุงให้น้ำหนักเพิ่มขึ้นเยอะ ๆ
เพราะอาจเป็นเบาหวานขณะตั้งครรภ์โดยไม่รู้ตัว
จนส่งผลเสียต่อมารดาและทารกในครรภ์ได้.


ขอขอบคุณเนื้อหาข่าว คุณภาพดี โดย: หนังสือพิมพ์เด
ลินิวส์





Free TextEditor







































































































 

Create Date : 15 พฤษภาคม 2553    
Last Update : 15 พฤษภาคม 2553 17:14:32 น.
Counter : 281 Pageviews.  

แหวะนมแบบไหนไม่ธรรมดา



อาการแหวะนมในเด็กทารก ช่วงวัย 6
เดือนแรกนั้นเป็นเรื่องธรรมดา แต่ถ้าลูกแหวะนม
บวกกับอาการแทรกซ้อนอื่นก็เป็นเรื่องไม่ควรมองข้ามนะคะ
เพราะลูกอาจเป็นโรคกรดไหลย้อน ซึ่งโรคนี้จะทำให้ลูกมีปัญหาสุขภาพอื่นๆ
แทรกซ้อนตามมาได้


เหตุเกิดจากหูรูดหลอดอาหาร

         
 ภาวะไหลย้อนจากกระเพาะสู่หลอดอาหารในเด็ก
เกิดจากหูรูดบริเวณหลอดอาหารส่วนปลายไม่แข็งแรง ทำให้นมหรืออาหาร
รวมทั้งกรดในกระเพาะอาหารไหลย้อนขึ้นมา ส่วนสาเหตุอื่นที่อาจจะพบร่วมบ่อยๆ
คือ อาจเกิดจากความดันในช่องท้องเพิ่มขึ้น
เกิดจากความผิดปกติของการบีบรัดตัวของกระเพาะอาหาร
รวมทั้งการบีบรัดตัวของหลอดอาหารด้วย


แหวะนมแบบไหนไม่ธรรมดา

           
 แน่นอนค่ะว่าอาการสำคัญของโรคที่จะเห็นคือแหวะนม ซึ่งปกติทารกแรกเกิด–6
เดือนมีอาการแหวะนมบ้างเล็กน้อย แต่ถ้ามีอาการแหวะออกมาหลายๆ ครั้งต่อวัน
และแต่ละครั้งมีปริมาณมาก บวกกับอาการงอแงผิดปกติหลังดูดนม
ให้สงสัยว่าลูกอาจเป็นโรคกรดไหลย้อน 

             
นอกจากลูกจะแหวะนมแล้ว อาจมีภาวะแทรกซ้อนอื่นๆ ด้วย ได้แก่ น้ำหนักตัวน้อย
อาการของเลือดจาง อาเจียนเป็นเลือด หรือมีความผิดปกติของระบบอวัยวะอื่นๆ
ได้แก่ ไอเรื้อรัง เสียงแหบ ปอดติดเชื้อบ่อยๆ หรือหอบหืด
โดยที่ลูกไม่มีอาการแหวะนมเลย ในกรณีของอาการที่เกิดในระบบอวัยวะอื่นๆ
ดังกล่าว มักทำให้คุณพ่อคุณแม่ไม่ได้นึกถึงว่าเป็นโรคกรดไหลย้อน
แต่เมื่อรักษาตามอาการก็หายเพียงชั่วคราวแล้วเกิดเป็นซ้ำอีกค่ะ

กรณีแบบนี้ถ้าคุณหมอที่รักษาสงสัยว่าจะเป็นเรื่อง
โรคกรดไหลย้อน
ก็จะส่งให้คุณหมอเฉพาะทางโรคทางเดินอาหารในเด็กตรวจวินิจฉัยเพิ่มเติม  3
หนทางวินิจฉัยโรคกรดไหลย้อน


การตรวจวินิจฉัยโรคกรดไหลย้อนนั้นมี 3 วิธีค่ะ

1. กลืนแป้ง กรณีของเด็กเล็กที่มีอาการอาเจียนมาก
ควรต้องแยกโรคที่ทำให้เกิดลำไส้อุดตันหรือทางเดินอาหารผิดปกติแล้วทำให้มี
อาการอาเจียนออกก่อนนะคะ โดยทั่วไปแล้วจะใช้วิธีให้เด็กกลืนแป้ง
(สารทึบแสง) แล้วถ่ายภาพเอ็กซเรย์ เพื่อดูหลอดอาหาร กระเพาะอาหาร
และลำไส้ว่ามีความผิดปกติที่อาจเป็นสาเหตุของอาการอาเจียนหรือไม่
การ
ตรวจด้วยการกลืนแป้งนี้ บางครั้งก็สามารถช่วยวินิจฉัยโรคกรดไหลย้อนได้
เมื่อเห็นว่าแป้งที่กลืนลงไปในกระเพาะแล้วไหลย้อนกลับขึ้นมาในหลอดอาหาร

2.
ตรวจเลือด ต้องตรวจเลือดเพิ่มเติม
ถ้าสงสัยว่าเด็กมีโรคทางเมตาบอลิกที่ผิดปกติ
เพราะจะมีสารบางอย่างที่เป็นพิษต่อร่างกาย จนทำให้เกิดการอาเจียน

3.
วัดความถี่และปริมาณกรดไหลย้อน มักใช้สำหรับอาการที่เกิดในระบบอวัยวะอื่นๆ
โดยที่ลูกไม่มีอาการอาเจียนหรือแหวะนมร่วมด้วย
ซึ่งการตรวจวิธีนี้ทำได้โดยใส่สายทางจมูกลงไปถึงบริเวณหลอดอาหารส่วนปลาย
เพี่อวัดปริมาณและความถี่ของกรดที่ไหลย้อนขึ้นมาเป็นเวลา 24 ชั่วโมง


วิธี
นี้จะช่วยในการวินิจฉัยได้แม่นยำ แต่เด็กต้องนอนในโรงพยาบาลประมาณ 1 คืน
และการตรวจวิธีนี้ไม่มีในโรงพยาบาลทั่วไป
จึงเป็นข้อจำกัดของการตรวจอย่างหนึ่ง






Free TextEditor





















































 

Create Date : 14 พฤษภาคม 2553    
Last Update : 14 พฤษภาคม 2553 22:45:23 น.
Counter : 479 Pageviews.  

1  2  3  4  5  6  7  8  9  10  11  12  13  14  

tongsehow
Location :


[Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed

ผู้ติดตามบล็อก : 1 คน [?]




Group Blog
 
All Blogs
 
Friends' blogs
[Add tongsehow's blog to your web]
Links
 

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.