Group Blog
 
All Blogs
 
เกิดเป็นขุนแผนแสนสนุก ตอนที่ ๑

คุ้ยวรรณคดี ฉบับรวบรัด

เกิดเป็นขุนแผนแสนสนุก

ตอนที่ ๑ พี่รักนุชสุจริตน้ำจิตรัก

ฑ.มณฑา

ตัวละครเอกในวรรณคดีของไทย นอกจากพระอภัยมณีของท่านสุนทรภู่ และ จะเด็ดผู้ชนะสิบทิศของท่านยาขอบแล้ว ก็เห็นมีแต่ขุนแผนแสนสนิท ในแผ่นดินสมเด็จพระพันวษา นี่แหละ ที่มีเมียมากพอจะเทียบเคียงกันได้ ซึ่งแม้แต่คนในยุคปัจจุบันก็ต้องยอมรับนับถือ เสาะหาพระพิมพ์ขุนแผนมาบูชา ทั้ง ๆ ที่ตัวขุนแผนเองก็เพียงแค่เคยบรรพชาเป็นสามเณรเท่านั้น

ขุนแผนมีชื่อเดิมว่าพลายแก้ว เกิดที่เมืองสุพรรณบุรี เป็นบุตรของขุนไกรพลพ่ายกับนางทองประศรี เมื่อยังเยาว์บิดาต้องราชภัยถึงประหารชีวิต แม่จึงต้องพาหนีมาอาศัยญาติของพ่อ อยู่ที่เขาชนไก่เมืองกาญจนบุรี พอพลายแก้วอายุได้สิบห้าปี แม่ก็พาไปบวชเป็นสามเณรที่วัดส้มใหญ่ สมภารบุญซึ่งเป็นเพื่อนเก่าของขุนไกร ก็สั่งสอนวิชาการต่าง ๆ ให้เณรแก้วเรียนรู้จนหมดสิ้นตำราแล้ว เณรแก้วจึงขอลากลับมาเมืองสุพรรณ อยู่กับสมภารมีวัดป่าเลไลย ร่ำเรียนวิชา เวทยศาสตร์ชั้นสูงขึ้นไปอีก และหัดเทศน์ได้คล่องแคล่ว สุ้มเสียงไพเราะมีเสน่ห์ญาติโยมติดใจกันเกรียวกราว

อยู่มาถึงวันงานสงกรานต์ ชาวบ้านพากันมาตักบาตรทำบุญที่วัดป่าเลไลยอย่างคับคั่ง เณรแก้วนั่งก้มหน้าต่อท้ายแถวพระสงฆ์รับบิณฑบาตร ก็มีสีกาสาวคนหนึ่งตักบาตรให้มากผิดปกติ จึงเงยหน้าขึ้นดู ก็เกิดอาการ

ใจเต้นบึกบึกนึกเป็นครู่ เหมือนเคยเล่นกับกูกูจำได้ ชื่อว่าสีกาพิมพิลาไล สาวขึ้นสวยกระไรเพียงบาดตา

ตั้งแต่นั้นมาเณรแก้วก็เฝ้าแต่ระลึกถึงใบหน้าของนางพิม เพื่อนเก่าตั้งแต่เด็กเมื่อสมัยอยู่สุพรรณ ไปจนถึงงานทำบุญวันสารทเดือนสิบ เณรแก้วขึ้นธรรมาสน์เทศน์มหาชาติกัณฑ์มัทรี แทนท่านสมภารซึ่งป่วยไข้ไม่สบาย นางพิมก็เปลื้องผ้าสไบถวายติดกัณฑ์เทศน์ ซึ่งทำให้เจ้าเณรหวั่นไหวไปทั้งคืน จากนั้นก็หาทางไปพบปะพูดจากับสีกาพิม โดยมีนางสายทองพี่เลี้ยงของนางพิม เป็นสื่อคอยชักนำให้ได้พบกันในไร่ฝ้าย โดยเณรแก้วขอลาสึกมาชั่วคราว

ในฉากนี้กวีผู้รจนาเรื่องขุนช้างขุนแผน ได้บรรจงแต่งบทรักอันสวยงามไว้หลายบท ซึ่งเป็นที่รู้จักกันเป็นส่วนมาก เช่น

พี่รักนุชสุจริตน้ำจิตรัก ไม่หาญหักก่อนดอกแต่โดยได้
ผลักมือรื้อฉวยชายสไบ เพราะอาลัยกำเริบที่ในทรวง
งดโทษพี่เถิดเจ้าจงเอาบุญ อย่าเคืองขุ่นคั่งแค้นเฝ้าแหนหวง
นมเจ้างอนงามปลั่งดังเงินยวง ประโลมล่วงน้องหน่อยอย่าน้อยใจ ฯ

หรืออย่างเช่น

ประจงจูบลูบผมแล้วชมพักตร์ น่ารักนวลเนื้อเจ้านิ่มนิ่ม
น้ำตาคลอเปี่ยมอยู่เรียมริม เจ้าเยื้อนยิ้มสักหน่อยเถิดกลอยใจ
สงสารไหว้วอนให้ผ่อนวาง รักนางมิใคร่จะไกลได้
พี่จะหอบเสน่หาลาไป เหลืออาลัยที่จะทรมาน
หยิบมือพิมน้อยประทับทรวง แม่ดูดวงจิตพี่ออกฟุ้งซ่าน
เวลาค่ำแม่จงจำสังเกตการ จะไปบ้านหาพิมพิลาไลย
ช้อนคางพลางจูบประคองชม แนบเนื้อแนบนมเจ้าผ่องใส
พวงพุ่มตูมตั้งยังเป็นไต อาลัยลูบโลมทั้งกายา ฯ

เณรแก้วกลับมาวัดแล้วก็ยังไม่ยอมเปลี่ยนจากชุดฆราวาส รออยู่จนดึกประมาณสองยาม จึงออกจากวัดไปบ้านนางพิมตามที่ได้ลั่นวาจาไว้ แล้วก็ย่องเข้าไปในห้องปลอบประโลมนางอยู่นานจนกระทั่งถึงบท ว่าพลางทางกอดกระหวัด อย่าสะบัดเลยไม่พ้นฝีมือพี่ นางพิมนั้นก็ขืนขัดปัดป้อง อยู่อีกสิบบรรทัดจึงกลายเป็น

ถ้อยทีถ้อยมีเสน่หา กำเริบรสกามาหมื่นไหม้ ฟักฟูมอุ้มแอบด้วยอาลัย ต่างมิใคร่จะสนิทนิทรา

แล้วเณรแก้วก็กลับมาครองเพศเป็นสามเณรต่อไป โดยไม่รู้ว่าจะทำอะไรให้ดีกว่านั้น นอกจากความรักและความคิดถึงนางพิม ตามประสาคนหนุ่มที่ได้พบรักแรก จนกระทั่งสายทองพี่เลี้ยงนางพิมมาส่งข่าวว่า ขุนช้างเพื่อนผู้เป็นเศรษฐีใหญ่เมืองสุพรรณ ได้มาทาบทามจะขอนางพิม และนางศรีประจันมารดาก็เห็นดีด้วย เณรแก้วจึงร้อนใจแต่ก็ไม่วายจะเกาะแกะนาง สายทอง เป็นการขอบคุณที่ช่วยมาส่งข่าว แต่บังเอิญท่านสมภารมีมาเห็นเข้า จึงเอาไม้เท้าฟาดเข้าให้จนแตกกระเจิงไปทั้งคู่ เณรแก้วจึงต้องหนีไปอยู่ที่วัดแค

สมภารคงก็รับไว้ด้วยความเมตตา ว่าเป็นลูกชายของเพื่อนเก่า และหาทราบถึงความประพฤติของเจ้าเณรที่แล้วมาไม่

เณรแก้วเรียนวิทยาการ ต่าง ๆ จากอาจารย์คง อยู่เป็นเวลาไม่นานนัก นางพิมที่ถูกแม่ตีเพราะไม่ยอมแต่งงานกับขุนช้าง ก็ชวนนางสายทองตามมาเจอเข้าที่วัดแค และชวนให้เณรสึกไปขอกับแม่ เณรก็ว่าไม่มีเงินทองจะเลี้ยงดูกัน นางพิมก็ออกปากว่าจะให้เงินของตนเอง แต่เมื่อเห็นเณรยังลังเลก็เลยยื่นไม้ตายว่า จะอยู่กับเณรที่นี่แหละไม่กลับไปบ้านแล้ว เจ้าเณรก็ร้องว่าอย่าอยู่เลยบิณฑบาตรเลี้ยงไม่ไหว แล้วก็หยอกเอินพอให้คลายความคิดถึง โดยไม่กระดากผ้าเหลือง จนนางพิมทนไม่ไหวต้องลากลับ พร้อมทั้งกำชับให้สึกให้ได้ในคืนนี้

ค่ำคืนนั้นเณรแก้วก็ขอลาสึก กับท่านสมภารคง แม้อาจารย์จะทักท้วงก็ไม่ยอมฟัง แล้วก็แต่งตัวเป็นชาวบ้านย่องขึ้นเรือนนางพิมในกลางดึก และเมื่อพบกันหลังจากที่คิดถึงคนึงหากันอยู่เป็นเวลานาน อะไรจะเกิดขึ้น เพียงตัดพ้อต่อว่าต่อขานกันได้ไม่กี่บรรทัด ก็เกิดอาการ

กำเริบราคเสียวกระสันประหวั่นจิต หวุดหวิดวุ่นวายกายกระฉ่อน
พระพายพัดวัดคลื่นในสาคร กระท้อนกระทบกระทั่งฝั่งกระเทือน ฯ

แล้วพลายแก้วก็ชวนนางพิมไปอาบน้ำกันจนชื่นอกชื่นใจ จึงกลับไปนอนต่อ แต่พอนางพิมหลับสนิทแล้ว พลายแก้วก็ค่อยย่องไปหานางสายทอง แม่สื่อตัวดีเพื่อจะให้บำเหน็จรางวัลตามที่ได้พูดไว้ นางสายทองก็ทำกระบิดกระบวนอยู่นานพอควร ลงท้ายก็ทำตาปริบปรอยเหมือนจะง่วง ปล่อยให้เจ้าพลายอิงเอนทับลงกับเตียง แล้วก็

ค่อยขยับจับเขยื้อนแต่น้อยน้อย ฝนปรอยฟ้าลั่นสนั่นเปรี้ยง
ลมพัดซัดคลื่นสำเภาเอียง ค่อยหลีกเลี่ยงแล่นเลียบตลิ่งมา ฯ

งานนี้เผอิญนางพิมตื่นขึ้น และตามหาพลายแก้วจนมาเจอเข้าอย่างจัง คาหนัง คาเขา เลยเกิดการต่อปากต่อคำจนเกือบเป็นเรื่องใหญ่ แต่จอมเจ้าชู้ขมังเวทย์อย่างพลายแก้ว ก็สามารถทำให้สงบลงได้ไม่ยากนัก

เรื่องทำท่าว่าจะลงเอยด้วยดี เพราะพลายแก้วได้แต่งงานกับนางพิม อย่างถูกต้องตามประเพณี แต่ครองคู่กันได้ไม่กี่วัน พลายแก้วก็ถูกเกณฑ์ไปทัพรบกับเมืองเชียงใหม่ ด้วยวิชาอาคมสารพัดที่ได้ร่ำเรียนมาจากอาจารย์ทั้งสามวัด

พลายแก้วแม่ทัพไทยก็สามารถเอาชนะข้าศึกได้โดยไม่เหนื่อยแรงสักเท่าไร แต่ในขณะที่พักอยู่ยังบ้านจอมทอง แสนคำแมนนายบ้านสำนึกถึงบุญคุณพลายแก้ว ที่ไม่ได้ทำร้ายชาวบ้านตำบลนี้ให้เป็นอันตราย จึงคิดจะยกนางลาวทองบุตรสาวให้เป็นรางวัล

ฝ่ายว่าผัวเมียทั้งสองรา ต่างพูดตามประสาเป็นผู้ใหญ่
ข้อยออกมาหาพญาไทย ด้วยขอบใจท่านนักที่ป้องกัน
ร้อยบ้านพันเมืองไม่หลอเหลือ เป็นเบือฉิบหายด้วยห่ำหั่น
จนน้ำกินบ่ได้ไหลเป็นมัน ฟันดังฟันปลาปราครือ
แต่บ้านจอมทองของข้าน้อย บ่ยับย่อยชาวทัพเข้านับถือ
ข้าวของสิ่งไรอยู่ในมือ มิได้ยื้อแย่งทำให้ช้ำใจ
ข้อยขอบคุณท่านเป็นเที่ยงแท้ ถึงคุณพ่อคุณแม่บ่ปานได้
ท่านจะยกทัพกลับเมืองไทย สิ่งใดข้าวของก็บ่มี
ตามจนตามยากมาฝากบ้าง เป็นเสบียงกลางทางจนถึงที่
เงินทองของตูบ่สู้มี จะแจกรี้พลท่านที่ขึ้นมา
ข้อยมีแต่ลูกสาวลาวทอง กับข้าวของหน่อยนิดคิดมาหา
เจ้าลาวทองลูกแก้วผู้แววตา ให้เป็นข้าช่วงใช้ไปจนตาย
ไร้ญาติขาดแล้วนะนายเด อย่าทอดเททุ่มทิ้งให้เสียหาย
ข้อยขอฝากตัวเจ้าขรัวนาย ด้วยพลัดพรายพ่อแม่ไปแต่ตัว ฯ

ซึ่งก็เหมือนกับยื่นอ้อยเข้าปากช้างนั่นเอง พลายแก้วหรือจะปฏิเสธ นางลาวทองรู้ว่าพลายแก้ว มีเมียอยู่ที่อยุธยาแล้วจึงไม่เต็มใจ แต่ทนพ่อแม่อ้อนวอน และคาถาอาคมของท่านแม่ทัพไม่ได้ เพราะ

พลายแก้วเห็นนางยังประหม่า พูดไม่เงยหน้าขึ้นจากที่
ครั้นจะสนทนาให้ช้าที เซ้าซี้อยู่ก็เนิ่นเกินเวลา
จึงเอื้อมมือหยิบหมากที่ในพาน อัดอั้นใจอ่านพระคาถา
ด้วยเคยเชื่อใจแต่ไรมา ไม่ช้าส่งให้พี่เลี้ยงพลัน
ช่วยยื่นหมากไปให้เจ้าลาวทอง ทั้งสองพี่กินหมากในพานนั่น
สนทนาเวลาก็ดึกครัน ไปเถิดวันอื่นจึงขึ้นมา
พี่เลี้ยงรับหมากมายื่นให้ เจ้าลาวทองรับไว้ไม่เงยหน้า
ไม่กินกลัวจะไม่ให้ไคลคลา ครั้นกินหมากมนตราให้เสียวใจ
ตั้งแต่ยามเย็นนางมาอยู่ หาได้ดูหน้าตาเจ้าพลายไม่
ครั้นต้องหมากมนตร์เคี้ยวประเดี๋ยวใจ ก็อาลัยลอบเหลือบชำเลืองตา ฯ

พลายแก้วจึงดำเนินการขั้นต่อไป ตามตำรา

ร้อยชั่งนั่งใยไม่บังควร เวลาจวนรุ่งสางสว่างห้อง
เลียมลูบจูบโฉมประโลมลอง ประคองกอดอุ้มแก้วขึ้นเตียงพลัน ฯ

นางลาวทองจึงตกเป็นภรรยาคนที่สามของพลายแก้ว อย่างช่วยไม่ได้ แล้วเมื่อเลิกทัพกลับพระนคร พลายแก้วก็พานางลาวทองมาจนเจอกับนางพิมพิลาไลย ซึ่งได้เปลี่ยนชื่อเป็นนางวันทอง และจำใจต้องแต่งงานกับนายขุนช้างไปเสียแล้ว พลายแก้วซึ่งรบชนะศึกมีความชอบ ได้บรรดาศักดิ์เป็นขุนแผนแสนสท้าน จึงไปตั้งครอบครัวอยู่กับนางลาวทอง ที่เมืองกาญจนบุรี.

##########


นิตยสารต่วยตูน
มีนาคม ๒๕๔๖ ปักษ์หลัง












อยากจะเป็นขุนแผนแสนสนุก
..
รำพันสวัสดิ์
..



ลมพัดชายทุ่ง
ลมร้อนผ่าว ความคุ้นเคยยินยอมให้มันรำเพยเบาๆ

ผมกำลังอ่านบทความ
ให้ตาย บทความน่าอ่านมาก
บทความในมือผมไม่เก่า แต่นักเขียนเก่ามากแล้ว
ผมดูออก ผู้เขียนเป็นมือเก่า แลเท่าที่รู้ ยิ่งเก่ายิ่งชวนอ่าน ขอบอก

“เกิดมาเป็นขุนแผนแสนสนุก”
แค่ได้ยินชื่อเรื่องก็เย้ายวนใจแล้ว

หลายคนคิดว่าผมตกยุค
เปล่า ผมปฏิเสธเสียงแข็ง

พูดถึงขุนแผนทีไร ผมใจเต้นเป็นหนุ่มแตกพานทุกที
จริง แต่ใจเต้น หรือว่าเนื้อส่วนไหนเต้นไม่เป็นส่ำ ผมไม่ค่อยจะแน่ใจ
บทอัศจรรย์ในไร่ฝ้ายเป็นเหตุ

โอ นึกถึงทีไรจับไข้ทุกที
จับไข้สั่น
ผมอ่านตอนที่ว่าตั้งแต่ยังเล็ก ใครไม่เคยอ่านเสียดายแย่
จะไม่ให้เสียดายได้อย่างไร
“พวยพุ่มตูมตั้งยังเป็นไต อาลัยลูบโลมทั้งกายา ฯ”

แถมบรรดาพระเอกในวรรณคดีก็มักมีหลายบ้าน
จริง นอกจากขุนแผนแล้ว พระอภัยมณี แล จะเด็ดแห่งผู้ชนะสิบทิศเป็นตัวอย่าง

ตัวอย่าง หรือจะให้เอาตัวเป็นเยี่ยงอย่าง ผมไม่แน่ใจ
ทว่า
“ได้ก็ดี” จิตใต้สำนึกของผมกระซิบเสียงกระเส่า

ผมชอบพลายแก้ว
พลายแก้วเป็นเณร สิบห้าหยกๆสิบหกหย่อนๆ กำลังพอเหมาะพอมือ
ถึงแม้หัวโล้นก็ยังพราวเสน่ห์
ต้องตาทั้งสีกาพิมพ์ แล พี่เลี้ยงชื่อสายทอง

ผมกำลังแอบกลืนน้ำลายไปตามลีลาตัวอักษรของนักประพันธ์
ใช่ ผมอิจฉาพลายแก้ว

ต่อมาพ่อเณรก็รับเหมาทั้งนายทั้งบ่าว ฉาวคาผ้าเหลือง
บาปกรรม บาปกรรม
เรื่องกำๆแบๆ แลคล้ายคลิปวิดีโอฉาวของหลวงพี่กับสีกา
แบบว่า เป็นไฟล์คลาสสิก แนวเดียวกันไม่แตกต่าง

เลยให้รู้สึกขัดใจในเนื้อนาวรรณกรรมโบร่ำโบราณ
ทำไมครูเขียนกลอนเกลาองก์ เหมือนจะชี้ชวนให้ผมเสียคน

ใช่ ผมเคยเสียคน
ไม่สิ ผมเกือบได้คนโดยประมาทสวาทเสียว ต่างหาก
พูดตรงๆ ผมแอบลอกเลียนแบบโดยไม่ตั้งใจ สื่อเป็นเหตุ
ก็ พฤติกรรมของพลายแก้วนี่แหละที่เป็นผู้ต้องหา

คิดแล้วสมควรติดเรต ห ห้ามอ่านทั้งกระทรวง
ปล่อยให้ชาวบ้านตาดำๆเยี่ยงเราๆ เสพสุขไปเพียงลำพังจะดีกว่า

ในความคำนึง
ลมพายุพัดกระหน่ำเรือนนางพิมหนักไม่น้อย
“พระพายพัดวัดคลื่นในสาคร กระท้อนกระทบกระทั่งฝั่งกระเทือน ฯ”
ขนาดฝั่งยังกระเทือน เรือนจะไม่ไหวเชียวหรือ

พายุบ้าอะไรพัดกระหน่ำแต่เฉพาะในห้องนอนนางพิม
ผมบ่นตอนอายุราวแปดเก้าขวบ
แต่แล้วผมก็เลิกบ่น หันกลับมาอ่านต่อเอาเมื่อตอนเล่นบทพายุเป็น

ลำพังวิชาติดตัวผมไม่ค่อยจะมี คิดหาเอาภายภาคหน้า
ดีที่ได้อ่านวรรณคดี โดยเฉพาะขุนช้างขุนแผน
วิชาหลายแขนงแอบสอนกันในวรรณกรรม

กระทั่งวิชาเดินเรือก็มีให้
บอกวิธีการเอาชนะธรรมชาติคลุ้มคลั่งอย่างแยบยล

หากเรือแล่นยังไม่พ้นสันดอน แต่เกิดฝนฟ้าคะนอง
ลางที นายเรือมือใหม่อาจถึงกับมือไม้สั่น ทำอะไรไม่ถูก
แต่ผมไม่กลัว
เคยเดินเรือมาตั้งแต่ปากน้ำยันปากคลองท้องตลิ่ง
ไม่ว่าน้ำลดหรือเจิ่งนอง ผมจึงไม่เคยหวั่น

หลายท่านอาจเคยอ่านกลเม็ดการท่องร่องน้ำมา
“ค่อยขยับจับเขยื้อนแต่น้อยๆ ฝนปรอยฟ้าลั่นสนั่นเปรี้ยง
ลมพัดซัดคลื่นสำเภาเอียง ค่อยหลีกเลี่ยงแล่นเลียบตลิ่งมา ฯ”
เท่าที่จำได้ เป็นตอนที่พลายแก้วพาสายทองสาวใช้นางพิมไปแอบล่องเรือ

เพลาเจอพายุ สายทองคงร้องหวีดว้ายหวาดเสียว เสียงดังไปหน่อย
ปรากฏว่า นางพิมที่หลับไป ตื่นขึ้นมาได้ยิน
เลยเห็น สำเภาของพลายแก้วกำลังแหวกร่องน้ำสายทอง ชนิดจะๆ
แล้ว เป็นเรื่อง

ลมชายทุ่งที่ว่าร้อน
ลมวรรณกรรมร้อนกว่านัก ผมเร้ารุ่มเหงื่อตกกีบ
ลีลาการเขียนในบทความทำเอาผมหนาวๆร้อนๆ

อ่านไปหลุกหลิกไป
เปล่าอยากล่องเรือ ก็ยุงมันชุม

เรื่องแนวนี้ลองเดาว่าลงหนังสืออะไร
ถูกต้อง
ผมรู้ ส่วนใหญ่ตอบถูก
ใช่ครับ ต่วยตูน
ฉบับ มีนาคม ๒๕๔๖ ปักษ์แรก

ยังมีอีกหลายวรรคหลายตอนที่เด็ดสะเด่าเร้าทรวง
ผมนมแตกพานมาพร้อมกับต่วยตูน
แต่เรื่องนี้ หลุดหูหลุดตาไปได้ไงก็ไม่รู้
วันนี้ได้อ่านแล้ว รู้สึกอิ่มเอมอารมณ์เป็นพิเศษ


ใคร่ขอสดุดีนักเขียนมือเก่าท่านนี้ด้วย “ช่อการะเกดในดวงใจ”
“ฑ. มณฑา” คือนามปากกาเจ้าของเรื่อง




จากคุณ : วรุณนฤมล - [ 21 ก.ค. 50 22:37:34 ]








--------------------------------------------------------------------------------










Create Date : 12 มีนาคม 2551
Last Update : 24 กันยายน 2555 8:05:19 น. 10 comments
Counter : 1545 Pageviews.

 
โอโห คุณวรุณนฤมล ให้ความเห็นไว้ติดเรต XXX นะครับ

ทำเอานึกไปถึงไหน ๆ โน่น


โดย: พี่แต้ วันที่: 12 มีนาคม 2551 เวลา:20:19:31 น.  

 
คุณวรุณ นฤมล
เป็นแฟนคนหนึ่งของเจียวต้าย เคยคุยกันได้อย่างสนิทสนม
น่าเสียดายที่เวลานี้หายไป ไม่ทราบขัดข้องอะไรครับ.


โดย: เจียวต้าย วันที่: 13 มีนาคม 2551 เวลา:9:45:57 น.  

 
ตามมา อ่านแล้วรู้สึกสะท้านนนนนนน อิอิอิ


โดย: ข้าวโพดแมวติสต์แตก วันที่: 13 มีนาคม 2551 เวลา:17:42:09 น.  

 
ชีวิตของขุนแผน มีทั้งดีและไม่ดี
อ่านแล้วพิจารณาไตร่ตรอง จะเป็นประโยชน์ครับ.


โดย: เจียวต้าย วันที่: 14 มีนาคม 2551 เวลา:9:39:48 น.  

 
อ่านแล้วสะดุ้งค่ะได้ทั้งข้อคิดและการครองเรือน เง้อ...


โดย: มนต้นไม้ (Setakan ) วันที่: 5 มกราคม 2553 เวลา:20:39:46 น.  

 
ขอบคุณที่เข้ามาอ่านครับ.


โดย: เจียวต้าย วันที่: 14 มกราคม 2553 เวลา:20:19:19 น.  

 
บางช่วงบางกลอนเล่นแบบโจ่งครื่มเลยครับ
ขุนแผนนี้แก่แดดใช่ย่อยและเจ้าคารมอีกต่างหาก


โดย: วิรุฬห์ IP: 115.87.87.133 วันที่: 10 ธันวาคม 2553 เวลา:21:37:33 น.  

 
ขุนแผนแกเรียนมากเลยแก่วิชาครับ.


โดย: เจียวต้าย วันที่: 13 ธันวาคม 2553 เวลา:19:21:17 น.  

 
ขุนแผนเจ้าชู้มีผู้หญิงมากมาย ไม่สงสารนางวันทองซะเลย
เป็นวรรณกรรมที่เป็นรักสามเศร้าจริงๆ สุดท้ายนางวันทองก็น่าสงสารที่สุด


โดย: น้องแตงโม IP: 202.29.179.199 วันที่: 27 สิงหาคม 2557 เวลา:11:53:53 น.  

 
ขออภัยผมละเลยบล็อกนี้มาตั่งแต่ต้นปี ๒๕๕๗

เพิ่งจะเข้ามาดูปลายปี ๒๕๕๗ ครับ.


โดย: เจียวต้าย วันที่: 22 พฤศจิกายน 2557 เวลา:15:58:49 น.  

ชื่อ :
Comment :
  *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 

เจียวต้าย
Location :


[Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 45 คน [?]




เชิญหารายละเอียดได้ ที่หน้าบ้านชานเรือนครับ
Friends' blogs
[Add เจียวต้าย's blog to your web]
Links
 

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.